โดยหลักแล้วจะโหลดกระเป๋าใต้เครื่องหรือถือขึ้นเครื่องไม่มีผลกับ tax refund ครับ
ตอนผ่านตรวจร่างกายก่อนจะเข้าช่อง ตม. ขาออกที่ญี่ปุ่น จะมีเคาน์ทเตอร์ศุลกากรให้เราแกะใบ tax refund ออกจาก passport ใส่ตระกร้า แต่ไม่มีการตรวจของครับ

แต่ส่วนตัวแล้วพวกหูฟังถ้ากล่องไม่ใหญ่มาก (in ear กล่องไม่น่าใหญ่มาก) อยากให้ถือขึ้นเครื่องมากกว่า ของแพงๆ ไม่จำเป็นไม่อยากให้โหลดใต้เครื่อง...กลัวหายครับ

ควรเอาขึ้นเครื่องไปด้วยครับ ปลอดภัยและเซฟกว่า ภาษีตอนขาเข้าในไทยไม่โดนหรอกครับ นำมาใช้เองตัวสองตัว ส่วนมากอนุโลมเป็นส่วนใหญครับ

เพิ่งฝากเพื่อนหิ้วมาจากญี่ปุ่น ต้ว ath m50x กลาองใหญ่มากหิ้วขึ้นเครื่องสบายครับ เหมือนหิ้วขนม ชอคโกแล็คในดิวตี้ฟรียังไงยังงั้นครับ ไม่มีปัญหา คราวก่อนเพื่อนหิ้ว bose c5 มาให้จากสิงคโปร์ ยิ่งแล้วใหญ่ กล่องใหญ่และหนักมากก็ไม่มีปัญหา ถ้าหิ้วกล่องเดียวหรือชิ้นเดียวก็ไม่น่ามีปัญหาครับแต่ถ้าหวเยอะๆหลายๆชุดก็ส่อเจตนาเอามาขายครับ เวลาโดนเรียกตรวจอาจมีปัญหา

แกะกล่อง หิ้วติดตัว เลยครับ ไม่มีัญหา หากโหลดใต้เครื่อง โดนตรวจ มีเหนื่อย

จริงๆมันมีลิมิตอยู่ครับ ว่าของต้องมีมูลค่าเท่าไหร่ถึงจะเอาเข้ามาได้ โดยได้รับการยกเว้นภาษี

แต่ที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยโดนนะครับ รอบละตัวlสองตัว ทั้งซื้อจากข้างนอกเข้ามาไทย และซื้อจากสุวรรณภูมิออกไป อินเอียร์ยันFZ
แต่ที่สำคัญแนะนำให้แกะออกจากแพคก่อนนะครับ

ซื้อสนามบิน ก็แกะมันในสนามบินนั่นแหละครับ ไม่มีใครว่า ถ้าใครถาม(ซึ่งผมไม่เคยโดนถามนะ)บอกว่าเราจะเอามาฟัง บนเครื่อง

ต้องถามกลับว่า
จะซื้อกลับมากี่ชิ้นครับ
เพราะถ้าซื้อ2-3ชิ้นกลับมาไว้ฟังเอง
หิ้วขึ้นเครื่องดีกว่าปลอดภัย เพราะถ้าโหลดใต้เครื่องมีโอกาสของเสียหายได้ครับ
และจำนวน2-3ชิ้น ไม่น่าจะโดนภาษีเพราะซื้อมาใช้เอง ไม่ได้เอาเข้ามาขาย

แต่ถ้าจำนวนเยอะไม่ว่าจะหิ้วขึ้นเครื่องหรือโหลดใต้เครื่อง ก็อาจจะโดนภาษีได้
เพราะเจตนานำเข้ามาเพื่อซื้อขายครับ

ไม่เกิน 5 ชิ้นเอาขึ้นไปกับตัวเถอะครับ หูฟังนี่มันก็ไม่ได้เหนียวแข็งแรงมากขนาดนั้น

ถ้าไม่เกิน 5 ไม่โดนภาษีอยู๋แล้วครับ