ว่าแล้วก็ตัดแปะข้อมูลของนักแสดงฝีมือสูงผู้ล่วงลับท่านนี้ไว้สักหน่อยครับ เชื่อว่าหลายท่านคงชื่นชอบผลงานหลายเรื่องของน้าหมีก อภิชาติ ชูสกุล ที่ได้ฝากฝีมือทางการแสดงเอาไว้

ข้อมูลจากวิกิพีเดียครับ

อภิชาติ ชูสกุล (พ.ศ. 2499-6 กันยายน พ.ศ. 2553) มีชื่อเล่นว่า หมึก เป็นนักแสดงชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาจากการรับบท หมู่เชียร อดีตตำรวจรถถังผู้เป็นลูกพี่ของแดง ไบเล่ และเพื่อน ๆ จากภาพยนตร์เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ในปี พ.ศ. 2540

ซึ่งบทบาทการแสดงในเรื่องนี้ของอภิชาติ เป็นที่กล่าวขานอย่างมากว่า แสดงได้ดี เป็นที่น่าจดจำ สมบทบาทนักเลงจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงตัวประกอบ แต่สามารถแย่งความเด่นของตัวละครอื่นที่เข้าฉากด้วยกันได้ เช่นเดียวกับนักแสดงประกอบชายอีกคน คือ สมชาย ศักดิกุล

หลังจากนั้น ก็ได้รับบทเป็นตัวประกอบและตัวร้ายในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เช่น "เต่า" บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ siam observer ในปมไหม ทางไอทีวี, "ดาบเหล็ก" ในละครชุด น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ทางช่อง 3, "พระยาพลเทพ" ตัวร้ายใน นิราศสองภพ และ "พระเชียงเงิน" ใน ตากสินมหาราช ทางช่องเดียวกัน

ในส่วนของภาพยนตร์ก็ได้แก่ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ในปี พ.ศ. 2547, แค่เพื่อนค่ะพ่อ, โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง ในปี พ.ศ. 2549 และคนหิ้วหัว ในปี พ.ศ. 2550 เป็นต้น นอกจากนั้นยังเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ต่างประเทศ เรื่อง The Beach ในปี พ.ศ. 2543 และ Rescue Dawn ภาพยนตร์สัญชาติเยอรมัน ในปี พ.ศ. 2548

งานเบื้องหลัง อภิชาติเคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ต่างประเทศ เช่น Return To Paradise (ค.ศ. 1998) Aces go places V (ค.ศ. 1989) [2]และนอกจากนี้ยังเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเรื่อง สุริโยไท ในปี พ.ศ. 2544 ด้วย

ชีวิตส่วนตัว อภิชาติ เป็นชาวอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก ปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการอ่านสปอตโฆษณาและเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ สมรสกับ นางชไมพร กัลยาณมิตร ภรรยาที่อยู่กินกันมานานกว่า 30 ปี โดยไม่มีบุตร โดยความชอบส่วนตัวเป็นคนที่รักสุนัขมาก ได้เลี้ยงสุนัขไว้ทั้งหมด 3 ตัว

อภิชาติเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553 ด้วยโรคมะเร็งตับ โดยตรวจพบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีการฉายแสง โดยมีผลงานเรื่องสุดท้ายเป็นภาพยนตร์อิสระเรื่อง สติ สืบ ศพ

เจิมคนแรก^^

ผมแอบคิดเอาเองว่า ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงรอยต่อ ที่เทคโนโลยี dac มันกำลังกระโดดข้ามจากก่อนหน้านี้ เพราะก่อนจะถอย mojo ผมเพิ่งถอย dac/amp ของ Centrance slim ตัวเล็กๆมาตัวนึง ราคา 99.99 usd ความรู้สึกที่ได้ฟังถึงกับตกใจ เพราะทั้งสเปก กำลังขับและเสียงที่ได้ไม่แพ้ Centrance M8 ที่เคยครอบครอง (คหสต ผมว่าดีกว่า M8 อีก)

ตอนแรกถึงรีรอไม่จัด mojo เพราะคิดว่าลีอตใหม่ของยี่ห้ออื่นๆออกมา ก็น่าจะต้องมีอะไรก้าวกระโดดเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็พ่ายกิเลสตัวเอง 55

ยังไม่เคยฟัง แต่อยากจะมาโพสต์เกาะกระแส mojo ไป ๆ มา ๆ ออกนอกเรื่องอีก ไร้สาระชิปหาย กูเอาเวลาไปตัดเล็บตีนให้หมาดีกว่าว่ะ
ปล. ดันให้ mojo

หนังเรื่อง 2499 mojoครองเมือง

เพื่อนรุ่นพี่ผม(สนิทกันมาก).ตอนนั้นท่านจบจากจุฬาใหม่ๆ
ท่านมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนังเรื่องนี้

ตอนหลังน่าจะมีความขัดแย้งกันนิดหน่อยในกลุ่มงาน
หนังเรื่องต่อมาท่านก็ไม่ได้ร่วมทีมแล้ว

หนังเรื่องนี้จัดว่าคลาสสิคเลย แต่ยังไม่ถึงพวกเดอะก๊อฟฟาเธอร์
เมื่อก่อนผมติดงานเขียนแนวอาชญากรรมแบบนี้มาก
ศึก13ห้าง โก๋หลังวัง. ประวัติตี๋ใหญ่. แต่ที่ชอบที่สุดคือประวัติโอตี๋
เนื่องจากผมตอนเด็กๆเรียนแถวเยาวราช แถวเยาราชจะมีร้านกาแฟ
แบบยุคเก่า แก้วใสใบเล็ก. แถมชาให้อีกหนึ่งมาส่งพร้อมกัน
(ตอนนี้น่าจะเหลือร้านกาแฟย้อนยุคแบบนี้ร้านเดียว ก็แถวสะพาน
เหล็กนั่นเเหละ. ตรงที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ร้านนี้ชงไม่ค่อยอร่อย
แล้วเดี๋ยวนี้)
เช้าจะเป็นที่ชุมนุมจอมยุทธ์ นักเล่าประวัติเก่าของคนพวกนี้
มันมากบางวันไม่อยากไปโรงเรียนเลย

ประวัติโอตี่นี้มันมาก. ไม่มีใครนำมาทำหนังละคร แต่ก็เคยมีครั้งหนึ่งนานแล้ว
ผมเคยมีหนังประวัติโอตี่ แต่หายไปแล้วเสียดาย