จากที่ทดลองเอง และอ่านจาก Head Fi
เรื่องสายดิจิตอลที่สามารถนำมาใช้กับ X3,X3II,X5,X5II, DX100,DX90 และ AK สรุปแบบนี้ครับ
X3,X5,DX90,DX100 ต้องใช้หัว 3.5mm ได้ทั้งชนิด TRS 3-pole Stereo (Tip, ring, shield) หรือ TS 2-Pole โมโน (Ring, Shield) โดยที่สัญญาณดิจิตอล SPDIF จะอยู่ในส่วน TIP และ ground จะอยู่ที่ shield ของหัวแจ็ค ดังนั้นคุณสามารถใช้สาย 3.5mm M2M ชนิด stereo หรือ Mono ก็ได้ หรือใช้สาย m2m สำหรับสัญญาณอนาล็อกที่มีอยู่แล้วก็ได้เช่นกัน (แต่เอาสายอนาล็อกมาใช้กับสัญญาณดิจิตอล ฟังแล้วถูกหูหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง)
X3II,X5II ต้องใช้ 3.5mm ชนิด TRRS 4-pole (Tip, ring, ring, shield) โดยที่สัญญาณดิจิตอล SPDIF จะอยู่ในส่วน shield และ ground จะอยู่ที่ TIP ตัวที่สอง ที่เป็นแบบนี้เนื่องจาก X3II และ X5II แชร์ทั้ง lineout และ coaxial out ในช่องเดียวกัน
ดังนั้นสาย 3.5mm M2M ชนิด stereo สำหรับสัญญาณอนาล็อก ไม่สามารถใช้ได้ หากเสียบเข้าไปก็เท่ากับว่าเราทำการ bypass สัญญาณดิจิตอลลง ground ยังไงก็ไม่ทำงานแน่นอน
(หากใครนึกภาพหัว 3.5mm ชนิด TRRS 4-pole ไม่ออก จริงๆมันก็คือหัว 3.5mm ที่ใช้กับหูฟังที่มีไมโครโฟนหรือพวก small talk นั่นเอง)
ส่วนด้านปลายทางที่เข้า MOJO สัญญาณดิจิตอล SPDIF จะอยู่ในส่วน TIP และ ground จะอยู่ที่ shield ของหัวแจ็ค ดังนั้นใช้ 3.5mm ได้ทั้ง ชนิด stereo หรือ Mono
ดังนั้นท่านที่ใช้ X3,X5,DX90,DX100 กับ MOJO อันนี้ง่ายหน่อย ใช้สายอนาล็อก m2m ที่มีอยู่แล้วได้เลย (แต่เอาสายอนาล็อกมาใช้กับสัญญาณดิจิตอล ฟังแล้วถูกหูหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง)
ส่วนท่านที่ใช้ X3II,X5II ต้องออกแรงอีกหน่อย
สำหรับกรณี AK สาย TOSLINK ที่ใช้ควรจะต้องรองรับ sampling rate ให้ได้ 192Khz ประเด็นสำคัญคือสาย TOSLINK รุ่นเก่ามักจะมีปัญหาตรงนี้
หากไม่รองรับ sampling 192khz คุณจะฟังเพลงที่มี sampling rate ได้แค่ไม่เกิน 192khz รวมทั้งฟัง DSD ไม่ได้ด้วย เหมือนกับที่หลายท่านเจอปัญหานี้กับ AK
สาย TOSLINK ที่เคยลองแล้วใช้ได้ดีคือสาย Toslink ของ Moon Audio ที่ปล่อย 192khz รวมทั้งปล่อย DSD over PCM ได้ (อาจจะมียี่ห้ออื่นๆอีก ใครทราบเอามาแจ้งกันในกระทู้นี้ด้วยครับ)
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
Wichit
28/10/2015 15:21:50
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0volvoflip
28/10/2015 17:38:33
2
ขอบคุณครับ มีประโยชน์มากครับ
ผมขอเพิ่มเติมประเด็นเรื่องเอาสาย M2M analog มาใช้นำสัญญาณดิจิตอลหน่อยครับ
คุณสมบัติสายควรเป็นอย่างไรถึงจะนำสัญญาณดิจิตอลได้ดีที่สุดครับ?
ทองแดงล้วน, เงินล้วน, หรือทองแดงชุบเงิน, หรือจะไฮบริดเลยดี
ใครมีความรู้ ความเห็นอย่างไรมาแชร์กันเพื่อเป็นประโยชน์นะครับ
ผมขอเพิ่มเติมประเด็นเรื่องเอาสาย M2M analog มาใช้นำสัญญาณดิจิตอลหน่อยครับ
คุณสมบัติสายควรเป็นอย่างไรถึงจะนำสัญญาณดิจิตอลได้ดีที่สุดครับ?
ทองแดงล้วน, เงินล้วน, หรือทองแดงชุบเงิน, หรือจะไฮบริดเลยดี
ใครมีความรู้ ความเห็นอย่างไรมาแชร์กันเพื่อเป็นประโยชน์นะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0Nuy_musiclover
28/10/2015 17:51:15
96
มันเป็นสัญญานคนละประเภทกันครับ สาย coaxial มันนำสัญญาณ digital โครงสร้างมันจะคนละแบบกัน สายที่เขานิยมใช้กันจะเป็นสาย 75 ohm ถ้าคิดไม่ออกก็ดูสายอากาศทีวีเลยครับ เป็นสาย coax เหมือนกัน ส่วนสายสัญญาณมันเป็นสายอนาล็อก คือสายm2m , d2m ที่ใช้กันทั่วๆไป แต่สามารถใช้ด้วยกันได้ มีเสียงออกเหมือนกัน แต่จะดีมากน้อยแค่ไหนมันอีกเรื่อง
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0โอหมุ่น
28/10/2015 23:37:40
ขอบคุณทุกท่านสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0หมูหวาน
29/10/2015 00:20:23
573
ที่ร้านเรือธงผมทำสายไว้ให้ทดสอบแล้วนะครับ มีอยู่ 2-3 เส้น ท่านใหที่ใช้ FiiO อยู่แล้วอยากต่อ Coax Out
สามารเข้าไปลองเทสที่ร้านมั่นคงเรือธงได้เลยจ้าาา ^^
สามารเข้าไปลองเทสที่ร้านมั่นคงเรือธงได้เลยจ้าาา ^^
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
29/10/2015 01:03:09
3
ผมขอเพิ่มเติมประเด็นเรื่องเอาสาย M2M analog มาใช้นำสัญญาณดิจิตอลหน่อยครับ
คุณสมบัติสายควรเป็นอย่างไรถึงจะนำสัญญาณดิจิตอลได้ดีที่สุดครับ?
ทองแดงล้วน, เงินล้วน, หรือทองแดงชุบเงิน, หรือจะไฮบริดเลยดี
ใครมีความรู้ ความเห็นอย่างไรมาแชร์กันเพื่อเป็นประโยชน์นะครับ
------------------
สัญญาณ digital จะเป็นความถี่สูง
เป้นความถีสูง ....เงินแท้ จะตอบสนองการการทำงานได้ดีสุดครับ
(หลักการทำงาน...ไม่กียวกับแนวสียง)
สายแกนฝอย ปกติค่าความต้านทานจะมากกวาแกนดียว ประมาณเทาตัวนึง
ทำงานกับ สัญญาณ digital แกนดียวตาการสูญสียจะน้อยกวา
(สั้นๆไม่ถึง 30cm. คงหาความแตกต่างยาก)
คุณสมบัติสายควรเป็นอย่างไรถึงจะนำสัญญาณดิจิตอลได้ดีที่สุดครับ?
ทองแดงล้วน, เงินล้วน, หรือทองแดงชุบเงิน, หรือจะไฮบริดเลยดี
ใครมีความรู้ ความเห็นอย่างไรมาแชร์กันเพื่อเป็นประโยชน์นะครับ
------------------
สัญญาณ digital จะเป็นความถี่สูง
เป้นความถีสูง ....เงินแท้ จะตอบสนองการการทำงานได้ดีสุดครับ
(หลักการทำงาน...ไม่กียวกับแนวสียง)
สายแกนฝอย ปกติค่าความต้านทานจะมากกวาแกนดียว ประมาณเทาตัวนึง
ทำงานกับ สัญญาณ digital แกนดียวตาการสูญสียจะน้อยกวา
(สั้นๆไม่ถึง 30cm. คงหาความแตกต่างยาก)
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0volvoflip
30/10/2015 12:56:58
2
ขอบคุณ @tiger_silver มากๆครับ เคลียร์และชัดเจน
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0offer022
30/10/2015 13:09:11
1
จากที่อ่านก็คือ AK นี่ ใช้สาย M2M ทั่วไปไม่ได้ใช่ไหมครับ ^^
แล้วตอนนี้เรือธงมีสายสำหรับต่อ AK ไป MOJO ให้ลองแล้วใช่ไหมครับ
แล้วตอนนี้เรือธงมีสายสำหรับต่อ AK ไป MOJO ให้ลองแล้วใช่ไหมครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 05:58:39
3
ถ้าเห็นวา...ไม่สมควรต้องขออภัยด้วยครับ
-----------
กระแส mojo แรงน่าดุ สำหรับ สาย mini coaxial
สายรุ่น m2m
8 core Series Pure Silver &gold plate copper
(8c-SGPC)
สามารถนำไปใช้เป้น coaxial ได้เลยครับ แล้ว มีจุดดีกว่า
สายcoaxial 50/75 โอมห์ ทั้่วไปหลายอย่างด้วย
ยิ่งเป้นสายสั้นๆด้วยๆ....ไม่มีข้อด้อยกวาเลย
---------------
เช่น
สัญญาณ digital จะเป็นความถี่สูง
เป้นความถีสูง ....เงินแท้ จะตอบสนองการการทำงานได้ดีสุด
กราวน์เยอะ....ได้เปรียบเรื่องไทม์มิง...
สายถัก ทับกันหักล้างสนามแมเหล็ก..
ข้อด้อยอยู่แต่เป้นสายสั้นๆ...เลยไมมีผล...ถ้ายาวเป้นกิโลเมตร
อาจมีบางอย่างกว่าสายcoaxial 50/75 โอมห์ ทั่วไป...เลยไม่จำเป้นต้องพูดถึง
-----------
กระแส mojo แรงน่าดุ สำหรับ สาย mini coaxial
สายรุ่น m2m
8 core Series Pure Silver &gold plate copper
(8c-SGPC)
สามารถนำไปใช้เป้น coaxial ได้เลยครับ แล้ว มีจุดดีกว่า
สายcoaxial 50/75 โอมห์ ทั้่วไปหลายอย่างด้วย
ยิ่งเป้นสายสั้นๆด้วยๆ....ไม่มีข้อด้อยกวาเลย
---------------
เช่น
สัญญาณ digital จะเป็นความถี่สูง
เป้นความถีสูง ....เงินแท้ จะตอบสนองการการทำงานได้ดีสุด
กราวน์เยอะ....ได้เปรียบเรื่องไทม์มิง...
สายถัก ทับกันหักล้างสนามแมเหล็ก..
ข้อด้อยอยู่แต่เป้นสายสั้นๆ...เลยไมมีผล...ถ้ายาวเป้นกิโลเมตร
อาจมีบางอย่างกว่าสายcoaxial 50/75 โอมห์ ทั่วไป...เลยไม่จำเป้นต้องพูดถึง
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 06:09:09
3
สวนรืองค่า impedance 75 โอมห์...ไมต้องพุดถึง.ยาว...เข้าใจง่ายๆ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0uuahgh
01/11/2015 08:56:42
ถามต่อครับผมมีx5ii สายที่จะใช้กับ x5ii+mojo หน้าตาเป็นอย่างไร หาซื้อได้ง่ายๆ ทั่วไปมั้ยครับ ตอนนี้ยังไม่มีโมโจ กะให้วางแผงครบๆ ค่อยซื้อครับไม่อยากต่อคิว
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0@last
01/11/2015 09:23:25
53
X3II,X5II ต้องใช้ 3.5mm ชนิด TRRS 4-pole (Tip, ring, ring, shield) โดยที่สัญญาณดิจิตอล SPDIF จะอยู่ในส่วน shield และ ground จะอยู่ที่ TIP ตัวที่สอง ที่เป็นแบบนี้เนื่องจาก X3II และ X5II แชร์ทั้ง lineout และ coaxial out ในช่องเดียวกัน
ดังนั้นสาย 3.5mm M2M ชนิด stereo สำหรับสัญญาณอนาล็อก ไม่สามารถใช้ได้ หากเสียบเข้าไปก็เท่ากับว่าเราทำการ bypass สัญญาณดิจิตอลลง ground ยังไงก็ไม่ทำงานแน่นอน
(หากใครนึกภาพหัว 3.5mm ชนิด TRRS 4-pole ไม่ออก จริงๆมันก็คือหัว 3.5mm ที่ใช้กับหูฟังที่มีไมโครโฟนหรือพวก small talk นั่นเอง)
(คัดลอกบางส่วนมากจากกระทู้ แรกครับ)
ดังนั้นสาย 3.5mm M2M ชนิด stereo สำหรับสัญญาณอนาล็อก ไม่สามารถใช้ได้ หากเสียบเข้าไปก็เท่ากับว่าเราทำการ bypass สัญญาณดิจิตอลลง ground ยังไงก็ไม่ทำงานแน่นอน
(หากใครนึกภาพหัว 3.5mm ชนิด TRRS 4-pole ไม่ออก จริงๆมันก็คือหัว 3.5mm ที่ใช้กับหูฟังที่มีไมโครโฟนหรือพวก small talk นั่นเอง)
(คัดลอกบางส่วนมากจากกระทู้ แรกครับ)
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
01/11/2015 12:35:03
0
ถ้าเราใช้ TRRS 4 pin adapter แบบนี้
http://www.ebay.com/itm/231306660352?_trksid=p2057872.m2749.l2649&ssPageName=STRK%3AMEBIDX%3AIT
ร่วมกับ M2M หรือ digital cable จะใช้การได้หรือไม่ครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
01/11/2015 12:36:33
0
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0Wichit
01/11/2015 12:38:48
"สวนรืองค่า impedance 75 โอมห์...ไมต้องพุดถึง.ยาว...เข้าใจง่ายๆ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
เอานี้เข้าใจผิดนะครับ
ที่สัญญาณ DC สายไม่มี impedance แต่อาจมี resistance น้อยมากๆหรือไม่มีเลย (ขึ้นกับความยาวและหน้าตัดตัวนำ)
แต่ที่สัญญาณ analog จะเกิดค่า signal transfer ในสาย คือเกิดสภาพเหมือนมี EQ มีการเพิ่ม, ลดทอน, หรือปรับเปลี่ยนในบางความถี่ นั้นคือทำไมบางครั้งฟังเสียงเส้นนี้แล้วรู้สึกว่า เบสมาก เบสน้อย แหลมหาย แหลมจุด กลางพุ่ง ฯลฯ ซึ่ง signal transfer ที่เปลี่ยนแปลงนี้เกิดจาก impedance ที่เปลี่ยนไปตามย่านความถี่ต่างๆ
ที่สัญญาณ ดิจิตอล อันนี้ยิ่งสำคัญ รูปคลื่นดิจิตอลที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเกืดจากสัญญาณ sine wave ประกอบกันขึ้นมา ดังนั้นที่โหมด AC ค่า impedance ที่เกืดจาก signal transfer จึงมีความสำคัญในการส่งต่อรูปคลื่น sine wave นี้อยู่
ค่า characteristic impedance ของสาย ตัวนี้จะใช้มิเตอร์วัดแบบวัดตัวต้านทานไม่ได้ครับ แต่เป็นตัวที่ระบุถึงป็คุณสมบัติในการเหนี่ยวนำ (inductance) และค่าประจุของสาย (capacitance)
สำหรับ ดิจิตอล 75 โอห์ม ที่พุดกันบ่อยๆ นั่นคือ input/output impedance สายที่ระบุไว้ว่าเป็นสาย 75 โอห์ม นั่นหมายถึงสายเส้นนั้นได้รับการออกแบบให้มี signal transfer และ characteristic impedance ของสาย matching กันพอดีกับ input และ output ของวงจร digital unbalanced 75 ohm
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
เอานี้เข้าใจผิดนะครับ
ที่สัญญาณ DC สายไม่มี impedance แต่อาจมี resistance น้อยมากๆหรือไม่มีเลย (ขึ้นกับความยาวและหน้าตัดตัวนำ)
แต่ที่สัญญาณ analog จะเกิดค่า signal transfer ในสาย คือเกิดสภาพเหมือนมี EQ มีการเพิ่ม, ลดทอน, หรือปรับเปลี่ยนในบางความถี่ นั้นคือทำไมบางครั้งฟังเสียงเส้นนี้แล้วรู้สึกว่า เบสมาก เบสน้อย แหลมหาย แหลมจุด กลางพุ่ง ฯลฯ ซึ่ง signal transfer ที่เปลี่ยนแปลงนี้เกิดจาก impedance ที่เปลี่ยนไปตามย่านความถี่ต่างๆ
ที่สัญญาณ ดิจิตอล อันนี้ยิ่งสำคัญ รูปคลื่นดิจิตอลที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเกืดจากสัญญาณ sine wave ประกอบกันขึ้นมา ดังนั้นที่โหมด AC ค่า impedance ที่เกืดจาก signal transfer จึงมีความสำคัญในการส่งต่อรูปคลื่น sine wave นี้อยู่
ค่า characteristic impedance ของสาย ตัวนี้จะใช้มิเตอร์วัดแบบวัดตัวต้านทานไม่ได้ครับ แต่เป็นตัวที่ระบุถึงป็คุณสมบัติในการเหนี่ยวนำ (inductance) และค่าประจุของสาย (capacitance)
สำหรับ ดิจิตอล 75 โอห์ม ที่พุดกันบ่อยๆ นั่นคือ input/output impedance สายที่ระบุไว้ว่าเป็นสาย 75 โอห์ม นั่นหมายถึงสายเส้นนั้นได้รับการออกแบบให้มี signal transfer และ characteristic impedance ของสาย matching กันพอดีกับ input และ output ของวงจร digital unbalanced 75 ohm
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0Nrjwa
01/11/2015 12:59:38
0
ผมใช้ AK100II กับ MOJO ผ่านสาย Toslink ของ Audioquest (รุ่น Cinnamon) เล่น 192kHz และ DSD ได้ครับ
ส่วนสายที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นเส้นสั้นๆเล็กๆ เล่น 192kHz และ DSD ไม่ได้ครับ
เพื่อเป็นข้อมูลครับ
ส่วนสายที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นเส้นสั้นๆเล็กๆ เล่น 192kHz และ DSD ไม่ได้ครับ
เพื่อเป็นข้อมูลครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
01/11/2015 13:05:02
0
เห็นมีคนบอกว่าสาย optical ต้องสามารถให้ sampling rate 192KHz
ที่ใช้ได้ และพูดถึงกันมากใน head-fi คือ
Moon audio
Sysconcept ผมสั่งไปแล้ว แต่เห็นมีคนไทยสั่งไปด้วยครับ
http://www.sysconcept.ca/product_info.php?products_id=349
ที่ใช้ได้ และพูดถึงกันมากใน head-fi คือ
Moon audio
Sysconcept ผมสั่งไปแล้ว แต่เห็นมีคนไทยสั่งไปด้วยครับ
http://www.sysconcept.ca/product_info.php?products_id=349
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เหน่งบา
01/11/2015 13:12:07
1,866
ไม่ได้โมโจ้กับเขาแต่ก็มาขอบคุณข้อมูลดีๆมีสาระครับ
คุณยามาโน่เลิกเล่นเถอะครับ ถ้าไม่ชอบก็อย่าเข้าไปอ่านเลยครับ ทำแบบนี้มีแต่เสีย
จากคนรำคาญจะกลายเป็นคนรังเกียจได้ครับ พอเถอะ
คุณยามาโน่เลิกเล่นเถอะครับ ถ้าไม่ชอบก็อย่าเข้าไปอ่านเลยครับ ทำแบบนี้มีแต่เสีย
จากคนรำคาญจะกลายเป็นคนรังเกียจได้ครับ พอเถอะ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
01/11/2015 13:19:07
0
ทั้ง Moon Audio ทำสายเป็นแบบกะทัดรัด สามารถใช้เป้นแบบพกพาได้ดี ไม่เกะกะ
ของ Moon Audio แพงกว่าเล็กน้อย 100 vs 69 US dollars
ผมเลือกของ Sysconcept เพราะเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ optical cable มากกว่า
น่าจะเป็นสาย optical ที่ดีกว่า และมีแบบชัดเจนว่าจะต่อแบบไหน วาง AK, mojo ไว้อย่าง
จึงจะต่อได้พอดี
บริการตอบถามดีครับ
เขาจะถามด้วยว่าจะเอาไปต่ออะไรกับอะไร ให้แน่ใจว่าซื้อไปแล้วใช้ได้จริง ๆ
ของ Moon Audio แพงกว่าเล็กน้อย 100 vs 69 US dollars
ผมเลือกของ Sysconcept เพราะเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ optical cable มากกว่า
น่าจะเป็นสาย optical ที่ดีกว่า และมีแบบชัดเจนว่าจะต่อแบบไหน วาง AK, mojo ไว้อย่าง
จึงจะต่อได้พอดี
บริการตอบถามดีครับ
เขาจะถามด้วยว่าจะเอาไปต่ออะไรกับอะไร ให้แน่ใจว่าซื้อไปแล้วใช้ได้จริง ๆ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 14:36:31
3
สายไม่มี impedance ครับ
สาย สัญญาณ กับ กราวน์ ไม่ได้ต่อกัน ....ไม่มีทางวัดได้
impedance ค่าความต้านทานระหว่าง สัญญาณ กับ กราวน์
เป็นเรืองที่คนกำหนดมาตรฐานขึ้นมา ไม่ได้อยู่จริงในตัวสาย
ใช้สายเปลาๆวัดไม่ได้ ...ต้องปล่อยสัญญารความถี่ทีกำหนด มีโหลด
แล้วเอามาคำนวน
-------------
ส่วนค่า resistance มีอยจริงในตัวสาย ยาวสั้น คามากน้อยไม่เท่ากัน
สามารถวัดได้จริง ถ้าเครื่องวัดละอียดพอ
สาย สัญญาณ กับ กราวน์ ไม่ได้ต่อกัน ....ไม่มีทางวัดได้
impedance ค่าความต้านทานระหว่าง สัญญาณ กับ กราวน์
เป็นเรืองที่คนกำหนดมาตรฐานขึ้นมา ไม่ได้อยู่จริงในตัวสาย
ใช้สายเปลาๆวัดไม่ได้ ...ต้องปล่อยสัญญารความถี่ทีกำหนด มีโหลด
แล้วเอามาคำนวน
-------------
ส่วนค่า resistance มีอยจริงในตัวสาย ยาวสั้น คามากน้อยไม่เท่ากัน
สามารถวัดได้จริง ถ้าเครื่องวัดละอียดพอ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0superpong
01/11/2015 15:17:16
0
คุณ tiger ยังเข้าใจคนละประเด็นอยู่ครับ ประเด็นในคห 17 คือ ตัวสายเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อทั้งหมด ค่า inductance และ capacitance จะทำให้ตัวสายเองเกิด impedance ส่งผลที่ย่านความถี่ต่างๆกัน ขอให้มองแบบ "end-to-end" ครับ
นี่เป็นเหตุผลหลักๆที่นักออกแบบ cable ต้องจะต้องทราบ เพราะสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ที่สายแต่ละเส้นมีบุคลิกในการถ่ายทอดเสียงต่างกัน เช่นสัญญาณของ Goertz ที่โครงสร้างแบนๆ มีค่า capacitive สูง ทำให้ตัวมันเอง attenuate ย่านความถี่ตำ่ ทำให้สายเส้นนี้มีบุคลลิกเด่นที่กลางสูงมากกว่าย่านต่ำ อันนี้ทางผู้ผลิดเป็นคนอธิบายในหลักการออกแบบเองเลยนะครับ ค่า impedance ของเส้นสายของเค้า
สายที่มี impedancce หรือค่า Zo ที่มีค่า capacitance มาก ---> เด่นที่กลางแหลม เพราะไปลดทอนย่างต่ำ (High pass impedance )
สายที่มี impedancce หรือค่า Zo ที่มีค่า inductance มาก ---> เด่นที่กลางต่ำ เพราะย่านกลางสูงถึงสูงถูกลดทอนลงไปบ้าง (Low pass impedance)
สายในอุดมคติ คือ ไม่มี capacitance และไม่มี inductance มีแต่ resistance บ้างนิดหน่อย
ลองดูเรื่อง cable design จะมีรายละเอียดลงลึกกว่านี้อีกครับ
https://www.digikey.com/Web%20Export/Supplier%20Content/GenCable_42/PDF/GC_CableDesignEquationsBalancedPair.pdf?redirected=1
https://en.wikipedia.org/wiki/Nominal_impedance#Cable_quality
https://en.wikipedia.org/wiki/Coaxial_cable
http://www.6moons.com/audioreviews/interconnects/interconnects.html
"Cable impedance is primarily of concern in digital interconnects where RCA/BNC terminations rely on exact 75-ohm impedance, AES/EBU variants on 110 ohms. Impedance offsets in such applications incur unwanted signal reflections inside the cable."
http://sound.westhost.com/cablewhitepaper.htm
Cables have inductance, capacitance, and impedance. Cable manufacturers juggle these parameters to get the cables to sound the way they want.
นี่เป็นเหตุผลหลักๆที่นักออกแบบ cable ต้องจะต้องทราบ เพราะสาเหตุทางวิทยาศาสตร์ที่สายแต่ละเส้นมีบุคลิกในการถ่ายทอดเสียงต่างกัน เช่นสัญญาณของ Goertz ที่โครงสร้างแบนๆ มีค่า capacitive สูง ทำให้ตัวมันเอง attenuate ย่านความถี่ตำ่ ทำให้สายเส้นนี้มีบุคลลิกเด่นที่กลางสูงมากกว่าย่านต่ำ อันนี้ทางผู้ผลิดเป็นคนอธิบายในหลักการออกแบบเองเลยนะครับ ค่า impedance ของเส้นสายของเค้า
สายที่มี impedancce หรือค่า Zo ที่มีค่า capacitance มาก ---> เด่นที่กลางแหลม เพราะไปลดทอนย่างต่ำ (High pass impedance )
สายที่มี impedancce หรือค่า Zo ที่มีค่า inductance มาก ---> เด่นที่กลางต่ำ เพราะย่านกลางสูงถึงสูงถูกลดทอนลงไปบ้าง (Low pass impedance)
สายในอุดมคติ คือ ไม่มี capacitance และไม่มี inductance มีแต่ resistance บ้างนิดหน่อย
ลองดูเรื่อง cable design จะมีรายละเอียดลงลึกกว่านี้อีกครับ
https://www.digikey.com/Web%20Export/Supplier%20Content/GenCable_42/PDF/GC_CableDesignEquationsBalancedPair.pdf?redirected=1
https://en.wikipedia.org/wiki/Nominal_impedance#Cable_quality
https://en.wikipedia.org/wiki/Coaxial_cable
http://www.6moons.com/audioreviews/interconnects/interconnects.html
"Cable impedance is primarily of concern in digital interconnects where RCA/BNC terminations rely on exact 75-ohm impedance, AES/EBU variants on 110 ohms. Impedance offsets in such applications incur unwanted signal reflections inside the cable."
http://sound.westhost.com/cablewhitepaper.htm
Cables have inductance, capacitance, and impedance. Cable manufacturers juggle these parameters to get the cables to sound the way they want.
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0
สาย coaxial digital ที่ดีนั้นควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ
1. แกนเดี่ยว ลดปัญหาสัญญาณ stray current ที่ฟุ้ง
2. หุ้ม shield ลดสัญญาณรบกวนจากภายนอก
3. มี impedance 75 ohm เพื่อลดปัญหา reflection
สาย USB ที่ต่อ mojo ก็ควรจะมี shield ต่อ ground เชื่อมถึงกัน
สาย optical หา DAP ที่จ่าย optical ดีๆยากครับ นอกจาก AK แล้วก็คงจะมีแต่ iRiver รุ่นใหญ่เก่าๆที่ลงทุนกับ optical ดีๆหน่อยครับ
1. แกนเดี่ยว ลดปัญหาสัญญาณ stray current ที่ฟุ้ง
2. หุ้ม shield ลดสัญญาณรบกวนจากภายนอก
3. มี impedance 75 ohm เพื่อลดปัญหา reflection
สาย USB ที่ต่อ mojo ก็ควรจะมี shield ต่อ ground เชื่อมถึงกัน
สาย optical หา DAP ที่จ่าย optical ดีๆยากครับ นอกจาก AK แล้วก็คงจะมีแต่ iRiver รุ่นใหญ่เก่าๆที่ลงทุนกับ optical ดีๆหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 15:39:38
3
ถ้าจะเข้าใจยาก....ไฟฟ้าไม่มี อนาลอค ดิจิตอลครับ
ไฟAc Dc มีศักย์ไฟ กับ กระแส
ไฟ Ac มีรูปคลื่น...กับ ความถี่ ที่เพิ่มมา
สัญญาณดิจิตอล เป็น ไฟ Ac ความถี่สูง รูปคลื่นสี่เหลี่ยม ก็แค่นั้น
-----------------
วัดค่า impedance
สาย 1 กิโลเมตร
ไฟ Acความถี่10้hz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม กับ ไฟ Acความถี่1mhz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม
ค่าimpedance ก้ไม่เทากัน
--------------
หรือ ไฟ Acความถี่1mhz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม
สาย75 โอมห์ ยาว 10 cm. 1m. 100m 1km
ค่าimpedance ก้ไม่เทากัน
-------------------
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
มันไม่ได้มีอยู่จริง
ไฟAc Dc มีศักย์ไฟ กับ กระแส
ไฟ Ac มีรูปคลื่น...กับ ความถี่ ที่เพิ่มมา
สัญญาณดิจิตอล เป็น ไฟ Ac ความถี่สูง รูปคลื่นสี่เหลี่ยม ก็แค่นั้น
-----------------
วัดค่า impedance
สาย 1 กิโลเมตร
ไฟ Acความถี่10้hz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม กับ ไฟ Acความถี่1mhz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม
ค่าimpedance ก้ไม่เทากัน
--------------
หรือ ไฟ Acความถี่1mhz รูปคลื่นสี่เหลี่ยม
สาย75 โอมห์ ยาว 10 cm. 1m. 100m 1km
ค่าimpedance ก้ไม่เทากัน
-------------------
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
มันไม่ได้มีอยู่จริง
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0Nopkhun
01/11/2015 16:04:56
impedance ของสายและวงจรต้นทางและปลายทางในระบบดิจิตอลควรจะต้อง matching กันและสายก็ควรจะต้องเป็นแบบมี shield
ปล คุณ tiger ก็มองคนละประเด็น อธิบายไปคนละเรื่องอยู่ดี
ปล คุณ tiger ก็มองคนละประเด็น อธิบายไปคนละเรื่องอยู่ดี
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0tiger_silver
01/11/2015 16:35:33
3
ประด็นดียวกัน นี่แหละครับ
สายไม่จำป็นต้องมีชิลด์เลย
สายแลน ...ใช้กับดิจิตอลความถี่สูง กว่าcoax อีก
ยังไมต้องมีชิลด์ลย
อยู่ที่การออกแบบสาย....อธิบายคงยาว
-----------
matching in-output ใส่ R คุม impedance อยู่แล้ว
ตัวสายแค่ไม่ให้สัญญารมากวน...และมีคาการสูญเสีย..ตอบสนองความความถีได้ดี
....แค่นั้นครับ....การออกแบบสาย
สายไม่จำป็นต้องมีชิลด์เลย
สายแลน ...ใช้กับดิจิตอลความถี่สูง กว่าcoax อีก
ยังไมต้องมีชิลด์ลย
อยู่ที่การออกแบบสาย....อธิบายคงยาว
-----------
matching in-output ใส่ R คุม impedance อยู่แล้ว
ตัวสายแค่ไม่ให้สัญญารมากวน...และมีคาการสูญเสีย..ตอบสนองความความถีได้ดี
....แค่นั้นครับ....การออกแบบสาย
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 17:09:02
3
matching in-output ใส่ R คุม impedance อยู่แล้ว
ตัวอย่างวงจร
spdif output circuit
spdif input circuit
ตัวอย่างวงจร
spdif output circuit
spdif input circuit
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
01/11/2015 17:15:56
3
เห็นวงจร ....มันน่าทำใส่สายจริงๆ........เชื่อแน่ว่าเดียวก็มีคนทำแล้วมาขายเวอร์ๆ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0AKLOVER
01/11/2015 17:57:31
สายแลน ...ใช้กับดิจิตอลความถี่สูง กว่าcoax อีก
ยังไมต้องมีชิลด์ลย
++++++++++
สายแลนมีสองประเภท แบบมี shield และแบบ ไม่มี shield ครับ
แบบไม่มี shield หรือที่เรียก Unshield Twisted Pair (UTP) ตามมารตรฐาน
IEEE 802.3 ซึ่งผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อก็จะกำหนดให้มีคุณสมบัติต่างกันไปได้บ้าง
ส่วนแบบมี shield เรียกว่า Foil Twisted Pair (FTP) หรือ Shield Twisted Pair (ScTP) นั้นมีฟอยล์ที่หุ้มสายทองแดงทั้ง 4 คู่ บวกกับสาย Drain Wire ที่ช่วยในการเชื่อม Ground ทั้งระบบเพื่อป้องกันคลื่นรบกวนที่จะเข้ามาในสายสัญญาณซึ่งสายแบบ UTP ไม่สามารถทำได้ สายแลนแบบ FTP หรือ ScTP เหมาะกับการเดินสายในบริเวณที่มีการรบกวนของไฟฟ้าแรงสูง มอเตอร์ มีสายไฟฟ้าแรงสูง หรือเครื่องจักรทีมีมอเตอร์ต่างๆ
สำหรับสายดิจิตอลก็อย่างที่เห็นกันตลาด เป็นแบบ coaxial มี shield หุ้มแกนสายเพื่อป้องกันการรบกวนจากภายนอก
การออกแบบสายยืนยันว่าไม่ได้ง่ายอย่างนั้นครับ ที่โรงงานประกอบสายที่ผมทำงานอยู่ ฝ่ายออกแบบต้องลงเรียนหลีกสูตรอบรม Cable Transfer, cable design, cable impedance และพวก signal transfer กันแบบคอร์สๆเลย
สายดิจิตอลยังมีอีกแบบเป็นชนิด balanced 110 โอห์ม อีกนะครับ แต่ความที่ไม่สะดวกในการพกพา จึงมักจะเจอในเครื่องเสียงบ้านและงานสตูดิโอเป็นส่วนใหญ่
ส่วนเรื่อง impedance ของสายก็ตามที่ท่านบนๆอธิบายไว้เลยครับ ในโรงงานผม ทีมที่ดูแลเรื่องการออกแบบเป็นหลักสูตรบังคับที่ต้องเรียนทุกคน
ยังไมต้องมีชิลด์ลย
++++++++++
สายแลนมีสองประเภท แบบมี shield และแบบ ไม่มี shield ครับ
แบบไม่มี shield หรือที่เรียก Unshield Twisted Pair (UTP) ตามมารตรฐาน
IEEE 802.3 ซึ่งผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อก็จะกำหนดให้มีคุณสมบัติต่างกันไปได้บ้าง
ส่วนแบบมี shield เรียกว่า Foil Twisted Pair (FTP) หรือ Shield Twisted Pair (ScTP) นั้นมีฟอยล์ที่หุ้มสายทองแดงทั้ง 4 คู่ บวกกับสาย Drain Wire ที่ช่วยในการเชื่อม Ground ทั้งระบบเพื่อป้องกันคลื่นรบกวนที่จะเข้ามาในสายสัญญาณซึ่งสายแบบ UTP ไม่สามารถทำได้ สายแลนแบบ FTP หรือ ScTP เหมาะกับการเดินสายในบริเวณที่มีการรบกวนของไฟฟ้าแรงสูง มอเตอร์ มีสายไฟฟ้าแรงสูง หรือเครื่องจักรทีมีมอเตอร์ต่างๆ
สำหรับสายดิจิตอลก็อย่างที่เห็นกันตลาด เป็นแบบ coaxial มี shield หุ้มแกนสายเพื่อป้องกันการรบกวนจากภายนอก
การออกแบบสายยืนยันว่าไม่ได้ง่ายอย่างนั้นครับ ที่โรงงานประกอบสายที่ผมทำงานอยู่ ฝ่ายออกแบบต้องลงเรียนหลีกสูตรอบรม Cable Transfer, cable design, cable impedance และพวก signal transfer กันแบบคอร์สๆเลย
สายดิจิตอลยังมีอีกแบบเป็นชนิด balanced 110 โอห์ม อีกนะครับ แต่ความที่ไม่สะดวกในการพกพา จึงมักจะเจอในเครื่องเสียงบ้านและงานสตูดิโอเป็นส่วนใหญ่
ส่วนเรื่อง impedance ของสายก็ตามที่ท่านบนๆอธิบายไว้เลยครับ ในโรงงานผม ทีมที่ดูแลเรื่องการออกแบบเป็นหลักสูตรบังคับที่ต้องเรียนทุกคน
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0tiger_silver
01/11/2015 18:10:02
3
ครับ..เอาไว้เรียน
----------
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
รอบ2
----------
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
รอบ2
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
01/11/2015 21:01:32
0
เท่าที่ทราบมาสายดิจิตัลถ้าเป็น RCA ควรเป็น 75 Ohm ถ้าเป็นแบบ XLR 110 Ohm
ซึ่งผมคิดว่าคงให้ได้คุณภาพตามที่กำหนดมา
ก็เคยมีคนบอกว่า รวมทั้งคนที่เคยขายแอมป์ DAC preamp. ให้เคยบอกว่าจริงจะใช้สาย IC ที่คุณภาพดีหน่อยก็ได้
ซึื่งเสียงจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นกับความพอใจครับ บางทีอาจจะถูกใจมากกว่าที่ใช้สายดิจิตัล 75 Ohm, 110 Ohm
ก็ได้ และคงขึ้นกับระบบด้วย ดังนั้นคงต้องใช้ความเห็นส่วนตัวกับระบบของเราเป็นสำคัญ
ที่อยากเรียนถาม ตามความคิดเห็นที่ 15,16 ก็คือว่าถ้าเราใช้ adapter แบบที่ว่าตามรูปนั้นจะทำให้ได้สัญญานออกจาก
FiioX5ii ตามที่ต้องการหรือไม่ ความจริงสายที่จะต่อออกไปควรเป็นสายดิจัตัล 75 Ohm แต่คงจะหาที่ความยาว
สั้นเพื่อให้เข้ากับระบบพกพาได้ยาก จึงจะลองใช้ M2M ดูก่อน (หาได้ง่ายกว่า มีตัวให้เลือกมากกว่า) ถ้าได้เสียงตามที่ต้อง
การก็นะจะโอเค แต่ถ้าไม่ได้ค่อยหาสายดิจิตัลจริง ๆต่อไปครับ
ซึ่งผมคิดว่าคงให้ได้คุณภาพตามที่กำหนดมา
ก็เคยมีคนบอกว่า รวมทั้งคนที่เคยขายแอมป์ DAC preamp. ให้เคยบอกว่าจริงจะใช้สาย IC ที่คุณภาพดีหน่อยก็ได้
ซึื่งเสียงจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นกับความพอใจครับ บางทีอาจจะถูกใจมากกว่าที่ใช้สายดิจิตัล 75 Ohm, 110 Ohm
ก็ได้ และคงขึ้นกับระบบด้วย ดังนั้นคงต้องใช้ความเห็นส่วนตัวกับระบบของเราเป็นสำคัญ
ที่อยากเรียนถาม ตามความคิดเห็นที่ 15,16 ก็คือว่าถ้าเราใช้ adapter แบบที่ว่าตามรูปนั้นจะทำให้ได้สัญญานออกจาก
FiioX5ii ตามที่ต้องการหรือไม่ ความจริงสายที่จะต่อออกไปควรเป็นสายดิจัตัล 75 Ohm แต่คงจะหาที่ความยาว
สั้นเพื่อให้เข้ากับระบบพกพาได้ยาก จึงจะลองใช้ M2M ดูก่อน (หาได้ง่ายกว่า มีตัวให้เลือกมากกว่า) ถ้าได้เสียงตามที่ต้อง
การก็นะจะโอเค แต่ถ้าไม่ได้ค่อยหาสายดิจิตัลจริง ๆต่อไปครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
02/11/2015 05:27:10
3
สงสัย...ได้อธิบายยาวจริงๆ.......
สวนรืองค่า impedance 75 โอมห์...ไมต้องพุดถึง.ยาว...เข้าใจง่ายๆ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
-----------------
สาย 75 โอมห์ ที่มีคือกำหนดมาตรฐาน.....เพือใช้ได้ไม่สะเปะสะปะ....ไมงั้นใช้สายอะไรมั่วไปหมด....งานระบบใช้สายยาวๆจำเป็นมาก
------------
การกำ หนด
1ความยาว
2ความถี่ที่ใช้ทดสอบ
3 ค่าความต้านทานที่นำมาโหลด
สามารถส่งสัญญาณได้ วัดค่าประจุ capacitance แล้วอามาคำนวณกับคาความต้าน+ความถี่
หาค่า Z (impedance)ถ้าผ่านตามมาตรฐาน สาย 75 โอมห์ คือสายสาย 75 โอมห์
อย่าง สาย RG6 จะเป้นแกนเหล็ก ชิลด์อลุมิเนียม(สายสัญญารกล้องวงจรปิด ทีขายกันทัวไป)
หรือเป็นสายแกนทองแดงชิลด์ทองแดง เมตร100กว่าอย่างคานาเร่
ก็คือสายผ่านตามมาตรฐาน สาย 75 โอมห์
แต่ถ้าตัดสั้นๆ 10cm.แล้วมาทดสอบค่า Z (impedance)จะเปลี่ยนไป
ค่าประจุ capacitance สายยาวกับสั้นไมเท่าเทากันเลยทำให้ค่า Z (impedance)เปลี่ยนไป
ดังนั้น..เข้าใจง่ายๆครับ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
สวนรืองค่า impedance 75 โอมห์...ไมต้องพุดถึง.ยาว...เข้าใจง่ายๆ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
-----------------
สาย 75 โอมห์ ที่มีคือกำหนดมาตรฐาน.....เพือใช้ได้ไม่สะเปะสะปะ....ไมงั้นใช้สายอะไรมั่วไปหมด....งานระบบใช้สายยาวๆจำเป็นมาก
------------
การกำ หนด
1ความยาว
2ความถี่ที่ใช้ทดสอบ
3 ค่าความต้านทานที่นำมาโหลด
สามารถส่งสัญญาณได้ วัดค่าประจุ capacitance แล้วอามาคำนวณกับคาความต้าน+ความถี่
หาค่า Z (impedance)ถ้าผ่านตามมาตรฐาน สาย 75 โอมห์ คือสายสาย 75 โอมห์
อย่าง สาย RG6 จะเป้นแกนเหล็ก ชิลด์อลุมิเนียม(สายสัญญารกล้องวงจรปิด ทีขายกันทัวไป)
หรือเป็นสายแกนทองแดงชิลด์ทองแดง เมตร100กว่าอย่างคานาเร่
ก็คือสายผ่านตามมาตรฐาน สาย 75 โอมห์
แต่ถ้าตัดสั้นๆ 10cm.แล้วมาทดสอบค่า Z (impedance)จะเปลี่ยนไป
ค่าประจุ capacitance สายยาวกับสั้นไมเท่าเทากันเลยทำให้ค่า Z (impedance)เปลี่ยนไป
ดังนั้น..เข้าใจง่ายๆครับ
สายไม่มี impedance มีแต่ resistance
ค่า impedance เป้นเรื่องเทสส่วนนึงกำหนดมาตรฐานในการใช้งานท่านั้น
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0kiertijaib
02/11/2015 05:48:44
0
สั้นๆ
มาตรฐาน ไม่ได้หมายความว่าเหมาะสมกับของเรานะครับ
มาตรฐาน ไม่ได้หมายความว่าเหมาะสมกับของเรานะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0tiger_silver
03/11/2015 18:17:15
3
ทีแรกว่าจะทำสายคิจิตอลเฉพาะ..มีสายcoax...เทฟล่อนอยู่แล้ว...แตมานึกๆ....8c -sgpc น่าจะเด็ดกว่า แถมข้อ2จะไปทบกับกราวน์ เท่ากับเพิ่มสายกราวน์เข้าไปอีก....แถมหมดยุค mojo ..ก้ยังมาใช้เป้นสายปกติได้....เลยขึ้นแนะนำครับ...
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0RockDragon
09/11/2015 21:53:36
2,893
ผมเตรียมสาย Coax สำหรับ Fiio X7 ไว้ใช้กับ Mojo แล้วครับ 555
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0นายมั่นคง
09/11/2015 23:05:49
4,282
โอววว กดเข้ามาอ่าน ข้อมูลใหม่ๆเพียบเลยอ่ะ 555
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0RockDragon
10/11/2015 21:54:13
2,893
กำลังเทสสาย coax ใช้ L5 PRO เล่นไฟล์ DSD 2.8 (DOP) ไปเข้า Mojo จะเห็นไฟสีม่วงอ่อน(768kHz)ติดอยู่ และเสียงออกมาดีขึ้นมากจากต่อตรงเยอะเลยครับ ^^
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0rintarahom63
22/02/2019 12:02:41
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 38 - RockDragon
ผมเตรียมสาย Coax สำหรับ Fiio X7 ไว้ใช้กับ Mojo แล้วครับ 555
อยากได้ด้วย
ผมเตรียมสาย Coax สำหรับ Fiio X7 ไว้ใช้กับ Mojo แล้วครับ 555
อยากได้ด้วย
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0