เอาเป็นว่าการโชว์ดึงสายหูฟังแบบจอมพลังเป็นอันพับไป คือผมดูแล้วเหมือนปา่ที่จืดชืด ไม่สร้างความตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่เพื่อไว้หน้า Desmond ผมจำเป็นต้องทำตาโตด้วยความประหลาดใจ และส่งเสียงฮือฮาให้แลดูตืนเต้น โดยเฉพาะเจ้าเบียสนั้นส่งเสียงโอ้โฮราวกับเชียร์ปาเกียว(เวอร์ซะ) แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ สายหูฟังนั้นเป็นของค่ายมิดทูไฮเอนด์อย่าง Van Den Hul นั่นเองซึ่งไม่ใช่การไปซื้อสายสำเร็จรูปแล้วมานั่งปอกเปลือกแล้วตัดมาใช้ แต่ Dita บินไปคุยและไปเจรจากับ Van Den Hul เพื่อให้พัฒนาสายร่วมกันหน่อย
โดยทาง Dita บอกว่าไม่มีอะไรมากมาย ง่ายๆกล้วยๆ คือแค่บอกทาง Van Den Hul ว่าทำสายที่ดีที่สุดมาให้หน่อย เท่าที่ประสบการณ์ 30 ปีของ Van den hul จะพึงมี ซึ่งฟังแล้วดูเก๋เท่ และดูเหมือนอาจจะโดนเตะได้ถ้า Desmond ขืนไปต่อราคาทาง Van Den Hul หนักๆ 555 และสายทีว่าก็คือสายที่ทาง Dita ภูมิใจนำเสนอว่า "The Truth" หรือความจริงนั่นเองครับ ซึ่งสายสัญญาณที่เลือกใช้ในหูฟังของ Dita มี 2 รุ่น ก็คือ The Truth และ The Fat ครับ
ซึ่ง The Fat เป็นสายที่ทาง Dita ออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นสายที่ให้ Noise ต่ำทีสุด มีฉนวนที่พันกันยาก และทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ยกเว้นน้ำท่วมกับแผ่นดินไหวซึงต้องตัวใครตัวมันว่างั้น 555 ซึ่งสายไอ้อ้วน หรือ The Fat นั้นถูกวางให้ใช้ในหูฟังรุ่น Answer ส่วนสาย The Truth ถูกวางไว้ในหูฟังชื่อ The Truth นั่นเอง บอกตามตรงผมแอบขัดใจเล็กน้อย ตรงเรื่องการตั้งชื่อ คือผมคาดว่า Desmond น่าจะมีความเป็นศิลปินมากจนเกินความจำเป็น ถึงได้ลิขิตคำอะไรที่เวอร์ๆออกมา 555
แต่ที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งก็คือ ทาง Dita ทำกระเปาะเล็กๆ แบบเจาะช่องหน้าต่างเล็กๆให้เราได้มองเห็นสายที่เปลือยฉนวนออก ผมถือว่าจุดนี้เป็นจุดที่กิ๊บเก๋ยูเรก้ามาก เพราะคนซื้อได้เห็นวัสดุไปเพลินๆขณะฟัง ดูไปก็มั่นใจไป ฟังก็มีความสุขกันไป ตัวสายผมคาดเดาจากเสียงน่าจะเป็นทองแดงบริสุทธิ์เคลือบเงินครับ แต่ในส่วนจุดที่บัดกรี ทาง Dita ระบุไว้ใชัดเจนว่าใช้ตะกั่วเงินสั่งทำพิเศษแบบไม่ใส่ถั่วงอกจากทาง Van Den Hul เพิ่มอีกด้วย โอววว แม่เจ้า
- รุ่น The Answer เป็นรุ่นเล็กสุด ใช้ไดรเวอร์ Ultra Wide Bandwitdh และใช้สาย The Fat หรือไอ้อ้วน ที่ทาง Dita คิดและเลือกใช้ หัวเป็นขนาด 3.5 mm (ราคา 24,900 บาท)
- รุ่น The Answer (Truth Edition) ทุกอย่างเหมือนรุ่น Answer ยกเว้นสายหูฟัง ที่อัพเกรดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาเป็นสาย Van Den Hul รุ่น The Truth หัวเป็นขนาด 3.5 mm (ราคา 37,900 บาท)
- รุ่น The Balanced (Black Edition) ทุกอย่างเหมือนกับ Answer Truth Edition เป๊ะ แต่ปลายสายใช้เป็นหัวบาลานซ์แบบ mini 2.5 mm (หัวแจ๊คที่แยกกราวด์ออกจากกัน)เพื่อใช้เล่นกับเครื่องเล่น Astell&Kern ได้ และมีสาย adapter ที่แปลงจากบาลานส์ 2.5 ไปเป็นแบบ mini 3.5 mm เพื่อความคล่องตัวสูงสุดในการเล่นกับเครื่องเล่นทุกรุ่นในท้องตลาด (ราคา 49,900 บาท)
ซึ่งรุ่นต่างๆในไทยจะมีเท่านี้ครับ ส่วนพวก Gold Edition ต่างๆก็เหมือนกับตัว Black Edition ครับ คือเป็นสีทอง และก็มีขายในญีุ่ปุ่นเท่านั้น อันนี้เป็นคำบอกเล่าของคุณ Desmond ผิดพลาดให้ไปกล่าวโทษที่ desmond แทนก็แล้วกัน ส่วนรุ่นบาลานส์ก็สำหรับท่านที่มาทางสาย AK ส่วนท่านใดไม่ได้ใช้ AK ก็ไม่มีความจำเป็นในการต้องซื้อรุ่น The Balanced ให้เปลืองสตุ้งสตางค์ครับ ทุกอย่างในขั้นตอนผลิต เหมือนและทัดเทียมกันทุกอย่าง ผิดกันใสส่วนที่ผมได้บอกไว้เท่านั้นเองนะครับ 555
สายของ Dita นั้น ถ้าเป็นในรุ่นตัว Answer นั้นจะทำจากสาย The Fat หรือสายไอ้อ้วน ส่วนรุ่นอืนๆใช้สาย The Truth ซึ่งทำจากสาย Van Den Hul ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีคือแข็งกระโดกกระเดก ทำให้บางท่านที่ทดลองใส่ อาจจะต้องร้องครางว่าใส่ยากฉิบหาย ซึ่งอันนี้ต้องทำใจครับ เจ้าหูฟัง Dita นั้นมันไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นหูฟังที่ฟังเล่นๆ ก็เลยมีอะไรที่ออกจะผาดโผนและขัดใจคนซื้ออยู่เล็กๆ ซึ่งก็คือความแข็งของสายนี่ล่ะ
ผมว่าจริงๆแล้ว Dita ไม่จำเป็นต้องผลิตรุ่นอื่นๆออกมาก็ยังได้ เพราะแค่เพียง The Answer ผมก็ว่ามันให้อะไรที่ครบถ้วนอยู่แล้ว ไดรเวอร์ก็ตัวเดียวกัน เฮาซซิ่งก็แค่เพียงชุบคนละสีเพื่อสร้างความแตกต่างภายนอก มีเพียงสายหูฟังที่ต่างกัน นี่ยิ่งพอนึกว่ารุ่นพี่อย่าง The Truth มีสายที่แข็งกระโดกกระเดก ผมกลับเห็นว่า The Answer น่าจะเป็นตัวคุ้มค่าเมื่อเทียบกันแบบบาทต่อบาท
- หฟัง The Answer (Truth Edition) ผมอยากจะบอกว่าไม่ต้องอ่านแล้ว ให้ย้อนไปอ่านตัว Answer แทนก็แล้วกัน 555 แต่ไหนๆแล้วคงต้องเขียนถึงอีกนิดครับ สิ่งที่เปลี่ยนไปใน Truth Edition ก็คือสายหูฟังที่ออกแบบและตั้งชื่อว่า The Truth หลายความเห็นบอกว่า อยากให้ Dita ทำแบบเปลี่ยนสายได้ แต่ถ้าเป็นนักเล่นสายบริสุทธิ์นิยม หรือนักเล่นแนวเดิมบางนางบวช คือชอบอะไรที่เป็นของเดิมๆ ผมว่า Truth Edition น่ะจบแล้ว ไม่ต้องไประแวงว่าสิ่งที่เราไปขวนขวายอัพเกรดมัน ตกลงแล้วมันจะดีขึ้นหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่เสียงที่เปลี่ยนไปแต่ไม่ได้ดีขึ้น ??
ผมทดสอบตัว Truth Edition มากพอสมควร สิ่งที่จ่ายเพิ่มมาหมื่นกว่าบาทตกลงแล้วคืออะไร แค่สายที่ชื่อ The Truth เส้นแข็งๆเส้นนี้เองน่ะหรือ อยากบอกว่าท่านที่ต้องการใช้รุ่น Truth Edition สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาบ้างก็คือเบสที่ลึกลงไปอีก ตอนแรกผมฟังแล้วแทบจะหาความต่างกันไม่ค่อยเจอระหว่าง The Answer กับ The Truth Edition แต่พอค่อยๆสังเกตุและไล่ฟังเพลงไปทีละแทร็ค จะรู้สึกว่า Deep Bass ในรุ่น The Truth จะได้ความลึก และรับรู้ถึงเบส Octave สุดท้ายว่ามันลึกอย่างไร ท่านที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ อยู่กับตัว Answer ผมถือว่าเป็นอันสิ้นสุดและจบได้แล้ว
จริงๆเพลงที่เราฟังกันปกติทุกวันนี้ มันไม่ได้บันทึกและเก็บเสียงต่ำมาไว้กันทุกแทร็คนะครับ ฟังเพลงทั่วไปไม่ใช่ว่ามันได้ยินกันหรอก แต่มันจะได้ยินเฉพาะแทร็คที่เค้าบันทึกมาได้ดี และซาวด์เอ็นจิเนียตั้งใจบันทึกเสียงให้เราได้ยินเท่านั้น หูฟังทั่วไปฟังเสียงต่ำเหล่านี้ได้เหมือนกัน แต่ The Truth ทำให้ท่านได้ยินเสียงต่ำที่ชัดกว่า ฟังแล้วได้อานุภาพกว่า ผมฟัง The Truth กับเสียงทุ้มต่ำในบางแทร็ค มันราวกับปาฏิหารย์ เสียงต่ำเหมือนคลานมาตามพื้นเหมือนการฟังลำโพงบ้าน คือเสียงต่ำนั้นมันไม่มีทิศทาง และมันฟังไม่เป็นโน้ต แต่มันสัมผัสได้จากคลื่นเสียงที่สะเทือนรอบๆใบหู เวลาฟังจนหลอนมากๆเหมือนมันมีลมปะทะข้างหูด้วยซ้ำ
แรงปะทะและอิมแพ็คของเบสใน The Truth อันนี้ถือว่าเยี่ยมยอดมากๆ แรงอิมแพ็คที่กระแทกกระทั้นนั้นมีข้อดีข้อเสีย ถ้าแรงปะทะดี หัวโน้ตเบสคมและกระแทกแรงหรือเก็บตัวเร็วมาก ผมว่าฟังแล้วรำคาญมากกว่าเพลิดเพลิน แต่อิมแพ็คที่ดีต้องผ่อนหนักผ่อนเบาตามท่วงทำนองเพลง และที่สำคัญต้องมาในสัดส่วนที่ดี เบสจะเป็นตัวกำหนดจังหวะและท่วงทำนองของดนตรีที่ดี มากเกิน เร็วเกิน หรือช้าเกิน มันจะไปขโมยซีนเครื่องดนตรีชิ้นอื่นจนไม่น่าฟัง
- หูฟัง The Balanced อันนี้ไม่บรรยายมากล่ะครับ ให้ย้อนอ่านของ The Truth ได้เลยครับ สิ่งที่ต่างจาก The Truth ก็คือมันมีสายที่เข้าหัว Balanced ขนาดเล็ก 2.5 มม ที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับเครื่องเล่นเพลง Astell&Kern มันมีอแดปเตอร์ยาวประมาณคืบที่ปลายเป็น 3.5 มม.ไว้ต่อฟังกับเพลย์เยอร์ทั่วไปให้ด้วย จากการลองฟังด้วยการเสียบฟังจากเพลย์เยอร์อื่นๆ The Balanced ไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างจาก The Truth ครับ ผมพยายามจับผิดว่ามีอะไรดีขึ้นหรือแย่ลงถ้าต้องเสียบผ่านสายอแดปเตอร์ ปรากฏว่าเสียเวลาเปล่า ทุกอย่างปกติ ท่านที่ไม่มีเพลย์เยอร์ AK ตัดตัวเลือกอันนี้ออกไปได้เลยครับ
ผมใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sota Sapphire สายโฟโน และ interconect Cardas Cross สาย Headshell Leadwire ของ Aggelos และหัวเข็ม Grado Reference 1 (Moving Magnet) ต่อผ่านไปที่ Phono ของ Musical Surrounding Phonomena II+ (โฟโนราคาไม่แพงนักแต่เสียงอนาลอกดีมาก) และแปลงสายเป็นหัว mini ต่อไปเข้า Headphone Amp เสียงดีอย่าง Bakoon HPA-01M และอะไรไม่สำคัญเท่ากับแผ่นไวนิลที่เลือกมาหลายชุด นั้นร้องโดย Ella Fitzgerald และอัลบั้มที่เสียงดีที่เราจะฟังกันคืนนี้คือ "Let No Man Write My Epitaph" เป็นเพลงซาวด์แทร็คประกอบภาพยนตร์ชื่อเดียวกับไตเติ้ล บันทึกปี 1960 https://www.youtube.com/watch?v=TMQAa2xCBXU
หย่อนเข็มลงแผ่นแล้วฟังกันเลย เสียงของ Ella ในอัลบั้มนี้จะเป็นเพลงช้าแทบทั้งหมด และเป็นเพลงที่โชว์เสียงร้องแบบเดี่ยวกับเปียโนเป็นส่วนใหญ่ Ella เป็นนักร้องหญิงเสียงโทนต่ำ ปอดใหญ่ ร้องเสียงต่ำแบบดึงแรงออกจากกล้ามเนื้อท้อง ผ่านลำคอแล้วเปล่งผ่านเพดานออกมาเป็นเสียง เสียงต่ำที่ออกจากท้องจะมีเสียงครางฮัมแบบเล็กๆ สั่นเครือ พอโหนไต่เสียงขึ้นคีย์สูง Ella สามารถไหลและเอื้อนเสียงสูงยาวๆด้วยลมหายใจที่มีอยู่ ใช้ริมฝีปากบังคับลมที่ผ่านลำคอให้ไหลลื่นต่อเนื่องแบบไม่ขาดช่วงหรือสะดุด มือระดับตำนานของโลกนั้นไม่ได้มาเพราะโชคเข้าข้าง แต่ต้องอยู่ได้ด้วยความสามารถของตนเท่านั้น Ella ก็เช่นกัน
หูฟัง Dita The Truth ถ่ายทอดเสียงอนาลอกออกมาได้อย่างสุดทาง ความลื่นไหลต่อเนื่องของแผ่นเสียงนั้นให้ความสมจริงอย่างเป็นที่สุด ไดนามิกคอนทราสนั้นลื่นไหลต่อเนื่องราวกับน้ำที่ไหลไปตามธาร เพลงแล้วเพลงเล่า ดนตรีกับมนุษย์เป็นสิ่งที่แปลกและสุดจะพรรณา หากใครเคยชมภาพยนตร์เรื่อง The Shawshank Redemption จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่พระเอกแอบเปิดเพลงร้องของนักร้องเสียงโซปราโน่ในแทร็คนี้ https://www.youtube.com/watch?v=F8CdzZWREbk แล้วเหล่านักโทษที่อยู่ในคุก ต่างหยุดกิจกรรมแล้วตั้งใจฟังเพลงนี้กันทุกคน หลายท่านน่าจะประทับใจไม่มากก็น้อยจากซีนนี้
เพลงในอัลบั้ม Let no man Write My Epitaph หลายเพลงเป็นเพลงเศร้า แต่เป็นเพลงไพเราะ และสิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือความสามารถของนักร้อง และสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็คืออุปกรณ์ที่เราต้องใช้ถ่ายทอดให้เข้าถึงในบทเพลง ผมไม่แปลกใจที่เคยได้ยินคำบอกเล่าว่า เครื่องเสียงที่ดีและสามารถถ่ายทอดเสียงได้ดี ทำให้บางคนถึงกับน้ำตาไหล บางคนร้องไห้ หลายคนหลุดลอย หลายคนคล้อยตามไปเหมือนคนวิกลจริต ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายท่านย่อมเคยผ่านและมีประสบการณ์ในการฟังเพลงที่คล้ายกันเช่นนี้ไม่มากก็น้อย....
ผมว่าจริงๆแล้ว Dita ไม่จำเป็นต้องผลิตรุ่นอื่นๆออกมาก็ยังได้ เพราะแค่เพียง The Answer ผมก็ว่ามันให้อะไรที่ครบถ้วนอยู่แล้ว ไดรเวอร์ก็ตัวเดียวกัน เฮาซซิ่งก็แค่เพียงชุบคนละสีเพื่อสร้างความแตกต่างภายนอก มีเพียงสายหูฟังที่ต่างกัน นี่ยิ่งพอนึกว่ารุ่นพี่อย่าง The Truth มีสายที่แข็งกระโดกกระเดก ผมกลับเห็นว่า The Answer น่าจะเป็นตัวคุ้มค่าเมื่อเทียบกันแบบบาทต่อบาท
- หฟัง The Answer (Truth Edition) ผมอยากจะบอกว่าไม่ต้องอ่านแล้ว ให้ย้อนไปอ่านตัว Answer แทนก็แล้วกัน 555 แต่ไหนๆแล้วคงต้องเขียนถึงอีกนิดครับ สิ่งที่เปลี่ยนไปใน Truth Edition ก็คือสายหูฟังที่ออกแบบและตั้งชื่อว่า The Truth หลายความเห็นบอกว่า อยากให้ Dita ทำแบบเปลี่ยนสายได้ แต่ถ้าเป็นนักเล่นสายบริสุทธิ์นิยม หรือนักเล่นแนวเดิมบางนางบวช คือชอบอะไรที่เป็นของเดิมๆ ผมว่า Truth Edition น่ะจบแล้ว ไม่ต้องไประแวงว่าสิ่งที่เราไปขวนขวายอัพเกรดมัน ตกลงแล้วมันจะดีขึ้นหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่เสียงที่เปลี่ยนไปแต่ไม่ได้ดีขึ้น ??
ผมทดสอบตัว Truth Edition มากพอสมควร สิ่งที่จ่ายเพิ่มมาหมื่นกว่าบาทตกลงแล้วคืออะไร แค่สายที่ชื่อ The Truth เส้นแข็งๆเส้นนี้เองน่ะหรือ อยากบอกว่าท่านที่ต้องการใช้รุ่น Truth Edition สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาบ้างก็คือเบสที่ลึกลงไปอีก ตอนแรกผมฟังแล้วแทบจะหาความต่างกันไม่ค่อยเจอระหว่าง The Answer กับ The Truth Edition แต่พอค่อยๆสังเกตุและไล่ฟังเพลงไปทีละแทร็ค จะรู้สึกว่า Deep Bass ในรุ่น The Truth จะได้ความลึก และรับรู้ถึงเบส Octave สุดท้ายว่ามันลึกอย่างไร ท่านที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ อยู่กับตัว Answer ผมถือว่าเป็นอันสิ้นสุดและจบได้แล้ว
จริงๆเพลงที่เราฟังกันปกติทุกวันนี้ มันไม่ได้บันทึกและเก็บเสียงต่ำมาไว้กันทุกแทร็คนะครับ ฟังเพลงทั่วไปไม่ใช่ว่ามันได้ยินกันหรอก แต่มันจะได้ยินเฉพาะแทร็คที่เค้าบันทึกมาได้ดี และซาวด์เอ็นจิเนียตั้งใจบันทึกเสียงให้เราได้ยินเท่านั้น หูฟังทั่วไปฟังเสียงต่ำเหล่านี้ได้เหมือนกัน แต่ The Truth ทำให้ท่านได้ยินเสียงต่ำที่ชัดกว่า ฟังแล้วได้อานุภาพกว่า ผมฟัง The Truth กับเสียงทุ้มต่ำในบางแทร็ค มันราวกับปาฏิหารย์ เสียงต่ำเหมือนคลานมาตามพื้นเหมือนการฟังลำโพงบ้าน คือเสียงต่ำนั้นมันไม่มีทิศทาง และมันฟังไม่เป็นโน้ต แต่มันสัมผัสได้จากคลื่นเสียงที่สะเทือนรอบๆใบหู เวลาฟังจนหลอนมากๆเหมือนมันมีลมปะทะข้างหูด้วยซ้ำ
แรงปะทะและอิมแพ็คของเบสใน The Truth อันนี้ถือว่าเยี่ยมยอดมากๆ แรงอิมแพ็คที่กระแทกกระทั้นนั้นมีข้อดีข้อเสีย ถ้าแรงปะทะดี หัวโน้ตเบสคมและกระแทกแรงหรือเก็บตัวเร็วมาก ผมว่าฟังแล้วรำคาญมากกว่าเพลิดเพลิน แต่อิมแพ็คที่ดีต้องผ่อนหนักผ่อนเบาตามท่วงทำนองเพลง และที่สำคัญต้องมาในสัดส่วนที่ดี เบสจะเป็นตัวกำหนดจังหวะและท่วงทำนองของดนตรีที่ดี มากเกิน เร็วเกิน หรือช้าเกิน มันจะไปขโมยซีนเครื่องดนตรีชิ้นอื่นจนไม่น่าฟัง
- หูฟัง The Balanced อันนี้ไม่บรรยายมากล่ะครับ ให้ย้อนอ่านของ The Truth ได้เลยครับ สิ่งที่ต่างจาก The Truth ก็คือมันมีสายที่เข้าหัว Balanced ขนาดเล็ก 2.5 มม ที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับเครื่องเล่นเพลง Astell&Kern มันมีอแดปเตอร์ยาวประมาณคืบที่ปลายเป็น 3.5 มม.ไว้ต่อฟังกับเพลย์เยอร์ทั่วไปให้ด้วย จากการลองฟังด้วยการเสียบฟังจากเพลย์เยอร์อื่นๆ The Balanced ไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างจาก The Truth ครับ ผมพยายามจับผิดว่ามีอะไรดีขึ้นหรือแย่ลงถ้าต้องเสียบผ่านสายอแดปเตอร์ ปรากฏว่าเสียเวลาเปล่า ทุกอย่างปกติ ท่านที่ไม่มีเพลย์เยอร์ AK ตัดตัวเลือกอันนี้ออกไปได้เลยครับ
ผมใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sota Sapphire สายโฟโน และ interconect Cardas Cross สาย Headshell Leadwire ของ Aggelos และหัวเข็ม Grado Reference 1 (Moving Magnet) ต่อผ่านไปที่ Phono ของ Musical Surrounding Phonomena II+ (โฟโนราคาไม่แพงนักแต่เสียงอนาลอกดีมาก) และแปลงสายเป็นหัว mini ต่อไปเข้า Headphone Amp เสียงดีอย่าง Bakoon HPA-01M และอะไรไม่สำคัญเท่ากับแผ่นไวนิลที่เลือกมาหลายชุด นั้นร้องโดย Ella Fitzgerald และอัลบั้มที่เสียงดีที่เราจะฟังกันคืนนี้คือ "Let No Man Write My Epitaph" เป็นเพลงซาวด์แทร็คประกอบภาพยนตร์ชื่อเดียวกับไตเติ้ล บันทึกปี 1960 https://www.youtube.com/watch?v=TMQAa2xCBXU
หย่อนเข็มลงแผ่นแล้วฟังกันเลย เสียงของ Ella ในอัลบั้มนี้จะเป็นเพลงช้าแทบทั้งหมด และเป็นเพลงที่โชว์เสียงร้องแบบเดี่ยวกับเปียโนเป็นส่วนใหญ่ Ella เป็นนักร้องหญิงเสียงโทนต่ำ ปอดใหญ่ ร้องเสียงต่ำแบบดึงแรงออกจากกล้ามเนื้อท้อง ผ่านลำคอแล้วเปล่งผ่านเพดานออกมาเป็นเสียง เสียงต่ำที่ออกจากท้องจะมีเสียงครางฮัมแบบเล็กๆ สั่นเครือ พอโหนไต่เสียงขึ้นคีย์สูง Ella สามารถไหลและเอื้อนเสียงสูงยาวๆด้วยลมหายใจที่มีอยู่ ใช้ริมฝีปากบังคับลมที่ผ่านลำคอให้ไหลลื่นต่อเนื่องแบบไม่ขาดช่วงหรือสะดุด มือระดับตำนานของโลกนั้นไม่ได้มาเพราะโชคเข้าข้าง แต่ต้องอยู่ได้ด้วยความสามารถของตนเท่านั้น Ella ก็เช่นกัน
หูฟัง Dita The Truth ถ่ายทอดเสียงอนาลอกออกมาได้อย่างสุดทาง ความลื่นไหลต่อเนื่องของแผ่นเสียงนั้นให้ความสมจริงอย่างเป็นที่สุด ไดนามิกคอนทราสนั้นลื่นไหลต่อเนื่องราวกับน้ำที่ไหลไปตามธาร เพลงแล้วเพลงเล่า ดนตรีกับมนุษย์เป็นสิ่งที่แปลกและสุดจะพรรณา หากใครเคยชมภาพยนตร์เรื่อง The Shawshank Redemption จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่พระเอกแอบเปิดเพลงร้องของนักร้องเสียงโซปราโน่ในแทร็คนี้ https://www.youtube.com/watch?v=F8CdzZWREbk แล้วเหล่านักโทษที่อยู่ในคุก ต่างหยุดกิจกรรมแล้วตั้งใจฟังเพลงนี้กันทุกคน หลายท่านน่าจะประทับใจไม่มากก็น้อยจากซีนนี้
เพลงในอัลบั้ม Let no man Write My Epitaph หลายเพลงเป็นเพลงเศร้า แต่เป็นเพลงไพเราะ และสิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือความสามารถของนักร้อง และสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็คืออุปกรณ์ที่เราต้องใช้ถ่ายทอดให้เข้าถึงในบทเพลง ผมไม่แปลกใจที่เคยได้ยินคำบอกเล่าว่า เครื่องเสียงที่ดีและสามารถถ่ายทอดเสียงได้ดี ทำให้บางคนถึงกับน้ำตาไหล บางคนร้องไห้ หลายคนหลุดลอย หลายคนคล้อยตามไปเหมือนคนวิกลจริต ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายท่านย่อมเคยผ่านและมีประสบการณ์ในการฟังเพลงที่คล้ายกันเช่นนี้ไม่มากก็น้อย....
ตัว ธรรมดากับ The truth ต่างกันที่เสียงเบสอย่างเดียวหรอครับเฮีย หรือส่วนอื่นๆด้วยอ่ะครับบ
ตัว ธรรมดากับ The truth ต่างกันที่เสียงเบสอย่างเดียวหรอครับเฮีย หรือส่วนอื่นๆด้วยอ่ะครับบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35
Ace of Hearts
01/07/2015 12:02:40
6
ยุบหนอ พองหนอ ๆ ๆ ๆ ๆ ...
ยุบหนอ พองหนอ ๆ ๆ ๆ ๆ ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36
นายมั่นคง
01/07/2015 12:21:59
4,294
ตัว Answer ต่างกับ The Truth เรื่องเบสที่ลึกกว่า แต่ถ้าฟังบันทึกจากอัลบั้มธรรมดา ฟังก็คล้ายๆกัน ผมว่า Answer เสียงเปิดกว่านิดๆด้วยซ้ำไปครับ เผลอๆบางท่านอาจจะชอบ Answer มากกว่าก็ไม่แน่ แต่ The Truth และ The Balanced เสียงจะหนาและหลุบเข้าหลังเวทีนิดนึง คนฟังเพลงแจ๊สเก่าๆ คลาสสิค หรือออดิโอไฟล์น่าจะพลาดยากครับ
ตัว Answer ต่างกับ The Truth เรื่องเบสที่ลึกกว่า แต่ถ้าฟังบันทึกจากอัลบั้มธรรมดา ฟังก็คล้ายๆกัน ผมว่า Answer เสียงเปิดกว่านิดๆด้วยซ้ำไปครับ เผลอๆบางท่านอาจจะชอบ Answer มากกว่าก็ไม่แน่ แต่ The Truth และ The Balanced เสียงจะหนาและหลุบเข้าหลังเวทีนิดนึง คนฟังเพลงแจ๊สเก่าๆ คลาสสิค หรือออดิโอไฟล์น่าจะพลาดยากครับ
วันนั้นผมได้มีโอกาสไปลองอยู่ พักใหญ่ ได้ลองสลับ ABTest ฟังดูหลายรอบ ผมรู้สึกว่า version the truth จะให้บรรยากาศโอบล้อมที่น่าฟัง และมีรายละเอียดของเสียงที่มากกว่า และเนียนกว่า the answer ครับ แม้จะเร่ง volume ตอนฟัง the answer ให้ดังขึ้นเท่ากัน (คือตอนที่ฟัง the truth นี่บิด volume น้อยกว่า the snswer ครับ) ก็ยังไม่ได้รายละเอียด และ ambience ที่ไพเราะเท่า the truth ครับ สายมีผลจรืง ๆ อย่างฟังไม่ยาก
แต่ผมใส่สักพักร้สึกเจ็บหูเพราะตัว housing มันกดหูอยู่เหมือนกันครับ
วันนั้นผมได้มีโอกาสไปลองอยู่ พักใหญ่ ได้ลองสลับ ABTest ฟังดูหลายรอบ ผมรู้สึกว่า version the truth จะให้บรรยากาศโอบล้อมที่น่าฟัง และมีรายละเอียดของเสียงที่มากกว่า และเนียนกว่า the answer ครับ แม้จะเร่ง volume ตอนฟัง the answer ให้ดังขึ้นเท่ากัน (คือตอนที่ฟัง the truth นี่บิด volume น้อยกว่า the snswer ครับ) ก็ยังไม่ได้รายละเอียด และ ambience ที่ไพเราะเท่า the truth ครับ สายมีผลจรืง ๆ อย่างฟังไม่ยาก
แต่ผมใส่สักพักร้สึกเจ็บหูเพราะตัว housing มันกดหูอยู่เหมือนกันครับ
บุคลิกแบบนี้ นึกไปถึงสมัยเล่นเครื่องเสียงบ้านที่ผมใช้สายสัญญาณ Ven Den Hul (The First) เสียงกลางต่ำและทุ้มบน ออกแนวอิ่มหนาเหมือนกันเป๊ะเลย
จริงๆน่าจะออกแบบให้เปลี่ยนสายได้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้จูนเสียงแบบที่ชอบได้ด้วย ยกเว้นใครที่ชอบสไตล์แบบนี้ อันนี้ก็ว่ากันไป
บุคลิกแบบนี้ นึกไปถึงสมัยเล่นเครื่องเสียงบ้านที่ผมใช้สายสัญญาณ Ven Den Hul (The First) เสียงกลางต่ำและทุ้มบน ออกแนวอิ่มหนาเหมือนกันเป๊ะเลย
จริงๆน่าจะออกแบบให้เปลี่ยนสายได้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้จูนเสียงแบบที่ชอบได้ด้วย ยกเว้นใครที่ชอบสไตล์แบบนี้ อันนี้ก็ว่ากันไป
The Answer นี่ดีเลยตั้งแต่ฟัง เพราะกลางไม่หนาเท่า และแหลมออกมากกว่า The Truth อีกนิด อีกประการ The Truth ยิ่งเบิร์นยิ่งเนียน upper bass จะลดลงกว่าตอนใหม่ๆๆมาก ตอนผมแกะใหม่ๆๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เบสตลบอบอวลกวนมั่วไปหมดเลยครับ 555
555 ตัว The Truth นั้น น่าจะเบิร์นอินมานานแล้ว เพราะตัวนั้น Desmond ควักออกจากกระเป๋าให้ผมในวันแรกเจอกันเลยครับ
The Answer นี่ดีเลยตั้งแต่ฟัง เพราะกลางไม่หนาเท่า และแหลมออกมากกว่า The Truth อีกนิด อีกประการ The Truth ยิ่งเบิร์นยิ่งเนียน upper bass จะลดลงกว่าตอนใหม่ๆๆมาก ตอนผมแกะใหม่ๆๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เบสตลบอบอวลกวนมั่วไปหมดเลยครับ 555
จากใจผมให้ Dita The Truth ชนะ Kaiser 10 ผมไปคือเรื่องเสียงร้อง ถ้าจะร้องขนาดนี้ - -a ชนะใจผมไปเลยดีกว่า
แต่ก็อย่างว่าครับ ตามสไตล์คนชอบจริงๆ อยากจะบอกว่าถ้าเฮียเอามันเข้ามาก่อนช่วงเมษาที่ผ่านมา ผมคงได้ไอนี่ไปนอนกอดที่บ้านนานละ T-T
เป็นหูตัวนึงที่ผมยอมรับเลยครับสำหรับ The Truth ใส่แอมป์เข้าไปให้มันมีแรงขับนิดนึงนะ แหล่มเลยละครับ
เพลงที่ผมใช้ทดสอบวันนั้นเทียบกับ Kaiser 10 คือเพลง Get Me Through December - Alison Krauss & Natalie MacMaster / 500 Miles - Noon ครับ
สำหรับแฟนๆคอไดรเวอ Dynamic ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆ
จากใจผมให้ Dita The Truth ชนะ Kaiser 10 ผมไปคือเรื่องเสียงร้อง ถ้าจะร้องขนาดนี้ - -a ชนะใจผมไปเลยดีกว่า
แต่ก็อย่างว่าครับ ตามสไตล์คนชอบจริงๆ อยากจะบอกว่าถ้าเฮียเอามันเข้ามาก่อนช่วงเมษาที่ผ่านมา ผมคงได้ไอนี่ไปนอนกอดที่บ้านนานละ T-T
เป็นหูตัวนึงที่ผมยอมรับเลยครับสำหรับ The Truth ใส่แอมป์เข้าไปให้มันมีแรงขับนิดนึงนะ แหล่มเลยละครับ
เพลงที่ผมใช้ทดสอบวันนั้นเทียบกับ Kaiser 10 คือเพลง Get Me Through December - Alison Krauss & Natalie MacMaster / 500 Miles - Noon ครับ
สำหรับแฟนๆคอไดรเวอ Dynamic ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 72
Dita Fan
02/07/2015 00:49:21
ตอนแรกทีผมลองหูฟัง Dita ทั้งสองเวอร์ชั่น ผมประทับใจเสียงของ The Answer มากกว่า The Truth ครับมันเป็นอะไรที่กลมกล่อมฟังง่าย ฟังได้หลากหลายแนวมากสายก็นิ่มใส่ง่าย
หา Sweet spot แป๊บเดียวได้เลยตอนนั้นใช้จุก reference ครับ ส่วน The Truth แรกๆไม่ค่อยโดนครับ ผมรู้สึกว่ารายละเอียดมันมาเยอะจัง สายก็กระด้างใส่ก็ยาก พอฟังไปสักพักนึงสมองกับหูเริ่ม synchronize ไปด้วยกันถึงเริ่มรับรู้แล้วว่าหูฟังตัวนี้มีดีครับ มิติกว้างเป็นสามมิติ มีแนวกว้างลึกสูง เหมือนนั่งฟังวงตนตรีมาเล่นเพลงให้ฟังอยู่ข้างหน้าครับ คือเสียงตนตรีแต่ละชิ้นจะลอยผสมกันมา ตอนแรกผมฟังวง Quartet แล้วตามด้วย Adagio in G Minor ของ Tomasso Albinoni เล่นโดย Berlin Philharmonic Orchestra อำนายเพลงโดย Herbert von Karajan ไฟล์เพลง DSD ครับ บอกตรงๆว่าฟังไปถึงครึ่งเพลงขนลุกน้ำตาจะไหล มันไพเราะแบบมีมิติอลังการมาก เบสของออร์แกนมันลงไปได้ต่ำมากจนรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนอยู่ในอก เสียงไวโอลินเอื้อนหวานหยดย้อย ใครที่มี The Truth หลังเบิร์นไปแล้วสักสองร้อยชั่วโมงลองหามาฟังดูครับไม่ผิดหวัง
ตอนแรกทีผมลองหูฟัง Dita ทั้งสองเวอร์ชั่น ผมประทับใจเสียงของ The Answer มากกว่า The Truth ครับมันเป็นอะไรที่กลมกล่อมฟังง่าย ฟังได้หลากหลายแนวมากสายก็นิ่มใส่ง่าย
หา Sweet spot แป๊บเดียวได้เลยตอนนั้นใช้จุก reference ครับ ส่วน The Truth แรกๆไม่ค่อยโดนครับ ผมรู้สึกว่ารายละเอียดมันมาเยอะจัง สายก็กระด้างใส่ก็ยาก พอฟังไปสักพักนึงสมองกับหูเริ่ม synchronize ไปด้วยกันถึงเริ่มรับรู้แล้วว่าหูฟังตัวนี้มีดีครับ มิติกว้างเป็นสามมิติ มีแนวกว้างลึกสูง เหมือนนั่งฟังวงตนตรีมาเล่นเพลงให้ฟังอยู่ข้างหน้าครับ คือเสียงตนตรีแต่ละชิ้นจะลอยผสมกันมา ตอนแรกผมฟังวง Quartet แล้วตามด้วย Adagio in G Minor ของ Tomasso Albinoni เล่นโดย Berlin Philharmonic Orchestra อำนายเพลงโดย Herbert von Karajan ไฟล์เพลง DSD ครับ บอกตรงๆว่าฟังไปถึงครึ่งเพลงขนลุกน้ำตาจะไหล มันไพเราะแบบมีมิติอลังการมาก เบสของออร์แกนมันลงไปได้ต่ำมากจนรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนอยู่ในอก เสียงไวโอลินเอื้อนหวานหยดย้อย ใครที่มี The Truth หลังเบิร์นไปแล้วสักสองร้อยชั่วโมงลองหามาฟังดูครับไม่ผิดหวัง
ขนาดผมเปิดไฟล์ 16 บิทจาก Tidal ตามที่พี่ Dita Fan แนะนำ (Adagio in G Minor ของ Tomasso Albinoni)ยังได้ยินเสียงต่ำที่ว่าเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 90
Dita Fan
04/07/2015 02:52:01
1
แอบไปดู online store ของ Dita Audio เห็นขึ้น sold out ทุกรุ่นอีกแล้ว สงสัยพี่จีนมากว้านซื้อจนหมดสต๊อคอีกซะละมั้ง กระแสหูฟัง Dita ในต่างประเทศก็แรงไม่น้อยไปกว่าบ้านเราเลย
แอบไปดู online store ของ Dita Audio เห็นขึ้น sold out ทุกรุ่นอีกแล้ว สงสัยพี่จีนมากว้านซื้อจนหมดสต๊อคอีกซะละมั้ง กระแสหูฟัง Dita ในต่างประเทศก็แรงไม่น้อยไปกว่าบ้านเราเลย
เปิดเผยโฉมหน้าดีต้ายุวทูต เอ๊ยๆๆ หน้าตาคุณ Dita Fan ครับ วันนี้แวะไปสอย Dita The Truth ที่เรือธง แล้วยังมาสอยหูฟัง sport อีกตัวร่วมหมื่นที่พารากอน จ๊ะเอ๋ กันพอดีเลยถ่ายรูปมาฝากคร้าบบ 555
เปิดเผยโฉมหน้าดีต้ายุวทูต เอ๊ยๆๆ หน้าตาคุณ Dita Fan ครับ วันนี้แวะไปสอย Dita The Truth ที่เรือธง แล้วยังมาสอยหูฟัง sport อีกตัวร่วมหมื่นที่พารากอน จ๊ะเอ๋ กันพอดีเลยถ่ายรูปมาฝากคร้าบบ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 101
ANuBiS GaTE
04/07/2015 22:24:00
149
สีทอง The Truth เฉยๆก็มีมั้งครับ ลองดูในร้าน e-earphone ดูครับ
มี item อีกอันหนึ่งที่กำลังจะมาครับ นั่นคือสาย mini to mini The Truth จาก Dita ครับ ผมไม่มีของจริงในมือ ในรูปจากเน็ทครับ หัวท้ายเหมือนกับแจ๊คที่ Dita ใช้ และความยาวสายก็ราวๆ 3 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 9290 บาทครับ
ไว้มาเมื่อไหร่จะรีวิวให้ทราบกันอีกที แต่จากการนั่งทางใน ผมเดาว่าเสียงออกไปทางอิ่มอวบ สเกลใหญ่ เหมือนกับสาย The Truth ทุกอย่างครับ 555
มี item อีกอันหนึ่งที่กำลังจะมาครับ นั่นคือสาย mini to mini The Truth จาก Dita ครับ ผมไม่มีของจริงในมือ ในรูปจากเน็ทครับ หัวท้ายเหมือนกับแจ๊คที่ Dita ใช้ และความยาวสายก็ราวๆ 3 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 9290 บาทครับ
ไว้มาเมื่อไหร่จะรีวิวให้ทราบกันอีกที แต่จากการนั่งทางใน ผมเดาว่าเสียงออกไปทางอิ่มอวบ สเกลใหญ่ เหมือนกับสาย The Truth ทุกอย่างครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 103
Ahura
06/07/2015 22:53:52
The Truth ของผมตอนนี้ดิ้นเป็นม้าพยศเลยครับ!
เบิร์นด้วยไฟล์ 24 bit ไปราว 130 ชั่วโมงรู้สึกอยากจะกดเสียง Sibilant ลงสักหน่อย เลยเข้าเรือธงให้ตั้มใช้เครื่องเบิร์นเพิ่มอีก 30 นาที และล้างสนามแม่เหล็กอีก 1 นาที
เปิดเพลง What A Shame ของ Patricia Barber เจ้าแม่เสียง Sizzle กะว่าเนียนแน่ๆ กลับกลายเป็นแม่คุณกระโดดออกจากเวทีมาตะโกนร้องข้างหูซะงั้น
ขอสอบถามหน่อยครับคือเสาร์ที่แล้วกะจะไปสอย the answer เต็มที่แต่ตอนไปลองฟังแล้วเหมือนสาขาพารากอนยังเบิร์นไม่เต็มที่ ทำให้เนื้อเสียง รายละเอียดต่างๆ ต่างจาก the truth มาก ก็เลยอยากถามท่านที่เคยลอง the answer ที่เรือธงว่าต่างกันเยอะมั้ยครับกับ the truth หรือผมจะกัดฟันเล่น the truth เลยดี ใช้ยาวๆไปเลย
ปล. ถ้าในแง่ความคงทน the fat กับ the truth จะต่างกันมากมั้ยครับ
ขอสอบถามหน่อยครับคือเสาร์ที่แล้วกะจะไปสอย the answer เต็มที่แต่ตอนไปลองฟังแล้วเหมือนสาขาพารากอนยังเบิร์นไม่เต็มที่ ทำให้เนื้อเสียง รายละเอียดต่างๆ ต่างจาก the truth มาก ก็เลยอยากถามท่านที่เคยลอง the answer ที่เรือธงว่าต่างกันเยอะมั้ยครับกับ the truth หรือผมจะกัดฟันเล่น the truth เลยดี ใช้ยาวๆไปเลย
ปล. ถ้าในแง่ความคงทน the fat กับ the truth จะต่างกันมากมั้ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 113
Hungryburg
07/07/2015 14:29:23
0
อืมส์ .... แสดงว่า ผมก็ยังเบิร์นไม่ถึง หรือไม่ก็เบิร์นไม่เป็น
ผมใช้ the truth มาครึ่งปีได้แล้ว
แต่หากวันนี้ ลองเอามาต่อกับ ak120 รุ่นแรก
ฟัง "50 shades of Grey - Love me like you do" 24bits/44.1kHz
ช่วงนาที 2:10 ท่อนฮุค "Touch me ..."
คำว่า "Touch" ยังไง ก็ยังมี สสสสส มากกว่าหูตัวอื่นอยู่ดีนะครับ
แต่
ก็ไม่น่ารำคาญมากเหมือนได้มาแรกๆ
สำหรับผมตอนนี้ สสสสส อยู่ในระดับที่ ok (แล้วก็ไม่เป็นทุกเพลงนะ)
โดยรวม Happy มากๆ ยิ่งต่อผ่าน Trio
ฟัง Diana Krall "Sorry seems to be the hardest word" ...
อืมส์ .... แสดงว่า ผมก็ยังเบิร์นไม่ถึง หรือไม่ก็เบิร์นไม่เป็น
ผมใช้ the truth มาครึ่งปีได้แล้ว
แต่หากวันนี้ ลองเอามาต่อกับ ak120 รุ่นแรก
ฟัง "50 shades of Grey - Love me like you do" 24bits/44.1kHz
ช่วงนาที 2:10 ท่อนฮุค "Touch me ..."
คำว่า "Touch" ยังไง ก็ยังมี สสสสส มากกว่าหูตัวอื่นอยู่ดีนะครับ
แต่
ก็ไม่น่ารำคาญมากเหมือนได้มาแรกๆ
สำหรับผมตอนนี้ สสสสส อยู่ในระดับที่ ok (แล้วก็ไม่เป็นทุกเพลงนะ)
โดยรวม Happy มากๆ ยิ่งต่อผ่าน Trio
ฟัง Diana Krall "Sorry seems to be the hardest word" ...
แนะนำคลาสสิควงใหญ่ ที่น่าจะเอาไว้ใช้ Burn ให้ซักชุดสองชุดสิ ตอนนี้เวลาเบิร์นอาศัยเปิดเพลงสุ่มหลายๆแนวเอา ตั้งแต่ป๊อบใสๆ ยัน Metal ฟังเฮียแล้วน่าสงใจเหมือนกัน เรื่องคลาสสิควงใหญ่เอาไว้เบิร์น
แนะนำคลาสสิควงใหญ่ ที่น่าจะเอาไว้ใช้ Burn ให้ซักชุดสองชุดสิ ตอนนี้เวลาเบิร์นอาศัยเปิดเพลงสุ่มหลายๆแนวเอา ตั้งแต่ป๊อบใสๆ ยัน Metal ฟังเฮียแล้วน่าสงใจเหมือนกัน เรื่องคลาสสิควงใหญ่เอาไว้เบิร์น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 144
Ahura
09/07/2015 00:28:16
1,663
ของผมใช้ The Four Seasons ของ Vivaldi เปิดหัวก่อนเลยครับ เพราะเสียงสูงนั้นปั้นง่ายสุด
และก็ใช้เพลง Spirit from within (อันนี้ไม่รู้ใครแต่งแต่ได้ director ที่ถ่อสังขารมาจากเมืองลิงช่วยเฟ้นหาให้) ช่วยแต่งเสียงทุกย่านทั่วๆไป
ส่วนย่านต่ำทั้งหมดก็ปล่อยให้มันกวัดแกว่งไปตามอารมณ์น้องเค้า เดี๋ยวโดนอัดเบสหนักๆตอนท้ายคงยอมหมอบราบคาบแก้ว ที่เตรียมไว้เปิดตอนนี้ก็ใช้ Hans Zimmer: Original Motion แต่บางครั้งน้องเค้างอแงดีดดิ้นที่กลางสูงก็ต้องงัดออกมาโบยตีกันบ้าง 555
ของผมใช้ The Four Seasons ของ Vivaldi เปิดหัวก่อนเลยครับ เพราะเสียงสูงนั้นปั้นง่ายสุด
และก็ใช้เพลง Spirit from within (อันนี้ไม่รู้ใครแต่งแต่ได้ director ที่ถ่อสังขารมาจากเมืองลิงช่วยเฟ้นหาให้) ช่วยแต่งเสียงทุกย่านทั่วๆไป
ส่วนย่านต่ำทั้งหมดก็ปล่อยให้มันกวัดแกว่งไปตามอารมณ์น้องเค้า เดี๋ยวโดนอัดเบสหนักๆตอนท้ายคงยอมหมอบราบคาบแก้ว ที่เตรียมไว้เปิดตอนนี้ก็ใช้ Hans Zimmer: Original Motion แต่บางครั้งน้องเค้างอแงดีดดิ้นที่กลางสูงก็ต้องงัดออกมาโบยตีกันบ้าง 555
3-4 วันที่ผ่านมามีโอกาสไปสอยเจ้า Answer มาจากสาขาพารากอนเหมือนกันครับ ก่อนตัดสินใจซื้อก็ลังเลกับเจ้า the truth นี่แหละครับ แต่สลับฟังไปมาโดยใช้เจ้า x-5 เป็นผู้นำทาง โดยเพลงที่ผมใช้ส่วนใหญ่ก็เป็น pop-rock pop rock บ้างแต่ไม่หนัก รู้สึก bass ของ the truth มากลบ เพลงที่ผมอยากฟังไปหน่อย เลยได้จบที่ answer ล่ะครับ 555 แต่สำหรับคนที่อยากสัมผัสว่า bass คลานมาเป็นไง แนะนำ the truth เลยครับ
ปล.ตอนนี้burn ได้หลายสิบชม. เสียงที่หลบๆซ่อนๆ อยู่ในหมอกก็เริ่มทยอยกันมาละครับ จิ้นเสียงกันต่อไปครับ 55555+
3-4 วันที่ผ่านมามีโอกาสไปสอยเจ้า Answer มาจากสาขาพารากอนเหมือนกันครับ ก่อนตัดสินใจซื้อก็ลังเลกับเจ้า the truth นี่แหละครับ แต่สลับฟังไปมาโดยใช้เจ้า x-5 เป็นผู้นำทาง โดยเพลงที่ผมใช้ส่วนใหญ่ก็เป็น pop-rock pop rock บ้างแต่ไม่หนัก รู้สึก bass ของ the truth มากลบ เพลงที่ผมอยากฟังไปหน่อย เลยได้จบที่ answer ล่ะครับ 555 แต่สำหรับคนที่อยากสัมผัสว่า bass คลานมาเป็นไง แนะนำ the truth เลยครับ
ปล.ตอนนี้burn ได้หลายสิบชม. เสียงที่หลบๆซ่อนๆ อยู่ในหมอกก็เริ่มทยอยกันมาละครับ จิ้นเสียงกันต่อไปครับ 55555+
555 ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองฟังและเปรียบเทียบเลยครับสำหรับเจ้า mini to mini เส้นนี้ วันนี้มีโทรคุยกับเจ้าหลุยส์ไปหน่อยนึง เจ้าหลุยส์บอกว่าดีมาก แต่เป็นคนละแนวกับ Ref8 ครับ แต่เดี๋ยวจะลองฟังกับหลุยส์แล้วจะมาเล่าอีกทีครับ
โดยส่วนตัวผมว่าแพงพอสมควร ถ้าเทียบกับสายหูฟังที่ติดมากับตัว The Truth ครับ 555 เส้นยาวกระจึ๋งเดียวเองอ่ะ 555
555 ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองฟังและเปรียบเทียบเลยครับสำหรับเจ้า mini to mini เส้นนี้ วันนี้มีโทรคุยกับเจ้าหลุยส์ไปหน่อยนึง เจ้าหลุยส์บอกว่าดีมาก แต่เป็นคนละแนวกับ Ref8 ครับ แต่เดี๋ยวจะลองฟังกับหลุยส์แล้วจะมาเล่าอีกทีครับ
โดยส่วนตัวผมว่าแพงพอสมควร ถ้าเทียบกับสายหูฟังที่ติดมากับตัว The Truth ครับ 555 เส้นยาวกระจึ๋งเดียวเองอ่ะ 555
หากฟังเพลงทั่วๆไป เช่น April come she will (Karrin Allyson)
เสียงร้องของ Dita ดู body เล็กกว่า slim กว่า เสียงร้องถอยหลังมากกว่านิดหนึ่ง
เบสผมยังว่า Ref8 มีมวลกว่า impact แรงกว่า
Dita หากฟังเพลงร้องจะ นวลเนียน ดู analog กว่า
หากฟังเพลงทั่วๆไป เช่น April come she will (Karrin Allyson)
เสียงร้องของ Dita ดู body เล็กกว่า slim กว่า เสียงร้องถอยหลังมากกว่านิดหนึ่ง
เบสผมยังว่า Ref8 มีมวลกว่า impact แรงกว่า
Dita หากฟังเพลงร้องจะ นวลเนียน ดู analog กว่า
ตอนนี้ตัวที่หมดเกลี้ยงเลยคือ Answer The Truth ครับ ส่วนตัวอื่นๆๆยังพอมีอยู่บ้าง แต่ผมสั่ง the truth ไปใหม่อีก 12 ตัว ซึ่งคราวนี้ต้องรอคุณ desmond มีของแล้วครับ เพราะเมื่อาทิตย์ก่อนผมเพิ่งซิวของล็อตสุดท้ายในสต๊อกแกมาเองครับ 555
ตอนนี้ตัวที่หมดเกลี้ยงเลยคือ Answer The Truth ครับ ส่วนตัวอื่นๆๆยังพอมีอยู่บ้าง แต่ผมสั่ง the truth ไปใหม่อีก 12 ตัว ซึ่งคราวนี้ต้องรอคุณ desmond มีของแล้วครับ เพราะเมื่อาทิตย์ก่อนผมเพิ่งซิวของล็อตสุดท้ายในสต๊อกแกมาเองครับ 555
ผมเองไม่ค่อยได้ฟังเพลงคลาสสิคมากนัก แต่พอมาใช้ Dita แล้ว แปลกสุดๆๆคือตอนนี้พยายามหาแต่เพลงคลาสสิคฟัง อย่างเพลงโหลๆๆ เช่น Concerto In E Major for Violin,String Orchestra and Continuo, OP 8, No.1, RV 269 "La Primavera" (Spring).Allegro
ผมเองไม่ค่อยได้ฟังเพลงคลาสสิคมากนัก แต่พอมาใช้ Dita แล้ว แปลกสุดๆๆคือตอนนี้พยายามหาแต่เพลงคลาสสิคฟัง อย่างเพลงโหลๆๆ เช่น Concerto In E Major for Violin,String Orchestra and Continuo, OP 8, No.1, RV 269 "La Primavera" (Spring).Allegro
ผมว่าชอบ Metal ควรข้าม Dita ไปได้เลยนะครับ คือแนวนี้แนวเดียวที่ผมว่า Dita ให้เสียงออกมาดูน่าเกลียด
คือมันกลายเป็นคนใส่สูทสำอางค์แล้วพยายามสำรากเสียง เป็นผู้ดีโดยกำเนิดแต่อยากถ่อย มันเลยไม่เนียน ไม่ได้อารมณ์ดิบของ Metal
ปกติผมชอบฟังพวก Nirvana, Metalica, Slipknot ฯลฯ อะไรประมาณนี้มานานร่วมยี่สิบปี
แต่พอตอนหลังเริ่มฟังเพลง Hi-res มันมีเพลงแนว Metal น้อยมากๆ นิสัยการฟังเพลงจึงเริ่มเปลี่ยน เริ่มฟังเพลงละเอียด ละเมียดมากขึ้น ยิ่งพอมาเจอ The Truth ร่ายมนต์สะกดเข้าแล้ว....
ตอนนี้ UMpro30 + Silver Widow ที่ใช้เป็นหลักในการฟัง Metal ผมโยนให้พวกเด็กๆลูกศิษย์มันเอาไปฟังกันมันส์เลยครับ 555
ผมว่าชอบ Metal ควรข้าม Dita ไปได้เลยนะครับ คือแนวนี้แนวเดียวที่ผมว่า Dita ให้เสียงออกมาดูน่าเกลียด
คือมันกลายเป็นคนใส่สูทสำอางค์แล้วพยายามสำรากเสียง เป็นผู้ดีโดยกำเนิดแต่อยากถ่อย มันเลยไม่เนียน ไม่ได้อารมณ์ดิบของ Metal
ปกติผมชอบฟังพวก Nirvana, Metalica, Slipknot ฯลฯ อะไรประมาณนี้มานานร่วมยี่สิบปี
แต่พอตอนหลังเริ่มฟังเพลง Hi-res มันมีเพลงแนว Metal น้อยมากๆ นิสัยการฟังเพลงจึงเริ่มเปลี่ยน เริ่มฟังเพลงละเอียด ละเมียดมากขึ้น ยิ่งพอมาเจอ The Truth ร่ายมนต์สะกดเข้าแล้ว....
ตอนนี้ UMpro30 + Silver Widow ที่ใช้เป็นหลักในการฟัง Metal ผมโยนให้พวกเด็กๆลูกศิษย์มันเอาไปฟังกันมันส์เลยครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 222
Man in Black
17/07/2015 23:35:52
7
กำลังจะบอกเหมือนกันครับว่ากับ metal ผมว่าไม่ได้อารมณ์เลย มันไม่ดิบเถื่อนเท่าไหร่ กับ rock นี่ผมว่าแบรนด์ dita ก็สุภาพมากแล้วครับแต่ถ้าเป็นตัว the truth จะได้อัพเปอร์เบส ดีปเบสกับอิมแพคมาเพิ่มเลยไปไหวแต่ความพริ้วก็ลดไปนิดหน่อยจาก answerเช่นกัน แต่โดยรวมผมว่า overall กว่า
กำลังจะบอกเหมือนกันครับว่ากับ metal ผมว่าไม่ได้อารมณ์เลย มันไม่ดิบเถื่อนเท่าไหร่ กับ rock นี่ผมว่าแบรนด์ dita ก็สุภาพมากแล้วครับแต่ถ้าเป็นตัว the truth จะได้อัพเปอร์เบส ดีปเบสกับอิมแพคมาเพิ่มเลยไปไหวแต่ความพริ้วก็ลดไปนิดหน่อยจาก answerเช่นกัน แต่โดยรวมผมว่า overall กว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 223
นายมั่นคง
18/07/2015 01:17:34
4,294
สำหรับผมนั้น Dita ใช้ฟัง Metal ไม่ได้ครับ เนื่องจากเบสลูกโตนั้นจะเก็บตัวหัวหางไม่เร็วนัก และมีลูกกระเพื่อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเสน่ห์สำหรับเพลงแนวอื่น แต่กับ Metal สปีดเสียงต้องเร็ว ต้องไว เบสมาเร็วต้องจบเร็ว ถ้าไม่งั้นอึดอัดตายครับ
ชอบคอมเมนต์ของคุณ jesusgamers ครับ เห็นด้วยหลายประเด็น เรื่องการแยกชิ้นดนตรีที่รัวและหลายๆ ชิ้นพร้อมๆ กันยังไงผมก็คิดว่าสู้พวก BA Driver ไม่ได้เลยครับ ตอนฟังเพลงที่เร็วๆ พวก Rock ก็มีติดขัดใจบ้าง แต่ความสมูธส่วนตัวผมว่าได้คนล่ะแบบในฐานะคนนึงที่ใช้ 335+Prima Donna เช่นกัน แม้มิติความลึกและรายละเอียดของเสียงร้อง(กลาง) Dita จะสู้คู่นี้ไม่ได้ แต่ความเป็นธรรมชาติและบรรยากาศผมว่าดีกว่า แต่อันนี้คงแล้วแต่ทางชอบจริงๆ
ปัจจุบันใช้สลับกันไปมาสามตัว re600s , Dita the Truth , 335+Prima Donna เรียกว่าชีวิตฟังเพลงขณะเดินทางมีความสุขมากกกกกก ถ้ามีโอกาสยังเสี้ยนอยากหา k3003 มาลองอยู่บ้างแต่ฟังรีวิวหลายครั้งแล้วรู้สึกไม่ตอบโจทย์ตัวเองเท่าไหร่เลยยังไม่ได้หาลองจริงๆ จังๆ ซักที
ชอบคอมเมนต์ของคุณ jesusgamers ครับ เห็นด้วยหลายประเด็น เรื่องการแยกชิ้นดนตรีที่รัวและหลายๆ ชิ้นพร้อมๆ กันยังไงผมก็คิดว่าสู้พวก BA Driver ไม่ได้เลยครับ ตอนฟังเพลงที่เร็วๆ พวก Rock ก็มีติดขัดใจบ้าง แต่ความสมูธส่วนตัวผมว่าได้คนล่ะแบบในฐานะคนนึงที่ใช้ 335+Prima Donna เช่นกัน แม้มิติความลึกและรายละเอียดของเสียงร้อง(กลาง) Dita จะสู้คู่นี้ไม่ได้ แต่ความเป็นธรรมชาติและบรรยากาศผมว่าดีกว่า แต่อันนี้คงแล้วแต่ทางชอบจริงๆ
ปัจจุบันใช้สลับกันไปมาสามตัว re600s , Dita the Truth , 335+Prima Donna เรียกว่าชีวิตฟังเพลงขณะเดินทางมีความสุขมากกกกกก ถ้ามีโอกาสยังเสี้ยนอยากหา k3003 มาลองอยู่บ้างแต่ฟังรีวิวหลายครั้งแล้วรู้สึกไม่ตอบโจทย์ตัวเองเท่าไหร่เลยยังไม่ได้หาลองจริงๆ จังๆ ซักที
เช่นกันกันครับ ผมเองไปฟังสามครั้ง สุดท้ายจัด Answer คือมันลงตัวที่สุดแล้วสำหรับผม ส่วน Truth นี่เรียนตรงๆว่าคือจะฟังท่าไหน จุกเล็กจุกใหญ่ ใส่แบบยัด หรือวางแปะ วางห้อย ยังไงผมก็ไม่ชอบ Tonal balance ในย่านกลางต่ำและมิดเบสของสาย Van den hul เลย มาแนวเดียวกันหมดทั้งสายสัญญาณ สายลำโพง พวกสายสัญญาณเช่น the second สาย integration hybrid, หรือสายลำโพง MC Magnum พวกนี้ให้เสียงกลางต่ำหนาๆมิดเบสอ้วนๆ แนวเดียวกันหมด พอมาใน Truth ก็ยังมีบุคลิกแบบนี้อีก
คห245,247
เช่นกันกันครับ ผมเองไปฟังสามครั้ง สุดท้ายจัด Answer คือมันลงตัวที่สุดแล้วสำหรับผม ส่วน Truth นี่เรียนตรงๆว่าคือจะฟังท่าไหน จุกเล็กจุกใหญ่ ใส่แบบยัด หรือวางแปะ วางห้อย ยังไงผมก็ไม่ชอบ Tonal balance ในย่านกลางต่ำและมิดเบสของสาย Van den hul เลย มาแนวเดียวกันหมดทั้งสายสัญญาณ สายลำโพง พวกสายสัญญาณเช่น the second สาย integration hybrid, หรือสายลำโพง MC Magnum พวกนี้ให้เสียงกลางต่ำหนาๆมิดเบสอ้วนๆ แนวเดียวกันหมด พอมาใน Truth ก็ยังมีบุคลิกแบบนี้อีก
AK ปลายแหลมยังไม่เด่นหรือชัดเจนนัก แต่คนที่ฟังแหลมน้อยอาจจะถูกใจได้ครับ แต่สำหรับผมที่นอกจากเป็น Dita Fan, Grado Fan และยังดันเป็น HE6 Fan ยังไงก็ชูจั๊กแร้โหวดให้ Dita ครับ 555 เพราะสำหรับผม แหลมเป็นตัวกำหนดอิมเมจต่างๆ กำหนดทรงของชิ้นดนตรี ถ้าขาดไปมันยังไงชอบกล
แต่ AK น่าจะได้คะแนนะจากคนฟังเพลง Jazz ช้าๆ หรือเพลงร้อง Female Vocal เพราะอาการแหลมแยงหูเนื่องจากไฟล์ดิจิตอลน่าจะทุเลาไปได้แยะ เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟนของ Dita ก็สบายๆครับ ไม่ต้องขยับปรับแนวรุกแต่อย่างใดครับ 555
ช่วงนี้เห็นหลายท่านให้ความสนใจหูฟังตัวใหม่จาก AK วันนี้สบโอกาสเลยลองฟังเปรียบเทียบกันครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผม ซึ่งผมอาจจะฟังแล้วไม่ตรงกับท่านอื่นๆๆก็เป็นได้นะครับ 555 แต่สำหรับแฟน Dita แล้ว ผมว่าฟังแล้วน่าจะได้ผลใกล้ๆๆกัน
ผมหยิบเจ้าหู AK มาใส่เทียบกับ Dita ข้อนี้แทบไม่มีราคาเล่น คือหู AK ใส่ง่ายกว่า ดูดเข้าหูจ๊วบไปเลย อานิสสงส์น่าจะมาจากจุกยางที่มีทรงไม่เหมือนใคร ส่วนหู Dita ต้องพวกรักจริงยอมใส่แบบผม ข้อดีนี้ยกให้ AK เค้าไปเหอะ 555
AK ปลายแหลมยังไม่เด่นหรือชัดเจนนัก แต่คนที่ฟังแหลมน้อยอาจจะถูกใจได้ครับ แต่สำหรับผมที่นอกจากเป็น Dita Fan, Grado Fan และยังดันเป็น HE6 Fan ยังไงก็ชูจั๊กแร้โหวดให้ Dita ครับ 555 เพราะสำหรับผม แหลมเป็นตัวกำหนดอิมเมจต่างๆ กำหนดทรงของชิ้นดนตรี ถ้าขาดไปมันยังไงชอบกล
แต่ AK น่าจะได้คะแนนะจากคนฟังเพลง Jazz ช้าๆ หรือเพลงร้อง Female Vocal เพราะอาการแหลมแยงหูเนื่องจากไฟล์ดิจิตอลน่าจะทุเลาไปได้แยะ เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟนของ Dita ก็สบายๆครับ ไม่ต้องขยับปรับแนวรุกแต่อย่างใดครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 305
Ahura
22/09/2015 22:57:30
1,663
เฮียครับ ขอข้อมูลอีกนิดนึง คือ ใช้ช่อง Balance ของ AK วัดกันหรือเปล่าครับ?
เฮียครับ ขอข้อมูลอีกนิดนึง คือ ใช้ช่อง Balance ของ AK วัดกันหรือเปล่าครับ?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 306
นายมั่นคง
22/09/2015 23:15:37
4,294
ลืมบอกไปเลย 555
เปล่าครับ เพราะของผมเป็น The Truth ครับ เลยเสียบตรง iphone ง่ายๆฟังเทียบกันเพลงต่อเพลงครับอาจารย์ แต่ข้อนี้พรุ่งนี้ผมต้องฟังอีกทีครับ เพราะ output ของ AK กับ AK ด้วยกันเอง อาจจะแมชชิ่งกันได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ไม่แน่ครับ 55
ลืมบอกไปเลย 555
เปล่าครับ เพราะของผมเป็น The Truth ครับ เลยเสียบตรง iphone ง่ายๆฟังเทียบกันเพลงต่อเพลงครับอาจารย์ แต่ข้อนี้พรุ่งนี้ผมต้องฟังอีกทีครับ เพราะ output ของ AK กับ AK ด้วยกันเอง อาจจะแมชชิ่งกันได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ไม่แน่ครับ 55
ตอนนี้ผมยิ่งสับสนหนักไปอีก เพราะผมฟังเจ้า AK ต่างกับคนอื่นจริงๆๆ (แต่คล้ายกับบางคน) คือเรื่องความโปร่งหรือช่องไฟ หรือปลายแหลมนั้น ความเห็นผมยังว่า AK ค่อนข้าง dark กว่า Dita มากพอควร และสปีดช้าไปหน่อย
ตอนนี้ผมยิ่งสับสนหนักไปอีก เพราะผมฟังเจ้า AK ต่างกับคนอื่นจริงๆๆ (แต่คล้ายกับบางคน) คือเรื่องความโปร่งหรือช่องไฟ หรือปลายแหลมนั้น ความเห็นผมยังว่า AK ค่อนข้าง dark กว่า Dita มากพอควร และสปีดช้าไปหน่อย