ถ้ามีใครเลี้ยงข้าวเราซักมื้อหรือสองมื้อเราถือว่าเป็นบุญคุณและรู้สึกดีใช่ไหมครับ แล้วแม่เราละเลี้ยงดูปูเสื่อเรากี่มื้อกันครับ ไม่งั้นเราคงอดตายแน่นอนเลย เพราะตอนเราเป็นเด็กทารกไม่สามารถหากินด้วยตัวเองได้ ตั้งแต่แบเบาะแม่ให้น้ำนมอุ่นๆจากอกของท่านจนเราโตท่านก็ยังทำเป็นอาหารแต่ละมื้อให้เราทาน(ลองคำนวนกันดูนะครับว่าสักกี่มื้อ)ส่วนตัวผมตั้งแต่เกิดจนทุกวันนี้น่าเป็นหลักหลายหมื่นมื้อครับ
ถ้ามีใครซักเสื้อผ้าให้เรา เช็ดอุจจาระ,ปัสสาวะให้เราโดยไม่รังเกียรติเลยแม้แต่น้อย ในเวลาที่เรายังไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นเราคงนอนจมกองอุจจาระ,ปัสสาวะตายแน่ๆ บุญคุณนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน แล้วแม่เราละปรนนิบัติเราจนเราสามารถช่วยตัวเองได้กี่ครั้งแล้วละ(ลองคำนวนกันดูนะครับ)ส่วนตัวผมจนถึง5ขวบ
ถ้ามีใครส่งเสียให้เราได้เรียนหนังสือแถมยังให้เงินเราไปเรียนอีก บุญคุณนี้มากโข แล้วพ่อแม่เราละท่านส่งเสียให้เราเรียนจนจบ(ลองคำนวนดูว่าสักกี่บาท)ส่วนตัวผมคงเป็นหลักล้านครับ
เวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย ใครเป้นคนคอยดูแลรักษาพาเราไปหาหมอ บุญคุณนี้ใหญ่หลวงนัก ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพ่อแม่เราอีกนั่นและที่เป็นคอยประคบประหงมดูแลรักษา พาไปหาหมอ เพราะในวัยเยาว์เราไม่สามารถหายจากการป่วยไข้เองได้
สุดท้ายร่างกายทุกๆส่วนที่เรามีไม่ว่าจะเป็น ตาสองดวงเพื่อได้มองเห็น หูข้างเพื่อให้ได้ยิน ปากเพื่อได้ทานอาหาร แขนสองข้างไว้ได้หยิบจับ ขาทั้งสองข้างไว้ยืนเดินวิ่ง และอวัยวะน้อยใหญ่ต่างจนกระทั่งชีวิตจิตใจที่เรามีนั้น ได้มาจากท่านทั้งสิ้น บุญคุณนี้สุดจะเหลือคณานับได้ครับ
ผมจึงตั้งใจว่าจะทำทุกๆอย่าง(ไม่ผิดศีลธรรม)ให้ท่านสบายใจ สิ่งใดที่ทำแล้วท่านไม่สบายใจไม่มีความสุขก็จะพยายามลด ละ เลิก เพื่อให้ท่านมีความสุขที่สุดครับ
ข้อความนี้ประเมินจากตัวผมเองนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดกระผมกราบขออภัยด้วยครับ