1 ยากมากครับ ทนมือทนเท้าดีมาก

2 รุ่นที่น่าเล่น 80 225 แล้ว แยกสายเปน ps500 rs1

1. ทนโคตรๆ คับ

2. sr225, ms1 ไม่มี i , ms2, mspro

3. G Cush ใช้แล้วระยะห่างระหว่างหูกับ driver เพิ่มขึ้น จะได้รายละเอียดและ stage เพิ่ม แต่เบสจะลดลงคับ

ที่ผมเคยลองเปลี่ยนแล้วชอบคือเอา ms1 ใส่ L Cush คับ

เสริมนิดนึงฮะ

1. หูฟังยี่ห้อนี้พังยากก็จริง แต่เนื่องจากการประกอบด้วยมือใช้ไปนานๆชิ้นส่วนมันหลุดได้ฮะ เช่น Housing หลุดจาก Headband
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ติดกาวประกอบกลับไปได้ฮะ (ไม่แตกหัก)

2. เริ่มต้นที่ SR80/MS-1 ในระดับสี่พัน, SR325/MS-2 ในระดับหนึ่งหมื่น

3. ได้เรื่องรายละเอียด/เวทีเสียง แต่เคสนี้ต้องลองฟังนะฮะ เพราะยี่ห้อนี้เสียงค่อนข้างจัด บางทีเปลี่ยนฟองน้ำแล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้
อีกอย่างคือมันบางคน(เช่นผม) ใส่ G-Cush, L-Cush จะเจ็บหูฮะ สุดท้ายต้องกลับไปใช้แบบไม่มีรู

1.ตามความเห็น3 ใช้ไปนานๆสายจะบิด ก้านหมุนส่วนต่อกับพลาสติกยึดกับเฮ้าซิ่งกาวจะหลุด ก็แค่ติดกาวเข้าไปใหม่ ส่วนอื่นพังยาก

2.SR80,MS1 เป็นจุดสตาร์ท ที่จริงSR225 มีคนชอบเยอะในระดับราคาต่อมา

สำหรับผม ถ้าสตาร์ท ให้เทียบคู่แรกกับ SR225 แต่ถ้าเริ่มด้วยคู่แรกไปแล้ว เวลาอัพ ให้ข้ามไปที่ประมาณหมื่นนิดๆไปเลยคือ SR325หรือ MS2ครับ

จุดถัดไปคราวนี้มีจุดเด่นเฉพาะทาง คือ PS500 (ฟังได้overall มวลเสียงอิ่มแน่น ทุ้มหนา) MS Pro (เหมือนMS1 อัพlevel่) และRS1 (สุดๆในแนวทางความสด จะแจ้ง และมีความเป็นaudiophile สูงกว่า PS500..ตามราคาที่ก็สูงกว่า)

ความเห็นส่วนตัวคือ พ้นจากPS500 อุปกรณ์ที่จะใช้ร่วม น่าจะเริ่มต้องเรื่องมากแล้วนะครับ ไม่งั้นไม่คุ้ม

คำว่าเรื่องมาก ไม่ใช่แค่เพิ่มแอมป์ หากแต่ต้องเป็นชุดที่มีอุปกรณ์ร่วมคุณภาพสูง..ตั้งแต่ไฟล์เพลงเลยทีเดียว จึงจะสามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของหูฟังออกมาให้เห็น...ที่จริง แม้Gradoจะเล่นไม่ยาก แต่ด้วยความเป็นฟูลไซส์ ถ้าเพิ่มแอมป์ ส่วนใหญ่จะได้อะไรที่ดีขึ้นเพิ่มมากแหละครับ ถ้าพร้อม ก็ดี ถ้ายังไม่อยากจ่าย ก็ไม่จำเป็นนัก ทว่าพวกตัวบนผมมีความอย่างที่บอกครับ ต้องมีความพร้อมพอสมควร ไม่งั้นฟังแล้วจะแค่ ต่าง แต่ยังไม่รู้สึกว่า ดีกว่า ชัดเจนนัก

3.รุ่นเริ่มต้น อย่าง MS1 พอจะลองเปลี่ยนฟองน้ำเป็น L cush ได้ครับ แต่ถ้าG cush แม้จะมีส่วนที่ได้มา แต่ส่วนทีเสียมันเกินความพอดีของตัวหูฟังไปแล้ว ต่อให้รุ่นค่อนข้างสูงอย่าง PS500 ใส่เป็น G cush ฟังนานๆผมก็ยังว่ามันไม่ใช่จุดพอดีของมันเลยครับ

1. ทน ถึก ไม่พังง่าย

2. ผมชอบ Sr60 นะ all style ฟังได้ทุกแนว แต่ไม่สุด ไม่งั้นต้องไป ms1

3. เบสบางลง ได้ใสมาเพิ่ม

ไหนๆก็คุยเรื่อง PAD หูฟังรุ่น G-CUSH ขอถามหน่อยครับ ถ้าPS500 ใส่เป็น G cushเสียงจะเป็นอย่างไรครับ เนื่องด้วยผมคงต้องเปลี่ยนฟองน้ำในอีกไม่นานนี้ละครับ

ไม่แนะนำนะครับ ผมว่าใส่แล้วเสียงมันแปลกๆ สเตจกว้างแบบแปลก เสียงกลางถอยกว่าเดิม เบสลด ฟังเพลงช้า อคูสติกดี ร๊อคเมทัลห่วยลง

หมายถึง ps500 G cush ครับ

เรื่องการใช้งาน ปัญหาของ grado น่าจะมีแค่สายบิดกับโลโก้ลอกง่ายครับถ้าดูแลไม่ดี แต่มันก็ไม่มีผลกับเสียงครับ แค่ควาสวยงาม

คห6 ถ้าเอา g cush ไปใส่ ps500 มันจะไม่ใช่ ps500 อีกต่อไปครับ มันจะเป็นหูฟังอะไรก็ไม่รู้ 555+ ลองนึกภาพ ps500 ที่ไม่มีเบส เสียงบางๆ กลางถอยๆ ดูครับ ความเห็นผม g cush ควรใช้คู่กับ รุ่นที่เค้าแถมมันมาตั้งแต่แรกครับ ผมเคยทะลึ่งเอาไปใช้กับ proi แรกๆก็ชอบครับ แปลกดี ใช้ไปซักพักได้ถอดทิ้งครับ เสียงมันไม่ใช่จริงๆ

ส่วนตัวก็สนใจ G cush เหมือนกันครับ คิดว่ามันใหญ่ใส่ครอบหูน่าจะสบายกว่าตัว L แต่เห็นหลายๆท่านเม้นท์เกี่ยวกับเรื่องเสียงแล้ว ยอมทนเจ็บหูต่อไปอีกนิดดีกว่า555

คุณtankoo เวลาใส่หูฟังรุ่นที่ใช้G cush จริงๆ (PS1000,GS1000Xมันรู้สึกครึ้มใจจริงๆนะครับ 555

แต่ลองเอาชุดที่ใช้ไปฟัง แล้วรู้เลยว่า ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยเมื่อเทียบกับPS500ที่ใช้อยู่ เลยค่อยๆถอยฉากมาอย่างเจียมตัวครับ

ระดับนั้น ความรู้สึกผม ต้องชุดตั้งโต๊ะสถานเดียวครับ ^ ^

@น้าเหน่งบา ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ ให้ฟังด้วยนะครับ ผมคิดว่าคงมีอีกหลายคน ที่อยากลองเอาเจ้าG มาฟังดูเหมือนกัน555

PS500 ต้องพี่เหน่งบาเลยครับ....

ผมโม gcushนิดหน่อย เอาหนังสือมาทับทิ้งไว้1วัน
มันจะแบนลงมาครับ เสียงจะอยู่ระหว่างgกับL

1.ทนมากครับ
2.เท่าที่อ่านเจอ sweet spot เฉพาะของ Grado ราคาต่อ คุณภาพเสียง หลาย ๆ สำนัก บอกว่าอยู่ที่ sr255 มั่นคงก็ให้ 10 ดาว แต่ sr60 ก็ติดอับดับท็อปหูฟังแบบเปิด ที่คุ้มค่าที่สุด ในโลก นับตั้งแต่วางขาย จนถึงปัจจุบัน แทบทุกสำนัก แต่ผมว่ารุ่น e น่าจะเป็น sr325 นะ เห็นบอกแหลมรุ่น e จัดน้อยลง เบสดีขึ้น ตัวที่เสียงลงตัว น่าจะเป็น sr325 ต้องหาโอกาสไปลองดู
3. ไม่เคยลองครับ ผมมีแค่ sr225i ใช้ L crush ชินแล้วครับ ผมว่าฟองน้ำนี่แหละ แหร่ม ใส่กินข้าว ฟังไปด้วยก็ไม่มีปัญหา โมโครโฟโหน่ง นิกส์ เหมือนยี่ห้ออื่น ดีดสายเล่น ก็ไม่กระทบเสียงเพลง ยี่ห้ออื่นแต่สายถูเสื้อ ก็สะเทือนถึงหูแล้วครับ

ผม มี NAD HP50 กะ RE400 ไว้พกพา สองตัวนี้ ให้เสียงแบบ ออดิโอไฟล์ ที่นักวิจารณ์ชื่นชม ยอมรับกัน
แต่ที่ฟังบ่อยที่สุด ก็ยังเป็น sr225i อยู่ดี กลับถึงห้องสองตัวนั้นหมดหน้าที่ ฟังแล้วเหมือน ฟังดนตรีเล่นสด ที่สุดครับ มีสากมีเสี้ยน มีกระโชกโฮกฮาก ได้ ่รมณ์ ฝุด ๆ สำหรับ Grado ซื้อไว้ฟังเอามันสักตัวครับ รุ่นไหนก็ได้ ตามงบที่มีครับ

แต่ถ้า บังเอิญเป็นคนหูกางมาก ๆ ก็คงต้องมองไปยี่ห้ออื่น นะครับ มันคงจะเจ็บจริง ผมเป็นคนหูเกือบแนบกับหัว ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือน ๆ กว่าจะชิน คริ ๆ

หูฟัง Grado นั้นเป็นหูฟังที่ทนทานมากๆๆๆๆๆ เรื่องจะพังแบบไม่มีสาเหตุนี่แทบจะตัดไปเลยครับ และโครงสร้างพวกเฮดแบนด์ หรือตัวก้านรับตัว cup ทุกชิ้นส่วนมีพาร์ทเปลี่ยนได้ทุกอย่าง รวมถึงไดรเวอร์ด้วยครับ หมดกังวลว่าใช้ไปนานๆแล้วจะหาอะไหล่ไม่ได้แน่นอนครับ

ส่วนตัวที่คุ้มค่าที่สุดนั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละท่าน แต่ถ้าตัวเริ่มต้นเลยน่าจะไม่แคล้ว Grado SR60e ครับ เพราะฟังง่าย เสียงครบ เป็นหูฟังที่ขายดีที่สุดของ Grado (นับจำนวนชิ้น) ตัวถัดไปก็น่าจะเป็น 225e ครับ แต่หลังจากนี้แล้วตามแต่ถนัดล่ะครับ 555

@themiumhhh/@ tim38416-ขอบคุณมากครับ งั้นใช้ของแบบเดิมดีที่สุด^^
เหน่งบา-ในฝันเลยนะนั้นนะหูฟังรุ่นที่ใช้G cush จริงๆ แต่ราคามันคงเกินเอื้อมไปหน่อยสำหรับผม ยิ่งบอกว่า ต้องชุดตั้งโต๊ะสถานเดียวครับ ผมว่างบน่าจะบานครับ สำหรับผม เพราะคงต้องเปลี่ยนใหม่ยกชุดครับ แต่ก็หวังว่าสักวันจะมีโอกาสได้ฟังครับ^^