แล้วก็นะ มีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นด้วย (ใครเห็นรูปนี้แล้วบอกได้เลยมั่งว่า อะไรแปลก ๆ :P)

ตัวที่ผมได้นั้น เบอร์ 69 พอดิบพอดี ตามที่เห็นอยู่ตรงส่วนที่เป็นไม้ด้านนี้ของท่ออลูมิเนียม

แหม ได้เลขโปรดด้วย.. :P







ตัว cup สวยดีครับ

แต่มีสิ่งแปลก ๆ อยู่นั่นเอง


ไม่รู้ใครจะสังเกตได้รึยัง



ถ้ายัง..































สิ่งที่แปลกปลอมนั่นก็คือ ตัวอักษรครับ!

ตัวอักษรบน cup ที่ผมได้นั้น มันเขียนว่า HEAD-F1!!!

มันต้อง HEAD-FI สิ ปูธ่อ.. -_-\"

แว่บแรกเห็นนี่ขำเลยแหละครับ ว่าเออเนอะ ผิดพลาดได้ไงฟะ ตา John -_-\" แต่ก็ขำ ๆ ครับ ^^

Grado HF-2 นั้นใช้สายแบบใหม่ แบบเดียวกับที่ใช้ใน Grado i Series นั่นก็คืออวบอ้วนกว่าสายเดิม ๆ นั่นเอง

อย่างที่เห็นในภาพ สายด้านซ้ายคือ HF-2 และ ด้านขวาคือของ RS1 ครับ ^^

ส่วน housing นั้นก็อย่างที่ทุก ๆ คนรู้กัน

มันคือ หูไม้ครึ่งนึง แล้วก็อลูมิเนียมด้านนอกนั่นเอง






ส่วนตัว driver เองนั้น

ผมแยกไม่ออก ฮา ๆ ไม่ได้ถอดออกมาเลยไม่รู้ว่ามันต่างกับ RS1 หรือตัวอื่น ๆ อย่างไร

แต่มีหลาย ๆ คนบอกว่า มันคือ driver ของ PS1000 นั่นเอง!!





ผมเองก็ชักจะเชื่อนิด ๆ ซะแล้วสิ ^^\"

ไหน ๆ ก็ต้อนรับน้องใหม่มาเดี่ยว ๆ แล้วก็เลยขอเอามาเทียบความหล่อกับพี่ ๆ กันมั่ง :P

ส่วนตัวแล้ว ผมชอบลุคของ HF-2 มากกว่า RS1 นะ เพราะว่าเป็นอลูมิเนียมขัดอย่างดี

จะติอย่างเดียวก็คือตัวหนังสือที่ค่อนข้างตื้นและ เส้นมันจางไปหน่อย ดูไม่ค่อยสง่างามเท่า PS1 เท่าไหร่ -_-\"

โฮ้...ตัวนี้เป็นยิ่งกว่า limited edition นะครับ
เพราะมันเป็นทั้ง HF1 + HF2 ในตังเดียวกัน :-)
รออยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะได้ซะที

ความสูง(หนา) ของตัว cup นั้นจัดอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ SR325 แต่ยังไม่สูงเท่ากับ RS1








ส่วน headband นั้น ทำออกมาได้ดีทีเดียว เป็นหนังแท้ เหมือนกับของ RS1 ในขณะที่ SR325 headband แคบกว่า แล้วก็ไม่ค่อยนุ่มเท่ากับอีก 2 ตัว


ส่วน bowl pad นั้น เหมือน ๆ กันนั่นแหละ :P

เย้...ยินดีด้วยครับ 555 แหม มาถึงก่อนเพื่อนเชียวน้าคุณกุ๊ดจี่ 555


ผมเองเมื่อกี๊ลองค่อยๆ สังเกตุตามคำบอกใบ้ มองยังไงก็ไม่เจอ จนมาอ่านคำเฉลยล่ะครับ 555 หัวเราะก๊ากเลย.....นี่ซิวะ ถึงจะเป็น จอห์น กราโด้ ที่ผมรู้จัก 555

การผิดพลาดลักษณะนี้คือทำบล็อคที่พิมพ์สกรีนผิด ไม่ได้ปรู๊ฟตัวอักษรแน่ๆๆ และผมเชื่อว่าป่านนี้ เผลอๆๆ จอห์น กราโด้ยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกฝรั่งหัวแดงในบอร์ดเค้ารู้หรือยังว่ามันพิมพ์ผิด 555


อย่าบอกนะครับ ว่าเป็นเฉพาะตัวนี้ตัวเดียว ถ้าพิมพ์ผิดเฉพาะตัวนี้ตัวเดียว เปลี่ยนกับผมเลยนะครับคุณกุ๊ดจี่ ผมจะรับเอาตัวที่มันพิมพ์ผิดไว้เองเด้อ 5555

รับเละเลยล่ะ ถ้ามันผิดแค่ตัวนี้ตัวเดียว 555

แปะอีกซัก 2 รูปแล้วกัน

ประชันความหล่อเงิน ๆ :D







กับรุ่นพี่หูไม้ :)







----------

สำหรับเรื่องเสียงนั้น

หลังจากที่แกะกล่องได้ก็เอาเสียบ iPod ทันที..

เล่นง่ายเนอะ -_-\\\"

แต่พอดีต้องออกไปรดน้ำต้นไม้ ทำสวนหน้าบ้านก็เลยมีแค่นี้จริง ๆ ^^\\\"

ปรากฏว่า WOW!!

ประหลาดใจครับ

เบสขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่า SR325 แล้วก็ RS1 :O

เสียงยังคงแนว Grado ไว้บ้าง นั่นก็คือ เวทีเสียงแคบหน่อย high ยังพุ่ง ๆ เหมือนเดิม แม้ว่าจะน้อยกว่าอีก 2 ตัวที่กล่าวไป

แต่ที่รู้สึกได้อีกอย่างก็คือ เสียงไหลลื่นดีมากเหมือนกันครับ

เรียกว่า แปลกไปจาก อีก 2 รุ่นเลยทีเดียว


ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกรอบแล้วกันครับ หลังจากผ่านช่วงเบิร์นอินไปได้แล้วหลายชั่วโมง :)


- จบ -

มีเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายคนละครับ 555

สงสัยจะโดนกันราว ๆ 50คนเป็นอย่างต่ำแน่ ๆ :P

Batch หลัง ๆ ไม่รู้ว่าจะแก้ได้มั้ย หุหุ

ถามหน่อยนึง คุณกุ๊ดจี่มีเจ้า 325 ตัวนี้นานยังล่ะเนี่ย ตัวนี้น่าจะก่อนเจ้า 325i ที่เป็นสีทองนะครับ เอ้า วานเฉลยทีเต๊อะ 555

ใช่ครับ เป็นรุ่นเก่าก่อนสีทองครับ แต่เพิ่งมีไม่นานนี้เองครับ ^^

ตัว cup เป็นสีเงินแล้วก็รูปทรงเป็นท่อเหมือนกับ RS1 ไม่ได้เป็นดอกเห็ดเหมือนกับ SR325i. :D

สวยงามคับ อยากลองฟังจัง รายงานเสียงด้วยนะครับ ทีมGrado++

รอ review ต่อไปครับ

I post from my cell so I cannot key in thai. I wanna know much does it cost included shipment & tax. I want to order it but not sure about the total cost.
Thank You

สวยงาม อยากได้จัง รอฟัง review เสียงต่อด้วยคนครับ

อยากได้ 325 อะ -_-\\\" ไม่รู้ช่วงนี้เป็นไง จะตามเก็บ Grado รุ่นเก่าๆ อยู่เรือย เลย คุณกุดจี่ เบื้อละก็คิดถึงผมคนแรกเลยนะคับ
ป.ล
อยากได้ จุ๊บๆๆ (กำลังฮิตเล่นบ้างอะ)

Wow Wow Wow สวยบาด ใจเชียว ครับ 555 ยินดี ด้วย ครับ คุณ กุดจี่ ..............อิ อิ อิ

ผมว่่ามันดูสื่อความหมาย เค้าอาจจะไม่ได้พิมพ์ผิดนะคับ

Head f1

นี่ 1 อาจจะเป็นการเล่นตัวอักษรก็ได้มั้งครับ

ตอนผมอยู่ USA ก็มีคนเล่นแบบนี้


ต้องรอดู ฝรั่งในบอร์ด กันต่อไปว่าจะบ่นกันหรือเปล่า

ผิดจริง ๆ ครับ

ลอตแรกสุดที่ได้กันในงาน CanJam 09 เป็น HEAD-FI ครับ ^^\"

มาเริ่มเสียงกันบ้างครับ :)

คราวนี้ลองมานั่งฟังกันกับชุดตั้งโต๊ะมั่ง :D







*********** ก่อนอื่นต้องบอกว่า Grado นั้น ขึ้นชื่อว่าเผากันนานอยู่แล้ว ดังนั้นนี่คือรีวิวแบบเปิดกล่องเลยครับ หลังจากนี้เสียงจะไปในทางไหนก็ต้องว่ากันอีกที ^^ ***********
*********** อีกทั้ง ผมเป็นมือใหม่ครับ ไม่ค่อยจะรีวิวอะไร แล้วก็ฟังเพลงไปตามเรื่องตามราว เลยอธิบายอะไรไม่ค่อยจะเก่งนัก ***********

HF-2 เป็นหูฟังที่ถูกใจคอเบสแน่นอนครับ เนื่องจากเบสที่ให้ออกมานั้นมีปริมาณและขนาดใหญ่กว่า RS1 และ SR325 ที่ผมได้ลองฟังมาคุ่ ๆ กันแน่นอน (นี่เป็นเหตุผลที่เชื่อว่า driver ของมันนั้นน่าจะไม่ใช่ตระกูล SR หรือ RS)

เบสที่ได้มีทั้งมิดเบส และ คิกเบส มาเป็นลูก ๆ เลยทีเดียว

ข้อติอย่างนึงก็คือ เบสค่อนข้างจะช้ากว่า RS1 ทำให้บางอารมณ์ดูบวม ๆ ไปหน่อย เพลงอย่าง Dream Theater - The Dark Eternal Night นั้น HF-2 ให้จังหวะกระเดื่องที่มันส์ดี หนักแน่นแต่ว่าค่อนข้างจะช้าไปซักนิด (อาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก) ในขณะที่ RS1 นั้นรอคสุด ๆ กระเดื่องเร็วกว่า แม้ว่าจะไม่หนักเท่า แต่เร้าใจดีทีเดียว

เสียงย่านกลางให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างนุ่มนวล ให้พุ่งพล่านมากนัก ต่างจาก RS1 ที่ค่อนข้างโปร่งกว่า และ รุกเร้ากว่า

HF-2 มิดเบสเป็นโน้ตดีมาก ๆ ซึ่งตรงนี้ผมให้ HF-2 ชนะ RS1 โดยเฉพาะเพลงคลาสสิคทั้งหลาย ที่ HF-2 นั้นสามารถขับเสียงคอนทราเบสออกมาได้ชัดเจนเลยทีเดียว ทำให้เพลงนั้นดูมีบอดี้ขึ้นมาเยอะ

เสียงเปียโนผมยังยกให้ HF-2 อยู่ ด้วยความที่ผมชอบเสียงที่ค่อนข้ามอิ่มพอควร เสียงเปียโนที่ออกมาเลยดูมีบอดี้และหวานกว่า RS1

ในขณะที่รายละเอียดของเครื่องดนตรีนั้น RS1 ทำได้ดีกว่า แยกมิติ และ ชิ้นดนตรีได้ดีกว่า ในขณะที่ HF-2 ด้วยความที่เบสนั้นขนาดใหญ่กว่า และ มิดเบสมี \\\"ฮัม\\\" มากกว่า ทำให้เวทีเสียงค่อนข้างรู้สึกแคบกว่า อึดอัดกว่ากว่า RS1 พอควร


เสียงสูงนั้น RS1 พริ้วกว่า ใสกว่า แยกมิติได้ดีกว่า ชนะ HF-2 ทุกกระบวนท่า

รวมไปถึงเสียง Cymbal และ กีตาร์ ที่ RS1 ทำได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ;)

ส่วน SR325 นั้นโดยรวม HF-2 นั้นเหนือกว่าทางเทคนิคแทบทุกประการ ยกเว้น เสียงสูงที่พุ่งพล่าน น่าฟังมากกว่าตามสไตล์ Grado


เพลงที่ทดสอบ

Pink Martini: Sympathique (Je ne Voux Pas Travier)
Dream Theater: The Dark Eternal Night
Victor Wooten: I saw a God
Kate Ceberano: She will be loved (Maroon5)
Rachmaninov: Piano Concerto #2 in C minor
Eric Clapton Unplugged: Signe
Jim Brickman: Destiny
Ayaka: Okaeri
Faye Wong: Eyes on me
Yngwie Johann Malmsteen: Far beyond the Sun


สรุป HF-2 นั้นเป็นหูฟังที่ให้เสียงแตกต่างไปจากหูฟังของ Grado ทั่ว ๆ ไปพอสมควร โดยเฉพาะเสียงกลางและ เบสที่ทำออกมาได้น่าประหลาดใจทีเดียว ด้วยราคานั้นจะพอ ๆ กับ RS2 ใหม่ ๆ และ RS1 มือสอง สาวก Grado เองก็ค่อนข้างจะหนักใจแน่ ๆ ถ้าจะต้องเลิกตัวใดซักตัว โดยเฉพาะ RS1 vs HF2

ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบแนวแนวเสียงของแต่ละตัวนั่นเอง :)

- - อิจฉานะ.....

งามมากเลยครับ..... เสียงก็ดีอีก.......
^ ^

F1 ถือซะว่า เป็น รุ่น Limited ของ Limited อีกทีละกันครับ

เท่ดีนะ 5555

เดี๋ยวทีนีิ้ คนที่ได้ FI จะมาโวยวาย จะเอา Limited ซ้อน Limited อีกทีมั่ง 555

ผมว่ามันเป็นแนวเสียงที่ผมต้องการจาก Grado มากเลยครับ คือย่านมิดเบสให้เสียงที่อิ่มแน่นมีเนื้อมีหนัง
ยิ่งถ้ามีโทนอุ่นของเสียงกลางเสียงร้องให้มาด้วยนี่ผมว่าครบเครื่องเลยละครับ
เฝ้ารอเมื่อไหร่มันจะมาหย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ที่บ้านครับ
ต้องขอบคุณคุณกุ๊ดจี่ ที่มินิรีวิวแนวเสียงมาด้วยครับ

โย่วววว คุณ กุซชี่...เอ๊ย กุ๊ดจี่ครับ 555 ถ้าว่างๆๆ แวะมารีวิวฝากๆๆ ไว้ซักเรื่องสองเรื่อง หรือสิบเรื่องก็ได้เน้อ 555
ถ่ายภาพก็สวย แถมรีวิวเป็นขั้นเป็นตอนดีชะมัดเลยครับ 555 เชิญมาฝากฝีมือไว้ในเว็บด้วยนะครับ 555


ว่าแต่ผมรอจนลืมไปเลยว่า ได้ซื้อเจ้า HF-2 ไว้ 555 แทบจำไม่ได้จริงๆๆ


นี่ชักหวั่นๆๆ แฮะ เห็นว่าถูกใจคอเบส 555 ผมเองไม่ใช่พวก BassHead ซะด้วย โดยมากมักจะคลั่งแต่เรื่องรายละเอียดซะมากกว่าล่ะครับ....เอ้า รอๆๆๆ ถ้าคุณกุ๊ดจี่ได้แล้ว ผมว่าผมน่าจะได้ภายในอาทิตย์หน้าแล้วล่ะ เพราะจำได้ว่า น่าจะสั่งไล่ๆๆ กันเลยล่ะครับ 555

น่าจะประมาณนั้นนะครับ ได้มาแล้วอาจจะชอบก็ได้นะ ;)

ในบรรดาหูฟัง Grado ทั้งหลาย ยกเว้น PS1 กับ PS1000 นี่ ผมว่าไม่มีตัวไหนเบสสู้ตัวนี้ได้เลยแหละนะครับ

แต่ก็ไม่ได้ล้นทะลักจนเกินไปนะ ผมว่ามันเป็นหูฟังที่ฟังสนุกมาก ๆ พอควรเลยแหละ

ยิ่งฟังกับชุดตั้งโต๊ะ แล้วฟังพวก Dream Theater ชุดหลัง ๆ นี่ รู้สึกถงไดอะแฟรมสั่นได้เลยแหละครับ เวลารัวกระเดื่อง :D

อ้อ.. ลืมเอ่ยถึงไป

พอดีชุดตั้งโต๊ะที่บ้านนี่ เน้นชอบแนว ๆ นุ่ม ๆ ละมุนด้วยแหละครับ โดยเฉพาะตั้งแต่เปลี่ยนสายสัญญาณมาใช้ของ Transparent MusicLink Super Series เสียงก็เลยนุ่มไปใหญ่ (แต่ดีเทลล์ก็ยังดีนะ)

ไว้ปลายเดือนไป meet แถว ๆ บ้านแล้วอาจจะได้มีโอกาสจับจอง Grado HP1000 มารีวิวเปรียบเทียบกันให้ฟังอีกทีครับ

อีกทั้ง ถ้าได้จับคู่กับ SS amp แล้ว HF-2 อาจจะได้เสียงที่พุ่งพล่านมากกว่านี้ก็ได้



แต่ยังไงก็ไม่ได้หวังมากนะครับ เพราะ WA6SE ของผมก็ค่อนข้างจะดีเทลล์จ๋า แล้วก็ PRAT ดีพอควรเหมือนกัน ;)

(O_O)

ขอคารวะหนึ่งจอกค้าบบบบบบบบบ

กิเลสขึ้นเลยครับ เย็นไว้ๆๆ เดี๋ยวเสียตังค์

เอ....หรือเราจะนอกใจ 325 ดีหว่า...แบะๆ

หรือถ้าเฮียมั่น ได้มาแล้ว ไม่ถูกใจ ขอรับต่อ เป็นไปได้ไหมครับ เฮีย...

ฟัง HF-2 แล้วมาฟัง 325 นี่ กร่อยไปเลยแหละครับ :P

แต่ก็นะ ถ้าไม่ชอบเบสแบบเยอะ ๆ นี่ 325 หรือ RS1 ดีกว่าเนอะ

Grado ดูยังไงก็ เป็นหูฟังสำหรับ ผู้สูงอายุ - -\"

แล้วถ้าบังเอิญเฮียมั่นปล่อยให้คุณ hatefrid
แล้วบังเอิญคุณ hatefrid ไม่ถูกใจ..ก็มาปล่อยต่อ
ให้ผมนะ..5555555555555555555555555555

เออ เหอ กลื่นน้ำลายเอื้อก เลยครับ เห็นแล้วโดนใจ โคตรๆ เจ็บใจตัวเองจังที่ไม่ได้สั่งไป ได้แต่มองตาละห้อย

ผมชอบเบสเยอะๆด้วยสิ

ติดนิดเดียวจริงๆ คือ

ไม่มีตังค์ ฮ่าๆ

ไม่มีตังเหมือนกัน มานำเลายไหลด้วยคนคับ เฮียจะปล่อยก็ คิดถึงผมคนแรกนะคับ

เห็นแล้วว่างๆต้องไปฟังหูฟัง Grado บางดีก่า อยากเป็นสาวกด้วยคน อิ อิ

อ้าว เห็นคุณกุ๊ดจี่ บอกแบบนี้ เปลี่ยนใจเก็บ 325 ต่อไป อิอิ ผมไม่ค่อยเน้นเบสเท่าไรแต่ชอบเสียงสูงมากกว่า แบะๆ

เอ้า ผมว่าตอนนี้ใครเล็งๆๆ อยู่ แต่ยังไม่ได้สั่ง ผมคิดว่ายังสั่งไปทันนะครับ....เพราะดูแล้วเค้ายังไม่ปิดรับสั่งนี่นา ใครว่างๆๆ แวะไปอ่านข่าว แล้วโฉบมาเล่าฟังกันด้วยเน้อ 555

ส่วนตัวของผมนั้น คาดว่าไม่น่าจะปล่อยออกหรอกครับ เพราะผมเองทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้มีหูฟังใหม่ๆๆ เลย นอกจากใช้เจ้า HF-1 เป็นตัวอ้างอิงตลอดชาติ สาเหตุที่ผมต้องใช้ Hf-1 เอาไว้อ้างอิง เพราะเวลาเสียงอะไรมันมากไป หรือน้อยไป ผมใช้วัดจาก HF-1 เป็นหลักล่ะ 555



เอ้า ใครยังต้องการ HF-2 ผมว่ารีบๆๆ เข้าไปกดสั่งเลยจ้า ถามว่าคุ้มไม๊ ผมดูจากที่คุณกุ๊ดจี่เล่ามา ผมว่าคุ้มล่ะครับ 555

รายงานคร่าวๆๆ ราคาน่าจะอยู่แถวๆๆ 16000-16500 บาท โดยประมาณเด้อ

ยังไม่ปิดรับครับ :)

ก็ถ้าไม่ชอบเบสเยอะ ๆ ก็โอเคแหละครับ RS1 หรือ GS1000 อาจจะเป็นเส้นทางสุดท้าย :D

ส่วนถ้าชอบเสียงที่ Grado ทั่วไปให้ไม่ได้ แล้วก็จัดอยู่ในระดับทอปสุดของเสียงของ Grado แล้วนั้น

แน่นอน HP1000 ล่ะตัวแรก ที่ให้เสียงแบบ neutral and balanced มาก ๆ

PS1 อันนี้ชัวร์ one of the bass monster ทีเดียว (ไม่เคยฟัง แต่มีเพื่อนเคยมี)

PS1000 นี่ไม่เคยฟัง แต่เท่าที่อ่านมา น่าจะเหมือน HF-2 เวอร์ชั่น sound stage เหมือน GS1k

และตัวสุดท้ายก็คือ HF-2 นี่แหละครับ ที่ผมเองขอจัดให้มันอยู่ในระดับทอปของ Grado ได้โดยไม่เคอะเขินเลย อยู่ในระดับเดียวกับ RS1 หรือ อาจจะสูงกว่านิด ๆ ด้วยซ้ำในเรื่องของ overall SQ ที่ทำให้ฟังสนุก แล้วก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเหลือเกิน :)

แต่ต้องระวังมันพลิกผันเหมือนเจ้า HF-1 ครับ แต่เท่าที่คุณกุ๊ดจี่ได้เบริ์นไปหน่อยนึง น่าจะไม่พลาดแล้วล่ะ

ผมจำได้ว่าเจ้า Hf-1 ของผมนั้น ตอนแรกออกจากกล่องเลย เบสนี้ลูกเบ้อเริ่มเทิ่มเลยรับ เรียกว่ายิ้มแก้มตุ่ยเลยล่ะ แต่พอฟังไปเบิรืนไปเรื่อยๆๆ เบสมันจะกระทัดรัดและแน่น จนฟังเหมือนกับว่ามันน้อยลง ซึงใช้เวลาประมาณ 1-2 วันเบสค่อยๆๆ บางลงไปเรื่อยๆๆๆ ซึ่งนั่นคือ HF-1 แต่ไม่รุ้ว่า HF-2 จะเป็นแบบนั้นเปล่า 555

กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันครับ 555

เมื่อคืนก็เปิดไว้ราว ๆ 16 ชั่วโมงได้ ไว้เดี๋ยวคืนนี้เอาอีก :)

พ้นซัก 100 ชั่วโมงแล้วจะมาอัพเดตใหม่ครับ ;)

แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า แจ่มจริง ๆ :D

http://en.wikipedia.org/wiki/Grado_Labs

อ๊าก....กรี๊ด......สุดยอดเลยขอรับ อยากได้มากมายแต่ คงต้องรอต่อไปเก็บเงินๆ คิคิ เห็นแล้วถึงกันหลอนตัวเอง เก็บไปเพ้อเอาไปฝันเลยทีเดียว หูกะดิกๆ อยากฟังๆๆๆ ต้องมีสักวัน เนอะ....เอิ๊กๆๆๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวแจ่มดวงแบบนี้นะขอรับ....