ไดรเวอ ba ใช่จะดีเสมอไปครับ

ทางที่ดีอย่าอ่านสเปคเยอะฮะ ไปลองเลยครับ ชอบตัวไหนจัดตัวนั้น

3 ตัวนั้นไม่เคยฟังเลยตอบแนวเสียงไม่ได้

ผมใช้ xba-c10ip เป็น BA ตัวเดียวมาปีนึง เพิ่งอัพเป็น xba-h2 สเปก BA+ไดนามิก รู้สึกว่ามี sub woofer มาช่วยขับเสียงต่ำได้ดีขึ้น เบสที่ได้ยินบางๆจาก xba-c10ip ก็มี impact ชัดเจน ขณะที่เสียงกลาง-แหลมก็ยังมีรายละเอียดดีแบบ BA Sony

แต่ก็ต้องลองเองอ่ะครับ ถึงมีไดร์เวอร์เยอะแต่อาจจะไม่ถูกหูก็ได้

^
^
^
^
คห. 2
XBA H2 จะมี 2BA คือ 1BA ชิปwooferช่วยขับในย่านต่ำ / และอีก1BA คือ Tweeter ให้เสียงแหลมมีมิติ
ส่วนกำลังขับไดนามิค ยังเป็นตัวรองเสริมมากกว่า

ในส่วนของ A2 ก็เหมือนกับ H2 แต่ BA Tweeter นั้นจะเป็น Super HD Tweeter ตามที่เค้าเรียกกันแบบนั้นนะ เหมือนกับ H3 แต่ผมฟัง A2 ยังไงก็ดีกว่า H3

ไดเวอร์ยิ่งเยอะ ยิ่งใหญ่ ขับยาก ต้องใช้เวลาเบิร์นพอสมควร อย่างผมใช้ H1 เบิร์นไปแล้ว200ชั่วโมง กว่าจะเข้าที่

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

BA มันมีข้อดีคือมีขนาดเล็ก แต่ละตัวตอบสนองความถี่ได้ในย่านจำกัด ตัดแบ่งย่านความถี่ได้ง่าย ต้องการพื้นที่น้อย สามารถใส่เข้าไปได้หลายตัวในหูฟังหนึ่งข้าง (ไดนามิคมันจะใหญ่กว่า จัดวางตำแหน่งยากกว่า ต้องการพื้นที่ในการขยับตัวมากกว่า)อารมณ์มันเหมือนกับลำโพงแยกชิ้นน่ะครับ เหมือนลำโพงบ้านหลายทาง มีไดรเวอร์หลายตัว ข้อดีคือตอบสนองย่านความถี่ได้กว้าง เพราะแบ่งงานกันทำ ตัวไหนออกแค่ย่านทุ้ม กลางแหลมก็รับไป ทำงานแค่ย่านความถี่ตัวเอง

แต่ข้อเสียก็มี ไม่ใช่ไม่มีนะครับ

ข้อเสียคือ ใส่ไดรเวอร์ไปเยอะๆ ก็ต้องใช้วงจรตัดแบ่งย่านความถี่ที่ซับซ้อน ทำให้อิมพีแดนซ์มันแปรปรวนไปตามสัญญาณที่เข้ามามาก ทำให้ขับยากกว่าพวกใช้ดอกเดียว ต้องใช้วงจรภาคขยายที่ออกแบบมาดีๆ ถึงจะรีดประสิทธิภาพออกมาได้หมด แล้วก็ ถ้าออกแบบวงจรตัดแบ่งความถี่ไม่ดี เสียงทุ้มกลางแหลมมันจะไม่กลืนกัน ไม่ราบรื่นเป็นธรรมชาติเหมือนพวกดอกเดียนวครับ (แต่พวกเดียวมันจะตอบสนองย่านความถี่ได้ไม่กว้างเท่า)

ปัจจัยที่จะทำให้พวก BA เสียงดีคือ 1. ไดร์เวอร์มันต้องดี 2. ต้องจัดวางให้ดี จูนเสียงให้ดี 3. วงจรตัดแบ่งความถี่ต้องคำนวณมาดีจริงๆ เสียงถึงจะราบรื่นเป็นธรรมชาติ 4.คุณภาพเสียงขึ้นอยู่กับคุณภาพของภาคขยายมากกว่าพวกดอกเดียว

ส่วนพวกไดนามิกซ์ไดรเวอร์นั้น ถ้าเป็นพวกดอกเดียว ข้อดีออกแบบง่ายกว่า ทำงานแบบฟูลเร้นจ์ ให้เสียงเป็นธรรมชาติกว่า (ส่วนใหญ่จะขับง่ายกว่า) แต่จะตอบสนองย่านความถี่ได้แคบกว่าพวก BA หลายดอกครับ

ขึ้นอยู่ที่การออกแบบและการจูนเสียงด้วยครับ ปัจจัยนั้นมีหลายอย่างนอกจากจำนวน driver
ยกเว้นเเบรนด์เดียวกัน เเต่ไดรเวอรืต่างกันส่วนมากรุ่นสูงกว่า จะให้รายละเอียดที่ดีกว่าครับ

ผมว่าซี่รีย์ใหม่ A1-3 sony จูนให้ flat ลงหน่อยนะ เบสไม่เยอะเท่าซี่รีย์ H ส่วน BA ก็ต่างกัน น่าจะคนละตัว
เพราะฟัง c10 กับ H2 เสียงกลางแหลมใกล้เคียงกันมาก ไปเทียบกับ BA ตัวใหม่ xba-100 หรือ ซี่รีย์ A ออกจะต่างกันพอควร

ส่วน BA Tweeter เคยใช้ XBA-3 แหลมทะลุทะลวงหูมากเลยไม่เอา 55 แต่ตัว A2-A3 ก็ไม่เสียดหูเท่าไรนะ

ผมแนะนําเปัน hybrid นะครับ
มันจะสามาดแยกชิ้นดนตรีได้ดีกว่า และ ให้เสื่ยงย้านตํ่านุ้มนวนกว่า
ส่วนใหย่คนที่ใช้ไดนามิกนั้นจะชินกับเบส
แต่ครั้งแรกที่ฟัง ba จะรู้สืกว่ามันเสื่ยงดีมากมีชีวิดชีวา แต่ฟังไปนานฯจะรู้สิกว่าเบสนั้นค้อนค้างน้อยและไม้มีคุณพาพเท่ากับไดนามิก
ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสย แนะนําให้ไปเทสของจริงครับ ว่าชอบอบไหน และให้ดูว่าเรารับจุดดีเสยได้ไหมครับ

@paopy2iiam

ขออนุญาตแก้ไขนะครับ XBA-H2 มี BA เป็น Full range กับ Dynamic 13 มม.เท่านั้นครับ

ส่วนคำถามที่เจ้าของกระทู้ถาม การมีจำนวนไดร์เวอร์มาก ๆ ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าเสียงของหูฟังจะเป็นอย่างไรนะครับ เพราะมันมีปัจจัยอื่น ๆ อีก สิ่งที่ดีที่สุดคือการไปลองฟังตัวจริงหรือหารีวิวอ่านเป็นรุ่น ๆ ไป จะดีที่สุดครับ

@at1987
ขอบคุณครับ
ผมสับสน H1

ไปลองฟัง XBA A1 สิ
แล้วจะชอบ (มั้ง)

อย่าเรียกว่า อัพ เลย มันอาจจะดาวน์ก็ได้ เอาเป็นว่าหาเสียงที่ตัวเองชอบให้ได้ก่อนว่าต้องการแนวไหน หรือว่าต้องการ หูฟังที่เสียง balance มากๆ แล้วไปลองฟังของจริงดู อย่าไปอ่าน spec มาก สำหรับ BA ล้วนถ้าคนชอบ bass อย่างน้อยก็ต้อง 4 drivers ขึ้น