พอดีเห็นหลังๆมานี้ บางยี่ห้อก็ใส่สเปคลงไปว่าของตัวเองใช้ usb ได้ที่ 384kHz/32bit (น่าจะหมายถึง usb transciever หรือตัวส่งและถอดสัญญาณผ่าน usb เข้า dac) แต่พอไปดูชิพ dac ตาม datasheet สเปคมันสุดที่ 192 kHz/32bit เท่านั้นเอง แล้วพอดูดีๆ เครื่องมันก็เล่นได้ตามสเปค dac เท่านั้น ไม่เข้าใจว่าใส่เพื่ออะไรครับ ตัว board รับ usb ตัวใหม่ ตัวนี้รู้สึกจะเป็นกระแสในตอนนี้ พอดีกำลังศึกษาการออกแบบ dac อยู่ แล้วบางยี่ห้อ สมมติว่าสัญญานขาออกจากชิพ dac มันมีแค่ L+/-, R +/- (แต่มีบางตัวได้ถึง 8 channel) เค้าใช้ถึง 8 ตัว นี่มันเอาไปทำอย่างไงอ่ะครับ คือแค่ 2 ตัว แยกเป็น dual mono นี่ผมพอเข้าใจ แต่พอ 8 ตัวผมอยากเห็น schematic diagram เค้าเหมือนกันว่าเค้าทำอย่างไง เพราะผมกะจะใช้แค่ 2 ตัว แต่เห็นบางค่ายใช้ถึง 8 ตัว งง ครับ หรือป้อนสัญญาณ usb แยกเข้าชิพ dac ซ้าย-ขวา 4 ตัวแล้วมารวมสัญญาณ หรือ ป้อนสัญญาณเข้าสมมติจาก ชิพ dac ฝั่งซ้ายตัวแรก เข้าตัวที่ 2 อย่างนี้รึปล่าวครับ สงสัยจริงๆ -_-"
แล้วตอนนี้มันมีเพลงที่เป็น 764/32 จริงๆมั้ยครับ เห็นค่าย asahi kasei ออกชิพ dac ตัวใหม่เสปคนี้แล้ว ยังงงว่าจะมีเพลงให้เล่นถึงสเปคนั้นเลยหรือครับ แนวที่ผมฟังหา 192/24 ได้นี่ก็หายากมากๆแล้วครับ -_-"
ในไทยนอกจาก clef แล้วยังมีเครื่องเสียงยี่ห้ออื่นอีกมั้ยครับที่ดังนอกประเทศแบบญี่ปุ่นที่มี accuphase, luxman, etc.
ขอบคุณครับ
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
shorttoeh
09/11/2015 08:25:40
4
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0นายมั่นคง
10/11/2015 00:00:35
4,282
เดี๋ยวข้อนี้ให้หมูหวานมาช่วยตอบนะคร้าบบ 555
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0หมูหวาน
10/11/2015 00:20:57
573
เรื่องสเปคของ DAC นี่เป็นอะไรที่หลายๆคนสงสัยกันมากครับ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะ Support 32bit/384kHz กันหมดแล้ว
แต่ถามว่าไฟล์เพลงส่วนใหญ่นั้นมีถึงรึยัง ผมตอบว่ายังไม่ค่อยมีค่ายเพลงไหนทำหรอกครับ
เพราะมันเปลืองเนื้อที่ในการตัดต่อเพลงของ Studio ไม่ค่อยคุ้มในการทำออกมาขาย แถมทำมาโดนก็อปอีก 555
เพลงส่วนใหญ่ที่เราๆฟังกันยังคงเป็นไฟล์ 16bit/44.1kHz หรือ CD Quality อยู่ น่าจะเกิน 90% ของเพลงที่มีอยู่ครับ
ต่อให้เรามี DAC 32bit/384kHz เอามาเล่นเพลง 16bit มันก็ถอดรหัสที่ 16bit อยู่ดีครับ พูดให้เห็นภาพก็เหมือนกับ
จอ LED ในปัจจุบัน ที่บอกว่ารองรับ 4K แต่ถามว่ามีไฟล์ 4K ให้เราเล่นไหมนั่นล่ะครับ
แต่ถามว่าไฟล์เพลงส่วนใหญ่นั้นมีถึงรึยัง ผมตอบว่ายังไม่ค่อยมีค่ายเพลงไหนทำหรอกครับ
เพราะมันเปลืองเนื้อที่ในการตัดต่อเพลงของ Studio ไม่ค่อยคุ้มในการทำออกมาขาย แถมทำมาโดนก็อปอีก 555
เพลงส่วนใหญ่ที่เราๆฟังกันยังคงเป็นไฟล์ 16bit/44.1kHz หรือ CD Quality อยู่ น่าจะเกิน 90% ของเพลงที่มีอยู่ครับ
ต่อให้เรามี DAC 32bit/384kHz เอามาเล่นเพลง 16bit มันก็ถอดรหัสที่ 16bit อยู่ดีครับ พูดให้เห็นภาพก็เหมือนกับ
จอ LED ในปัจจุบัน ที่บอกว่ารองรับ 4K แต่ถามว่ามีไฟล์ 4K ให้เราเล่นไหมนั่นล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0หมูหวาน
10/11/2015 00:26:22
573
ส่วน DAC ที่มีภาคถอดรหัสในตัว 8 ชุด อย่าง ES9018 นั้นจริงๆแล้วเค้าออกมาแบบมาให้รองรับกัารถอดรหัส Multi Channel 7.1
แต่เราสามารถเอามาทำเป็น Dual Quad (4+4) ออกเป็น 2 Ch. ได้ เพื่อเพิ่มค่า SNR และประสิทธิถาพในการถอดรหัสเพิ่มขึ้นครับ
แต่ถามว่าสุดท้ายแล้วเราควรเลือก DAC ที่เสียงครับ ไม่ควรเลือกที่สเปค เพราะ Chip DAC เหมือนๆกัน
แต่ละค่ายเอาไปออกแบบภาคไฟ ภาค Analog ไม่เหมือนกัน เสียงย่อมแตกต่างออกไปครับ
ไม่มี Chip ตัวไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าท่านชอบเสียงผลลัพธ์ของ DAC ค่ายไหนมากกว่ากันจ้าา
แต่เราสามารถเอามาทำเป็น Dual Quad (4+4) ออกเป็น 2 Ch. ได้ เพื่อเพิ่มค่า SNR และประสิทธิถาพในการถอดรหัสเพิ่มขึ้นครับ
แต่ถามว่าสุดท้ายแล้วเราควรเลือก DAC ที่เสียงครับ ไม่ควรเลือกที่สเปค เพราะ Chip DAC เหมือนๆกัน
แต่ละค่ายเอาไปออกแบบภาคไฟ ภาค Analog ไม่เหมือนกัน เสียงย่อมแตกต่างออกไปครับ
ไม่มี Chip ตัวไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าท่านชอบเสียงผลลัพธ์ของ DAC ค่ายไหนมากกว่ากันจ้าา
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 1shorttoeh
10/11/2015 00:37:35
4
ขอบคุณเฮียมั่นและพี่หมูหวานมากครับ
ผมว่าเค้าแข่งกันขายสเปคอ่ะครับ เพราะไม่รู้จะแข่งอะไรกันแล้วมั้งครับ แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังไม่ได้รองรับ ไฟล์เพลงแนวที่ผมฟัง หาได้สุดแค่ 192/24 เองครับ dsd อะไรพวกนี้ หาไม่ได้เลยครับ T_________T
ผมว่าเค้าแข่งกันขายสเปคอ่ะครับ เพราะไม่รู้จะแข่งอะไรกันแล้วมั้งครับ แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังไม่ได้รองรับ ไฟล์เพลงแนวที่ผมฟัง หาได้สุดแค่ 192/24 เองครับ dsd อะไรพวกนี้ หาไม่ได้เลยครับ T_________T
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0shorttoeh
10/11/2015 00:44:13
4
ตัวที่ผมหมายถึงคือ audio gd master 7 ครับ ผมพยายามดูรูปแล้ว เห็นเค้าวางเรียงกัน 4 ตัว แต่ไม่เห็นลายทองแดงเลยไม่รู้ว่าต่อกันอย่างไง
ที่พี่หมูหวานยกตัวอย่างมา ผมเข้าใจครับ เพราะเห็นหลายๆค่ายนิมเอาตัวที่ยกมา 8 ch มารวมเป็น 2 ch หรือแยกกันข้างละตัวเลย ตอนนี้ผมกำลังศึกษาการทำ dac เองอยู่ครับ พอดีมีชิพ dac อยู่ 2 ตัวครับ
แต่ของตัวที่ว่า ผมดูแล้วงงครับ
อย่างไงก็ขอบคุณมากๆครับ
ที่พี่หมูหวานยกตัวอย่างมา ผมเข้าใจครับ เพราะเห็นหลายๆค่ายนิมเอาตัวที่ยกมา 8 ch มารวมเป็น 2 ch หรือแยกกันข้างละตัวเลย ตอนนี้ผมกำลังศึกษาการทำ dac เองอยู่ครับ พอดีมีชิพ dac อยู่ 2 ตัวครับ
แต่ของตัวที่ว่า ผมดูแล้วงงครับ
อย่างไงก็ขอบคุณมากๆครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0นายมั่นคง
10/11/2015 02:08:40
4,282
ยินดีครับ มีอะไรโพสถามได้ตลอดครับ อันไหนผมตอบไม่ได้ ผมจะไปตามให้ท่านอื่นๆที่ทราบดีกว่าผมมาตอบให้แน่นอนครับ 555
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0หมูหวาน
10/11/2015 02:17:26
573
ไม่ทราบว่า Chip DAC ที่ได้มาเป็น 1704U-K หรือป่าวครับ
เพราะถ้าเป็น 1704 ธรรมดา สเปคสองตัวอาจจะไม่เท่ากันเป๊ๆครับ U-K จะเป็นตัวคัดเกรด
เพราะถ้าเป็น 1704 ธรรมดา สเปคสองตัวอาจจะไม่เท่ากันเป๊ๆครับ U-K จะเป็นตัวคัดเกรด
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0shorttoeh
10/11/2015 09:30:14
4
ชิพ dac ที่มีไม่ใช่ตัวนั้นครับ ผมพึ่งหัดทำ ไม่กล้าใช้ตัวแพงขนาดนั้นหรอกครับ
เจ้า 1704 u-k นี่ ในเว็บ mouser มีขายอยู่ครับ แต่เหลือไม่เยอะ ตกตัวละ 2 พันกว่าบาท แพงขนาดนี้ ยังไม่กล้าหรอกครับ -_-"
เจ้า 1704 u-k นี่ ในเว็บ mouser มีขายอยู่ครับ แต่เหลือไม่เยอะ ตกตัวละ 2 พันกว่าบาท แพงขนาดนี้ ยังไม่กล้าหรอกครับ -_-"
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0สมัครเล่น
10/11/2015 10:05:35
412
หมูหวานตอบได้ฟังธงดีครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tram
10/11/2015 23:14:52
6
ขอตอบ คห.5 น่ะครับ
พอดีว่าไม่เคยเห็นรูป master 7 แต่พอจะพูดในภาพรวมๆได้ว่า
โดยทั่วไปแดคนั้นมีเอาท์พุทสองแบบ คือ V-out แบบที่พบกันได้โดยทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งค่อนข้างจะสะดวกในการทำโพสต์ฟิลเตอร์ และแดคอีกแบบหนึ่งจะมีเอาท์พุทแบบ I-out คือ แดคจะส่งสัญญาณขาออกมาเป็นกระแส แล้วจึงค่อยไปทำ I to V converter อีกทีหนึ่งให้ได้แรงดันขาออก อาจจะ 1.5-2V อะไรประมาณนั้น
ทีนี้คุณก็จะเห็นได้ว่า ในกรณีแดคแบบ I-out มันจึงสามารถรวมกระแส ของแดคหลายๆตัวที่มาขนานภาคเอาท์พุทกันได้ หากถามต่อว่าทำไมไปทำไม? ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเคยอ่านผ่านๆตา ใน Application note DAC BB PCM1702 ได้พูดถึงเรื่องการขนานแดคไว้ว่า ช่วยลด THD ลงไป ยิ่งจำนวนการขนานแดคมากเท่าไหร่ THDก็จะยิ่งลดลง แต่มันลดไปเท่าไหร่นี่จำไม่ได้แล้ว เค้าคิดแบบเป็น-dB อะไรประมาณนั้น ลองไปหาอ่านดู
แต่แดคสมัยใหม่ทุกวันนี้ มันก็ทำออกมาได้ดีเหลือใช้แล้วล่ะครับ เพราะค่า THD+Nมันต่ำมากๆ โดยเฉพาะค่า N ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่าแดคสมัยก่อนเยอะ อาจจะเพราะเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น บางทีผมก็คิดเล่นๆน่ะว่า การที่แดคอย่าง PCM1704Kมันราคาแพง อาจจะไม่ใมช่เพราะมันดีจริงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ต้นทุนการผลิตแดคแบบ R2Rมันยังมีต้นทุนที่แพงต่างหาก เพราะมันต้องมีกระบวรการในการคัดค่าRที่ใช้ในแดคนั่นเอง
เมื่อหลายๆปีก่อนที่ผมยังบ้ากับการนั่งอ่านเรื่องแดคในเว็บบอร์ดDIYaudio.com มีอยู่โพสต์หนึ่งที่น่าสนใจมาก มีคนตั้งข้อสังเกตว่า MarkLevinson เปลี่ยนเบอร์แดคจาก PCM1704 ไปเป็น AD1853ซึ่งเป็น delta-sigma dac มันคือแจ็คผู้ฆ่ายักษ์จริงๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Analogue device ไม่ได้โดดลงมาเล่นในตลาดออดิโอแล้ว AD1853 อัพรุ่นขึ้นไปเป็น AD1955หลายปีมาแล้ว ก็หยุดอยู่แค่นั้น
พอดีว่าไม่เคยเห็นรูป master 7 แต่พอจะพูดในภาพรวมๆได้ว่า
โดยทั่วไปแดคนั้นมีเอาท์พุทสองแบบ คือ V-out แบบที่พบกันได้โดยทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งค่อนข้างจะสะดวกในการทำโพสต์ฟิลเตอร์ และแดคอีกแบบหนึ่งจะมีเอาท์พุทแบบ I-out คือ แดคจะส่งสัญญาณขาออกมาเป็นกระแส แล้วจึงค่อยไปทำ I to V converter อีกทีหนึ่งให้ได้แรงดันขาออก อาจจะ 1.5-2V อะไรประมาณนั้น
ทีนี้คุณก็จะเห็นได้ว่า ในกรณีแดคแบบ I-out มันจึงสามารถรวมกระแส ของแดคหลายๆตัวที่มาขนานภาคเอาท์พุทกันได้ หากถามต่อว่าทำไมไปทำไม? ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเคยอ่านผ่านๆตา ใน Application note DAC BB PCM1702 ได้พูดถึงเรื่องการขนานแดคไว้ว่า ช่วยลด THD ลงไป ยิ่งจำนวนการขนานแดคมากเท่าไหร่ THDก็จะยิ่งลดลง แต่มันลดไปเท่าไหร่นี่จำไม่ได้แล้ว เค้าคิดแบบเป็น-dB อะไรประมาณนั้น ลองไปหาอ่านดู
แต่แดคสมัยใหม่ทุกวันนี้ มันก็ทำออกมาได้ดีเหลือใช้แล้วล่ะครับ เพราะค่า THD+Nมันต่ำมากๆ โดยเฉพาะค่า N ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่าแดคสมัยก่อนเยอะ อาจจะเพราะเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น บางทีผมก็คิดเล่นๆน่ะว่า การที่แดคอย่าง PCM1704Kมันราคาแพง อาจจะไม่ใมช่เพราะมันดีจริงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ต้นทุนการผลิตแดคแบบ R2Rมันยังมีต้นทุนที่แพงต่างหาก เพราะมันต้องมีกระบวรการในการคัดค่าRที่ใช้ในแดคนั่นเอง
เมื่อหลายๆปีก่อนที่ผมยังบ้ากับการนั่งอ่านเรื่องแดคในเว็บบอร์ดDIYaudio.com มีอยู่โพสต์หนึ่งที่น่าสนใจมาก มีคนตั้งข้อสังเกตว่า MarkLevinson เปลี่ยนเบอร์แดคจาก PCM1704 ไปเป็น AD1853ซึ่งเป็น delta-sigma dac มันคือแจ็คผู้ฆ่ายักษ์จริงๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ Analogue device ไม่ได้โดดลงมาเล่นในตลาดออดิโอแล้ว AD1853 อัพรุ่นขึ้นไปเป็น AD1955หลายปีมาแล้ว ก็หยุดอยู่แค่นั้น
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tram
10/11/2015 23:24:39
6
พูดต่อจากเมื่อตะกี้อีกนิดหนึ่ง ก็เคยทำแดค I-out แบบขนานกันหลายๆตัว เป็น PCM61P เท่าที่จำได้น่ะ เสียงที่ได้จากแดคขนานกัน เมื่อเทียนบกับแดค แชนแนลล่ะตัว (เมื่อกี้ลืมบอกไปว่า PCM61P เป็นโมโนแดค) จะได้เสียงที่อิ่มกว่าใหญ่กว่า นอกจากนั้นก็จำไม่ได้แล้วสิว่ามันดีกว่าอย่างไร แล้วก็อีกอย่าง มันดูเท่ห์กว่ามั้ง
จริงๆแล้ว ในความเห็นของผม การที่จะทำแดคออกมาให้ได้ดี ไม่ใช่แค่เพียงเบอร์แดคที่เลือกมาเท่านั้น มันยังขึ้นอยู่กับภาคซัพพลาย และที่สำคัญบัฟเฟอร์ หรือโพสต์ฟิลเตอร์
สำหรับผมแล้ว solution ที่ดีและง่ายที่สุดในการเล่นแดคคือ เลือกแดคที่เป็น V-out แล้วต่อบัฟเฟอร์ด้วย Matching transformer ก็พวกที่เป็น Microphone input transformerนั่นแหละ แต่เลือกที่เป็นเกรด amorphous ที่มีเกนบวกเยอะๆหน่อยก็จะดี เสียงไปได้ไกลกว่าออปแอมป์เยอะเลย
จริงๆแล้ว ในความเห็นของผม การที่จะทำแดคออกมาให้ได้ดี ไม่ใช่แค่เพียงเบอร์แดคที่เลือกมาเท่านั้น มันยังขึ้นอยู่กับภาคซัพพลาย และที่สำคัญบัฟเฟอร์ หรือโพสต์ฟิลเตอร์
สำหรับผมแล้ว solution ที่ดีและง่ายที่สุดในการเล่นแดคคือ เลือกแดคที่เป็น V-out แล้วต่อบัฟเฟอร์ด้วย Matching transformer ก็พวกที่เป็น Microphone input transformerนั่นแหละ แต่เลือกที่เป็นเกรด amorphous ที่มีเกนบวกเยอะๆหน่อยก็จะดี เสียงไปได้ไกลกว่าออปแอมป์เยอะเลย
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0shorttoeh
11/11/2015 00:07:59
4
ขอบคุณ คุณ tram มากๆครับ ตอบให้ผมเยอะจริงๆวันนี้ ผมก็โหลด datasheet ของ bb ที่ว่ามาแต่ยังไม่ได้อ่านเลยครับ
ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ เจ้า pcm1704uk นี่ราคาในเว็บ mouser ไม่รวมค่าส่งตกตัวละ 2 พันกว่าบาทแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 38 ตัวแล้วครับ http://www.mouser.com/ProductDetail/Texas-Instruments/PCM1704U-K/?qs=wgAEGBTxy7mSN%252bX0jg0OFg%3D%3D
ทำไมผมหาเจอใน datasheet มันรับแค่ 96/24 เองครับ
แต่ผมดูมาหลายๆตัวราคาไม่แรง เป็น advance segment น่าสนใจมาทำก็พวก pcm1792 pcm1795
เรื่อง dac ยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ ทำยากกว่าทำ amp มากมายๆๆๆๆๆครับ
ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ เจ้า pcm1704uk นี่ราคาในเว็บ mouser ไม่รวมค่าส่งตกตัวละ 2 พันกว่าบาทแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 38 ตัวแล้วครับ http://www.mouser.com/ProductDetail/Texas-Instruments/PCM1704U-K/?qs=wgAEGBTxy7mSN%252bX0jg0OFg%3D%3D
ทำไมผมหาเจอใน datasheet มันรับแค่ 96/24 เองครับ
แต่ผมดูมาหลายๆตัวราคาไม่แรง เป็น advance segment น่าสนใจมาทำก็พวก pcm1792 pcm1795
เรื่อง dac ยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ ทำยากกว่าทำ amp มากมายๆๆๆๆๆครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0