ทาง B&O นั้นได้มอบหมายให้ Steve McGugan ดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอีกคนเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โดยได้ยึดหลักการออกแบบให้ดูคล้ายกับรุ่น “U70” ที่เป็นหูฟังรุ่นแรกของทาง B&O เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดว่านี่คือดีไซน์ที่สืบทอดมาจากหูฟังเมื่อ 25 ปีที่แล้วก็คงไม่ผิดนักล่ะครับ

ตัว FORM 2i นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเพลิดเพลินระหว่างที่ขี่จักรยาน เดินเล่นในสวนสาธารณะ หรือจิบชายามบ่าย เป็นหูฟังที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง สัมผัสแรกที่ผมรู้สึกได้เลยคือ “เบา” ครับ มันเบามากจนกลัวว่าจะปลิวไปตามลมหรือเปล่า จากสเป็คนั้นบอกว่ามีน้ำหนักเพียงแค่ 90 กรัมเท่านั้นเอง ! จ๊ากกก เบามาก ๆ ล่ะครับผม !

FORM 2i นั้นเป็นหูฟังออนเอียร์ (แปะหู ไม่ครอบ) แบบ Semi-Open ที่ใช้ Driver แบบ Dynamic นั่นเองครับผม โดยในจุดที่เชื่อมระหว่างบอดี้กับตัวไดรเวอร์นั้นสามารถบิดไปมาได้โดยรอบ ทำให้เวลาสวมใส่นั้นเจ้า FORM 2i จะสามารถปรับให้เข้ากับใบหูของเราได้อย่างสบายเลยล่ะครับ

ตัวหัวแจ็คนั้นก็เป็นแบบตรง และมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถนำไปเสียบผ่านเคสของโทรศัพท์มือถือได้ง่ายมากครับ ไม่ต้องมาลำบากเปลี่ยนเคสกันอีก

ตรงสายด้านซ้ายนั้นจะมีคอนโทรลทอร์คไว้ด้วยครับ สามารถกดรับคุยโทรศัพท์ หยุดเพลง-เล่นเพลง เปลี่ยนเพลง และปรับเพิ่ม-ลดเสียงได้เลยครับ โดยจะรองรับกับอุปกรณ์ iOS ทุกตัว ถ้าหากเป็นอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ Android ก็จะไม่สามารถปรับเพิ่ม-ลดเสียงได้ครับ

ตัวก้านเลื่อนนั้นทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่นอกจากจะให้น้ำหนักที่เบาแล้วยังแข็งแรงทนทานอีกด้วยครับ

จะเลื่อนเข้าเลื่อนออก ก็ทำได้สบายครับผม ไม่มีอาการฝืดเคืองหรือว่าหลวมโครกให้เห็นแม้แต่นิดเดียวครับ เรียกได้ว่าทาง B&O ทำการบ้านในจุดนี้มาได้ดีมากครับผม

ในส่วนของด้านในก็จะเห็นได้เลยว่ามีการยึดน็อตไว้ตรงบอดี้ถึง 4 จุด ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเสริมในเรื่องของความแข็งแรงทนทานล่ะครับ และข้างในก็จะมีตัวหนังสือบอกด้านซ้ายและขวาบอกเอาไว้อย่างชัดเจน

มาพูดถึงเรื่องเสียงกันบ้างนะครับ โดยเพลงแรกที่ผมนำมาเทสก็คือเพลง Get It Right โดยจุดเด่นของเพลงนี้จะอยู่เสียงร้องอันหวานฉ่ำและทรงพลัง ... ก็ต้องขอบอกเลยครับว่า FORM 2i ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เสียงกลางของนักร้องที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา ผสมปนเปกับความโศกเศร้าที่สื่ออยู่ในอารมณ์มันชวนให้ผมต้องหลับตาพริ้ม ปล่อยให้เสียงดนตรีที่พากันผุดขึ้นมาโดยไม่ไปกวนเสียงร้องหนุนนำชักพาผมเข้าสู่บทเพลง ปลายแหลมที่พริ้วเนียนลากยาวเป็นธรรมชาติอย่างไร้สากเสี้ยนพาลให้ผมขนลุก เวทีเสียงที่กว้างขวาง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงเครื่องดนตรีที่วางอยู่คนละตำแหน่งอย่างชัดเจน และเสียงย่านต่ำอย่างเบสที่มาในปริมาณที่พอเหมาะพอเจาะกำลังดี ไม่รุกเร้าจนทำให้เสียอารมณ์

มาคราวนี้ลองกับเพลงสบาย ๆ อย่างเพลง Lucky กันบ้างครับ ซึ่งเปิดเพลงมาด้วยเสียงกีต้าร์ที่นุ่มนวล ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องคู่ชายหญิงที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เสียงของนักร้องทั้งสองต่างโดดเด่นและสนับสนุนซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี เป็นอีกเพลงที่ทำให้ผมประทับใจกับเจ้า B&O FORM 2i อยู่มากโขล่ะครับ ต้องยอมรับจริงๆว่าทาง B&O ได้สร้างสรรค์หูฟังที่เหมาะกับ Music Lover ขึ้นมาได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว

ผ่านไปแล้วสองเพลงผมก็มาลองกับเพลง Anime อย่าง Musouka ดูบ้าง ซึ่งเป็นเพลงที่ผมชอบมากอีกเพลงครับ เสียงเครื่องดนตรีสังเคราะห์มากมายผุดขึ้นมาโดยไม่ไปกวนเสียงร้องที่โดดเด่นพุ่งขึ้นมา เสียงปลายแหลมพริ้วเนียนเป็นธรรมชาติ เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันลงตัวไปหมด โดยสรุปแล้วนั้น เจ้า B&O FORM 2i เป็นหูฟังที่เหมาะกับผู้ฟังประเภท Music Lover มากกว่า อย่างพวกเพลง Pop, Acapella, Jazz, Classical นั้นเจ้าตัวนี้ทำได้ดีมากๆครับ แต่อาจจะไม่เหมาะกับเพลงที่ต้องการมวลเบสเยอะ ๆ อย่าง Hip-Hop หรือว่า EDM สักเท่าไหร่นัก

ส่วนด้านล่างนี่ก็เป็นสเป็คของเจ้าตัวนี้เลยจ้า !

Dimensions : 156 mm x 157 mm x 40 mm
Weight : 90 g
Headphone Principle : Dynamic, Semi-Open
Frequency Range : 20 Hz – 21000 Hz
Colors : Black, White, Red, Green, Blue, Grey
Designer : Steve McGugan

วันนี้ก็ขอลาไปก่อน ~ ไว้พบกันอีกครั้งรีวิวหน้านะคร๊าบบบบบ :)

แฟนคลับ เอลวิส เข้ามาชูป้ายไฟให้ครับ

เอลวิส เอลวิส เอลวิส!!!!

อ้าว ไม่ใช่ ต้องเชียร์ B&O 2i สิเนาะ...

โอ้ววว รีวิวดีมากครับ คงต้องขอไปลองฟังซักครั้งละ

เข้ามาเชียร์ B&Oครับผม

พี่Tangkoo : ขอบคุณครับพี่ 555+

พี่เหน่งบา : ได้ทั้งสองครับพี่ 555 ขอบคุณมากครับ

พี่อ่าง : ขอบคุณครับพี่อ่าง เป็นรีวิวแรกที่เขียนลงแบบจริงจังเลยครับพี่ ไว้ว่าง ๆ แวะเข้ามาฟังได้นะครับ :)

Tom_Pipley : ผมนี่เชียร์ด้วยคนเลยครับ !

เบาหวิว นี่ รวมถึง กระเป๋าตังค์ ด้วยป่ะครับ
ค่าสินสอด น้องเบาหวิว เท่าไหร่ ครับ?
เห็นนามสกุล B&O ซะด้วย คริ ๆ

Ace of Hearts : ตัวนี้ราคาไม่แรงคร๊าบ อยู่ที่ 6,900 บาทน่ะครับผม :)

เทียบกับ พี่น้องสองศรี นามสกุล Sennhi...ที่สินสอดถูกกว่าเยอะ อย่าง px100ii กะ 200ii อันไหนคุ้มกว่าครับ?
รึว่า ต้องเทียบกะ on ear น้อง Urban... รึ น้อง Mome...ถึงจะสมน้ำสมเนื้อครับ?

อ่าน รีวิวส์ คุณเอลวิส แล้วเคลิ้ม เอนเอียง กะน้องเบาหวิว จริง ๆ เอวบางร่างน้อย น่าทะนุถนอม คริ ๆ
ยังติดใจ รีวิวส์ Yamaha HP200 ที่รีวิวส์ไว้ ด้วยนะครับ แต่ยังไม่โอกาส ได้ไปลองฟัง
แบบว่า เห็นเปลือยหลังสวย ๆ เมื่อไหร่ ใจมันเริ่มละลาย ไม่รู้เป็นไร อิ ๆ

Ace of Hearts : ผมว่าแนวเสียงไปคนละแบบมากกว่าครับ น้องตั้ม (Momentum) จะได้พวกเนื้อเสียงที่แน่นหนากว่าครับผม แต่ FORM 2i จะได้ความโปร่ง โล่ง ฟังสบายกว่าน่ะครับผม ไว้ว่าง ๆ แวะมาฟังดูก่อนได้เลยนะครับผม >____<

ขอบคุณครับ เพิ่งถ้าปิดงบสิ้นปี แล้วพอมีงบเหลือ สัญญากับน้องชาย ปีใหม่ว่าจะหา ออนเอียร์ ที่ราคาย่อมเยา เสียงพอได้มาตรฐานในการฟังเพลง สำหรับการเริ่มต้นที่ดี ไปให้สักตัว จริง ๆ มองแค่ ระดับราคา PX100Ii รึ 200 II ไม่ก็ PortaPro นี่แหละครับ น้องเบาหวิว น้องเออร์บานี่ น้อง Tum คง
แต่ถ้า ปิดบไม่ลง คงต้องแบ่งจากที่มีอยู่ ให้ไปใช้ก่อน แล้วค่อยหาซื้ออันใหม่ไปไถ่คืนมาครับ
แต่ยังอยากไปฟัง Yamaha hp200 ชอบรูปร่างหน้าตาด้วยครับ ตามที่คุณเอลวิส รีวิวส์ไว้ เห็นแว่ว ๆ ว่า เป็น กราโด คิลเลอร์ (รุ่นเล็ก ๆ)และเห็นว่า Discontinued แล้ว ที่พารากอนยังมีให้ลองไหมครับ

ฟองน้ำสี่่เหลี่ยมรุ่นนี้มีขายไหม? ราคาเท่าไหร่ครับ

ฟองน้ำสี่่เหลี่ยมรุ่นนี้มีขายไหม? ราคาเท่าไหร่ครับ