ถ้าไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ ส่วนตัว ผมว่า sr60 ก็พอครับ (แต่ Grado ยิ่งรุ่นสูง ก็ยิ่งดีขึ้นตามครับ อันนี้ผมพูดเฉพาะ ส่วนที่ฟังเพลงครับ) โดยเฉพาะ E serie ผมว่าเขาจูนเสียง ให้ฟังง่ายกว่ารุ่นก่อน บางคนที่ชอบความจัดจ้าน อาจชอบ serie เดิมมากกว่าครับ

ถ้าความชอบส่วนตัว อยากให้ขยับอีกนิดมาที่ 80eครับ หลายอย่างมันให้ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็เท่ากับเริ่มถลำลึกเข้าสู่เส้นทางมรณะนะครับ ^ ^ 60eนี่แค่ไต่ปากเหว

ส่วนตัวเล็งๆ 325 อยุ่ครับ ตัวนี้เป็นไงมั้งเอ่ย . . .

ถ้าไม่คำนึงถึงราคา เท่าที่เคยลองฟัง ถ้าดูหนัง ก็ต้องยกให้ ตระกูล PS1000 ละครับ เจ้าแห่ง soud stage ตัวนึงของวงการ, เบส,ดีเทล เก็บทุกอณูเสียง,ตอบสนองความถี่ได้กว้างสุด ที่สุดของกราโด ละครับ อิ ๆ

โอว ถ้างบถึง เน้นดูหนังด้วย ตัวนี้คงใช่สุดครับ 55 รุ่นสูงกว่านี้จะเริ่มต้องเรื่องมากกับชุดที่ใช้ถึงจะคุ้ม

ทิ้ง RE ไป GRADO นี่เอง

รองลงมากน่าจะเป็นน้องรองของตระกูล PS PS500 ดูหนังจะมัน เบสมันต้องตูมตามนิดนึง คหสต

แล้ว SR60 ใช้ดูหนังพอได้มั้ยครับ พอดียังไม่เคยลอง

ซื้อหูฟังมาปุ๊บจบเลยไหมครับ ^ ^ หรือต้องมีอะไรเสริมอีก

@คุณเดียว ดูได้สบายครับ เป็นตัวเริ่มต้นที่ดี ถ้ารุ่นสูงกว่านี้ พวกรายละเอียด ย่านต่างๆก็จะดีขึ้นตาม(แต่ผมว่า 60 เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น เพราะรุ่นสูงกว่านี้ เบสค่อนข้างกระชับ เก็บตัวเร็ว)
@Noname ถ้าหมายถึงพวกแอมป์ จะว่าไปก็ไม่จำเป็น เพราะกราโด้ขับไม่ยาก แต่ถ้าได้ชุดดีๆไฟล์ดีๆ คุณภาพมันย่อมดีกว่าต่อตรงครับ

ส่วนจะเอารุ่นไหน ก็ขึ้นอยู่กับงบในกระเป๋าครับ PS500 ก็ดีอย่างที่ท่านจอมยุทธด้านบนบอก

แต่ PS1000 ไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นหูกราโด้รุ่นเดียว ที่ผมได้แต่มอง ไม่กล้าลองฟัง

ฟังกับอะไรครับ

คือGrado มันถือว่าขับง่ายแล้ว เพียงแต่เป็นธรรมดาที่ฟูลไซส์ ถ้าได้แอมป์มันก็ออกมาได้เต็มที่ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคำว่า"ดูหนังฟังเพลง"นี่ มันคงต้องฟังแบบอัดกันบ้างแน่ ซึ่งการเพิ่มแอมป์จะช่่วยได้ครับ(เพราะงานนี้มีการคาดหวังในเชิงปริมาณ) โดยที่ก็ไม่ได้บอกว่าต้องแอมป์เป็นหมื่นหรืออะไรมากมาย

แต่ถ้ามุ่งหวังไปทางออดิโอไฟล์ แบบนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องพิถีพิถันกว่าครับ ภาพรวมของอุปกรณ์ที่ใช้ก็จะต้องใช้งบมากขึ้น อยู่ที่จุดประสงค์ใช้งานมากกว่า

ยังไม่ต้องคิดเรื่องเสริมหรอกครับ ซื้อมา ใช้ไปเบิร์นไปสักพักใหญ่ ถึงค่อยถามตัวเองว่า อยากได้อะไรเพิ่ม ไม่ต้องรีบร้อนครับ

ฟังกับคอมซะส่่วนใหญ่ครับผม แต่งบนั้นมีอยุ่ในใจเพียงแต่อยากทราบเฉยๆว่าพวกท่านนั้นจะเชียตัวใหน แต่โดยรวมแล้ว ก็ขอบพระคุณพี่ๆมากนะครับพี่ ให้ความเห็นเป็นมิตร ^ ^

SR80 ซื้อมาสามปีกว่าๆแล้วมั้ง ดูหนังเสียงชัดมากๆครัช

ถ้าคนข้างๆไม่รำคาญเสียงที่ลอดออกไป ผมว่า Grado คือหูฟังตัวที่คุ้มค่าสุดๆแล้วครับ 555

งั้นผมไม่รบกวนพี่ๆละ ของคุณทุกๆๆ ความเห็นนะครับ และขอบคุณเฮียมั่นที่มีพื้นที่ๆ ดีๆแบบนี้ไว้ถามประสบการ ของพวกพี่ๆ ^ ^

ขอถามคับตอนนีผมมี500e แต่อยากได้เสียงกลองกะแทกๆหนักขึ้นกับเสียงว้ากดุๆ อัพเป้นตัวไหนคับ

เคยฟัง แต่ไม่มี ps500e เอาเท่าที่จำได้ ลองเทียบกับ RS1e จังหวะกลอง สำหรับผม ผมว่า RS1e กระแทกกระทั้นได้ถูกใจมากกว่า(ไม่ได้หมายความว่าหนักกว่า) ถ้าชอบทางร็อค มาสายกราโด้ คงต้องไปลองเจ้า RS1(สุดทางร็อค)ดูซักครั้งครับ

(ตอนนี้พิมพ์ไป โยกหัวไป ฟัง RS1 กับ oasis อยู่ครับ555)

เห็นคล้าย ๆ คุณพี่ Tangkoo คลับ เอาร็อกสด ๆ ห้าว ๆ ดิบ ๆ กระแทกกระทั้น ถ้าลอง rs1e ยังรู้สึกนุ่มไปนิด อาจต้องย้อนไปลองฟัง rs2e รึถอยกลับไปที่ sr325e อิ ๆ

ผมมี 2 คำถามครับ

sr325 กับ ms2is ต่างกันมากไหมแล้วต่างกันยังไง

ขอถามไรหน่อยครับ คำถามอาจจะตลกๆ แต่อยากรู้
คือ เอาสายหูฟังเสียบเครื่องเล่นหรือ โน็ตบุ็ต แต่สายไม่ได้เสียบหูฟัง และเปิดทิ้งไปเลื่อยๆ นี้ เป็นการเบรินไหม 5555

sr325 กะ ms2 ต้องรอพี่เหน่งบาครับ
แค่ จะนับเป็นเบิร์นสายก็ยังไม่ครบวงจรเลยครับ สัญญาณไม่วิ่งไปแล้วก็วิ่งกลับ ต้องเสียบหูฟังครับ

ถ้านับว่าเบิร์นเครื่องเล่น นับได้ครับ อิ ๆ

อิอิ ขอบคุณครับ สงสัยคุณเหน่งบา คงจะนอนแล้วหละ ผมว่านะ ^ ^

ขอบคุณคุณAce ที่ให้เกียรติเอ่ยถึงครับ ^ ^

การเบิร์นต้องต่อครบloopครับ สมมุติว่า เปิดเครื่องเล่น(หรือแม้ต่อแอมป์ด้วย แต่ไม่ได้เสียบหูฟัง สัญญาณก็ไม่ได้ไหลผ่านช่องเอาท์พุทอยู่ดี

ถ้าจะเบิร์นเครื่อง แต่หูฟังเบิร์นได้ที่แล้ว ให้หาหูถูกๆประเภทหูแถมมาเสียบแทนครับ

325 กับ MS2 เป็นแฝดแบบไข่คนละใบ คือ มาถึงสองรุ่นนี้ สายจะเป็นสายใหญ่กว่ารุ่นเล็ก หนังที่หุ้มเฮดแบนจะเป็นหนังแท้ เฮ้าซิ่ง(ถ้วย)จะเป็นโลหะเมื่อเทียบกับรุ่นเล็กกว่าอย่าง225 ที่ยังเป็นพลาสติก เวลาใส่จะรู้สึกมีน้ำหนักและมีราคามากกว่า(บางคนไม่ชอบเรื่องน้ำหนักนี่แหละครับ)

ส่วนเสียง เน้นรายละเอียดในส่วนปลีกย่อยต่างกันครับ MS2 เสียงจะเปิดกว่ารุ่นล่างอย่าง225 กลาง แหลมจะพลิ้วกระจ่าง ย่านกลางสูงจะโดดเด่น พวกเสียงนักร้องผู้หญิง เครื่องดนตรีแหลมทั้งหลายจะโดนใจมาก MS2จะเน้นความเป็นดนตรี ลื่นไหลกว่า325 ในขณะที่325จะแผด เจิดจ้าสะใจกว่า(จัดจ้าน?สำหรับคนไม่ชอบ) เรียกว่าขาร็อคมาเอง (ร็อคที่เน้นความดุ คม เด็ดขาด ฉับพลัน ไม่ใช่เน้นปริมาณย่านทุ้มให้ตูมๆหนาๆ) ถ้าดูหนังอาจจะถึงใจท่านผู้ชมมากกว่าMS2ครับ

ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ใช้งานครับ บอกว่าตัวไหนดีกว่าคงยาก ควรไปลองฟังเอง เพราะที่เล่ามาก็แค่ตัวหนังสือให้อ่าน ฟังแล้วอาจรู้สึกว่า ไม่ตรงกับที่ได้ยินก็ได้

เท่าที่ฟังมาก็พอทำให้ เป้าหมายของผมชัดเจนขึ้น . . . . . . ส่วน ! !!

ถ้าผมนำมาฟังกับคอมควรหา Dac เพรียวๆแล้วพ่วงแอมป์ หรือ Dac/Amp ดี

ปล. ทั้งหมดที่พูดมานี้อาจจะยังไม่ได้ มีเลย เพียงแต่ ต้องการเก็บข้อมูล ไว้ตัดสินใจหรือลองฟังอีกที ถ้าไม่เป็นการรบกวน >>> คุณเหน่งบา รบกวนทีนะครับ 555

เฟสสอง(DAC แอมป์ หรือ DAC/แอมป์) พักไว้ก่อนครับ เอาให้ได้หูฟัง ลองใช้งานและเบิร์นให้เสียงอยู่ตัวก่อน ถึงตอนนั้น ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มค่อยมาว่ากันใหม่ครับ เพื่อนๆในบอร์ดพร้อมฃ่วยกันให้คำตอบอยู่แล้ว

ขอคอนเฟิร์มอีกคน ตามที่เฮีย และคุณเหน่งบากล่าวไว้เลยครับ!!!!!

ส่วนตัวผมมือใหม่ป้ายแดงของวงการหูฟังครับ แต่ศุกร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปร้านมั่นคงครั้งแรกเลยครับ (สาขาพารากอน) ผมทำงานต่างจังหวัดบ่อยย้ายที่ไปเรื่อย มีลำโพงพกพาก็เปิดบ่อยไม่ค่อยจะได้เพราะเดี๋ยวจะโดนห้องข้างๆด่าเอา เลยเปลี่ยนแนวมาลองเล่นหูฟังบ้างครับ พอมาถึงร้านก็ได้ขอทางร้านลองฟังของแบรนด์ญี่ปุ่นอยู่ 3 ตัวนั่งฟังสักพักใหญ่ก็ยังไม่ถูกใจเหมือนมันยังขาดอะไรอยู่...(เน้นว่าเป็นความชอบของบุคลิคเสียงของแต่ละคนนะครับ) พอหันไปมองข้างหลังก็เห็นชั้นวางเจ้า Grado ก็เลยขอทางร้านหยิบเจ้า 325e มาลองสักรอบ ลองฟังแค่เพลงเดียวเท่านั้นละครับ จบข่าว!!!! ได้ต่อฟังกับ ไอพอด ทัช Gen5 ของผม ทำให้รู้เลยว่ามันไม่ได้ขับยากเลยเจ้ารุ่นนี้ (ถ้าเทือบกับหน้าตาของเขานะ555) แต่เสียงจะแผดหูนิดๆ เลยบอก พนง. ที่ร้านว่าจะทำไงดีให้มันลดความแผดลงมาได้สักนิด พนง. เลยหยิบเจ้า JDS แอมป์กล่องลูกอมมาให้ต่อ เท่านั้นละครับ จบข่าวอีกรอบ!!!!
รีบลงไปกดตังมาจัดไปซะ

นี่ละครับเลยเป็นความประทับใจที่ได้มาร้านมั่นคงครั้งแรก และก็ได้หูฟังตัวแรกเลยครับ คือ เจ้า Grago 325e กับแอมป์อีกตัว ครบเครื่องจริงๆชุดนี้ที่ได้จัดไป ถ้าจะให้ดีต้องลองมาฟังเองครับ ผมเองก็สละเวลามาจากต่างจังหวัดมาฟังเอง ก็คุ้มค่ากับเงินที่แลกไปจริงๆครับ

ก็หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ เพราะตัวผมก็ยังป้ายแดงเลย

ขอบคุณ คุณ เหน่งบา และ พี่ Pongcons มากครับ ^ ^

ส่วนตัว กะจะเอาเจ้าตัวนี้มาใช้กับกีต้าร์ ที่ห้องครับ

Pongcons :'..ผมเองก็สละเวลามาจากต่างจังหวัดมาฟังเอง..' บวกกับภาพประกอบเห็นมาบนเรือกลางกระแสชล ทำให้รู้สึกได้อารมณ์เหมือนล่องเรือรอนแรมจากขอบฟ้าสุดทะเลเข้ากรุงมาลองหูฟัง...ดูแล้วได้อารมณ์โคตรๆเลยครับ 555

ขอบคุณมากๆๆครับ คุณ Pongcons 555

ตอนนี้ไม่มีให้ทำนอกจากค่อยๆๆเบิร์นไปเรื่อยๆๆ และสังเกตุการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เข้าที่ และลงตัวในที่สุด แนะนำว่าขั้นต่ำควรเบิร์นไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมงนะครับ สบโอกาสถ้าขาดเหลืออะไรแวะมาได้ตลอดเลยนะครับ 555

ขอความรู้พี่ๆหน่อยนะครับ
- คือมี Dac/amp ที่ Balance มี ไหมครับ ประมาณว่าไม่เปลี่ยนเสียงหูฟัง แต่ เป็นการยก ระดับของเสียงที่ได้นั้นไห้ดีขึ้น อาจจะงงกับคำถามนะครับ แต่ ผมก็พูดไม่ค่อยถูก 55รบกวนทีนะครับ

หมายถึง dac/amp ที่เป็นระบบ balance มีช่องต่อหูฟังแบบ balance ? อันนี้หูฟังต้องมีแจ็คเป็น balance ที่รูปแบบตรงกะแอมป์ด้วยครับ
รึมีปุ่มปรับ balance เสียงซ้ายขวา รึหมายถึงมีคาแรกเตอร์เสียงที่มีโทนัล บาลานซ์ ดีมาก ต้องเคลียร์คำถามนิดนึงครับ เดี๋ยวตอบไม่ตรงครับ 555

อ้า โทษที อ่านไปอ่านมา จขกท น่าจะหมายถึง DAC/AMP ที่เป็นกลาง neutral ไม่เปลี่ยนบุคลิกเสียงหูฟัง เดี๋ยวรอผู้ ชำนาญการ เคยเล่น dac/amp ผ่านมาเยอะ ๆ ครับ