อันนี้ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของเราเสียมากกว่า พวกหูฟังมักจะไม่เสียกันง่ายๆ ไม่เหมือนกับ player ซึ่งมักจะมีปัญหาง่ายมาก แต่ถ้าจะให้ดีก็น่าจะพ่วงประกันให้เราซักครึ่งปีเป็นอย่างต่ำ จะรู้สึกอุ่นใจได้มากครับ ว่ากันด้วยเรื่องเสียงของมือ2กินมือแรกขาดลอย ยิ่งที่พ้นเบิร์นนี่ลื่นครับ ยกตัวอย่างเช่น นักวิ่งที่วิ่งบ่อยๆก็มีกำลัง มีความคล่องแคล่วมากกว่านักวิ่งที่อยู่ในระดับเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้ซ้อมเท่าไร ในระยะแรกๆก็ต้องฟิตร่างกายมากหน่อยกว่าจะเข้าที่เข้าทางก็นานเอาการอยู่ และยิ่งพวกระดับสูงๆนี่ไม่ต้องพูดกันล่ะ กว่าจะปรับตัวได้นี่นานโคตรๆๆๆ ก็เหมือนกับหูฟังล่ะครับ

ครั้งหนึ่งผมก็เคยแอนตี้เรื่องของมือ2มาก่อนครับ ว่าเราแน่ใจเหรอว่าของเขาไม่พัง ไม่ใช่ของใกล้พังแล้วเอาออกมาขาย โอยสารพัดเรื่องที่คิดมาก เลยต้องซื้อมือ1เท่านั้น เลยเสียเวลาไปกับการเบิร์นมากแลกกับความสบายใจของตัวเราเอง พอผ่านมาได้ซักพัก การได้ซื้อของมือ2ถือว่าคุ้มค่ามากในหลายๆด้านครับ สะดวกสบายไปหลายด้านทั้งเซฟเงิน เซฟเวลาในการเบิร์น แต่เราต้องศึกษาข้อมูลของสินค้าที่เราต้องการมาให้ดีครับ เช็คราคาตลาดและพวกปัญหาที่มักเกิดกับสินค้านั้น เมื่อมั่นใจพอสมควรก็ลุยเลย

ผมชอบของมือสองครับ พวกหูฟัง หรือสาย

แต่ของบางอย่างพวกเพลเยอร์ หรือ cd ซื้อมือ1 ได้จะดีกว่าอะครับ

วกกลับมาเรื่องหูฟัง grado ถ้าเอาประหยัดก็ มือ2 อะครับ แต่บางคนอาจจะเบิรน์มาไม่ค่อยดีอะครับ แต่ grado ไม่น่าจะมีปัญหา มากนะครับ ในส่วนนี้

ถ้าอยากเอาแบบสนุกๆ ก็ลอง เปรียบเทียบ ความต่างก่อนเบิรน์ กับ เบิรน์ ดูอะครับ

แต่เสียงหลังจากเบิรน์แล้ว ผมว่า มือ1กับ มือ2 ต่างกัน นิดเดียวอะครับ

Grado ไม่เจ๊งง่ายๆๆ ครับ ถ้าเจ้าของเดิมไม่ไปเปิดอัดหนักๆๆ จนเสียศูนย์น่ะครับ ถ้าเป็นการใช้งานปกติ ผมว่าเจ้า Grado นี่เข้าข่ายโคตรทนตัวจริงเลยล่ะครับ 555