การใช้งานครับ

เสียบคู่กับ Venom ps8 เลยด้วย

สวยงามน่าลองจริง :)

คุณติ้ง เป็นช่างหรือเปล่าครับเนี่ย ช่างสรรหาแต่ของแจ่มๆนะครับ 555+

555 กำลังจะอัพสายไฟไฟน่ะครับ เลยเข้าไปหาข้อมูลในเวปของเค้ามา ดูน่าสนใจดีครับ

มีแน่นอนคร้าบบบ สินค้า Shunyata นั้น ทาง Deco2000 คือผู้นำเข้าแบรนด์นี้ครับ ยังไงมี 100% จ้า แต่เดี๋ยวผมจะเช็คให้อีกทีนะครับ ว่าเมื่อไหร่ และเท่าไหร่ครับ 555

โอ้ ว้าววว ขอบพระคุณมากๆ ครับเฮีย รอด้วยใจจดจ่อเลยคร้าบบ

ตอนนี้มีของพร้อมจำหน่ายเลยครับ ราคาอยู่ที่ 6,400 บาท/ตัวจ้าา
สนใจสามารถเข้ามาดูได้ที่อัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 3 คร้าบผมมม ^^

หืม!! จริงดิพี่หมูหวาน ผมไม่รู้เลยนะครับนี่ ว่ามีของขายแล้ว ไปออกจะบ่อย 555

พี่หมูหวานได้ลองเทสหรือยังครับพี่ ว่าให้ผลเป็นอย่างไรบ้างครับ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน 555 แต่ลองไปได้ครับ สินค้าบางตัวผมไม่เห็นในรายการก็เลยไม่ทราบเหมือนกัน แต่หมูหวานแจ้งมาแสดงว่ามีชัวร์ๆๆแล้วจ้าๆๆ

ครับผม ขอบคุณมากครับเฮีย

สไตล์เสียงของตัวนี้จะเน้นเรื่อง Background ที่นิ่งสงัดสุดๆครับ ซึ่งจะช่วยให้เสียงเครื่องดนตรีต่างๆชัดเจนขึ้น
และช่องไฟ ความห่าง เลเยอร์หน้าหลัง แยกแยะได้ชัดเจนด้วยจร้าาา

พี่หมูหวานขอบคุณมากครับ ตามที่หมูหวานบรรยายมานี่ตรงตามที่ผมต้องการเลยครับพี่

แล้วที่ร้านมีตัวเดโมให้ลองฟังไหมครับ จะได้เข้าไปลองดู แล้วต้องจองไว้ไหมครับหรือมีของเพียงพอพร้อมขาย

น่าใช้แฮะ

เข้ามาคอนเฟิร์มว่ามีขายครับ เพราะผมก็ใช้อยู่ซื้อจากร้านเฮียนี่แหล่ะ ฮ่าๆๆ

คุณEllevoid ไวมากครับ ใช้แล้วเป็นไงครับ คุ้มค่าไหมเพราะราคาสูงพอสมควร เทียบกับ jitter ตัวไหนเห็นผลชัดกว่ากันคร้าบ

ผมเอามาใช้เพื่อกัน surge อ่ะครับ เอามาก็เสียบทิ้งไว้เลย
พอดีเพิ่งเปลี่ยนปลั๊กรางกับสายไฟใหม่ด้วยก็เลยยังไม่ได้ลองฟังเทียบกันครับ

อ้อ ขอบคุณคร้าบ

ขออนุญาติคุณ Think

@ellevoid

รบกวนสอบถามครับ ถ้าเอามากัน SURGE เราต้องเสียบ ช่องไหน อย่างไรให้เกิดผลครับ หรือเสียบช่องไหนก็ได้ที่สายไฟในระบบเดินทางผ่าน ขอบคุณครับ

เค้าแนะนำให้เสียบที่ช่องแรกสุดที่ไฟเข้าอ่ะครับ อย่างถ้าใช้กับ PS8 เค้าจะให้เสียบช่องแรกหน้าสุดครับ
ส่วนของผมเสียบที่ปลั๊กผนังคู่กับสายไฟที่เข้าปลั๊กรางของระบบครับ

ขอบคุณครับ

เสียบกับรูคู่กันที่ปลั๊กผนัง แบบที่คุณ ellevoid บอกเลยก็ได้ครับ
พยายามเสียบใกล้ต้นทางมากที่สุด จะเห็นผลกว่าจ้าา
หลักการคล้ายๆของ Nordost QV2 ครับผมม ^^

แล้วถ้าเทียบกับ Nordost QV2 ใกล้เคียงกันไหมครับ

สองตัวนี้จะให้ผลคนละแบบครับ เพราะ QV2 จะเน้นเรื่องรายละเอียด และความชัดเจนของเสียง
ส่วน Defender จะเน้นเรื่องขจัด Noise และเรื่อง Bacground ของเสียงที่นิ่งสุดๆจ้าา

ผมเริ่มสนตัว defender แล้วครับ แต่ควรจะเปลี่ยนปลั๊กไฟก่อนดีไหมครับ หรือซื้อตัว defender ไปเล่นเลยดี

ถ้าให้ผมแนะนำเป็นลำดับความสำคัญนะครับ

เดินสายไฟใหม่จากตู้เมน >>> เปลี่ยนปลั้กผนัง >>> Shunyata VENOM DEFENDER ครับ

ถูกต้องเลยครับ สายไฟถ้าไม่เดินใหม่มาจากตู้เมน และใช้สายขนาดเล็กเกินไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ อย่างน้อยปลั๊กผนังของเรา ควรเดินสายอย่างต่ำที่เบอร์ 6 SQM ครับ หรือถ้าแปลงเป็นมาตรา AWG ก็น่าจะต้องราวๆๆ 10-12 AWG ครับ

จริงๆ ผมก็อยากทำอย่างที่แนะนำครับ แต่มีข้อจำกัดว่าห้ามรื้อถอน 555 ซึ่งตอนนี้เต้ารับผมเป็นแบบกรองนอยส์ทั่วไปยี่ห้อ Thoshino พันกว่าบาท และสายไฟ nrg-4 ซึ่งตอนเปลี่ียนไปแล้วมันเห็นผลในระบบผมพอสมควร น้ำเสียงโปร่งขึ้นฟังสบาย เบสก็มีกำลังขึ้น พอเห็น Shunyata VENOM DEFENDER คิดว่ามันน่าจะมีผลกับระบบบ้างครับ เลยอยากลอง

จริงๆ กะจะเปลี่ยนเต้ารับก่อนด้วยซ้ำ พอดีมาเห็นกระทู้นี้เลยอยากลองตัวนี้ก่อนเปลี่ยนเต้ารับซะอีกครับ (เล็งๆ พวก Clef ไว้) แต่พอมาเห็นคำแนะนำของเฮียและคุณ Think นี่ชักลังเล 555

ถ้ายังไม่สะดวกเดินสายไฟจากตู้เมน เปลี่ยนปลั้กผนังก่อนก็ได้ครับ และถ้าคันอยากจัด Shunyata VENOM DEFENDER มาลองเล่นๆ ก็ได้ครับ เสียบคู่กับปลั้กผนังไปเลยครับ เกิดความเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ

เอามาแปะกระทู้นี้หน่อยนะครับ 555

------------------

หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วก็ถึงเวลาฟังแล้วๆๆๆๆ 555 สังเกตุนิดนึงครับ จะเห็นว่าสายไฟที่เสียบเข้าปลั๊กอันล่างๆจะเป็นสายไฟเส้นเล็กๆๆ อันนี้เป็นสายที่ติดมากับปรีเพาเวอร์แอมป์ของชุดวินเทจที่ผมใช้อยู่ อันนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ คืออัพเกรดสายไฟก็ไม่ได้ เพราะมันติดตั้งตายตัวมาแล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือเสียบมันไปตามสภาพ แต่พยายามทำเครื่องหมายมาร์คไว้ว่า ข้างใดให้เสียงที่ดีที่สุด

แล้วก็ทำเครื่องหมายไว้ แล้วก็เสียบโดยยึดข้างนั้นไว้ตลอด และพวกเครื่องเสียงที่ไม่สามารถใช้สายไฟที่มีกราวด์ได้ ก็ให้เดินกราวด์ด้วยตัวเองครับ โดยเดินสายกราวด์ที่อยู่กับปลั๊กผนังมาผูกแตะไว้กับตัวถังของเครื่อง เท่านี้เท่ากับว่าเครื่องของท่านมีกราวด์แล้วเช่นกัน (เดี๋ยวจะเอารูปให้ดูครับ)

ผมเลือกปลั๊ก Shunyata มาใช้ เพราะติดใจตรงที่มันเป็นปลั๊กที่ไม่มีบุคลิกเสียงติดมากับตัวปลั๊ก คือเป็นปลั๊กที่ไม่ได้เน้นทุ้ม หรือเน้นแหลม หรือแต่งเกรนเสียงแหลมจนคมขึ้นขอบ ผมว่ามันเป็นปลั๊กที่ให้เสียงเป็นกลางหรือ Neutral ที่สุดตัวหนึ่งแล้วล่ะ ใครชอบเสียงเกินจริงให้เลือกใช้ปลั๊กตัวอื่นได้เลย แต่ถ้าจะเอาแบบสมจริงแล้ว ผมขอส่ง shunyata เข้าประกวดครับ 555

จากนั้นผมลองเอา Venom Defender เสียบเข้าตรงข้างๆช่องที่พอจะว่าง แล้วฟังเปรียบเทียบระหว่างเสียบกับไม่เสียบ และวิธีเสียบนั้น ถ้ายังไม่มีปลั๊กราง ผมแนะนำให้เสียบไว้ใกล้กับเครื่องที่ต้องใช้กำลังไฟเยอะๆๆ หรือพวกเครื่องที่มีหม้อแปลงใหญ่ๆภายใน อันนี้จะเห็นผลชัดมาก พูดง่ายๆ คือเสียบพวกแอมป์จะได้ผลและเห็นผลสูงสุดครับ

เท่าที่ลองฟังมาพักนึงเมื่อตะกี๊ เสียบเจ้า Defender ปุ๊บ เหมือนปลายเสียงแหลมจะได้ยินมากขึ้น แต่ผมว่ามันไม่ได้ไปเพิ่มอะไรหรอกครับ แต่ว่า noise floor มันลดลงต่ำต่างหาก ทำให้ได้ยินตัวโน้ตต่างๆชัดเจนขึ้น ใครที่ชอบฟังฉากหลังมืดๆๆสนิทๆ ท่าทางจะพลาดไม่ได้เสียแล้วกับ Defender ครับ

เดี๋ยวผมจะลองกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆว่าเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ลองดูเล่นๆพักใหญ่ โอเคมากครับ 555

ขอบคุณมากครับเฮียที่มาแชร์ข้อมูลนะครับ. ขอถามนิดนึงก่อนตัดสินใจครับ. เสียบแล้วฟังออกยากไหมครับว่าเสียงมันสงัดขึ้น. เพราะถ้าเทียบกับ. Jitter bug รายนั้นเสียบปุบฟังออกปับเลยครับ

ฟังออกทันทีครับ ผมลองเสียบช่องเดียวกับแอมป์ ฟังออกว่าสงัดลงทันที เมื่อตะกี๊ผมลองไขน็อตที่ปิดฝาเจ้า defender ออกมา กะว่าจะแง้มดูซะหน่อยว่าข้างในเป็นอะไร แต่ปรากฏว่าได้แต่ขันน็อตออก และดึงตัวหัวปลั๊กออกมาได้นิดเดียว เห็นสายไฟโยงไปด้านใน มองไม่ออกว่าเป็นอะไร 555

คอนเฟิมว่าฟังแล้วเงียบลง สงัดลงทันทีครับ แต่ผมว่ามาคนละแนวกับ jitterbug ครับ คืออันนี้เบสจะตึงขึ้นแน่นขึ้นหน่อยนึง เสียงจริงจังมากขึ้นครับ แต่สะอาดนี่ชัดเจนครับ

เฮียมาคอนเฟิร์มแบบนี้คงต้องหาโอกาสไปอุดหนุนล่ะครับ 555

ขอบคุณครับเฮีย ถามอีกข้อครับ (ขอโทษนะคร้าบ) ถ้าในระบบมี jitter bug อยู่แล้วสองตัว ถ้านำ defender ไปเสียบเพิ่ม เฮียว่ามันจะไปส่งเสริมกันในทางที่ดี หรือแย่ลงครับ อยากรู้มากครับกลัวมันไปซำ้ซ้อนกันครับ ^^

คนละส่วนครับ jitterbug มันจัดการ noise จากคอมเราที่ออกมากับช่อง usb
ส่วน defender มันจัดการ noise ที่มาจากไฟบ้านครับ

เปรียบเหมือนกับการเปลี่ยนสายไฟจากปลั๊กมาเข้า dac กับ เปลี่ยนสาย usb จากคอมไป dac อ่ะครับ เป็นคนละส่วนกันครับไม่ต้องกลัวซ้ำซ้อน (นอกจากเปลืองตังค์ ฮ่าๆๆๆ)

ผมว่าให้ผลคนละแบบครับ defender ไปลด noise ลง เหมือนกับไปทำให้สิ่งที่เป็นส่วนเกินมันหายไป ทำให้ฉากหลังมันสงัดขึ้น ในขณะที่ Jitterbug มันไปลดพวก jitter ออก ทำให้สิ่งที่ไม่ค่อยชัดมันชัดขึ้นครับ (งงเปล่าเอ่ย) 555