เอ้า....คุณ Ken21th....จัดไปครับ

อาาา คุณหมอมาช่วยชี้เป้า อิอิ

ขอบคุณคร้าบบ ^_^

PK2 เสียงมันจะเน้นที่รายละเอียด เบสน้อย พอไปใส่ใน บอดี้ipod เสียงมันจะยิ่งบางลงไปอีก เบสก็จะน้อยลง
และลึกน้อยลงไปอีก ซาวเสต็จแคบลง น่าจะเป็นที่ พื้นที่ภายในน้อยกว่า และรูระบายอากาศเล็กกว่า
แล้วแถมรูอยู่ไปทางด้านหน้าอีก ถ้าอยากรู้ว่าเสียงมันเป็นยังงัย ลองปิดรู PK2 สิครับ และสายของ ipod น่าจะมีความต้านทานมากกว่าด้วย เพราะต้องเปิดดังขึ้นนิดนึง ผมเคยลองใช้ ไดร์เวอร์ PK2 มาแล้ว แต่ตอนนี้เอาออกเปลี่ยนเป็น ไดร์เวอร์ PK3 แล้วครับ ไม่อย่างนั้นจะให้ลองครับ
ผมว่าหลักการมันก็คล้ายๆกับขลุ่ย เวลาเราปิดรูบน รูล่าง ปิดมาก ปิดน้อย เสียงมันก็สูงต่ำไม่เท่ากันน่ะครับ
ส่วนเรื่องหน้าตาเกือบเหมือนเดิมเพราะยังจะใช้ตะแกรงหน้าของ PK อยู่ เพราะการเเงะตรงนี้ค่อนข้างเสี่ยง
เลยไม่กล้าครับ แต่ถ้าเราใส่ฟองน้ำก็ไม่เห็นแล้วครับ
ส่วนเรื่องความทน ผมว่าทนขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ
ค่าเสียหายลองลองถาม คุณ Piggy หรือ ช่างจันก็ได้ครับ แต่ขอบอกว่าไม่แพงหลอกครับสำหรับสองคนนี้
แต่ถ้าจะเอาเสียงสไตร์ PK3 ผมมีให้ลองฟังครับ แต่ Dark กว่า PK3 คมกว่า ไม่กัดหู ไม่ใช้ไดร์เวอร์ PK3
ผมให้ช่างจันหาไดร์เวอร์ให้ครับ
ส่วนตัวที่ผมทำเองใช้ ไดร์เวอร์ PK3 ครับ ทั้งสองตัวเสียงต่างกันนิดนึง อีกอย่างน่ะครับ ผมเอาหู
ipod shuffle ตัวใหม่ ที่มีปรับลดเสียง เปลี่ยนเพลง หยุดเพลง มาทำครับ ขอบอกว่าสุดยอดครับ ไม่ต้องควัก
เข้าๆออกๆ

สำหรับผมน่ะผมชอบตัวที่ช่างจันหาไดร์เวอร์ให้มากกว่าครับ

โอออ น่าสนใจมากกครับ
เดิมผมไม่ค่อยชอบ PK3 เพราะมันไม่ค่อยใสอย่างที่ต้องการ แต่ถ้าเอามาปรับแล้วจี๊ดขึ้นนี่น่าสนเลยครับ อิอิ

เดี๋ยวลองดูดีก่า ขอบคุณมากนะคร้าบบบบบ อิอิ

ต้องให้เจ้า Piggy เป็นผู้ผสมเทียมล่ะครับ 555

ถ้ารูอากาศเข้าได้มาก เบสก็จะเยอะตาม กลางก็จะมาด้วย


ออก echo นิดๆ


หลังจากลองเอา AKG314 ไปใส่หูไอโฟน แล้วเอาฟองน้ำที่ปิดรูด้านในออกให้หมด



เบสก็ได้เยอะขึ้่นมานิดหนึ่ง




ส่วนความทนนั่นก็ขึ้นอยู่กับกาวที่ติดตัวไดเวอร์กับตัวบอดี้แหละครับ เพราะ บางทีขนาดไดร์เวอร์อาจไม่พอดีกับตัวบอดี้ครับ


กาวน้อยไป มันอาจจะหลุดออกมาได้ ส่วนสายไอพอดค่อนข้างทนครับ


แต่อาจมีปัญหาบ้างเกี่ยวกับแจ็คครับ

ว่าววว ได้ความรู้อีกแระ ขอบใจจ้า อิิอิ