Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
รีวิว : Audioengine A2+ ลำโพงเสียง Hi-End จิ๋วแต่แจ๋ว ตัวจริงของวงการ
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
หมูหวาน
22/05/2015 19:59:17
573
หลังจากที่ผมเคยได้รีวิวลำโพง Audioengine A5+ และ B2 ไปแล้ว มาคราวนี้ถึงคิวของลำโพงน้องเล็กของค่ายบ้างครับ นั่นก็คือลำโพง Audioengine A2+ ซึ่งออกแบบมาเป็นลำโพง Desktop ขนาดเล็ก ที่ย่อสเกลเสียงจากรุ่นพี่อย่าง A5+ มา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่กำลังมองหาลำโพงมาใช้งาน ในพื้นที่ๆจำกัด แต่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีด้วย ผมขอมารีวิว แนะนำ Audioengine A2+ ลำโพงยอดนิยมในวงการอีกตัว ที่น่าสนใจมากๆครับผม ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
หมูหวาน
22/05/2015 19:59:40
573
มาเริ่มด้วย Package ของเจ้า A2+ กันก่อนนะครับ ปกติลำโพงของค่ายนี้เค้าใส่ใจเรื่องกล่องบรรจุอย่างมากครับ เพราะนอกจากตัวกล่องจะดูสวยงามน่าเก็บแล้ว ภายในนั้นยังห่อหุ้มตัวลำโพง และอุปกรณ์ Accessories มาให้อย่างดี ไม่ว่าการขนส่งจะโหดร้ายแค่ไหน รับรองว่าไม่ทำอันตรายถึงตัวลำโพงอย่างแน่นอนครับ
มาเริ่มด้วย Package ของเจ้า A2+ กันก่อนนะครับ ปกติลำโพงของค่ายนี้เค้าใส่ใจเรื่องกล่องบรรจุอย่างมากครับ เพราะนอกจากตัวกล่องจะดูสวยงามน่าเก็บแล้ว ภายในนั้นยังห่อหุ้มตัวลำโพง และอุปกรณ์ Accessories มาให้อย่างดี ไม่ว่าการขนส่งจะโหดร้ายแค่ไหน รับรองว่าไม่ทำอันตรายถึงตัวลำโพงอย่างแน่นอนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
หมูหวาน
22/05/2015 19:59:52
573
เปิดกล่องมาก็จะเจอกับถึงผ้าสักกะหลาดที่ห่อหุ้มสายเชื่อมต่อต่างๆในชุดครับ ซึ่งในชุดลำโพง Audioengine A2+ จะมี Adaptor, สายไฟ, สายสัญญาณแบบ 3.5mm, สายเชื่อมต่อลำโพง แล้วก็สาย USB มาให้ใช้งานแบบครบๆเลยครับ แถมคุณภาพสายยังดีอีกด้วย สามารถใช้งานได้ดี โดยยังไม่ต้องไปอัพเกรดสายให้วุ่นวาย แต่ถ้าจะเค้นเสียงให้ดีขึ้นอีก ค่อยอัพเกรดกันอีกทีก็ไม่ผิดกติกาจ้าา
เปิดกล่องมาก็จะเจอกับถึงผ้าสักกะหลาดที่ห่อหุ้มสายเชื่อมต่อต่างๆในชุดครับ ซึ่งในชุดลำโพง Audioengine A2+ จะมี Adaptor, สายไฟ, สายสัญญาณแบบ 3.5mm, สายเชื่อมต่อลำโพง แล้วก็สาย USB มาให้ใช้งานแบบครบๆเลยครับ แถมคุณภาพสายยังดีอีกด้วย สามารถใช้งานได้ดี โดยยังไม่ต้องไปอัพเกรดสายให้วุ่นวาย แต่ถ้าจะเค้นเสียงให้ดีขึ้นอีก ค่อยอัพเกรดกันอีกทีก็ไม่ผิดกติกาจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
หมูหวาน
22/05/2015 20:00:07
573
หลังจากนั้นเปิดโฟมขึ้นมา ก็จะเจอกับลำโพงแล้วครับ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าการห่อหุ้มลำโพง และ Package ของ Audioengine นั้น แน่นหนา และปลอดภัยต่อตัวลำโพงมากๆๆครับ จากที่เคยได้สัมผัสทั้ง A5+ และ B2 ทั้งหมดใช้มาตรฐานในการออกแบบ Packaging มาอย่างดี เป็นข้อนึงที่ทำให้ผมประทับใจลำโพงของค่ายนี้ด้วย
หลังจากนั้นเปิดโฟมขึ้นมา ก็จะเจอกับลำโพงแล้วครับ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าการห่อหุ้มลำโพง และ Package ของ Audioengine นั้น แน่นหนา และปลอดภัยต่อตัวลำโพงมากๆๆครับ จากที่เคยได้สัมผัสทั้ง A5+ และ B2 ทั้งหมดใช้มาตรฐานในการออกแบบ Packaging มาอย่างดี เป็นข้อนึงที่ทำให้ผมประทับใจลำโพงของค่ายนี้ด้วย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
หมูหวาน
22/05/2015 20:00:19
573
พอแกะออกมาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้เจอกับลำโพงขนาดใหญ่ประมาณ 2 กำปั้น ที่งานออกแบบสวยงามน่าใช้งานมั่กๆๆ โดยเจ้า Audioengine A2+ เป็นลำโพงแบบ 2ทาง Active ระบบ 2.0ch มีภาคแอมป์กำลังขับในตัวถึงข้างละ 30 วัตต์ ซึ่งถือว่าแรงขับเยอะมากๆ สำหรับลำโพงเล็กๆระดับนี้ สามารถเชื่อมต่อได้ 3 แบบ คือต่อ USB จากคอมพิวเตอร์ โดยใช้ DAC ภายในตัวของ A2+ หรือต่อ RCA จากเครื่องเล่น CD และอีกช่องก็คือ Aux 3.5mm จากมือถือ หรือเครื่องเล่นเพลงของเราครับ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี RCA Output เอาสัญญาณออกไปต่อเข้า Sub Woofer ได้ดีกด้วย เป็นลำโพงเล็กๆที่ให้ช่องต่อมาอย่างครบครันจริงๆจ้าา
พอแกะออกมาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้เจอกับลำโพงขนาดใหญ่ประมาณ 2 กำปั้น ที่งานออกแบบสวยงามน่าใช้งานมั่กๆๆ โดยเจ้า Audioengine A2+ เป็นลำโพงแบบ 2ทาง Active ระบบ 2.0ch มีภาคแอมป์กำลังขับในตัวถึงข้างละ 30 วัตต์ ซึ่งถือว่าแรงขับเยอะมากๆ สำหรับลำโพงเล็กๆระดับนี้ สามารถเชื่อมต่อได้ 3 แบบ คือต่อ USB จากคอมพิวเตอร์ โดยใช้ DAC ภายในตัวของ A2+ หรือต่อ RCA จากเครื่องเล่น CD และอีกช่องก็คือ Aux 3.5mm จากมือถือ หรือเครื่องเล่นเพลงของเราครับ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี RCA Output เอาสัญญาณออกไปต่อเข้า Sub Woofer ได้ดีกด้วย เป็นลำโพงเล็กๆที่ให้ช่องต่อมาอย่างครบครันจริงๆจ้าา
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
หมูหวาน
22/05/2015 20:00:33
573
สำหรับท่านนึกขนาดของลำโพงไม่ออก ผมลอถ่ายรูปเทียบกับ iPhone มาให้ดูกันเลยครับ ขนาดสูงกว่ามือถือนิดเดียว สามารถหาที่วางได้ง่าย ในพื้นที่จำกัด ท่านก็ยังสามารถเอาลำโพง A2+ ไปเซ็ทเสียงให้ลงตัวกับพื้นที่ใช้งานได้คร้าบบบ
สำหรับท่านนึกขนาดของลำโพงไม่ออก ผมลอถ่ายรูปเทียบกับ iPhone มาให้ดูกันเลยครับ ขนาดสูงกว่ามือถือนิดเดียว สามารถหาที่วางได้ง่าย ในพื้นที่จำกัด ท่านก็ยังสามารถเอาลำโพง A2+ ไปเซ็ทเสียงให้ลงตัวกับพื้นที่ใช้งานได้คร้าบบบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
หมูหวาน
22/05/2015 20:00:45
573
ตัวกรวย Woofer นั้นเป็น Kevlar ขนาด 2.75" เหมือนกับ B2 ครับ ซึ่ง Driver เสียงต่ำของค่าย Audioengine นั้นจะนิยมใช้ Driver เสียงต่ำกรวย Kevlar เพราะความแข็งแรงของตัววัสดุดี แถมยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย และข้อดีอีกอย่างก็คือ สามารถตอบสนองความถี่สูงได้ดีกว่ากรวยบางชนิดครับ ช่วยให้การทำงานของ Tweeter นั้นดีขึ้น เพราไม่ต้องลงทำงานจุดต่ำเสียงที่ต่ำเกินไป การทำงานของ Driver เสียงแหลมก็ทำงานได้ดีขึ้นครับผม
ตัวกรวย Woofer นั้นเป็น Kevlar ขนาด 2.75" เหมือนกับ B2 ครับ ซึ่ง Driver เสียงต่ำของค่าย Audioengine นั้นจะนิยมใช้ Driver เสียงต่ำกรวย Kevlar เพราะความแข็งแรงของตัววัสดุดี แถมยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย และข้อดีอีกอย่างก็คือ สามารถตอบสนองความถี่สูงได้ดีกว่ากรวยบางชนิดครับ ช่วยให้การทำงานของ Tweeter นั้นดีขึ้น เพราไม่ต้องลงทำงานจุดต่ำเสียงที่ต่ำเกินไป การทำงานของ Driver เสียงแหลมก็ทำงานได้ดีขึ้นครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
หมูหวาน
22/05/2015 20:01:02
573
ส่วน Driver เสียงแหลมก็เป็นแบบผ้า Silk Dome ขนาด 3/4" ซึ่งให้รายละเอียดเสียงแหลมที่สดใส แต่แฝงไว้ด้วยความหวานนุ่มนวลด้วยครับ ท่านใดที่ไม่ชอบเสียงคมๆแบบโดมโลหะ น่าจะติดใจเสียงของเจ้าลำโพง A2+ ได้ไม่ยากครับ
ส่วน Driver เสียงแหลมก็เป็นแบบผ้า Silk Dome ขนาด 3/4" ซึ่งให้รายละเอียดเสียงแหลมที่สดใส แต่แฝงไว้ด้วยความหวานนุ่มนวลด้วยครับ ท่านใดที่ไม่ชอบเสียงคมๆแบบโดมโลหะ น่าจะติดใจเสียงของเจ้าลำโพง A2+ ได้ไม่ยากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
หมูหวาน
22/05/2015 20:01:16
573
มาดูต่อกันเลยดีกว่าครับ ด้านหลังของ Audioengine A2+ เป็นลำโพงที่มีช่องต่อมาให้ครบครัน อัดแน่นแผ่นหลังมากๆ เรามาเริ่มด้วยช่องต่อไฟเลี้ยงครับ A2+ นั้นใช้พลังงานไฟ DC 17.5V 1.8A หัวเป็นแบบ Mini Balance 3 Pin ครับ และถัดไปทางด้านซ้ายจะเป็น ขั้วต่อลำโพงแบบ Binding Post Out Pot จากแอมป์ ไปเข้าที่ลำโพงอีกฝั่งนึงครับ ตัวขั้นลำโพงนี้ใช้เกรดดีกว่าปกติครับ ชุบทองเงางาม เกลียวล็อคแน่นดีด้วยจ้าา
มาดูต่อกันเลยดีกว่าครับ ด้านหลังของ Audioengine A2+ เป็นลำโพงที่มีช่องต่อมาให้ครบครัน อัดแน่นแผ่นหลังมากๆ เรามาเริ่มด้วยช่องต่อไฟเลี้ยงครับ A2+ นั้นใช้พลังงานไฟ DC 17.5V 1.8A หัวเป็นแบบ Mini Balance 3 Pin ครับ และถัดไปทางด้านซ้ายจะเป็น ขั้วต่อลำโพงแบบ Binding Post Out Pot จากแอมป์ ไปเข้าที่ลำโพงอีกฝั่งนึงครับ ตัวขั้นลำโพงนี้ใช้เกรดดีกว่าปกติครับ ชุบทองเงางาม เกลียวล็อคแน่นดีด้วยจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9
หมูหวาน
22/05/2015 20:01:35
573
ถัดขึ้นมาเป็นช่อง Input และ Output แบบต่างๆครับ ซึ่งผมขอเริ่มจากตัว Volume ที่เป็นแบบ Analog Volume ที่มีสวิตช์เปิด-ปิดในตัวครับ ซึ่งเวลาเราจะใช้งาน เพียงแค่บิดลูกบิด Volume ขึ้นให้ดัง "แต๊ก" ลำโพงก็พร้อมใช้งาน แล้วเราก็เร่งเสียงฟังได้เลยครับ
ส่วนถัดมาคือภาครับ Input แบบ USB ครับ ซึ่งเจ้า A2+ นั้นมีภาค DAC อยู่ในตัว ที่ออกแบบโดยใช้ Chip DC ของ TI PCM2704C รองรับกาดถอดรหัสเสียงได้ 16bit/48kHz สามารถเสียบใช้งานกับคอมได้โดยตรง ไม่ต้องหา Driver มาลงให้วุ่นวายครับ
ภาครับ Input แบบ RCA และ 3.5mm นั้นสามารถใช้งานได้เหมือนๆกันทั้งคู่ครับ อันนี้แล้วแต่ว่าเรามีสายแบบไหน หรือจะเอาไปเชื่อมต่อกับเครื่องไหนครับ ส่วน Output นั้น สามารถเอาไปต่อกับ Sub Woofer หรือ เอาไปต่อกับลำโพง Active ตัวอื่นเพิ่มได้ด้วยครับ สามารถใช้งานได้หลากหลายดีทีเดียวจ้าา
ถัดขึ้นมาเป็นช่อง Input และ Output แบบต่างๆครับ ซึ่งผมขอเริ่มจากตัว Volume ที่เป็นแบบ Analog Volume ที่มีสวิตช์เปิด-ปิดในตัวครับ ซึ่งเวลาเราจะใช้งาน เพียงแค่บิดลูกบิด Volume ขึ้นให้ดัง "แต๊ก" ลำโพงก็พร้อมใช้งาน แล้วเราก็เร่งเสียงฟังได้เลยครับ
ส่วนถัดมาคือภาครับ Input แบบ USB ครับ ซึ่งเจ้า A2+ นั้นมีภาค DAC อยู่ในตัว ที่ออกแบบโดยใช้ Chip DC ของ TI PCM2704C รองรับกาดถอดรหัสเสียงได้ 16bit/48kHz สามารถเสียบใช้งานกับคอมได้โดยตรง ไม่ต้องหา Driver มาลงให้วุ่นวายครับ
ภาครับ Input แบบ RCA และ 3.5mm นั้นสามารถใช้งานได้เหมือนๆกันทั้งคู่ครับ อันนี้แล้วแต่ว่าเรามีสายแบบไหน หรือจะเอาไปเชื่อมต่อกับเครื่องไหนครับ ส่วน Output นั้น สามารถเอาไปต่อกับ Sub Woofer หรือ เอาไปต่อกับลำโพง Active ตัวอื่นเพิ่มได้ด้วยครับ สามารถใช้งานได้หลากหลายดีทีเดียวจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10
หมูหวาน
22/05/2015 20:01:48
573
ส่วนทางด้านหลังของลำโพงขวา ก็จะเป็น Passive Unit ครับ มีแต่ขั้วต่อสายลำโพงเพียงอย่างเดียว การใช้งานก็คือเอาสายลำโพงเชื่อมจากด้สนซ้ายมาเข้าที่ขั้วนี้ครับ แต่อย่าต่อให้กลลับเฟสนะครับ สังเกตุสายที่แถมมาจะมีสองเส้นติดกันเป็นสีทองแดง กับสีเงินครับ ให้เอาสายเส้นสีทองแดงต่อเข้ากับขั้วลำโพงสีแดงทั้งสองฝั่งจ้าา
ส่วนทางด้านหลังของลำโพงขวา ก็จะเป็น Passive Unit ครับ มีแต่ขั้วต่อสายลำโพงเพียงอย่างเดียว การใช้งานก็คือเอาสายลำโพงเชื่อมจากด้สนซ้ายมาเข้าที่ขั้วนี้ครับ แต่อย่าต่อให้กลลับเฟสนะครับ สังเกตุสายที่แถมมาจะมีสองเส้นติดกันเป็นสีทองแดง กับสีเงินครับ ให้เอาสายเส้นสีทองแดงต่อเข้ากับขั้วลำโพงสีแดงทั้งสองฝั่งจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
หมูหวาน
22/05/2015 20:02:02
573
มาเริ่มทดสอบกันเลยดีกว่าครับ ด้วยการต่อแบบแรก คือต่อกับมือถือด้วยสาย Mini-Mini 3.5mm ครับ ผมลองเล่นเพลงจากโปรแกรม TIDAL โดยโหลดเพลงมาฟังแบบ OFFLINE ซึ่งคุณภาพเสียงดี สามารถใช้ในการทดสอบเสียงได้สบายๆ โดยเริ่มฟังจากแนวเสียงร้องก่อน ซึ่งเสียงที่ผมได้ยินนั้นคือ เสียงแหลมของ A2+ นั้นฟังดูชัดเจน เสียงกลางนั้นเด่นลอยฟังมีตำแหน่งมากๆ ยิ่งถ้าหากสามารถเซ็ทตำแหน่งได้ลงตัว จะสามารถแสดงพลัง และมิติได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นคนชอบฟังเพลง Jazz ด้วยแล้ว เสียงเครื่องเป่านั้นฟังดีเกินตัวจริงๆ สมแล้วกับที่เมืองนอกชื่นชมลำโพงตัวนี้เหลือเกิน
ส่วนเรื่องพละกำลังของเสียงนั้นเหลือเฝือครับ สำหรับท่านที่นั่งฟังเพลงหน้า Desktop หรือในห้องขนาด 4x6 เมตร ที่ผมใช้ฟัง ก็สามารถเต็มอิ่มกับเสียงเพลงของมันได้ แต่ถ้าใครต้องการลำโพงเบสหนักๆ ล้นๆ อาจจะไม่ใช่ทางครับ ซึ่งจริงๆแล้วลำโพงเล็กๆแบบนี้ ไม่ว่าค่ายไหน ก็ฟังเพลงเบสหนักๆตูมตามไม่ไหวทั้งนั้นล่ะครับ จากที่ผมลองฟังมาหลายตัว เจ้า A2+ สามารถทำเสียงต่ำได้ดี เป็นเสียงเบสที่มีคุณภาพเกินกว่าที่ผมคิดไว้อีกครับ
มาเริ่มทดสอบกันเลยดีกว่าครับ ด้วยการต่อแบบแรก คือต่อกับมือถือด้วยสาย Mini-Mini 3.5mm ครับ ผมลองเล่นเพลงจากโปรแกรม TIDAL โดยโหลดเพลงมาฟังแบบ OFFLINE ซึ่งคุณภาพเสียงดี สามารถใช้ในการทดสอบเสียงได้สบายๆ โดยเริ่มฟังจากแนวเสียงร้องก่อน ซึ่งเสียงที่ผมได้ยินนั้นคือ เสียงแหลมของ A2+ นั้นฟังดูชัดเจน เสียงกลางนั้นเด่นลอยฟังมีตำแหน่งมากๆ ยิ่งถ้าหากสามารถเซ็ทตำแหน่งได้ลงตัว จะสามารถแสดงพลัง และมิติได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นคนชอบฟังเพลง Jazz ด้วยแล้ว เสียงเครื่องเป่านั้นฟังดีเกินตัวจริงๆ สมแล้วกับที่เมืองนอกชื่นชมลำโพงตัวนี้เหลือเกิน
ส่วนเรื่องพละกำลังของเสียงนั้นเหลือเฝือครับ สำหรับท่านที่นั่งฟังเพลงหน้า Desktop หรือในห้องขนาด 4x6 เมตร ที่ผมใช้ฟัง ก็สามารถเต็มอิ่มกับเสียงเพลงของมันได้ แต่ถ้าใครต้องการลำโพงเบสหนักๆ ล้นๆ อาจจะไม่ใช่ทางครับ ซึ่งจริงๆแล้วลำโพงเล็กๆแบบนี้ ไม่ว่าค่ายไหน ก็ฟังเพลงเบสหนักๆตูมตามไม่ไหวทั้งนั้นล่ะครับ จากที่ผมลองฟังมาหลายตัว เจ้า A2+ สามารถทำเสียงต่ำได้ดี เป็นเสียงเบสที่มีคุณภาพเกินกว่าที่ผมคิดไว้อีกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12
หมูหวาน
22/05/2015 20:02:17
573
ลองต่อกับคอมพิวเตอร์ดูบ้างครับ ซึ่งผมเริ่มต้นด้วยการต่อตรงๆผ่านช่องหูฟังของ Notebook เลย และใช้โปรแกรมเล่นเพลง Audirvana+ ครับ ซึ่งเสียงที่ได้นั้นจะเหนือกว่าการเล่นผ่านมือถือ ขึ้นไปอีกสเตป คือจะได้เรื่องความชัดเจนของตำแหน่ง และชิ้นดนตรีเพิ่มขึ้นอีกครับ ทำให้การฟังเพลง ผ่านเจ้า Audioengine A2+ นันเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผมคันต่อ ลองทดสอบต่อ USB จากคอมไปเข้า DAC ของ A2+ อีกทีนึง
ผลที่ได้ก็น่าแปลกใจขึ้นไปอีก เพราะว่ามันได้เรื่องของ Dynamic เสียง และ Contrast ขึ้นลงของเสียงเพิ่มขึ้นอีกครับ ทีนี้เล่นเอาผมงงเลย ทั้งๆที่ DAC ภายใน Macbook Pro นั้นก็ใช่ย่อยซะที่ไหน กลับกลายเป็นว่า DAC ในตัวของ A2+ ให้เสียงที่ดีกว่าซะงั้น สงสัยว่าเค้าคงจูนภาค DAC มาอย่างดี เพื่อให้เสียงเกื้อหนุนลำโพงของเค้าเองครับ ถ้าใครใช้กับคอม ผมแนะนำให้ต่อ USB เลย ส่วนจะหา DAC มาเพิ่มภายนอกค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าจ้าา
ลองต่อกับคอมพิวเตอร์ดูบ้างครับ ซึ่งผมเริ่มต้นด้วยการต่อตรงๆผ่านช่องหูฟังของ Notebook เลย และใช้โปรแกรมเล่นเพลง Audirvana+ ครับ ซึ่งเสียงที่ได้นั้นจะเหนือกว่าการเล่นผ่านมือถือ ขึ้นไปอีกสเตป คือจะได้เรื่องความชัดเจนของตำแหน่ง และชิ้นดนตรีเพิ่มขึ้นอีกครับ ทำให้การฟังเพลง ผ่านเจ้า Audioengine A2+ นันเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผมคันต่อ ลองทดสอบต่อ USB จากคอมไปเข้า DAC ของ A2+ อีกทีนึง
ผลที่ได้ก็น่าแปลกใจขึ้นไปอีก เพราะว่ามันได้เรื่องของ Dynamic เสียง และ Contrast ขึ้นลงของเสียงเพิ่มขึ้นอีกครับ ทีนี้เล่นเอาผมงงเลย ทั้งๆที่ DAC ภายใน Macbook Pro นั้นก็ใช่ย่อยซะที่ไหน กลับกลายเป็นว่า DAC ในตัวของ A2+ ให้เสียงที่ดีกว่าซะงั้น สงสัยว่าเค้าคงจูนภาค DAC มาอย่างดี เพื่อให้เสียงเกื้อหนุนลำโพงของเค้าเองครับ ถ้าใครใช้กับคอม ผมแนะนำให้ต่อ USB เลย ส่วนจะหา DAC มาเพิ่มภายนอกค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13
หมูหวาน
22/05/2015 20:02:29
573
Audioengine A2+ เป็นลำโพง Desktop ขนาดเล็กๆที่ทำให้ผมประทับใจสุดๆครับ เพราะทั้งการดีไซน์รูปร่าง หน้าตา ขนาด ช่องต่อการใช้งานต่างๆ หรือเรื่องเสียงที่ใหญ่เกินขนาด ทั้งมิติ และตำแหน่งนั้น ฟังแล้วไม่น่าจะออกมาจากลำโพงเล็กๆแบบนี้ เสียงร้องเด่นและโปร่งลอย รายละเอียดของเสียงแหลมที่ชัดเจน แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลฟังสบาย ไร้สากเสี้ยน เสียงต่ำกระชับเป็นเม็ดๆ จบเป็นลูกๆไม่บวมเบลอ และปริมาณเสียงต่ำเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาลำโพง 2.0 เล็กๆ แต่คุณภาพเสียงแจ่มๆไว้ใช่้งาน ผมแนะนำให้เข้ามาลองฟัง Audioengine A2+ ก่อนครับ ผมรับรองว่าไม่มีการผิดหวังอย่างเด็ดขาดจ้าา ^^
ลำโพง Audioengine A2+
ราคา 7,490 บาท
รีวิวโดย : หมูหวาน 086-810-7374
www.hifilover.com
[email protected]
Audioengine A2+ เป็นลำโพง Desktop ขนาดเล็กๆที่ทำให้ผมประทับใจสุดๆครับ เพราะทั้งการดีไซน์รูปร่าง หน้าตา ขนาด ช่องต่อการใช้งานต่างๆ หรือเรื่องเสียงที่ใหญ่เกินขนาด ทั้งมิติ และตำแหน่งนั้น ฟังแล้วไม่น่าจะออกมาจากลำโพงเล็กๆแบบนี้ เสียงร้องเด่นและโปร่งลอย รายละเอียดของเสียงแหลมที่ชัดเจน แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลฟังสบาย ไร้สากเสี้ยน เสียงต่ำกระชับเป็นเม็ดๆ จบเป็นลูกๆไม่บวมเบลอ และปริมาณเสียงต่ำเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาลำโพง 2.0 เล็กๆ แต่คุณภาพเสียงแจ่มๆไว้ใช่้งาน ผมแนะนำให้เข้ามาลองฟัง Audioengine A2+ ก่อนครับ ผมรับรองว่าไม่มีการผิดหวังอย่างเด็ดขาดจ้าา ^^
ลำโพง Audioengine A2+
ราคา 7,490 บาท
รีวิวโดย : หมูหวาน 086-810-7374
www.hifilover.com
[email protected]
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14
tangkoo
22/05/2015 20:17:49
Audio GD19 ไม่ได้ ก็เอา Audioengine แทนแล้วกัน555
Audio GD19 ไม่ได้ ก็เอา Audioengine แทนแล้วกัน555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15
หมูหวาน
22/05/2015 21:10:22
573
@พี่ tangkoo ครับ
ถ้าจะให้หายคัน ต้องจัดทั้งสองอย่างเลยจ้าาา 555
@พี่ tangkoo ครับ
ถ้าจะให้หายคัน ต้องจัดทั้งสองอย่างเลยจ้าาา 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16
olala_audio
22/05/2015 21:49:23
2
คันอีกแล้ว
B2 ยังไม่ได้สอย ตัวนี้มาอีกหละ
คันอีกแล้ว
B2 ยังไม่ได้สอย ตัวนี้มาอีกหละ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
หมูหวาน
22/05/2015 21:56:15
573
@ olala_audio ครับ
แวะเข้ามาลองฟังเทียบกันก่อนได้ครับ
ชอบตัวไหนค่อยจัด ไม่งั้นก็จัดทั้งสองตัวเลยครัชชช
@ olala_audio ครับ
แวะเข้ามาลองฟังเทียบกันก่อนได้ครับ
ชอบตัวไหนค่อยจัด ไม่งั้นก็จัดทั้งสองตัวเลยครัชชช
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18
ansible
23/05/2015 04:15:03
ฟังเพลงแนว Pop, Acoustic อะไรแบบนี้ ตัวนี้กับ Swan M100 อันไหนเหมาะกว่ากันครับ
ฟังเพลงแนว Pop, Acoustic อะไรแบบนี้ ตัวนี้กับ Swan M100 อันไหนเหมาะกว่ากันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19
Beat Takeshi
23/05/2015 09:21:16
39
สนใจอยู่ครับ ว่าจะเอามาต่อเครื่องเล่น LP ฟังเล่น ๆ จะถามพี่หมูฯต่อ ...
เครื่องเล่น LP ของผมมีช่อง Line Out ต่อลำโพงมีเสียงเลย (อยู่ในกล่อง ยังไม่ได้แกะ)
ต่อเข้าช่อง Input ของเจ้า A2+ ได้เลยไหมครับ
และมีบริการส่งไหมครับ (อยู่ กทม)
สนใจอยู่ครับ ว่าจะเอามาต่อเครื่องเล่น LP ฟังเล่น ๆ จะถามพี่หมูฯต่อ ...
เครื่องเล่น LP ของผมมีช่อง Line Out ต่อลำโพงมีเสียงเลย (อยู่ในกล่อง ยังไม่ได้แกะ)
ต่อเข้าช่อง Input ของเจ้า A2+ ได้เลยไหมครับ
และมีบริการส่งไหมครับ (อยู่ กทม)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20
หมูหวาน
23/05/2015 17:34:50
573
@ ansible ครับ
ตัวนี้เหมาะกับท่านที่มีที่วางจำกัดหน่อยครับ แต่ต้องการรายละเอียดเสียงดีๆ
ถ้าเทียบกับ M100MKII แล้ว ตัว A2+ รายละเอียดเสียงกลางแหลมจะชัดเจนกว่าครับ
ส่วน M100 จะได้เนื้อเสียง แล้วก็เบสที่แน่นกว่าจ้าา
@ ansible ครับ
ตัวนี้เหมาะกับท่านที่มีที่วางจำกัดหน่อยครับ แต่ต้องการรายละเอียดเสียงดีๆ
ถ้าเทียบกับ M100MKII แล้ว ตัว A2+ รายละเอียดเสียงกลางแหลมจะชัดเจนกว่าครับ
ส่วน M100 จะได้เนื้อเสียง แล้วก็เบสที่แน่นกว่าจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21
หมูหวาน
23/05/2015 17:36:09
573
@Beat Takeshi ครับ
ถ้าตัวเครื่องเล่น LP Phono stage อยู่ในตัวแล้ว
สามารถเอา Line Out มาใช้ได้เลยครับ
ใน กทม. จัดส่งผ่าน Massenger ได้จ้าา ^^
@Beat Takeshi ครับ
ถ้าตัวเครื่องเล่น LP Phono stage อยู่ในตัวแล้ว
สามารถเอา Line Out มาใช้ได้เลยครับ
ใน กทม. จัดส่งผ่าน Massenger ได้จ้าา ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22
หมูหวาน
05/06/2015 00:42:52
573
เสริมเขี้ยวเล็บให้กับเจ้า Audioengine A2+ ด้วยตัวรองลำโพงโดยเฉพาะรุ่น DS1 Desktop Stand
ช่วยเพิ่มเนื้อเสียงให้หนาขึ้น เบสมีพลังขึ้น ถ้าท่านวางหน้าคอมฟังใกล้ๆ
ก็จะช่วยเรื่องการโฟกัสเสียงให้แม่นยำขึ้นอีกด้วยครับ
ยางรองลำโพง audioengine DS1 ราคา 1,290 บาท
ท่านใดสนใจสามารถเข้ามาดูสินค้าได้ที่ร้าน HIFILOVER ชั้น 3 อัมรินทร์ พลาซ่าจ้าา ^^
เสริมเขี้ยวเล็บให้กับเจ้า Audioengine A2+ ด้วยตัวรองลำโพงโดยเฉพาะรุ่น DS1 Desktop Stand
ช่วยเพิ่มเนื้อเสียงให้หนาขึ้น เบสมีพลังขึ้น ถ้าท่านวางหน้าคอมฟังใกล้ๆ
ก็จะช่วยเรื่องการโฟกัสเสียงให้แม่นยำขึ้นอีกด้วยครับ
ยางรองลำโพง audioengine DS1 ราคา 1,290 บาท
ท่านใดสนใจสามารถเข้ามาดูสินค้าได้ที่ร้าน HIFILOVER ชั้น 3 อัมรินทร์ พลาซ่าจ้าา ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23
Chief
11/06/2015 18:07:34
เทียบเสียงกับ B&W MM1 เป็นยังไงครับ
เทียบเสียงกับ B&W MM1 เป็นยังไงครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24
หมูหวาน
11/06/2015 19:26:19
573
ตัว A2+ เสียงจะออกโปร่งใสกว่าครับผม ส่วน MM1 จะได้เรื่องเนื้อเสียงที่นวลฟังสบายกว่าจ้าา ^^
ตัว A2+ เสียงจะออกโปร่งใสกว่าครับผม ส่วน MM1 จะได้เรื่องเนื้อเสียงที่นวลฟังสบายกว่าจ้าา ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25
taweelap
02/11/2015 13:56:19
3
มีซับที่คู่กับ a2+ ด้วยมั้ยครับผม
มีซับที่คู่กับ a2+ ด้วยมั้ยครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26
หมูหวาน
02/11/2015 15:22:13
573
ซับของมันเป็นรุ่น S8 ครับ ราคา 13,500 บาท มาลองฟังที่ร้านได้เลยจ้าาา ^^
ซับของมันเป็นรุ่น S8 ครับ ราคา 13,500 บาท มาลองฟังที่ร้านได้เลยจ้าาา ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27
taweelap
16/11/2015 07:10:22
3
เห็นสีแดงแล้วสวยบาดใจจริงๆอยากสอยมาลองอีกซักคู่ 555
เห็นสีแดงแล้วสวยบาดใจจริงๆอยากสอยมาลองอีกซักคู่ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28
หมูหวาน
16/11/2015 22:49:54
573
จัดเลยไหมครับ ของใกล้หมดแล้วด้วย 5555
จัดเลยไหมครับ ของใกล้หมดแล้วด้วย 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29
taweelap
17/11/2015 06:12:53
3
ให้b2พ้นเบินก่อนคร้าบเฮีย555
ตั้งแต่ผมหันหลังให้เครื่องเสียงบ้านแล้วมาวงการ gadget นี่ ไม่ถึงเดือนก็หมดไปหลายหมื่นแล้วครับเฮีย 555+
ให้b2พ้นเบินก่อนคร้าบเฮีย555
ตั้งแต่ผมหันหลังให้เครื่องเสียงบ้านแล้วมาวงการ gadget นี่ ไม่ถึงเดือนก็หมดไปหลายหมื่นแล้วครับเฮีย 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30
Moze
19/11/2015 13:32:41
16
สีดำยังมีของมั้ยครับ สิ้นเดือนจะเข้าไปดูครับ มีที่สาขาไหนบ้างครับ
สีดำยังมีของมั้ยครับ สิ้นเดือนจะเข้าไปดูครับ มีที่สาขาไหนบ้างครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31
Moze
19/11/2015 13:34:11
16
ขอถามอีกนิดถ้าผ่าน mojo ช่วยเรื่องเสียงด้านไหนบ้างครับ
ขอถามอีกนิดถ้าผ่าน mojo ช่วยเรื่องเสียงด้านไหนบ้างครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32
ประพันธ์
11/04/2017 14:35:18
เทียบ Bose Companion5 เป็นไงบ้างครับ
เล่นเกม 40% หนัง 30% ฟังเพลง 30%
อยากได้ลำโพงคอมดีๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก กระทัดรัด
A2 ตอบโจทย์ใหม
ตอนแรกเล็ง com5 ไว้ แต่เห็นรีวิว A2 มาแรงแถมถูกกว่าพอควร
หรือควรไป A5?
เทียบ Bose Companion5 เป็นไงบ้างครับ
เล่นเกม 40% หนัง 30% ฟังเพลง 30%
อยากได้ลำโพงคอมดีๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก กระทัดรัด
A2 ตอบโจทย์ใหม
ตอนแรกเล็ง com5 ไว้ แต่เห็นรีวิว A2 มาแรงแถมถูกกว่าพอควร
หรือควรไป A5?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ตอบกระทู้ :
"รีวิว : Audioengine A2+ ลำโพงเสียง Hi-End จิ๋วแต่แจ๋ว ตัวจริงของวงการ"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ