จุดริ่มต้นของ Geek out ตัวนี้ LH Labs ได้นำไปโปรโมทระดมทุนไว้ในเว็บ Kick Starter (เว็บไซต์ระดมทุน project ชื่อดังของต่างประเทศ ที่ช่วยให้สินค้าดีๆหลายๆรุ่นเกิดขึ้นจริงได้ จากการ นำเสนอข้อมูล และหากลูกค้าสนใจก็จะช่วยให้ทุนในการผลิตสินค้าขึ้นมาจริงๆ ) ซึ่ง Geek out ตัวนี้ถือว่าดังมากๆในช่วงนั้น เพราะสามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ และปิดยอดเงินอยู่ที่ $303,061 เลยทีเดียวครับ

ส่วนแบ็คกราวด์ของ LH Labs นั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียวเพราะก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต “Da Vinci DAC “ Dac ระดับไฮเอนด์ ที่มีราคาสูงถึง $30,000 เลยครับ

ในส่วนของ Geek out นั้นจะมีรุ่นย่อยอยู่หลายรุ่นตามแยกกำลังขับได้แก่

Geek out 450
Geek out 720
Geek out 1000
Geek out IEM100

ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีกำลังจับที่ต่างกันตามตัวเลขของรุ่น และยังมี impedance out put ที่ต่างกันอยู่นิดหน่อยครับ เพื่อที่จะได้สอดคล้องกับหูฟังที่ในท้องตลาดมีความหลากหลายมากๆ ณ. เวลานี้

Geek Out ก็จะมาพร้อมแพ็คเกจเป็นกล่องกระดาษ ไซส์ไม่ใหญ่มากและข้างในก็จะมีอุปกรณ์
ดังนี้ครับ

-Geek Out DAC
-สาย USB Adaptor
-ถุงผ้ากำมะหยี่

Geek Out นั้นมีขนาดที่จัดว่าเล็กมาก (มีไซส์ขนาดพอๆกับ flash drive 2 ชิ้น) วัสดุของตัวเครื่องนั้นจะเป็น อลูมิเนี่ยม งานประกอบทำได้ออกมาเรียบร้อยสมบูรณ์และได้มาตรฐานมากๆครับ

ด้านหน้าของตัว DAC นั้นจะมีไฟ LED 7 ดวงบอกถึง sampling rate ของเพลง

ส่วนด้านหลังก็จะมี คู่มือการดูสัญลักษณ์ไฟแบบง่ายๆให้ดูครับ

ด้านซ้ายของ DAC นั้น จะมีปุ่มปรับเสียง + และ – อยู่สองปุ่มครับ และจะทำปุ่ม – ให้มีลักษณะนูนออกมามากกว่า เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการกดโดยที่ไม่ต้องพลิกดูบ่อยๆครับ ถือว่าเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานได้สะดวกมากๆทีเดียวครับ

ส่วนด้านล่างของตัว DAC นั้นก็จะเป็นช่อง output ขนาด 3.5 mm. 2 ช่องตามการใช้งานดังนี้
- Hadphone out 1 ช่อง เอาไว้ใช้ต่อกับหูฟังโดยตรง
- Line out 1 ช่อง เอาไว้ใช้ต่อกับแอมป์เพิ่ม หรือว่าใช้ต่อกับลำโพง

ทีนี้มาดูสเป็คภายในกันบ้างครับว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างครับ

-เริ่มที่ชิป DAC ของ Geek Out นั้นจะใช้ชิปไฮเอนด์รุ่นยอดนิยมอย่าง Sabre 9018 ที่สามารถรองรับไฟล์เพลง 32bit 384 kHz. และยังรองรับไฟล์เพลง DSD128 ได้อีกด้วยครับ ซึ่งน่าจะเป็นสเป็คสูงที่สุดที่ DAC ทำได้ ณ. เวลานี้เลยครับ

Supported bit depths:1, 16, 24, 32
Supported sample rates:44.1 kHz, 48 kHz, 88.2 kHz, 96 kHz, 176.4 kHz, 192 kHz, 352.8 kHz, 384 kHz, 2.822 MHz, 3.072 MHz, 5.644 MHz, 6.144 MHz

ภาคเฮ้ดโฟนแอมป์นั้นเป็น Pure Class A ให้เสียงที่เทียงตรงและเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงให้กำลังขับที่สูงมากๆ(ตามรุ่น) ในส่วนของการใช้งานตัว Geek Out เองนั้นอาจจะร้อนอยู่นิดหน่อย ซึ่งเป็นปกติของแอมป์ประเภทนี้ครับ

ส่วน USB นั้นเป็นแบบ Fully Asychronous USB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ DAC ระดับไฮเอนด์ราคาสูงนั่นเองครับ

มาถึงเรื่องเสียงของ Geek Out กันบ้างครับ ในส่วนของเสียงร้องนั้นมีเนื้อเสียงปานกลาง ไม่หนาหรือว่าบางจนเกินไป ตำแหน่งจะเยื้องมาทางด้านหน้าเวทีเล็กน้อย และให้เสียงร้องที่ฟังแล้วให้ความเป็นธรรมชาติสูง เก็บรายละเอียดพวกปลายเสียง หรือว่าเสียงเอื้อนจากลูกคอได้อย่างครบๆ ตามสใตล์ DAC ที่ใช้ชิปจากค่าย Sabre ครับ

เวทีเสียงถือว่าทำได้กว้างขวางเกินตัวทีเดียวครับ จึงทำให้ฟังแล้วไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย การแจกแจงรายละเอียดชิ้นดนตรีทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะให้ซาวด์ที่คมชัด สมจริง และยังโฟกัสตำแหน่งของชิ้นดนตรีได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะพวกเครื่องสายอย่าง กีตาร์อะคุสติก ที่สามารถรับรู้ได้ถึงการลงน้ำหนักของสายแต่ละเส้นได้อย่างง่ายดาย หรือแม้กระทั่งเสียงจากการกดเปียโนเพียงหนึ่งครั้ง ก็สามารถรับรู้ได้เลยถึงความแตกต่างของเสียงที่กังวานและให้ปลายเสียงที่ทอดตัวได้ยาวจนสุดเสียง

และที่น่าเหลือเชื่อจะเป็นในเรื่องของแรงปะทะ เพราะปกติแล้ว Dac/Amp ที่ให้โทนเสียงจะแจ้งและออกไปโทนสว่างแบบนี้จะให้แรงปะทะที่ไม่มากนัก แต่ Geek Out นั้นมาแบบจัดเต็มมากๆครับ ทั้งอิมแพ็คและแรงปะทะต่างๆของชิ้นดนตรีที่ให้ Dynamic ที่ดีรวมไปถึงเบสที่แน่นกระชับ และมาแบบเป็นลูกๆให้สำผัสได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่ไปรบกวนเสียงย่านอื่นเลยเเม้เเต่น้อย

โดยรวมแล้ว Geek Out นั้นมีคาแรคเตอร์เสียงที่ฟังง่าย ให้ซาวด์ที่จะแจ้งและเรี่ยวแรงดีมากๆ ให้เสียงที่มีความบาลานซ์และครบเครื่อง สามารถฟังเพลงได้ทั้งจังหวะช้า และเร็วได้ทั้งสองแบบ และยังเข้ากับแนวเพลงแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น Classic Jazz Pop หรือแม้กระทั่ง Rock ก็ฟังได้ดียอดเยี่ยมมากๆ

มีรุ่นไหนใช้กับDAPได้บ้างไหมครับ

และส่วนตัวจะแนะนำเป็น

1. Geek out 1000 ให้กำลังขับที่สูงที่สุด สามารถขับหูฟังที่ขับยากมากๆอย่าง Hifiman HE400i/560 , Sennheiser HD600/650 , Audeze LCD3/2 , AKG K701/702/812 ได้แบบสบายๆเลยครับ

2. Geek out IEM100 รุ่นนี้จะมีกำลังขับที่น้อยที่สุด แต่ว่าจะให้เสียงที่ลื่นไหล และแบ็คกราวด์จะนิ่งกว่า ออกแบบไว้เล่นกับหูฟังพกพาอย่าง IEM , CIEM หรือหูฟังที่ขับออกง่ายๆโดยเฉพาะครับ

สุดท้ายเเล้ว Geek out นั้นมีการใช้งานที่ง่ายดาย เพียงเเค่เสียบตัว Geek Out ไปที่ช่อง USB ของคอมพิวเตอรืก็ถือว่าเรียบร้อย
-ในส่วนของ MAC OS นั้นใช้งานได้เลย
-ส่วนของฝั่ง Window สามารถเข้าไปโหลดไดรเวอร์ได้ตามลิงค์นั้เลยครับ
http://www.lhlabs.com/support.html

และยังสามารถใช้งานเป็น DAC/Amp กับมือถือแอนดรอยด์บางรุ่นได้โดยตรงเลยครับ เท่าที่ทดลอง ตระกูล Samsung รุ่นใหม่ๆใช้ได้เกือบทุกรุ่นเลยครับ ส่วนแบรนด์อื่นเดี๋ยวจะหามาเทสเพิ่มเรื่อยๆครับ

ทุกรุ่นนั้นมีราคาดังนี้ครับ
Geek out 450 6990
Geek out 720 8990
Geek out 1000 10900
Geek out IEM100 10500

สามารถเข้ามาทดลองฟังได้ที่สาขา เรือธง ชั้น 3 ห้างอมรินทร์พลาซ่า และ สาขาพาราก้อนได้ทั้งสองสาขาเลยครับ

ใช้ไฟเลี้ยงจาก USB Port และไม่มี Line In แสดงว่าใช้กับ DAP ไม่ได้ซิเนี่ย

ใช้กับ DAP ทั่วไปไม่ได้ครับ

เเต่กับ มือถือแนดรอยด์บางรุ่น และ iphone ใช้ได้เลยครับ
ใครที่ชอบฟังเพลงผ่านมือถือ แนะนำตัวนี้มากๆครับ เปลี่ยนให้เสียงนั้นเทียบเท่า DAP ราคาสูงๆได้ทันทีเลยครับ

อย่างนี้เท่ากับกินไฟจากมือถือผ่าน USB Port โดยตรง งั้นต้องเตรียม Power Bank สำรองด้วย

ปล มือถือเเอนดรอยด์ต่อตรงก็สามารถเล่นได้เลยครับ

ส่วน Apple จะลำบากหน่อยที่ตรงต้องใช้ Hub USB ที่มีเเอดปเตอร์ใช้คู่กันด้วยครับ

ส่วนกับใช้งานได้ดีทั้ง MAC และ Window เลยครับ

ง่ะ มาช้าไปนิด เพิ่งถอย D-zero ไปเอง ตัวนี้ก็น่า ติดตัวพกสะดวกไม่แพ้กัน

เล็กพริกขี้หนู พลังขับเหนือธรรมชาติ จริงๆ

เจ้าตัวจิ๋วนี่เสียงดีแต่ร้อนชะมัด ผมมี 720 สั่งไปตั้งแต่เริ่ม funding ใน Kickstarter

น่าสนใจเอามาต่อกับ iDevice มากๆ คับ

ถ้าเทียบเสียงกับที่ฟังจาก Alo Audio The Key แล้ว ให้ความแตกต่างกันยังไงบ้างครับ

ตอนนี้ มีให้ลองครบทุกรุ่นไหมครับ?

Geek Out นั้นใช้งานได้หลากหลายกว่าพอควรเลยครับ
และมีให้เลือกหลายแบบ ที่สำคัญต่อตรงกับหูฟังได้ดดยตรงเลยครับ ในขณะที่ The Key นั้นต้องต่อเเอมป์เพิ่มเท่านั้นครับ

ตอนนี้ที่เรือธงมีให้ลองครบๆเลยครับ

หมายความว่าถ้าต่อหูฟัง earphone ผ่าน The Key จะไม่ได้ยินเสียงใดๆอย่างนั้นเหรอครับ

ช่ครับ เพราะ the key นั้นมี ompedance output ที่สูงมากๆครับ และออกแบบไว้ใช้ต่อกับเเอมป์เพิ่มเท่านั้นครับ เอาหูฟังไปต่อแบบตรงๆไม่ได้ครับ

ขอบคุณครับ แล้วอย่างรุ่น GeekOut 100IEM สามารถใช้ขับหูฟังที่มีความต้านทานได้สูงสุดซักกี่โอห์มครับ เวลาใช้งานไปนานๆเทียบกับรุนอื่นแล้ว รุ่นนี้ร้อนน้อยกว่าหรือว่ากินไฟน้อยกว่ารึเปล่าครับ

GeekOut 100IEM ใช้ได้ทั้งหูเล็กหูใหญ่ครับ
ถ้าเป็น full size ก้จะขับกับ ATH Grado Sennheiser ต่ำกว่า HD600 เป็นต้นครับ
รุ่นนี้ตัว DAC ร้อนพอควร เเต่ไม่มีผลต่อการใช้งานครับ ถ้าไม่ได้เอามือไปจับก็ไม่มีปัญหาครับ

ถ้า เราซื้อ GeekOut1000 เผื่อไว้ขับหูฟัง FZ ที่ขับยาก ๆ ไว้ ในอนาคต แต่ช่วงระยะแรกเรามีแต่ FZ ที่ขับง่าย อย่าง Grado เนี่ย จะมีผลเสียต่อตัวหูฟังไหมครับ? คุณหลุยส์

ไม่มีปัญหาครับเพราะ โวลุ่มของ Geek out นั้นค่อนข้างละเอียดครับ ผมเทสกับอินเอียร์ก็ยังฟังได้ดีครับผม เพียงเเต่เบสของรุ่น 1000 นั้นจะเเน่นกว่า 100 อยู่หน่อย เพราะออกแบบมาให้เหมาะกับหูใหญ่เท่านั้นเองครับ

เห็น specs บน web บอกว่า ใช้กะ android phone ผ่าน OTG ได้ด้วย
เลยสงสัยว่า ตัว Geekout เค้า มี battery ในตัว รึต้องอาศัย ไฟ จาก คอม รึ มือถือ ตลอดเวลา ครับ

Geek out นั้นใช้พลังงานจาก Source ต้นทางครับ
ถ้าเล่นกับมือถือก็ดึงไฟจากมือถือมาใช้ครับ

คุณหลุยส์ได้ลอง geekout 1000 ขับ lcd3 ยังครับ ผมอยากรู้ว่าขับ subbass ของ lcd3 ออกมาได้หมดมั๊ยครับ
ขอบคุณครับ

ตัว Geek out 450 ถ้าใช้ต่อกับ iphone ต้องเสียบยังงัยบ้างครับ มันจะมีปัญหาไฟเลี้ยงไม่พอรึเปล่าครับ

Geek out 450 เล่นกับ iphone ลำบากมากๆครับ เพราะต้องใช้ Hub USB ที่ต้องเสียบปลั้กไฟตลอดเวลาในการเล่นครับ

ส่วน geekout 1000 ขับ lcd3 ได้ดีมากๆครับ เทสเองกับมือเลยครับ เทียบกับราคาที่จ่ายไปถือว่าคุ้มทีเดียวครับ และรุ่น 1000 จะให้เบสที่เเน่นกว่ารุ่นอื่นด้วยครับ
และขับเบสของ LCD3 ได้ทุ้มเเละลงได้ลึกพอสมควรเลยครับ

น่าตาน่าจัดมาเสียบติดตายกับ Desktop นัก

เทียบกับ NFB-11 เป็นไงบ้างครับ

เทียบกันลำบากเหมือนกันครับ เพราะไซส์ผิดกันเยอะเลย
NFB-11 ภาค DAC out ทำได้ดีกว่า เวทีกว้าง และแยกรายละเอียดดีกว่าครับ

ส่วน Geek Out 1000 ให้ output headphone ที่แรงกว่า แรงปะทะดูดีกว่า รวมไปถึงเบสที่เเน่นกว่าครับ

ตามไปอ่านที่เว็บเจอ geek out soul รุ่นใหญ่น่าสนใจมากมากครับ

Design แบบ dual mono dac-amp มี upgrade ใส่ femto clock ได้ด้วย
ใส่ linear power supply ในตัว
Output 3watt มีให้ทั้ง 6.3mm/4pinXLR
ค่าตัวกำลังสวยประมาณ 1700 USD

ทางเฮียจะสั่งมาไหมครับ ผมว่าน่ามีคนสนใจเยอะนะครับ

เดี๋ยวขอดูอีกนะครับหมอเอฟ ^^

เเต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ครับ

ราคาตามนี้เลยจ้า :)

Geek out 450 ราคา 6990 บาท
Geek out 720 ราคา 8990 บาท
Geek out 1000 ราคา 10900 บาท
Geek out IEM100 ราคา 10500 บาท

geek out soul น่าจะพร้อมขายช่วงปีหน้าครับ สเป็คเเละราคาถือว่าน่าสนใจมากๆครับ
ถ้ามีข่าวเพิ่มเติมจะรีบอัพเดทให้ทราบเลยครับ

มี Geek Pulse อีกตัว ผมสั่งไป 3 ตัวตั้งแต่ Dec.13 & Jan.14 ป่านนี้ยังทำกันไม่เสร็จ เดี๋ยวของมาจะไปฝากร้านเฮียสัก 1 ตัว เผื่อใครๆอยากลองฟังครับ

ป.ล. หน้าตาก็เปลี่ยนไป ตอนสั่งไม่ได้หน้าตาแบบนี้

https://www.indiegogo.com/projects/geek-pulse-ultra-high-def-audio-for-your-desktop

ตอนเริ่ม crowd-funding หน้าตามันแบบนี้ แต่ look ใหม่หล่อขึ้นเยอะ

http://parttimeaudiophile.com/2013/12/12/lh-labs-their-crowd-funded-geek-pulse-and-a-bunch-of-updates/

Geek Pulse ไม่มี linear power supply ในตัว เสียงออกมาเป็นไงมั่งครับคุณทอมมี่
ห่างกับ Vioelectric V281 มากไหมครับ

Geek Pulse ยังไม่มาเลยครับ ได้ข่าวว่าเพิ่งจะเริ่ม ship ออกมา

เรื่องเสียง ผมไม่ได้หวังมาก แค่สั่งมาเล่นๆ คืออยากรู้ว่าจะออกมาเป็นยังไงกับ DAC/headphone amp ราคาแค่เนิ้ย

เจ้าตัวที่ 3 นี่สั่งเพราะมันลดราคา ถัวๆกัน ตัวแรกจะได้ถูกลง 555

ผมว่าใครได้ไปอ่านบรรยายในเวปแล้วเคลิ้ม เผลอสั่งทุกรายแหละครับ ๕๕๕
เอาใจช่วยให้ได้เสียงที่ชอบนะครับ

ทั้งสองรุ่นนี่ (Geek Soul & Geek Pulse) ทาง LH Labs มีเเพลนจะขายต้นปีหน้าครับ
ช่วงนี้จะเริ่มส่งของให้เฉพาะ backers .ให้ครบก่อนครับ

ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าหลังจากส่งให้ผู้สนับสนุนครบแล้ว เขาจะปรับราคาขึ้นอีกเยอะครับ
ถ้าคุณหลุยส์หาทางเอามาได้ช่วงนี้ก็จะได้ราคาที่ดีกว่านะครับ

จริงๆเเล้วพอทราบราคาคร่าวๆเเล้วครับ เเต่เดี๋ยวรอทาง LH Labs ประกาศทางการอีกทีครับ
ราคาขายในไทยก็ใกล้เคียงกับที่ขาย หน้าเว็บเลยครับ

ส่วนตัวสนใจตัว Geek Pulse X มากๆครับ เพราะเท่าที่ดูสเป็คนี่ถือสูงมากๆทีเดียวครับ

ผมขออัพ spec ของ Geek ทุกรุ่นนะครับ เผื่อผู้สนใจจะไม่สับสน

โดยสรุปง่ายๆว่า Geek Soul คือ Geek pulse ที่มี Geek LPS (linear power supply) ในตัว

สาขา พารากอนมีให้ลองไหมครับผม

พาราก้อนก็มีให้ลองครับเป็นรุ่น IEM100 และ 1000 ครับ

Greek out 1000 ขับ HE 560 ออกระดับไหนครับ คุณหลุยส์ munkonggadget

ขับได้ดีเลยครับ ตอนทดสอบยังเหลือ volume อีกพอสมควรเลยครับ

ปรับได้เสียงเต็มๆ ที่กี่นาฬิกาครับ

เปิดประมาณ 80% ก็ถือว่าดังมากๆเเล้วครับสำหรับ HE560 ครับ

Geek out ล็อตใหม่มีของเข้ามาเเล้วนะครับ สำหรับลูกค้าที่จองไว้ก่อนหน้านี้สามารถเข้ามารับที่ร้านใด้เลยครับ

กว่าจะต่อ geekout ให้ iPhone สามารถเล่น Hires ได้