เผื่อเฮียมั่นเข้ามาอ่าน ผมยังรอ รีวิว "ศึกวันมั่นคงชัย ครั้งที่ 2 (Ostry ปะทะ Zero)" อยู่นะครับ

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=145742

พึ่งรู้ว่าราคา Zero Audio เมืองนอกถูกขนาดนี้

สงสัยมานานละ zero audio กับ ath ศูนย์ไทยราคาโหดมาก บางครั้งราคาญี่ปุ่นลงเยอะมากแต่ศูนย์ไม่ลงตาม แต่ sony ราคาพอๆกับญี่ปุ่น ทั้งที่เป็น brand ชาติเดียวกัน -*-

โซนี่มันมีโซนี่ไทยนำเข้ามาครับ แต่ Zero นี่เฮียเอาเข้ามาเองน่ะ คือราคานี้่มันขึ้นอยู่กับคนนำเข้าล้วนๆ เลย (ทางโซนี่จะได้เปรียบตรงที่ทุนน่าจะมาต่ำกว่าด้วยเพราะเอาเข้ามาเอง)

เอามาฟังแนวไหนครับ

น่าจะบอกให้ละเอียดครับ เพราะทั้ง 3 ตัวก็มีสุ่มเสียงที่แตกต่างกันออกไป

โซนี่ผมไม่ทราบราคาที่ญี่ปุ่นครับ
แต่เหมือนว่าหูฟังเค้าส่งมาให้พี่ไทยผลิต
ผมว่าราคาsonyพี่ไทยน่าจะถูกกว่าเล็กน้อย

แนะนำ IN EAR อีกตัวนึง ทีี่ อยู่ในงบ 2000-3000 บาท ก้

HIFIMAN RE400
ZERO BASSO

R02 ออกแนวพวก PK2,PK3 มากกว่าครับ คือดีเทล เบสมีบ้างแต่ไม่ใช่แบบ KC06A
KC06A นี่คือดีเทลมี แหลมคมแต่เบสมันค่อนข้างเยอะ สเตจไม่กว้างเท่า R02 แต่คือกว้างถ้าเทียบกับ In-Ear ด้วยกัน

ส่วน Zero ผมไม่เคยฟังครับ

ปล KC06A นี่ผมไม่แน่ใจว่ามันออกเบสมากไปรึเปล่า เพราะที่ผมฟังคือยืมคนอื่นฟังผ่านๆเท่านั้น

ปกติราคาของหูฟังทุกตัวทุกรุ่น ผมจะทำให้แข่งกันกับเมืองนอกตลอดครับ คือถ้าสูงกว่าก็จะไม่มากนัก แต่บางแบรนด์นั้นต้นทุนที่ได้มานั้นหลังแอ่นจริงๆครับ 555 คือมาสูงพอควรและพอมารวมกับภาษีและ VAT ก็เลยสูงขึ้นมาอีกครับ ผมเคยทวงถามเรื่องนี้ว่าทำไมคนขายในอีเบย์ถึงสามารถขายได้ในราคานี้ แต่ดูเหมือนเค้าจะบอกว่ามันมีนโยบายในการส่งออกมานี่ล่ะครับ และอีกอย่างหนึ่ง ผมนำเข้าแบบถูกต้องชำระภาษีในนามบริษัททั้งหมด ตัวเลขก็เลยออกมาอย่างที่เห็นกัน แต่เดี๋ยวผมทวงถามอีกรอบนะครับ

ZERO เก่ง แหลมไม่บาดหู + SOUNDSTAGE กว้าง โทนเสียงใสเคลียร์ เหมาะกับแนว POP ใสๆ พวก J-POP + K-POP ได้เลย

ดีเทลดีมาก สไตล์ ญี่ปุ่น จ๋า

โดยส่วนตัว ผมชอบเสียง ZERO สุดคับ

เข้าใจครับเฮีย พอบอกเสียภาษีนี่ถึงบางอ้อเลย นึกว่าหูฟังจะไม่เสียภาษีนำเข้าแบบพวกมือถือตอนนี้เข้าใจแล้วครับ เพราะภาษีไทยกับภาษีญุ่นปุ่นนี่ต่างกันอย่างกับอยู่คนละโลกเลย
ออกตัวนิดว่าผมไม่ใช่เซียนหูฟังหรือเล่นหูฟังอะไรนะครับ เลยไม่รู้จักศัพทที่พูดๆกันเท่าไหร่ ผมชอบการจัดเรียงเสียงของzero audioนะครับ คือจัดได้ถูกจริตผมมาก แต่ติดอย่างเดียวที่เลยที่จัดใจผม คือเสียงมันคัลเลอร์ไปหน่อยBassoนะครับอีก4ตัวที่เหลือไม่เคยฟัง มวลเบสที่หนาแต่ไม่กลบเสียงอื่นก็น่าพอใจ แต่มันก็เยอะไปสำหรับผมอยู่ดี ผมค่อนข้างชอบแบบบางกว่านี้หน่อยถ้าตัวTenoreบางกว่านี้ และไม่คัลเลอร์แบบนี้ผมก็ว่าจะจัดนะครับ แล้วก็เสียงกีตาร์มันใสไปหน่อย ผมฟังj-popวงAKB48เป็นหลักซึ่งวงนี้มันไม่ได้Popจ๋าไปเลย แต่ละเพลงมีไลน์กีตาร์ที่ค่อนข้างเด่นมันเลยรู้สึกว่า อ่าใสจังอยากให้แสบดากกว่านี้หน่อยเลยไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ แต่ฟังพวกเพลงตลาดจัดว่าโอเคเลยนะครับเรียกว่าคนที่ไม่รู้จะเลือกหูฟังอะไรดี หยิบไอตัวนี้ไปก็ไม่รู้สึกแย่เพราะฟังได้หลากหลายจริงๆ ติดที่ผมไม่ชอบเบสหนาๆกับฟังAKBไม่สนุกเท่าที่ผมฟังกับOn-earที่มีอยู่แค่นั้นเอง

ZERO TENORE VS ZERO BASSO

TENORE แหลมไปไกลกว่า โทนเสียงใสเคลียร์ กว่า BASSO
BASSO เบสอุ่น เบสมากกว่า TENORE เหมาะสำหรับ ฟังเพลง J-POP + J-ROCK + J-ANIME ยุคใหม่ ที่ เน้นจังหวะหน่อยๆ
BASSO เสียงกลางพุ่งกว่า TENORE มาหน่อย เหมาะสำหรับ J-POP + J-ANIME ยุคใหม่ ที่ เน้น เสียงกลางพุ่งมาข้างหน้า หน่อยนึง
TENORE เสียงกลาง + เสียงร้อง กลมกลืนกับ MELODY มากกว่า BASSO เหมาะสำหรับ J-POP ยุคเก่า แต่ ยุคใหม่ ก้ พอฟังได้
TENORE ดีเทลเสียงครบกว่า BASSO แต่ไม่เน้นเบส แต่ เป็นเบสกระชับ กำลังดี
TENORE เก่งเรื่อง BALANCED เสียงสมดุลกว่า BASSO
TENORE มิติเวทีเสียงกว้างกว่า BASSO ทำให้ ฟังแล้ว โปร่ง โล่ง สบายกว่า ไม่อึดอัด


ส่วน ZERO ทั้ง 3 ตัว ที่ แพงขึ้นไปอีก 5000-7000 บาท ขึ้นไป

พวกนี้ จะ เก่ง แหลมไม่บาดหู + SOUNDSTAGE กว้าง โทนเสียงใสเคลียร์ สว่าง ขึ้นไปอีก 2-4 เท่า

Tenore,R02,PK2 ถือโอกาศถามเลยแล้วกันครับ ตัวไหนให้เสียงที่เป็นธรรมชาติสุดครับ แบบกลองก็เป็นกลองจริงๆสัมผัสได้ถึงหนังกลองที่โดนขึง แบบว่าเด้งดึ๋งบอกไม่ถูก เสียงกีตาร์ที่ไม่หวานมากเกินไป มีความดิบนิดๆไว้ฟังเพลงที่ไลน์กีตาร์สวยๆได้สนุก เบสมีโน๊ต เสียงร้องความหนากำลังดีไม่ถึงกับโดนเบสกลบ หรือแหลมพาถอย

ทั้ง 3 ตัว ผมว่า TENORE ธรรมชาติสุด แต่ ถ้าต้องการความเป็น ธรรมชาติสูงขนานแท้ RE400 จะ เข้าทางกว่าคับ

RE400 ด้วยครับ
แต่ผมใช้ทั้ง tenore ทั้ง RE400 นะ

จริงๆผมก็เล็งRE400ไว้เหมือนกัน เดี๋ยวไว้รอหลังเลือกตั้งผมค่อยจัด ตอนนี้สอยTenoreก่อนมาลองก่อนน่าจะดี ขอบคุณมากครับ