GS1000 มันเป็นหูฟัง Grado ตัวแรกที่ปรับมาใช้ฟองน้ำขนาดใหญ่ หรือที่เราเรียกกันว่า Jumbo Pad ผมจำได้ว่าตอนที่เพิ่งขายหูฟังใหม่ๆ เจ้า GS1000 เพิ่งออกมาในเวลาไร่เรี่ยกันพอดีครับ ตอนนั้นตัวเดิมๆแกะกล่อง จำได้ว่าฟังแทบไม่ได้ เพราะเสียงแหลมมันจัดมาก เนื่องจากไดรเวอร์ Grado นั้นเน้นเรื่องเสียงแหลมอยู่แล้ว

ยิ่งพอมาใส่เป็น Jumbo Pad ทำให้ระยะห่างระหว่างไดรเวอร์กับหูมากขึ้น ทำให้เสียงเบสบางลงและกลางแหลมถูกเน้นขึ้นมาตามระยะห่างที่เพิ่มขึ้น แต่พอให้เวลากับมันนานๆ เบิร์นนานๆ ผ่านไปหลายร้อยชั่วโมง มันเป็น Grado ตัวเดียวที่สลัดคำว่า House Sound ของ Grado ออกไป คือเวทีกว้างกว่า RS1 และเป็น Grado ตัวแรกที่ถ้าจับแมทชชิ่งกับแอมป์ที่ลงตัว มันแอบสามารถใช้ฟังเพลงคลาสสิควงใหญ่ๆได้ดีตัวหนึ่งเช่นกันครับ

ข้อดีคือน้ำหนักเบา สวมใส่สบายมากๆ ใส่ฟังเพลงได้ทั้งวันเลยครับ อีกทั้งยังขับง่ายมากๆ แต่ควรจะมี source ที่ดีนิดนึงเพื่อที่สามารถดึงเอาประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุดครับ

ก่อนหน้าเฮียมั่นมาโพสต์เห็นมีอีก 1 comment ครับ ที่กล่าวถึง Gs1000 กับ Rs1e พอตอนเช้าตื่นมาอ่าน อ้าว Comment นั้นหายไปไหนแล้วครับ ????

แหะ แหะ ของผมเองครับ

นอกจากเมาไม่ขับแล้ว ยังไม่ควรโพสต์ด้วย 555 ข้อความคิดเห็นเมื่อคืนเป็นข้อมูล PS1000e ล้วนๆครับ
อุตส่าห์ร่ายเสียยาว พอกดส่งลั่นไกไปแล้วมาดูหัวข้ออีกทีพูดถึง GS1000e นี่หว่า?
พอเห็นว่าพลาดไปแล้วเลยต้องรบกวนเฮียให้ช่วยลบออกน่าจะดีกว่า ^ ^

ขอโทษคุณ Love Song ด้วยที่ทำเสียอารมณ์ครับผม 555

ไม่ครับผมไม่ได้อารมณ์เสียครับ ผมอยากได้ความเห็นเยอะๆ จากหลายๆ มุมมองครับ แค่ งง ว่า อยู่ๆ ก็หายเป็นนินจาได้ หรือโดนเซนเซอร์อะไร 5555

เดี๋ยวหลังสร่างอาการแฮงค์ Hoegaarden เมื่อคืนจะมาช่วย comment อีกแรงนะครับ 555

อาจารย์แก้ชื่อให้ถูกแล้วลงกระทู้ใหม่สิครับ ตัวนั้นไม่ค่อยมีข้อมูลให้ได้อ่าน
ด้วยชุดกันดั้มใส่เกราะ(AK380+jacket ampของAKเอง)คงหาหูฟังขับไม่ค่อยไหวได้ยากอยู่นะครับ ^ ^

พี่เหน่งบาครับ ผมว่า AK380+jacket amp ของ อ.Ahura มันเหมือนกายเวอร์สวมเกราะกิกันติกมาก เท่สุดๆครับ

ปล.อยากให้ทีมงาน Apple มาดู astell & kern มากๆ เพราะการออกแบบเคสแบตสำรองของ iPhone6s ไม่โดนอย่างแรงเลย เพื่อนๆผมที่ใช้นี้บ่นกันระงมเลยครับ -_-"

ผมว่าไม่เหมือนกิกันติคกายเวอร์ครับ เพราะมันไปหนักที่ตัวมันเอง(แสนกว่า)เสียมากกว่าแอมป์ที่เพิ่มสองหมื่นกว่า ไม่งั้นแฟนกายเวอร์อย่างผมก็คงพูดก่อนแล้ว ^ ^

คุณเหน่งบาครับ คือ ผมถอย 325 มาละ แต่ไม่ชินกับแพดมันเลย ไส่แล้วแปลกๆหู ก่อนหน้านี้ ไช่ 420 มานานจนชิน ถ้าผมซื้อ pad แบบ คล้าย 420 ของ Grado มาเสียงจะเปลี่ยนมากไหม แล้วไปในทาง + - หรือผมต้องลองเอง ^ ^ ขอบคุณครับ

ไม่ควรครับ ทนใช้ไปสักพัก แล้วจะรู้สึกดีขึ้น(คือ ถ้าไม่ใช่ฟองน้ำน่วม ก็คงหูเราที่น่วมได้ที่ T^T)
ขนาด รูปทรง มวลปริมาตรของฟองน้ำ Lcush มีผลกับเสียงในทุกแง่มุมครับ และบริษัทดีไซน์่"ทั้งหมด"ของเสียงโดยมีฟองน้ำแบบนี้เป็นองค์ประกอบของหูฟัง เพราะเมื่อใช้ฟองน้ำLcush ทั้งการซับ/สะท้อนของเสียง ระยะห่างของไดรเวอร์กับหูเรา รวมถึงการปาดเฉียงของตัวpad ส่งผลกับรูปวง และน้ำเสียงโดยตรงครับ และนั่นคือ "เสียงของ325"ที่บริษัทจูนเอาไว้

นอกเสียจากว่า ลองฟองน้ำแบบอื่น แล้วชอบเป็นการส่วนตัว อย่างนั้นก็แล้วแต่ เพราะความชอบไม่มีถูกมีผิดครับ

ส่วนใหญ่จะเจอปัญหาว่า ใช้ฟองน้ำ Grado ฟังสักพักแล้วเจ็บหูเสียละมากกว่าครับ ซึ่งการใช้นานๆจะช่วยได้ หรือลองเอาหูฟังไปใส่ไว้กับหมวกกันน็อคขนาดเล็กนั่นก็อาจจะช่วยได้

ขอยืมรูปเฮียเบียสมาสาธิตหน่อยนะครับ ^ ^

ตั้งแต่อ่านมามีแต่ คุณนายมั่นคงกับคุณนายหลุยส์ที่comment ไม่เห็นมีคนที่เล่นจริงๆเลย

555 ครับ ปัญหาฟองน้ำกัดหูไม่ค่อยเท่าไหร่ครับพี่เหน่งบา แต่ ตอนแรกไส่แล้วนึกว่ามันจะคลุมมิดหูเราเลย แต่ ไส่ไปสักพักลองเอามือไปลูบๆคำๆหลังหูดู เอ๊ะ มันไม่ได้ปิดมิดนิน่า หรือว่า เราหูโตหูกางไป 5555

ผมเริ่มเข้าสู่เส้นทางสาย Grado ด้วยจุดหมายแรกก็คือ GS1000e นี่แหละครับ

เพราะวิธีการเล่นของผมคือพยายามไปถึงตัวท๊อปโดยจะไม่แวะกลางทาง ซึ่งเสน่ห์นางไม้มันเย้ายวนยากห้ามใจได้ จุดหมายหลักจึงมุ่งไปที่หูเฮ้าส์ซิ่งไม้แสนสวยตัวนี้

ด้วยการที่วิถีชีวิตส่วนตัวไม่อยู่ติดที่ เดินทางบ่อย การฟังเพลงจึงต้องอาศัยแต่ชุดพกพาเท่านั้น ผมเลยจบลงที่ชุดพกพาสุดซอย 380 combo set ซึ่งประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับ เมื่อพบความจริงว่าเจ้าอุปกรณ์ฟังเพลงค่าตัวแสนห้านี้มันขับ GS1000e ไม่สุด !!

ข้อพิสูจน์คือการเปรียบเทียบกับน้องรอง 3 ตัว คือ RS1e, PS500e และ MS Pro e โดยฟังจาก 380 combo ปรากฏว่าคุณภาพเสียงสู้ 2 ตัวแรกไม่ได้และดีกว่า Pro e นิดหน่อย ซึ่งตอนแรกผมก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจว่าทำไมเสียง GS มันได้แค่นี้ พอลองกับ PS1000 ที่นี้ก็สิ้นสงสัยเลยครับ เพราะเสียงที่ได้ก็แทบไม่ต่างหรือดีกว่า RS1e เลย พอผลที่ออกมาเช่นนี้ มันทำให้ผมเข้าใจได้ว่าไม่มีชุดพกพาที่สามารถรีดประสิทธิภาพของ Grado สองตัวบนนี้ได้แบบหมดจรด

ซึ่งถ้าผมยังดึงดันจะครอบครอง GS1000e ก็เท่ากับว่าผมต้องยอมให้ค่าตัวมันหล่นหายไปเกือบสองหมื่น เพราะคุณภาพเสียงที่ได้จากมันก็จะพอๆกับน้องรองเท่านั้น

แต่พอเอา GS1000e ต่อเข้ากับแอมป์ Bakoon hpa-21 ตัวพี่เบิ้ม ( ราคาน่าจะราวแปดหมื่น ) โดยใช้ 380 เป็น source และใช้ปลั๊ก 6.3 ( จุดต่อจาก 6.3 แปลงเป็น 3.5 ตรงนี้ก็เป็นจุดอ่อนของการต่อชุดพกพา ) คราวนี้ GS ก็แสดงแสนยานุภาพของการเป็นยอดขุนเขา Grado โดยทิ้งห่างน้องรองทั้งสามไว้กลางหุบเขาอย่างเห็นได้ชัดครับ

สุดท้ายด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่ในมือ ผมก็ต้องจำใจหิ้ว RS1e กลับบ้านครับ ทิ้งไว้เพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงว่าเมื่อผมหันมาเล่นตั้งโต๊ะเมื่อไร ผมจะกลับมาสู่ขอ GS1000e ไปเชยชมให้สมใจแบบสุดๆเสียที

@ เหน่งบา ชุดพกพาที่น่าจะนำพา GS1000e เข้าใกล้จุด G Spot มากที่สุดคือ portable rig อย่าง AK380 + Lisa L3 + Complement 4 หรือไม่ก็ AK380 + Bakoon hpa-01m + Complement 4 ครับ
แต่ผมคงไม่หวนกลับไปต่อสายระโยงระยางแล้วครับ 555


นอกเรื่องนิด
@ Five ผมเพิ่งได้ MF Buckaroo 1 ใน 4 ตัวสุดท้ายของโลกที่ร้าน P หามาได้ไงไม่รู้ มาเข้ากรุแล้วนะครับ ^ ^

555 เม้นท์แรกผมลบออกไปก่อนตามคำขอของอาจารย์ครับ แต่ตอนนี้อาจารย์มาคอมเม้นท์ใหม่ให้อ่านกันแล้วจ้าๆๆๆ 555

แต่ละท่านบรรยายได้เห็นภาพจริงๆ ครับ

** ผมคงไม่ได้เล่นตั้งโต๊ะแน่ เพราะถ้าตั้งโต๊ะย้ายไปไหนมาไหนไม่ได้ เวลาอยู่บ้านฟังเพลงกันหลายคนมีห้องฟังเพลงเป็นสัดส่วนอยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้าแอมป์ตัวน้อยๆ ของผมแม้จะขับได้ไม่สุด แต่อารมณ์เมื่อมองดูไม้แท้ๆ สวยๆจากอเมริกา แล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ เหมือนงานศิลปะ งานเนียนเหมือนเฟอร์นิเจอร์เลย ผมจึงรัก Gs1000e มากครับ ซึ่งรุ่นรองให้อารณ์ไม่ได้เท่านี้ครับ **

เห็นด้วยทุกสิ่งในด้านความงามครับ สัดส่วนขนาดของเฮ้าส์ซิ่งไม้ แพดฟองน้ำขนาดใหญ่ เฮดแบนด์หนังฟอกฝาด มันกลมกล่อมเนียนตาไปหมด สวมใส่แล้วดูดีมีชาติตระกูลมาก

ผมว่าแค่เก็บไว้ลูบๆคลำๆก็มีความสุขแล้วครับ 555

ส่วนเรื่องเสียงไว้เป็นเรื่องรองว่าจะหาทางพัฒนาต่อ หรือหยุดมันไว้แค่เพราะเธอเป็นเธอ ^ ^

ถ้า GS1000 ไม่อยากติดแหงกอยู่กับชุดตั้งโต๊ะ มันก็หนีไม่พ้นเจ้า Bakoon HPA-01M วันยันค่ำละครับ

หากจะใช้แค่เพลเยอร์ต่อตรงมันก็อ่อนปวกเปียก
แม้จะต่อเพิ่ม dac/amp เข้าไปแล้วก็ยังไม่สุด
สุดท้ายก็ต้องเพิ่มแรงดันด้วยเจ้าบัคคูนถึงจะอยู่หมัดยันฮีไปเลย 555

และชุดแบบนี้ก็คงจะต้องเรียกเป็นชุดแบกหามที่มันมีความสามารถที่จะขับขันให้เจ้า GS1000 ทำงานได้เต็มร้อยแบบไม่ต้องนั่งนิ่งๆเป็นหุ่นขี้ผึ้งงัยครับผม 555

นี่แหละต้องคนนี้ ตัวจริงเสียงจริงเล่นจริงมีจริง ไม่ใช้แสตนอินของวงการเครื่องเสียงโลก

จ๊ากๆๆๆ น้าชาก็มีตัวนี้อีกหรือนี่ 555

มันเป็นเพลเยอร์ตัวแรกในวันนี้ของผมที่สามารถปล่อย native dsd แท้ๆออกทางช่อง usb ได้ครับเฮีย อิอิ ^^

แต่สำหรับแรงขับเอ้าพุทของมันนี่อ่อนปวกเปียกจังเลยขนาดหูฟัง32ohmก็ยังเล่นเอามันหืดขึ้นคอ 555

พี่เหน่งบา : พอจะนึกภาพออกแล้วครับพี่

น้าชา : เห็นชุด grado ของน้าชาแล้วอยากโดนซักตัว แต่ผมคิดวิธีซุกไม่ออกซะที จะเอาไปไว้ที่ทำงานก็กลัวหาย ถ้าเอากลับบ้านโดนเชือดแน่ๆครับ

อ.Ahura : เห็นชื่อรุ่นของ MF แล้วเท่ดีครับ แต่ยังไม่ได้ไปดูของจริงเลย จะหมดซะแล้ว ขายดีจริงๆ / ผมเพิ่งหวด Jacket ของช่างรัช The machine ที่ทำร่วมกับคุณเบน Viapiana ตอนแรกคิดว่าคงทยอยขายไปเรื่อยๆมั้ง ที่ไหนได้กระแสตอบรับดี (เพิ่งรู้ว่าทำจำกัดแค่ 80 ตัว) size L ที่จองไว้หมดซะงั้น ดีที่ทรงค่อนข้างเข้ารูปนิดๆ ผมเลยรีบเอา XL มาเลยครับ

https://m.facebook.com/Rushjeans/photos/a.1033848456637688.1073741834.166818183340724/1033848846637649/

เทียบกับ HD800 เป็นไงบ้างครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ