Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิว : หูฟัง Grado Thailand Limited (พระกาฬไทยแลนด์แดนกราโด้)

นายมั่นคง

16/11/2014 23:03:13
4,282



สวัสดีครับทุกๆท่านๆ วันนี้กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวหูฟังที่ตั้งใจว่าต้องเขียนให้อ่านกันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะว่าที่ผ่านมามักจะไปเขียนตอบไปตอบมายืดยาวเรี่ยราดอยู่ในอีกกระทู้นึง ซึ่งคนที่เพิ่งมาอ่านอาจจะตาเหล่หรือไม่ก็เป็นต้อหินซะก่อนที่จะอ่านกันจบหรือครบถ้วน ผมเลยขออนุญาตนำมาเล่าและรวบรวมไว้ในกระทู้นี้เลยนะครับ นั่นไม่ใช่หูฟังตัวไหนทั้งนั้น แต่มันคือ Grado RS-e Thailand Limited จ้าๆๆๆๆ 555

จริงสืบเนื่องมาจากความชอบส่วนตัวของผมครับ ซึ่งผมเองเป็นแฟนค่าย Grado มาสิบกว่าปี และก็มีโอกาสได้ครอบครองหูฟัง Limited ของ Grado อยู่ แต่เป็น Limited ที่จัดทำโดยฝรั่งซึ่งคนไทยอย่างผมก็ไปยื้อแย่งเอามาจนได้ ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่นก็คือ Grado HF-1 และ Grado HF2 ครับ ประกอบกับผมเองเคยมีหูฟัง Grado RS-1 เลขต้นๆ ที่ผลิตออกมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ด้วยความที่ตั้งตนอยู่บนความประมาทก็เลยขายกินไปซะฉิบ 555

Grado RS1 ตัวแรกนั้นถูกผลิตออกมาเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ในปี 1996 และเป็นหูฟังไม้มะฮอกกานีตัวแรกของทางค่าย Grado ในรุ่นแรกสุดนั้นทาง Grado Lab จะผลิตออกมาจำหน่ายพร้อมกับกล่องหูฟังที่เป็นไม้จริง และข้างในบรรจุด้วยหูฟัง Grado ที่มีจุดเด่นตรงที่มีกระดุมไม้กลมๆ บ่งบอกรุ่น RS1 ไว้เจ๋งๆเหน่งๆ อยู่ตรงกลาง นัยว่าเจ้ากระดุมไม้อันนี้ไม่ใช่เพียงแค่สวย แต่มันเป็นตัวจูนเสียง ปิดและบังทางลมเข้าออกเพื่อการหวังผลทางเสียงอีกด้วย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

นายมั่นคง

16/11/2014 23:03:44
4,282



จนมาถึงยุคปัจจุบันผ่านมาหลายปี ผมคาดเดาไม่ถูกว่าทำไมกระดุมไม้ถึงหายไปจากหูฟัง Grado RS1i และเป็นการหายที่หายจ้อยไปเลยนานกว่า 5 ปีมาแล้วครับ แต่ให้ผมเดาเล่นๆ ผมคาดว่าทาง John Grado อาจจะคิดว่ากระบวนการนี้มันวุ่นวาย เพราะต้องมานั่งติดกระดุมอีกขึ้นตอนหนึ่ง และไหนๆ หูฟังในแบรนด์ลูกอย่าง Alessandro MSPro ก็ยังไม่มี ก็เลยทำการ discontinued กระดุมไม้ออกจากตัวหูฟัง RS1i และยังต่อเนื่องมาจนถึง RS1e ก็ยังคงไม่มีอีกเช่นกัน

จนสบโอกาสได้มีการพูดคุยกับทางศูนย์ไทย ผมเสนอไอเดียว่าประเทศไทยน่าจะมีการจัดทำหูฟัง Grado Limited สำหรับประเทศไทยขึ้นมาโดยเฉพาะ และมีการหารือกันหลายรอบ และผมเสนอว่าถ้าหากจัดทำควรจะต้องเลือกหูฟังที่เป็นจักรพรรดิแห่งเพลง Rock นั่นก็คือ RS-1 นั่นเองครับ เราคุยกันหลายยกมากทั้งกับทางศูนย์ไทยและกับทาง Grado Labs ซึ่งในที่สุดก็ลงตัว และเป็นหูฟัง Grado RS1e Thailand 18 Years Anniversary อย่างที่เห็นกันล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

16/11/2014 23:04:10
4,282



และหูฟังที่จัดทำเป็นพิเศษนี้นั้น ผมสั่งทำเพียงแค่ 60 ตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่เข้าพิธีแบบพระเครื่องกันเลยล่ะครับ วันนี้เกริ่นประวัติกันย่อๆ ก็พอนะครับ 555 ในกระทู้นี้จะเน้นไปทางรีวิวให้เห็นว่ามันเป็นอย่างไร และจะมีภาพเปรียบเทียบเล็กๆน้อยๆ ให้ชมกันนะครับ วันนี้รูปภาพกับคำบรรยายอาจจะไม่ตรงกัน เพราะรายละเอียดของรูปทุกแง่มุม มีอยู่อีกกระทู้หนึ่งแล้ว และผมฟังและเก็บข้อมูลและตั้งใจว่าพิมพ์รวดเดียวให้อ่านกันเลยครับ เอ้า เรามาติดตามกันได้เลยจ้าๆๆๆ

เจ้าหูฟัง Grado Thailand Limited ตัวนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Grado RS1e แทบทุกอย่างครับ ตอนที่ตกลงกับน้าจอห์นกราโด้ แกก็บอกว่าไดรเวอร์นั้นอยู่บนพื้นฐานของ RS1e ซึ่งแกพูดชัดเจนเหมือนตอนทำหูฟัง Grado HF1 ซึ่งตอนนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Grado SR225 เช่นกันครับ และถ้าสังเกตุให้ดีๆ เนื้อไม้ในรุ่น e series นั้นมีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวไม้ที่มาทำเฮาส์ซิ่ง ซึ่งทาง Grado Lab เรียกมันว่า Classic Mahogany ซึ่งเท่าที่ผมสังเกตุดู ไม้ที่ใช้ทำใน Grado Limited และ RS1e นั้นมีน้ำหนักที่เบากว่าใน RS1 เดิมๆ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

นายมั่นคง

16/11/2014 23:04:44
4,282



สิ่งที่เปลี่ยนไปในจุดที่สองสำหรับหูฟังตัวนี้กับรุ่นเก่าๆก็คือความสูงของตัวเฮาส์ซิ่ง โดยทางป๋าจอห์นแกออกแบบมิติถ้วยใหม่ครับ การออกแบบให้เฮาส์ซิ่งมีความลึกขึ้นนั้น มันช่วยเพิ่มมวลเสียงต่ำและลดความกร้าวร้าวของเสียงกลางลงครับ และเพิ่มซาวด์วสเตทในทางลึกและทางกว้างได้อีกหน่อยว่างั้น จุดนี้ผมถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ใหญ่มากจุดหนึ่งเลยนะครับ เพราะเป็นการปฏิวัติหูฟังให้มีเสียงที่ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น และผมสังเกตุเพิ่มอีกนิด การวางไดรเวอร์ของตัว RS-1e กับตัว Limited นั้น มีระยะที่ต่างกันเล็กน้อยครับ คือตัว RS1e จะมีตัวเฮาส์ซิ่งส่วนที่เป็นพลาสติกโผล่ขึ้นมาสูงกว่าเล็กน้อย

ซึ่งการวางเฮาสซิ่งในส่วนที่เป็นพลาสติกให้สูงขึ้นมานั้น ไม่ใช่แค่อยากจะให้สูงก็ยกเอาดื้อๆๆนะครับ เพราะว่าทาง Grado labs แก้แบบเรื่องฟองน้ำในรุ่นนี้อีกด้วยครับ คือให้ตัวเฮาส์ซิ่งที่ติดผ้าโปร่งนั้นโผล่จากฟองน้ำขึ้นมาแบบเต็มวง พูดเดี๋ยวอาจจะไม่เข้าใจเพราะไม่เห็นภาพ 555 พูดง่ายๆ ฟองน้ำตรงกลางเค้าทำมีขนาดที่กว้างมากขึ้นครับ เพื่อให้ไดรเวอร์ทั้งหมดอยู่ชิดรูหูมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าไดรเวอร์ส่วนนี้ใกล้หูมากขึ้น เสียงกลาง กลางต่ำ และเสียงต่ำก็จะมากขึ้นอีกนิด แต่ถ้าไดรเวอร์ส่วนนี้ห่าง จะทำให้เสียงโดยรวมโปร่งแต่บาง เวทีกว้างขึ้น แต่ต้องแลกกับเกรนเสียงแหลมที่ฟังหยาบขึ้นเช่นกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

นายมั่นคง

16/11/2014 23:05:08
4,282



ในตัว Grado Limited และ RS1e นั้น ทาง Grado บอกไว้ในเว็บไซต์ว่าได้ใช้โลหะที่แพงทีสุดบนโลก ซึ่งนั่นก็คือโรเดียมมาใช้ในตัวไดรเวอร์เช่นกัน ประมาณว่าทนทานต่อการเป็นสนิมหรือออกไซด์ประมาณนั้นครับ และให้สังเกตุดีๆอีกนิด ไดรเวอร์รุ่นนี้ทาสีแดงไว้ชัดเจน ต่างจากรุ่นเดิมๆ เหตุทีทำแบบนี้เพื่อกันการปะปนกันระหว่างรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าครับ และตัวไดรเวอร์นั้น มีการเจาะรูเพือจูนเสียงที่ดี ซึ่งผมส่องดูก็เห็นว่ารอบๆไดรเวอร์นั้นมีรูรอบจำนวนมากมาย แต่เค้าเปิดรูไว้เพียง 2 รูให้อากาศไหลเข้าออก ซึ่งเค้าบอกว่ามันคือไดรเวอร์ที่จูนเสียงด้วยการเจาะรู แต่ผมเองไม่เห็นมันจะแปลกเท่าไหร่กับการที่ผู้ผลิตบอกข้อมูลเรื่องการเจาะรูล่ะครับ 555

เอ้า เล่าต่อ ข้อดีอีกข้อของ Grado Limited และ RS1e นั้นก็คือเรื่องการแมทชชิ่งไดรเวอร์ครับ จริงๆเค้าก็เขียนไว้ในหูฟัง RS1 ตั้งแต่ปีมะโว้แล้วครับ แต่เค้าก็ตอกย้ำว่ายังคัดกันอยู่ โดยคัดไม่ให้เสียงแตกต่างกันเกินกว่า 0.5 เดซิเบล โดยการวัดผ่านเครื่อง ซึ่งความต่างที่ไม่เกิน 0.5 ต่อให้ใครที่หูดีที่สุดในโลกก็ฟังไม่ออกว่าอันไหนดังกว่า ซึ่งอันนี้เป็นข้อดีมากๆของ Grado labs ครับ และอีกประการเค้าเพิ่มมาอีกว่า สายหูฟังนั้นใช้ตัวนำที่ออกแบบเป็นพิเศษด้วยตัวนำแบบ 8 Conductor (อันนี้น่าจะใหม่ เพราะเดิมๆแค่ 4) และ Grado ยังเลือกใช้ลวดแบบ ULHPC Copper มาทำวอยซ์คอยซ์อีกด้วย อันนี้ยังไม่ทิ้ง ยังรักษาจารีตไว้เหมือนเดิมครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นายมั่นคง

16/11/2014 23:05:44
4,282



มาต่อกันเรื่องเสียงดีกว่าว่าเป็นอย่างไร ผมว่าหลายท่านคงใจจดใจจ่อรอว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ต้องบอกก่อนให้ทราบกันก่อนนะครับ ในขั้นตอนที่แจ้งไปให้ทางป๋าจอห์นกราโด้ไปนั้น ผมถามว่าจะใช้ไดรเวอร์ของอะไร ซึ่งป๋าจอห์นแกตอบมาว่า ตัวลิมิเต็ดตัวนี้ต้องใช้ไดรเวอร์ตัวเดียวกันกับ RS1e ซึ่งถ้าให้แกออกแบบใหม่โดยเฉพาะ แกบอกว่าอาจจะเข้ากันไม่ได้กับตัวเฮาส์ซิ่งที่เป็นไม้ ซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดี แต่ผมก็ยังร้องขอไปว่า งั้นช่วยปรับและ Fine Tune เสียงให้มีความพิเศษแตกต่างจากตัว RS1e ด้วยเถิด เรียกว่าร้องขอแบบหวานจ๋อยเลยครับ จอห์นกราโด้ยิ้นแป้นเป็นโคนันทวิศาลพยักหน้ารับทราบ แล้วบอกมาทางเมล์ว่า คอยฟังเอาละกัน 555

ขอแทรกนิดนึงครับ ความแตกต่างระหว่าง Grado Limited กับ Grado RS1e มีอะไรบ้าง ผมแจงให้ทราบละเีอยดเพื่อการเปรียบเทียบของท่านผู้สนใจแบบนี้นะครับ

- ราคาต่างกัน 10900 บาท
- ตัว Limited มีลายเซ็นต์แท้ๆของจอห์นกราโด้ บนเฮดแบนด์
- เฮดแบนด์เป็นหนังแท้สีน้ำตาล ซึ่งในตัวขายปกติทาง Grado Labs ไม่ผลิตอย่างแน่นอน
- มีกระดุมไม้ติดตรงกลาง ซึ่งทำเหมือนกับ Grado RS1 Vintage
- มีกล่องไม้จัดทำพิเศษ ที่เลเซอร์คำว่า Grado ลงบนเนื้อไม้ด้านหน้ากล่อง
- เสียง?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

นายมั่นคง

16/11/2014 23:06:10
4,282



อันนั้นเป็นส่วนที่ต่างกันในเรื่องหลักๆที่เห็นด้วยตาจากภายนอกครับ คราวนี้ก็มาว่ากันเรื่องเสียงของเจ้า Grado Thailand Limited และ RS1e กันมั่ง ท่านที่สนใจในตัว Limited หรือ RS1e สามารถอ่านและใช้เป็นข้่อมูลประกอบการพิจารณาได้เลยนะครับ เพราะทั้งสองตัวนั้นมีไดรเวอร์และเฮาส์ซิ่งเหมือนกัน หลายๆส่วนคล้ายกันครับ แต่เจาะลงรายละเอียดแล้ว มีความแตกต่างกันอีกเล็กน้อย สมกับที่เป็นตัว Limited ว่างั้น

สิ่งแรกเลยสำหรับแฟนกราโด้ที่ผ่านและกรำศึกกับกราโด้มานาน เวลาฟังเจ้า Grado RS1 จะรู้สึกเลยว่า กลางแหลมมันรุกเร้าสุดๆ กลางแหลมของ Grado ตัวเดิมๆนั้นจะพุ่งและเสียดแทงมากๆ ใครชอบฟังซาวด์กีตาร์ที่ดิบๆ จะถูกอกถูกใจมากๆๆ และปลายแหลมของตัวเก่านั้นมีเสี้ยนสากมาก ยิ่งไปฟังการบันทึกในแทร็คที่เน้นปลายฉาบหรือแฉ หรือเพลงแนว Female Vocal ที่เน้นการบันทึกที่ชัดเจน เราจะได้ยินเสียงลอดไรฟันจนน่ารำคาญ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

นายมั่นคง

16/11/2014 23:06:48
4,282



แต่ใน Grado Limited นั้นพวกสากเสี้ยนไม่มีปรากฏว่าตั้งแต่วันแรกฟังครับ เป็นแหลมที่ต่างไปจากตัวเดิมมากพอสมควร คือมีความนุ่มนวล เกรนแหลมที่เสียงฟังว่าหยาบหรืออกมาเป็นเสี้ยนเป็นเส้นๆ ในตัว Limited ตัวนี้ถูกจูนมาใหม่ให้ฟังได้สบาย เป็นมิตรกับเพลงทั่วไปมากยิ่งขึ้นครับ ถ้าจะว่าไปมันเหมือนจับเอา Grado RS1 ในอดีตมาเบิร์นให้นานๆ จนเสี้ยนเสียงหายไปก็ยังได้ครับ ใครที่เคยเบิร์นกราโด้นานๆ จะทราบดีถึงอารมณ์นั้นเลยจริงๆ คือหยิบของใหม่มาแทบปาทิ้ง เพราะแค่เสี้ยนเสียงแหลมก็แทบไม่อยากฟังแล้ว แต่กับตัว Grado Limited เหมือนเค้าช่วยเบิร์นสำเร็จมาให้เราแล้วล่ะครับ 555

มาไล่ถึงเสียงกลาง อันนี้ยังได้ซิกเนเจอร์ของ Grado อยู่ครับ พวกเสียงกีตาร์ยังให้ความรุกเร้า สุกสว่าง การกระแทกคีย์เปียโนยังดังเป๊งๆเข้าหัว การรัวกลองสแนร์ยังได้ฟิลลิ่งครบถ้วน พวกเครื่องเคาะเครื่องเป่า ยังให้ความคมชัดครบถ้วน ไม่มีตรงไหนที่หมองมัวแต่อย่างใด เสียงย่านกลางเก็บรายละเอียดได้ดี ไร้ม่านหมอก อันนี้ผมว่าดีมากเพราะเสียงกลางที่รุกๆ มันคือซิกเนเจอร์ที่เป็นจุดแข็งของ Grado RS1 ครับ เสียงเคาะไม้ เสียงกระแทกกลอง เสียงปะทะของเครืองตีทั้งหลายได้ความชัดเจนดีครับ ส่วนพวกเครื่องเป่าทองเหลืองนั้นได้ความเปิดและแปร๋นสมจริง

ส่วนที่เพิ่มเติมมาในเสียงกลางก็คือ สเกลเสียงนั้นใหญ่ขึ้น ไดรเวอร์ของ Grado ยังคงเป็นขนาด 50 มม. แต่เสียงที่ใหญ่และโตขึ้น อิ่มขึ้น น่าจะได้อานิสสงค์ของถ้วยเฮาส์ซิ่งที่เพิ่มความลึกมากยิ่งขึ้นครับ อันนี้ผมถือว่าเป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งของ Grado Limited และ RS1e เพราะ RS1 ตัวเก่านั้น ว่ากันตรงๆ เอาไปฟังเพลงร้องแทบไม่ได้ คือฟ้ังแล้วความเครียดเกร็งจะเกิดขึ้นค่อนข้างมาก ต่างจากตัวนี้ที่ผมฟังแล้วมีความเป็นมิตรต่อสิงแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ผมว่า Grado ปรับทางให้มีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาคาแลกเตอร์หลักของตัวเองไว้ เรียกว่าแฟนเก่าก็รักษา แฟนใหม่ก็จะเก็บเข้า ผมว่าโจนาธานลูกชายจอห์นกราโด้คนนี้ฝีมือไม่เบาครับ ผมว่าเค้าเข้าใจว่าอะไรที่ต้องเก็บไว้ อะไรที่ต้องปรับใหม่

มาว่ากันต่อเรื่องเสียงเบสครับ เทียบกับตัวเดิมๆ ตัวนี้จะให้เนื้อเบสที่มากกว่าชัดเจน อันนี้ไม่ต้องกังวลว่าเล่น Grado แล้วควานเบสไม่เจอ เพราะ Grado Labs แก้ทางมาเรียบร้อยแล้วครับ คือมีการเติมเบสในช่วงตั้งแต่มิดเบสลงมาถึงย่านต่ำ แต่ต้องเข้าใจนะครับ ว่า Grado เป็นหูฟังที่ให้เบสลงต่ำสุดไม่ได้ถ้าเทียบกับพวกหูฟังที่ใช้ไดรเวอร์แบบ Planar แต่เบสที่มีในตัว Grado Limited นั้นเพียงพอและรับมือกับเพลงได้ทุกแนวแน่นอนครับ และแรงกระแทกที่เคยแผ่วๆ อ่อนแรงในตัว RS1 เดิม พอมาในตัว Limited นั้น กลับมีแรงกระแทกและได้อิมแพคแรงขึ้นจนน่าแปลกใจ จริงๆ โดยโครงสร้าง มีการเปลี่ยนไปบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญคือ Grado พยายามค้นเทคนิคในการโมดิฟายด์ไดรเวอร์ตัวเองขึ้นไปอีกครับ

เสน่ห์และสิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ที่ยังอยู่ครบๆ ก้คือเรื่องความโปร่งใสหรือ Transparent ครับ ยังคงให้ความรู้สึกที่มีอากาศลอดไปมาระหว่างตัวโน้ต และให้ความเป็น 3 มิติที่ดีเช่นเดิม แต่ส่วนที่ผมชอบใจก็คือเหมือนฟังแล้วเพดานห้องมันเหมือนสูงขึ้นกว่าเดิม ชิ้นดนตรีชิ้นที่อยู่ไกล รู้สึกว่ามันให้ระยะที่ไกลกว่าเดิม ส่วนเสียงร้องนั้นยังคงอยู่ตำแหน่งเดิมๆ คือหลุดจากศีรษะ ไม่กองในหัว แต่ก็ไม่ได้ถูกเหยียดออกไปไกลมากมายนัก ซึ่งอันนี้เป็นการรักษาความคมชัดของการฟังครับ รับรองว่าการฟังการเคาะพวกปลายแฉ นั้นหลุดลอยและมีอากาศล้อมรอบชัดเจนจริงๆ

ความต่างกันระหว่าง Grado limited และตัวธรรมดา RS1e นั้น ผมฟังเทียบมาหลายคืนแล้วครับ ทั้งคู่มีความใกล้เคียงกันมาก แต่ในตัว RS1e นั้นเหมือนเสียงกลางจะจมและเก็บตัวกว่าเล็กน้อย บอบบางกระทัดรัดกว่า ในขณะที่เสียงกลางของ Limited ให้เนื้อที่อุ่นหนากว่า สเกลใหญ่กว่า และเสียงสูงของ Limited นั้นประกายดีกว่า สดกว่า ผมคาดว่าน่าจะเป็นจากการที่มีกระดุมไม้มาบังทางลม ทำให้กลางแหลมและแหลมมีความสดขึ้น ท่านที่มีกราโด้อยู่ในมือ ลองเอากระดาษขนาดเท่าๆกับกระดุม หรือเอามือบังไว้บางส่วน จะพบว่าเสียงแตกต่างกันออกไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

นายมั่นคง

16/11/2014 23:07:22
4,282



เล่ามาค่อนข้างยาว ก็ถึงคราวต้องจบแล้วล่ะครับ ผมพิมพ์ตอนดึกๆ นึกได้ก็พิมพ์เล่าไปเรื่อยๆ ซึ่งคงต้องสรุปว่าเท่าที่ฟัง Grado Limited ตัวนี้นั้น เหนือกว่า RS1 เดิมๆ คือเหมือนกับมันถูกเบิร์นมาเรียบร้อยแล้ว และฟังได้สบายและครอบคลุมกว่าตัว RS1 เดิมๆ ซึ่งคนที่ฟัง RS1 เดิมๆนั้นต้องบอกว่าเป็นขาเก่า และเป็นฟังแบบเฉพาะทาง คือต้องเอาไปฟังกับร็อคที่จัดจ้านถึงจะเข้ากัน

Grado RS1 เมื่อ 18 ปีก่อนนั้นเหมือนนักดนตรีนุ่งยีนส์ ถอดเสื้อ เสพย์ยา แต่วันนี้ Grado Limited เหมือนนักดนตรีคนเดิมที่โชกโชนเก็บเกี่ยวประสบการณ์มายาวนาน วันนี้จัดคอนเสิร์ทขนาดใหญ่ขึ้น สถานที่เล่นเปลี่ยนไป และที่สำคัญนักดนตรีสวมสูทลำลองแบบเท่ๆขึ้นเวที เล่นเพลงเพลงเดิมให้กับสาวกเก่าและสาวกใหม่ให้ฟังกันแบบมีความสุขโดยพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง....


ขอได้รับความขอบคุณ
มั่นคงแก็ดเจ็ท
ผู้จัดทำหูฟัง Grado Thailand Limited
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

tangkoo

16/11/2014 23:29:45
3
สมกับเป็นเฮียรีวิวเลยครับ ตัวลิมิเต็ดโผล่มาหมดเลย555 งามมากครับ ผมเห็นด้วยว่าตัวนี้ เปิดกล่องมาก็ฟังง่ายเลย ฟังเพลงทั่วๆไปได้ดีทีเดียว ตอนแรกนึกว่าต้องมาเบิร์นสัก 4-5ร้อยชั่วโมงก่อนซะอีก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

นายมั่นคง

16/11/2014 23:38:07
4,282
555 ตัวลิมิเต็ดผมมีครบหมดทุกตัวครับ คือมี 3 ตัวด้วยกัน HF-1, HF2, Thailand Limited ตัวนี้ผมเบิร์นไปนิดเดียวด้วยเครื่อง love Harmony แล้วฟังมา 2 คืนเต็มๆ ตัวนี้ฟังได้นานกว่าตัวเดิมเยอะครับ ซาวด์ถูกปรับให้เข้ากับเพลงยุคปัจจุบันยิ่งขึ้น นี่ขนาดแกะกล่องแล้วลุยเลยผมยังว่ามันโอเคอยู่ นี่ถ้าได้เบิร์นต่ออีกแบบเต็มๆ ผมว่ามันทะยานไปได้อีก

ผมคอนเฟิมครับ กราโด้นี่แปลก ถ้าไม่กินอยู่กับมันอาจจะเฉยๆ แต่ถ้าอยู่กับมันนานแบบร่วมหัวจมท้าย รับรองว่าจะหลงรักมันแน่นอนครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

นายมั่นคง

16/11/2014 23:43:04
4,282
555 รีวิวไปจนลืมเล่าเลยว่าเล่นกับอะไรมั่ง เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ ผมต่อเจ้า Grado Limited ซึ่งเป็นหูฟังตัวท็อปใน reference series และฟังกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ใช้หัวเข็มบอดี้ไม้ Reference 1 อีกด้วยครับ เรียกว่าท๊อปสุดทั้งคู่ในซีรียส์เลยคร้าบบ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

jabavox

17/11/2014 04:42:43
0
เค้าขอถาม คุณมั่นคง หรือ ท่านๆที่ใช้ rs1e อยู่ตอนนี้หน่อยว่าแก้ปัญหาเจ็บหู(มากจนหงุดหงิด)เวลาใส่นานๆ
ยังไงกันอ่ะ ปัญหาไม่ได้มาจากฟองน้ำแข็งแต่มาจากการที่หูสัมผัส(กดทับ)กับเฮาส์ซิ่งส่วนที่เป็นพลาสติกแข็งโดยตรง ก็ส่วนที่ว่า
โผล่ขึ้นมาสูงกว่ารุ่นก่อนๆเล็กน้อยนั่นแหล่ะ มันสูงขึ้นมาเหนือฟองน้ำอย่างชัดเจน ซึ่งเดาว่าที่ถูกต้องฟองน้ำควรจะคลุม
ส่วนขอบพลาสติกสีดำทั้งหมดให้เหลือเฉพาะส่วนวงกลมสีขาวตรงกลางเท่านั้นใช่หรือไม่ และสงสัยอีกว่าเป็นเพราะฟองน้ำที่ติดมาด้วย
ยังเป็นรูปแบบดั้งเดิม(L)ไม่ได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ให้รองรับกับส่วนที่ยื่นออกมาจริงหรือไม่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

BlackPhoenix

17/11/2014 10:06:43
71
THAILAND EDITION น่าจะใช้ไม้สักทองทำนะครับเฮีย (ถ้าไทยจริงๆ ต้องไม้พะยุง (Siamese Rosewood)นะ) 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

The แพะ

17/11/2014 10:11:41
39
เรื่องกดทับนั้นไม่ได้มาจากตัว housing ครับคุณ jabavox แต่เป็นที่ตัวก้านครับ grado ยุคนี้เค้ามีการเปลี่ยนตัวก้านให้หนาขึ้นกว่าเดิมอีกครับ เลยมีแรงบีบกว่าเดิม

ผมใช้วิธีง้างทิ้งไว้กับกล่องนั่นล่ะ 1 สัปดาห์เต็มๆ ตอนนี้ใส่สบายขึ้นเยอะครับ.....แบ๊ะๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

Uthen

17/11/2014 11:19:30
17
ตอบเรื่องเจ็บหูครับ

ขอตอบแบบกวนๆ ครับ ใช้ให้ชินเดี๋ยวก็หายไปเองครับ อะจ๊ากกก...


สมัยก่อนใช้ RS1 แรกๆ ก็รู้สึกเจ็บครับ นานๆ ไปก็หายครับ
เพราะเจ้ากราโด้มัน On ear หล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

Collagen

17/11/2014 22:50:27
4
ได้มา 1 สัปดาห์แล้ว งานยุ่งจนไม่ไดมีโอกาสฟังเลยครับ นอนอยู่ในกล่องอย่างเดียวเลย T-T
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

นายมั่นคง

17/11/2014 23:24:59
4,282



มาคุยต่อเพิ่มจากเมื่อวานครับ 555 ผมใช้ Grado Limited ฟังกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง โดยใช้ปรีวินเทจของ mcintosh เป็นตัวขยายสัญญาณ และอีกชุดใช้กับเครื่องเล่น DAP อย่าง Hifiman 901 ครับ เรียกว่าในบ้านมีอะไรก็เสียบฟังหมดว่างั้นล่ะ 555

เสียบฟังกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง ตามคาดครับ ความต่อเนื่องลื่นไหลนั้นห่างชั้นกว่าการฟังจากเครื่องเล่นธรรมดาอย่าง iPod มากนัก แต่ถ้ามาเทียบกับเพลย์เยอร์ที่เสียงลื่นไหลต่อเนื่องอย่างเจ้่า 901 แล้ว ผมถือว่าฆ่าไม่ตาย หรือจะอ้างว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงเหนือกว่าก็ไม่น่าจะได้

ทั้งนี้ผมใช้ Hifiman ฟังเพลง 24 bit เปรียบเทียบกันกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง อย่างอัลบั้มของ Norah Jones ที่ทุกคนฟังจนกลายเป็นเพลงโหลแล้ว เมื่อฟังเปรียบเทียบกันกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง รายละเอียดต่างๆบน Hifiman 901 ยังให้ได้เหนือกว่า แต่เสียงที่ได้จากการฟังเครื่องเล่นแผ่นเสียงมีจิตวิญญาณกว่า

คือเสียงเน้นย้ำอ่อนหนักนั้นทำได้ดีกว่า ความนิ่มนุ่มลื่นแผ่นเสียงทำได้ดีกว่า ในขณะที่ 901 เป็นรองเล็กน้อยแต่กลับให้รายละเอียดได้สูงกว่า ผมใช้หัวเข็ม Reference 1 ราคาสี่หมื่นกว่าเป็นตัวเล่น ซึ่งกัดฟันซื้อมานอนฟังเล่น เนื่องจากฝังใจกับเสียงแนว Grado มาโดยตลอดนั่นเอง ซึ่งไม่ผิดหวังครับ เจ้า Grado Limited ถ่ายทอดได้ดี

ผมฟังเจ้า Grado Limited นั้น หากจะให้ผมเทียบกับหูฟังระบบ Planar แล้ว ต้องบอกว่าในเรื่องความสบายในการสวมใส่นั้นห่างชั้นมาก คือ Grado ถนอมต้นคอท่านมากกว่าแน่นอน 555 แต่ถ้าถามถึงเรื่องความเที่ยงตรงของเสียง และการตอบสนองเสียงทุกๆย่านของ Grado Limited กับพวกหู Planar

พวก Planar ทำได้ดีกว่า คือชัดเป็นชัด หนักเป็นหนัก คือมันเป็นเหมือนกล้องดิจิตอลที่คุณภาพภาพดีๆนั่นเอง แต่แปลกตรงที่ Grado Limted นั้น ให้ความรู้สึกที่สนุกกว่า ฟังแล้วอยากร้องคลอหรือเคาะจังหวะตาม ผมว่ามันเรียกอารมณ์ร่วมได้ดีกว่าพวก Planar ตรงที่หู Planar นั้นซื้อมาฟังเสียง แต่ Grado น่าจะซื้อมาฟังเพลงซะมากกว่า 555

การถ่ายทอดเพลงนั้น ผมว่า Grado ให้ฟิลลิ่งของอนาลอกได้ดีกว่า คือมันไม่อะเซาะหรือเรื่อยเจื้อยจนเกินจริง ไม่ยัดเยียดใส่รายละเอียดมาจนเกินจริง แต่ผมว่ามันใส่อารมณ์ร่วมในการฟังมาให้เต็มที่กว่าพวก Planar พูดตรงนี้แล้วหลายท่านบอกว่าไม่กลัวขายพวก Planar ไม่ออกเหรอ

ตอบว่าไม่กลัวล่ะครับ เพราะต้องบอกว่าฟิลลิ่งในการฟังนั้นต่างกันมากครับ Grado ให้อะไรบางอย่างที่หู Planar ให้ไม่ได้ และ Planar ก็ให้บางอย่างที่ Grado ไม่มีทางจะมีอีกเช่นกัน ตัดสินบนอารมณ์ล้วนๆครับงานนี้ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

วินเซ้น

18/11/2014 11:01:53
เฮ้ยเหม่ง ตัวไหนเสียงดี ตัวไหนเสียงเ้ย เอาแบบสรุป ๆ มาซัก 3-4 บรรทัดก้อพอ จะได้ไปซื้อเลย ขี้เกียจอ่านว่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

tangkoo

18/11/2014 12:11:25
3
Rs1e ฟังกับแผ่นเสียง classic มากครับ ได้อารมณ์อนาลอคสุดๆ555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

นายมั่นคง

18/11/2014 21:10:17
4,282
555 ต้องขยันอ่านให้จบครับคุณวินเซ้น เพราะทุกวันนี้สถานบันคิงคอลเลจเค้าวิจัยว่าคนไทยอ่านหนังสือถัวเฉลี่ยเหลือปีละ 6 บันทัดแล้วล่ะครับ งานนี้ขี้เกียจไม่ได้ว่างั้น 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

BoyBrinks

19/11/2014 08:08:56
8
555 เฮียเนี่ยสุดยอดเลยครับ ตอบกระทู้ป่วนได้คมกริบเลย ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Ace of Hearts

19/11/2014 09:50:48
ไม่มีวาสนา ได้ครอบครอง แค่อ่านรีวิวส์ ก็สุขใจ ละครับ
สุนทรีย์ ดีออก ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

แวนโก๊ะ

19/11/2014 10:45:51
เฮ้ยเหม่ง กูต้องเชื่อมึงด้วยมั๊ยเนี่ย และ ไอ้คิงส์คอลเลจมันทำวิจัยซุปไก่ยี่ห้อแบรนด์ มึงอย่ามามั่วเลยว่ะไอ้โล้น ถ้าจะโม้ก้ออย่าให้คนเค้าจับได้ กูเหม็นขี้ฟัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

แอบโพสต์

19/11/2014 11:26:58
สนใจมากครับ

ที่พารากอนมีตัว limited ให้ทดลองฟังคู่กับ Tivoli model one มั้ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

jabavox

19/11/2014 11:52:52
0
ทายซิ๊ รุ่นไหน อิอิ



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

BoyBrinks

19/11/2014 12:58:54
8
งานประกอบด้วยมือทำให้สินค้าดูมีคุณค่ามากๆ ผิดกับสินค้าที่ประกอบโดยเครื่องจักรที่จะปั๊มออกมาเท่าไหร่ก็ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

jabavox

19/11/2014 18:24:07
0




นี่อิ่กรูป กำลังคิดว่าทำไม grado ใส่ headband ของรุ่น Limited ให้รุ่น Standard
ทำแบบนี้ รุ่น Ltd. เสียหายนะ เนอะๆ คุณมั่นคง คึคึคึ

Credit&Details : http://www.head-fi.org/t/726506/grado-rs1i-and-rs1e-side-by-side-pictures
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

นายมั่นคง

19/11/2014 23:06:45
4,282
เมื่อกี๊ผมเข้าไปอ่านมาแล้วครับเรื่อง Headband สีน้ำตาลน่ะครับ คนซื้อยืนยันว่าส่งมาจาก Grado Labs ครับ

The brown headband is indeed factory (i bought the RS1e on grado.com) and came as a big suprise since the one's on display had always been black.

ซึ่งเป็นเรื่องประหลาดใจยกใหญ่สำหรับเค้า เพราะทุกคนทราบดีว่าเฮดแบนด์กราโด้คือสีดำมาตลอดกาล ยกเว้นรุ่นที่ทำกับเหล้า Bushmills ครับ 555 แต่เดาๆๆตามที่มีคนตอบเข้าไปว่า อาจจะหยิบเอาของที่เหลือจาก Bushmills

แต่จริงๆๆ ผมอยากจะบอกว่าเค้าคงเอาจากที่เหลือจาก Grado Limited นี่ใส่ไปล่ะครับ เพราะตอนที่ศูนย์ไทยเมล์คุยนั้น ผมยังบอกว่าอยากได้เฮดแบนด์สัน้ำตาลแบบ Bush Mills และป๋าจอห์นก็ตอบมาว่าหมดเกลี้ยงแล้ว และคงไม่สามารถจะสั่งทำใหม่ให้ได้

ถ้าให้ผมเดา น่าจะมีเฮดแบนด์สีน้ำตาลที่เหลือบ้าง แต่ไม่น่าจะมากนัก และ Grado ก็คงจับใส่ลงไปให้หมด 555 แต่คาดว่าไม่น่าจะเยอะครับ เพราะ RS1e รุ่นปกติ ผมสั่งมาขายอีก 20-30 ตัว น่าจะเป็นสีดำทั้งหมดล่ะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

ttuunn

19/11/2014 23:14:33
0
นั่นซิครับคุณ jabavox สี headband เหมือนกันเลย หรือว่า lot ใหม่จะใช้สีนี้หมด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

ttuunn

19/11/2014 23:31:21
0
โทษทีครับเฮีย ผมไม่เห็นที่เฮียพิมพ์
เฮียมาคลายข้อสงสัยแล้วค่อยโล่งใจหน่อยครับ ผมกลัว headband สีน้ำตาลมันจะโหล 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

นายมั่นคง

20/11/2014 00:56:48
4,282
555 ไม่ต้องห่วงครับ ผมยังมั่นใจว่าเจ้าเฮดแบนด์ที่เห็นใน Head-Fi ก็คือเฮดแบนด์ที่เหลือมาจากการทำตัว Limited แน่ๆครับ เพราะดูจากวันเวลาแล้วน่าจะใกล้เคียงตรงกันเด๊ะ

ยังไงคอนเฟิมว่าเค้าทำเป็นสีดำสำหรับตัวปกติครับ เพราะในสต๊อกเฮียที่สั่งมาพร้อมกับตัวลิมิเต็ดก็เป็นสีดำอยู่เลยจ้าๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

jabavox

20/11/2014 12:15:11
0
น่าเสียดาย...คุณมั่นคงน่าจะให้ศูนย์ติดต่อไป lock มาขายซ๊ะเอง ไหนๆก็เป็นควันหลงจากรุ่น GTL.
นั่นนับเป็น RS1e Special Edition ได้เลยนะ ไปลองค้นๆดูใน Lot ที่เพิ่งสั่งมาใหม่ดู
อีกทีดิ๊ เผื่อเจอๆ คึคึคึ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"รีวิว : หูฟัง Grado Thailand Limited (พระกาฬไทยแลนด์แดนกราโด้)"