
จุดเริ่มต้น - http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=96473
ภาคแรก - http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=171157
ภาคสอง - http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=176242
ภาคสามแล้วเน้อ ห้องรวมคนเล่นเทป ใครยังเล่นเทปอยู่ ใครมีตัวไหน เอามาแบ่งมาแชร์กันได้นะคะ
อัพเดทล่าสุด เพิ่งได้ตัวนี้มาค่ะ Sony WM-EX621 ค่ะ รุ่นนี้ออกเมื่อปี (2001, 2544) เปนวอล์กแมนยุคท้ายสุดก่อนที่เทปคาสเซ็ทจะอำลาตลาดไป อันที่จริงเทปคาสเซ็ทเริ่มเสื่อมความนิยมลงในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 1995 เป็นต้นมา ความนิยมของซีดีได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปามคิดว่า น่าจะเปนผลพวงจากเทคโนโลยีในยุคหลังที่พัฒนาขึ้น มีการใช้ซีดีกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่เพลย์สเตชั่น 1 ที่ใช้แผ่นเกมในรูปแบบของซีดี ซีดีรอมไดรฟ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่นซีดีพกพาที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีกันสะเทือนขณะเล่น ซึ่งเปนการลบข้อด้อยที่สำคัญของเครื่องเล่นซีดีพกพา (โซนี่ดิสก์แมนตัวแรกที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีนี้คือ D-515 ในปี 1992) ซึ่งต่อมา ก็ได้นำมาใส่ให้กับดิสก์แมนทุกรุ่น รวมถึงต่อยอดมายังซีดีวอล์กแมนด้วย ยิ่งในยุคหลังปี 2000 เทคโนโลยีการเล่นเพลงในฟอร์แมต MP3 เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ยิ่งหลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPod รุ่นแรกแล้วนี่ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นอีก ทำให้ความนิยมของเทปคาสเซ็ทยิ่งลดลง จนสุดท้ายก้อปิดตลาดไป (เมืองนอกเลิกผลิตเทปตั้งแต่ปี 46 บ้านเราเลิกผลิตช่วงปี 48)
สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นท้ายของตลาดเทปในเมืองไทย ซึ่งในบ้านเราในช่วงหลังปี 2540 เป็นต้นมานั้น เทปคาสเซ็ทยังได้รับความนิยมอยู่ โดยเฉพาะในเขตต่างจังหวัด ด้วยเหตุที่ซีดีในตอนนั้นยังมีราคาค่อนข้างแพง เทียบกับค่าครองชีพในสมัยนั้น และขนาดของแผ่นซีดีที่ค่อนข้างใหญ่ พกลำบาก ไม่เหมาะสำหรับการพกพาไปฟังนอกสถานที่เท่าไหร่นัก ทำให้เทปคาสเซ็ทยังครองตลาดอยู่ได้ รวมถึงเครื่องเล่นเทปพกพาด้วย จนกระทั่ง MP3 เริ่มตีตลาดไทยได้ในช่วงปี 2545 และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2546 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับ WM-EX621 เป็นรุ่นรองของรองทอปของตระกูลเครื่องเล่นพกพาแบบเล่นอย่างเดียว ไม่มีิวิทยุ ไม่มีระบบอัดเสียง วางตลาดบ้านเราในช่วงปลายปี 2545 ซึ่งในยุคนั้น เทปพกพาตระกูลเล่นอย่างเดียวของโซนี่จะมีอยู่ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ EX527, EX621, EX615 (ตัวนี้วางตลาดปี 2544 แต่ขายดีต่อเนื่องจึงผลิตออกมาต่อยอดอายุตลาดจนตลาดเทปวายไปในปี 2548 เลย) และอีกตัวทอปของสายนี้คือ EX921
จุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้คือวัสดุของตัวเครื่องที่เป็นโลหะ รวมถึงมีน้ำหนักเบาและสามารถเล่นเทปได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 60 ชั่วโมง มีฟังก์ชั่น Blank Skip กรอเทปอัตโนมัติเมื่อหมดม้วน, ระบบหาเพลงเร็ว (AMS), ระบบปรับเสียงที่หลากหลาย ทั้ง Sound Revitalizer, Mega Bass และ Groove
แต่จุดด้อยที่สำคัญที่สุดของรุ่นนี้คือระบบควบคุมการเล่นค่ะ ระบบควบคุมเทปส่วนใหญ่ดันไปอยู่ที่รีโมทคอนโทรล ซึ่งกลายเปนอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ มิฉะนั้นจะไม่สามารถควบคุมคำสั่งบางอย่างของเครื่องได้ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์บางอย่าง ทั้งรีโมทคอนโทรลและหูฟังมีคุณภาพไม่สูงนัก ทำให้มีปัญหาเรื่องความทนทาน
สำหรับการทดสอบ ปามใช้เทปทัั้งหมด 3 ม้วนด้วยกัน สำหรับม้วนแรก ปามใช้เทปเนื้อธรรมดา เพลงของ Madonna ชุด Erotica เพลงที่ใช้ทดสอบคือเพลง Rain เทปม้วนนี้อัดด้วยระบบ Dolby B NR ผสานกับ HX Pro เพื่อเพิ่มเนื้อเสียงในช่วงเสียงเบส และเพิ่มมิติของเสียงให้เด่นชัด ม้วนที่สองปามใช้เทปโครเมียม TDK รุ่น SA-X ที่น้าชาอัดให้ปาม ใช้ต้นฉบับจากซีดี อัดด้วยเทปตั้งโต๊ะของ AIWA รุ่น XK-S9000 ไม่แน่ใจว่าใช้ระบบเสียงพวก Dolby ด้วยรึเปล่า สำหรับเพลงที่ใช้ทดสอบคือเพลงของ Madonna เวอร์ชั่นอัลบั้มรวมฮิต ซึ่งจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นปกติคือ เวอร์ชั่นนี้จะอัดด้วยระบบเสียง 3 มิติ หรือ Q Sound ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบเสียงเซอร์ราวด์ SRS WOW ในปัจจุบัน กับม้วนสุดท้ายคือเทปโลหะ TDK MA-X ใช้เพลง Wherever Would I Be ของ Cheap Trick กับ Crying In the Rain ของ A-Ha ค่ะ ส่วนหูฟังที่ใช้คือ SONY MDR-E741 นี่ล่ะค่ะ ไม่มีหัวตัวอื่นแล้ว
สำหรับเนื้อเสียงที่ได้จากเทปธรรมดา เนื้อเสียงออกไปทางใส ติดหวานเล็กน้อย ปลายแหลมใส แต่ไม่เปนประกายมากนัก เสียงร้องออกไปทางชัดเจน ไม่คม เบสกระชับ เก็บตัวเร็ว แต่ถ้าเปิดฟังชั่นเสียงอย่าง Revitalizer เสียงจะออกไปทางใสมีประกายมากขึ้น ส่วน Mega Bass ก้อจะทำให้เสียงฟังแล้วมีเนื้อหนังมากขึ้น เบสลูกค่อนข้างใหญ่ แต่ไม่บวมเบลอ มิติเสียงค่อนข้างดี
ส่วนเนื้อเสียงที่ได้จากเทปโครเมียม เนื้อเสียงมีเนื้อมีหนังดีมาก เนื้อเสียงมีความสมดุล ออกใส ติดหวานเยอะกว่าเทปธรรมดา ปลายแหลมใสตามสไตล์รุ่นนี้อยู่แล้ว ส่วนฟังชั่นเสียงอย่าง Revitalizer ทำให้เนื้อเสียงแหลมออกมามากขึ้น เสียงร้องออกมาชัดขึ้น ส่วน Mega Bass ทำให้เนื้อเสียงโดยรวมมีความกลมกล่อม ฟังสนุก เนียนหู เพลิดเพลิน มิติเสียงดีมาก ออกโปร่ง ฟังได้นาน แต่เทป TDK SA-X ที่ใช้ในครั้งนี้ มีความยาวเนื้อเทปสองหน้า รวม 100 นาที ทำให้มีปัญหาในเรื่องแรงดึงเทปอยู่พอสมควร เพราะเครื่องเทปพกพา ส่วนใหญ่จะแรงดึงเทปไม่สูงมาก พอมาเล่นกับเทปที่มีความยาวมากๆ มักจะมีปัญหาเรื่องเสียงยาน หรือฟังอยู่ดีๆ ก้อดับไปซะอย่างงั้น ทางที่ดีอย่าใช้เทปที่มีความยาวมาก แนะนำว่าไม่ควรเกิน 90 นาทีจะดีที่สุด
ส่วนเนื้อเสียงที่ได้จากเทปโลหะนั้น เนื้อเสียงจะมีความคม ใสกังวาล มิติเสียงดีมาก เสียงร้องคมชัด จะแจ้ง มีความสด เบสลูกไม่ใหญ่เท่าเสียงจากเทปโครเมียม ฟังก์ชั่นเสียง Mega Bass ทำให้เนื้อเสียงมีความกลมกล่อม เบสหนักเปนลูกๆ
โดยสรุปคือรุ่นนี้ก้อถือว่าทำได้ดี เนื้อเสียงมีความชัดเจน จะแจ้ง ฟังสนุก ฟังเพลินดีค่ะ ถ้าไม่ติดเรื่องระบบที่ต้องควบคุมจากรีโมทคอนโทรลเปนส่วนใหญ่นะคะ ถือว่าดีทีเดียวค่ะ
ปล. ช่วงนี้มีโจรมาหลอกเอาเงินพวกเรากันอีกแล้ว เวลาซื้อของกันต้องระวังกันด้วยนะคะ