Input มีครบๆอย่างที่สุดครับทั้ง USB , Coax , Optical ,AES , Sdif ,XLR , RCA

ส่วน output นั้นก็มีทั้ง Headphone 6.3 mm. out , XLR , RCA

สามารถใช้งานได้หลาย Feature ทั้งเป็น
-Pure DAC
-Pure Hedphone Amp
-Pre out
-Dac/Headphone Amp

และนอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานด้วย Apple Remote ได้โดยตรงเลยครับ ซึ่งก็จะมีให้ในเเพ็คเกจตั้งเเต่เเรกเลยครับ

พอลองฟังปุ้บก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยเเม้เเต่น้อยด้วยครับ ไม่ว่าทั้งภาค DAC ที่ฟังปุ้บก็รู้เลยว่าเป็นเสียงที่ได้จาก DAC ระดับ Hi-end และที่น่าตกใจและเหนือความคาดหมายมากๆ จะเป็นในส่วนของ Headphone Amp ที่ให้เเรงขับสูงแบบเหลือเชื่อ เพราะสามารถขับหูฟังที่ขับยากที่สุดอย่าง Hifiman HE6 ได้แบบหมดจด ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ขับหูฟังทั่วไปได้ทุกรุ่นนั่นเองครับ

โทนเสียงคร่าวๆนั้นจะเป็น DAC/Amp ให้เสียงที่เป็นกลางและบาลานซ์โดยรวมยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เวทีเสียงด้านลึกมีความเป็นสามมิติสูงมากๆ เนื้อเสียงมีความฉ่ำและมีมวลเสียงที่สำผัสได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญยังให้น้ำเสียงที่ลื่นไหล เรียกได้ว่า over all สุดๆเลยทีเดียวครับ ใครที่ชอบเสียงสใตล์แบบ Studio reference ที่ให้เสียงปรุงเเต่งน้อยแต่ให้รายละเอียดสูงๆ แนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ

เท่าที่ทดสอบเบื้องต้นกับ LCD3 , HE560 , HE6 , HD800 , K812 ล้วนฟังได้ดีกับ DAC/Amp ตัวนี้ได้ดีแบบเหลือเชื่อเลยครับ เพราะปกติเเล้วเเทบจะหา DAC/Amp ที่เเมชชิ่งหูฟังได้ง่ายและครบๆแบบนี้เป็นไปได้ยากมากๆครับ

เอาไว้ทดสอบรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมได้ครบถ้วนเเล้วจะมาอัพเดทเพิ่มเติมครับ Manhattan นั้นมีราคาอยู่ที่ 200,000 บาทครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Mytek Manhattan

- Conversion: 32bit PCM up to 384k, DXD, DSD-DS-DSD256 (11.2 MHz)

- Dynamic Range: 130dB (ESS Sabre chipset in 8 mono to 2 stereo config.)

- Femtoclock Internal Clock Generator (lps jitter.) Wordclock In and Out, or sync to incoming digital audio input with JET (tm) PLL. Time Domain Jitter Eliminator

- Headphone Amp: High Current, High Slew Rate ultra low distortion 1600mA Hi-Fi dual mono design, 0.25 Ohm impedance with gain selector switch

- Computer Audio Inputs and Outputs: Firewire 400/800 up to PCM 192k/DSD async, USB2.0 up to 384k/DSD256, USB 1.1 up to PCM 96k, driver-less. DSD DOP256 SDIF DSD input, optional SACD optical input ***

- Digital Audio Inputs: SPDIF, AES/EBU, Toslink all up to 192k single wire. DSD-DSD256 SDIF DSD input, optional SACD optical input ***

- Internal Hardware Upsampling to DSD256: Any digital signal can be upsampled to DSD256 for superior DAC chipset performance*

- Internal PCM Hardware Upsampling: 16bit 44.1k etc. can
be optionally upsampled prior to conversion to 192k/24bit.

- Analog Attenuator: Transparent, 1dB stepped programmable, separate for main out and headphones. Or 32 bit digital attenuator or relay bypass of the attenuator can be chosen by user

- Analog Inputs: 2 Unbalanced RCA, 1 Balanced XLR

- Linear Power Supplies, Separate: Oversized 50VA analog, 50VA digital,
Worldwide **

- Firmware updates: online, user downloadable, periodic feature upgrades

- Ability of converting standard digital audio inputs into
computer FW/Thunderbolt input

- Apple aluminum remote (included) and universal remote capable

รุ่นนี้ค่อนข้างใหม่มากๆเลยครับรีวิวจากเว็บต่างประเทศก็ยังไม่มีเลยครับ และมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เยอะมากๆ full review นั้นเดี๋ยวรอพี่หมูหวานมาสริมอีกทีครับ ช่วงนี้จะขอ burn in ไปก่อนครับ

เดี๋ยวตัว Mytek อันนี้ พรุ่งนี้ผมต้องขอลองเทสมั่ง แว่วๆๆว่ามันคือไฮไลท์สำหรับปลายปีนี้อีกตัวนึงเลยครับ ช่วงนี้ร้านมั่นคงหา dac แบบทีมแข็งโป้กเข้ามาเสริมทัพให้ทุกท่านได้เลือกสรรกันเพียบเลยครับ ยังไงผมจะมาอัพเดทให้ทราบอีกทีโดยด่วนเลยจ้าๆๆๆ

DAC ตัวนี้น่าจะฟังก์ชั่นครบที่สุดในยุคนี้แล้วครับ เสียงนั้นเหนือกว่ารุ่นน้องอย่าง Stereo 192DSD ไปไกลอย่างไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ เพราะว่ารุ่นน้องก็ทำไว้เสียงดีอยู่แล้ว คือเจ้า Manhattan DAC ให้ความชัดเจนของชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นแบบแม่นยำ ตำแหน่งและมิตินั้นไปไกลสุดๆครับ แถมยังได้เรื่องความเข้มข้นของเนื้อเสียงเติมเข้ามาด้วย ทำให้ให้ฟังเพลงสนุกมากๆๆครับ

DAC ตัวนี้ฟังก์ชั่น และลูกเล่นเยอะมากมาย เตรียมรออ่านรีวิวกันให้ดีนะคร้าบบ
รับรองว่าอ่านไปน้ำลายไหลไปด้วยแน่ๆๆจ้าาา 5555

สงสัยราคาไปไกลสุดเอื้อม

ราคาอยู่ที่ 2แสนบาทครับ ระดับพี่ตอยคงไม่ต้องเอื้อมครับ แค่ดีดนิ้วก็ได้เจ้า Manhattan DAC เดินตามกลับไปฟังบ้านแล้วล่ะ 5555

ที่น่าทึ่งคือที่ขับ HE-6 ได้หมดนี่แหละครับ

ใช้ขับ HE-6 ต้องเร่งเสียงที่ระดับไหนครับ

@Inthesky เจ้า Manhattan DAC ขับ HE-6 เปิด Gain ไปที่ +6dB เปิด Volume ประมาณ 80-90% ครับ เปิดเยอะหน่อย แต่เพี๊ยนต่ำครับ เพราะเป็นระบบ Control Volume ด้วยดิจิตอลอย่างดีคร้าบบบ

ปัจจัยอยู่ที่ไฟล์ต้นทางด้วยครับ ถ้าเป็น DSD บางอัลบั้ม หรือเพลง 24bit ที่เป็นพวก Classic เสียงจะเบากว่าปกติอยู่เเล้วครับ อาจจะเร่งถึง 90 % ครับ เเต่เรื่องความเพี้ยนนั้นไม่มีเลยครับ

เเต่ถ้าเป็น 24 bit หรือ 16 bit ทั่วไป บางเพลงเร่งเเค่ 70-80 % ก็เสียงดังมากๆเเล้วครับ สำหรับ Hifiman HE6 ครับ

พี่หมูแน่ใจนะว่า 2แสน ไม่ใช่ แสน2

วันนี้ช่วงเย็นผมได้ทดลองฟังที่เรือธงไปหน่อยนึง เป็นไปตามคาด คือสอบผ่านเรื่องกำลังขับก่อน วันนี้ลองกับ HE560 ปรากฏว่ากระเด็นหวือ คือขับได้เกลี้ยงเกลาดีมาก โวลลุ่มดิจิตอล ที่ไม่มีเรื่องตีนต้นหรือตีนปลาย กำลังขยายเร่งขึ้นไปตามมือที่หมุนไปเรื่อยๆโดยปราศจากความพร่าเพี้นหรือดิสทอร์ชั่นในช่วงความดังสูงๆ

เสียงออกแนวออดิโอไฟล์เต็มตัว ใครที่ชอบฟังรายละเอียดการบันทึกที่ดีมากๆ หรือชอบฟังความต่อเนื่องลื่นไหลที่ดีมากๆจากไฟล์ Hires หรือ DSD น่าจะหนียาก เพราะว่าเจ้า Mytek ออกไปทางแนวจะแจ้ง แจกแจง และเก็บรายละเอีดยครบๆทุกเม็ด ความกระจ่างใส เนื้อเสียง รวมถึงสเกลเสียงนั้นเหมือนฟังลำโพงใหญ่ๆอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ

ผมว่าคนเล่นเครื่องเสียงบ้านชุดเป็นล้านๆ บางทีอาจจะไม่เคยได้ยินรายละเอียดเล็กๆน้อยๆจากอัลบั้มที่ตัวเองชื่นชอบมาก่อน แต่ถ้าจับเจ้า Manhattan แมทชิ่งกับหูฟังดีๆ เติมสายสัญญาณดีๆ ผมว่าถ้าเทียบเป็นซิสเต็มเครืองเสียงบ้านแบบไฮเอนด์ ผมว่าชุดนี้อาจจะต้องเปรียบกับระดับหลัก 3-5 ล้านขึ้นไป (อันนี้ต้องบอกว่าเป็นการเปรียบเทียบในใจนะครับ)

ลองไปฟังดูครับ ตอนนี้เจ้าหลุยส์เซ็ทรอไว้ให้ทดสอบฟังแล้ว ใครชอบพวกรายละเอียด อิมแพ็คดีๆ ความตื้นลึกดีๆ และฟังไฟล์ความละเอียดสูงเป็นหลัก ลงทุนครั้งเดียวแล้วจบเลย ผมว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเช่นกันครับ 555

@พี่ตอย วันไหนว่างๆลองแวะมาฟังก่อนได้ครับพี่ เป็นแฟนของค่าย Mytek อยู่แล้ว ต้องมาลองฟังตัวนี้ให้ได้เลยจ้าาา ^^

ขอเป็นของขวัญปีใหม่นะ

เทียบกับ ayre qb-9 dsd ต่างกันไงบ้างครับ
ขอบคุณครับ

@พี่ตอย หมายถึงพี่จะซื้อให้ผมใช่ไหมเอ่ยยย ขอบคุณล่วงหน้าคร้าบบบ 555

@หมอเอฟครับ
ตัว Manhattan เนื้อเสียงจะเข้มข้น และชัดเจนครับ ตำแหน่งและไทม์มิ่งดีมากๆ ส่วน Ayre QB-9DSD จะเด่นเรื่องมิติที่กว้างโล่ง ฟังเนียนสบายๆ ฉากหลังนิ่งดีครับผม

ถ้า เอา Master Clock จิ้ม ตูด ไปอีกชั้น.....สังสัย(ฟังหันจน) ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนกันหละ ๕๕๕

Manhattan ก็มี FEMTO clock ในตัวแล้ว...
ใส่ 10M ได้ไหนเนี่ย

ในตัวเค้าใส่ 100M มาให้แล้วครับ ซึ่ง Chip ESS Sabre MCLKs เค้าว่าต้องใส่ 80MHz -100MHz เสียงจะแจ่มมากครับ

Femto clock ไม่เคยเห็นมีใน Mainstream DAC เลยนะครับ
คงต้องรอลุ้นให้พี่วัฒน์จับใส่ในจิ๋วจี๊ด น่าจะดีเนอะ.....

ใครที่เล่นหูฟัง HE6 และยังโหยหาแอมป์ดีๆที่ขับมันได้อยู่ ผมอยากให้มาลองฟังคู่กันกับ Manhattan จริงๆครับ และถ้าถึงขั้นขับหูฟัง HE6 หมดจดแล้ว พวก Planar ตัวอื่นๆในท้องตลาดถึงกับกลายเป็นเรื่องขี้เล็บไปเลย เพราะเจ้า Mytek Manhattan นั้นคอนโทรลได้แบบอยู่หมัด 555

ลองไปฟังได้เลยครับ ตอนนี้ผมมี Mytek Manhattan มาจำนวน 5 ตัวก่อนครับ และเจ้า DAC-AMP ตัวนี้ ผมถือว่าเป็นโคตรไฮไลท์ของปลายปีนี้ถึงปีหน้าเลยครับ ด้วยความที่เนื้อเสียงเข้มข้น ฟังสนุก เอาจริงเอาจัง ไร้อาการป้อแป้อ่อนแรงให้ได้ยินกันจริงๆ คอออดิโอไฟล์พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ 555

แรงขับสักกี่วัตต์ที่ 50 ohm ครับเฮีย

Manhattan ก็มี FEMTO clock ในตัวแล้ว...
ใส่ 10M ได้ไหนเนี่ย

...... 10M สำหรับ เสียบ ตูด Word in(Master Clock) อีกทีนี่ครับ น้าทอมมี่
ถ้าไม่มีอะไร ทางมายเท็ค คงไม่ทำ ช่อง WS in / Out มาให้แน่


Femto clock ไม่เคยเห็นมีใน Mainstream DAC เลยนะครับ
คงต้องรอลุ้นให้พี่วัฒน์จับใส่ในจิ๋วจี๊ด น่าจะดีเนอะ.....
..........ทำเล่นแนวไฮเรสไม่น่าจะคุ้มเท่าซื้อครับ หมอเอฟ แต่ถ้าทำเล่นแนวทางโบราณๆ ไม่แน่จร้า

@คุณหมอเอฟครับ
ตอนนี้ทาง Mytek ยังไม่ได้แจ้งสเปคกำลังขับของภาค Headphone Amp อย่างเป็นทางการเลยครับ แต่จากที่ลองเล่นกับหูฟังอย่าง Sennheiser HD800, Hifiman HE560 HE6 หรือ Audeze LCD-X ปรากฎว่าสามารถขับได้อย่างสบายๆครับ อาจจะต้องเร่ง Volume ดังหน่อย ประมาณ 80% แต่เสียงยังไม่มีอาการพร่า หรือเพี๊ยนเลยครับ อันนี้คือผมเปิด Gain ของภาคแอมป์หูฟังไว้ที่ 0dB นะครับ ถ้าโยกไป +6dB นี่เปิด Volume น้อยลงกว่าเดิมอีกจ้าาา

^^ถ้าทราบสเปคแรงขับ รบกวน update เล่าสู่กันฟังด้วยนะครับคุณหมูหวาน

@พี่หมอเอฟครับ
ถ้ามีสเปคแล้วจะเอามาอัพเดทให้ทราบกันครับ ตอนนี้ Manual ของ Mahattan ทาง Mytek ยังไม่มีให้โหลดเลยอ่ะ แต่เรื่องการใช้งานต่างๆนั้นจะคล้ายกับรุ่น Stereo 192DSD แทบทุกอย่าง ยกเว้นการเชื่อมต่อที่เพิ่มเข้ามาอีกหลายจุดครับ แต่เรื่องเสียงนี่ดีกว่ารุ่นน้องไปเยอะมากๆเลยล่ะจ้าา

ภาพของ Audio device ของ Mytek Manhattan ที่แสดงผลการรองรับไฟล์เพลงได้สูงสุดไปจนถึง DSD128 เลยครับ

วันนี้มีลูกค้าจากเเดนใกลมอบตัวให้กับ Mytek Manhattan เเล้วครับ
ทางร้านก็เลยเเกะเช็คและเปิดเบิร์นอินไว้ให้ก่อนส่ง ตามความต้องการของลูกค้าครับ
เพราะช่วงนี้ติดวันหยุดยาวพอดีเลยครับ

หูฟังXlr เสียบตรงไหนครับ และแรงจะดีขึ้นกว่าไหมครับ
มีpromotionไหมตัวนี้ครับ อยากเล่นตัวเดียวจบ...ครับ
ลองปล้วยอมรับว่า รายละเอียดดีจริง ครับ แต่ชอบพลังแรงๆมากกว่านี้ อีกนิดครับ แต่โดยรวมแล้ว โดนใจมาก..ยกเว้นราคา..อืมมม สุโก้ย..

เอาlcd3สายsilver dragonไปเสียบฟังเกือบชั่วโมง เหมือนยังเบิร์นไม่ได้ที่นะครับ
เสียงดี อิ่มมีมวล มิติ ซาวน์เสตจดีมาก แต่มันชัดไปหมดทุกอย่าง พวกชอบหลอดอย่างผมฟังแล้วดีมาก
แต่ไม่ถูกจริต ฟังแล้วมีเครียดเล็กๆ ไม่ค่อยอินไปกับเพลงที่ฟังอยู่ เบิร์นเสร็จน่าจะดีกว่านี้มาก
ถ้าผมเอาตัวนี้จะเอาไปต่อกับแอมป์คลาสเอ ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ที่พี่ COLO1 ลองฟังเมื่อวานน่าจะผ่านภาคเเอมป์ของ Manhattan เพียงอย่างเดียวครับ
ซึ่งเจ้า Mytek Manhattan ความสุดยอกมันอยู่ที่ภาค DAC ครับที่ทำเสียงออกมาได้เป็นกลาง และไหลลื่นมากๆครับ ส่วนภาคแอมป์จะไม่ค่อยมีคาเเรคเตอร์เสียงเท่าไหร่ แต่ให้เรี่ยวเเรงเเละเเรงขับที่ดีมากๆครับ พอฟังทั้งสองอย่างรวมกันถือว่าลงตัวสุดๆเลยครับ

ส่วน output headphone นั้นจะมีเเต่ช่อง 6.3 mm. เพียงสองช่องเท่านั้นครับ ไม่มี XLR output ครับ

รีวิวล่าสุดของคุณหมูหวานคลอดแล้วนะครับ รออ่านได้ในเว็บบอร์ดนี้เลยจ้าๆๆๆ 555

ขอบคุณครับหลุยส์

หลุยส์มี Ultrasone Edition 12 อยู่ที่ร้านไหม
คืออยากจะรู้ว่าเสียงของเจ้า manhattan มันจะลงตัวกับ Ultrasone Ed 12 หรือเปล่า
ผมเห็นร้านแถวบ้านผมเอา 2 ตัวนี้มาเข้าเซ็ทกันแต่ยังไม่มีเวลาไปฟังเสียงเลย
ตอนนี้ใจร้อนอยากจะรู้จริงๆจ้าาาาา ^^

EDi12 ทางร้านไม่ได้สั่งรุ่นนี้มาเลยครับ
แแต่กำลังสั่ง pro Series รุ่นใหม่เข้ามาในเร็วๆนี้ครับ