ลืมบอกไปอีกอย่างนึง คือไม่เล่นDSDครับ เพลงที่ฟังไม่มีไฟล์DSDแน่นอน

He-560 นั้นฟังได้ดีทั้งกับแอมป์หลอดเเละแบบ Solidstate ทั้งคู่เลยครับ
หลักๆอาจจะต้องมองที่เฮ้ดโฟนแอมป์ก่อนครับ เพราะ HE560 นั้นต้องการกำลังขับที่ถึงจริงๆ ถึงจะให้เสียงที่เต็มความสามารถได้ครับ

ถ้าเป็นแอมป์หลอดเเนะนำเป็น Woo Wa6SE ครับ ให้เสียงที่เป็นกลาง มวลเสียงร้องอิ่มและได้ปลายเสียงที่ติดหวาน ตามแบบฉบับของหลอดครับ รวมไปถึงปลายเเหลมที่เนียน เเต่ให้ประกายที่ฟังเเล้วละมุน อีกทั้งรุ่นนี้เป็นแอมป์หลอดที่ให้เบสจัดว่ามีมวลและมีเนื้อเสียงที่ดีทีเดียวครับ สามารถนำไปฟังเพลงได้หลากหลายเลยครับ

ส่วน DAC ชั่วโมงนี้เเนะนำ Exogal Comet เลยครับ เป็น DAC ตัวใหม่ที่ให้คุณภาพเสียงที่สูงมากๆครับ แบบซื้อทีเดียวจบได้สบายๆเลยครับ ให้เเบ็คกราวด์พื้นหลังที่นิ่ง น้ำเสียงเป็นธรรมชาติ เวทีเสียงกว้าง โดยเฉพาะเสียงร้องที่ทำออกมาได้เด็ดขาดและยอดเยี่ยมมากๆครับ

ทั้งคู่นั้นมีให้ลองฟังที่สาขาอมรินทร์พลาซ่าเลยครับ สามารถเเวะมาลองฟังได้ทุกวันครับ

ขออนุญาติแนะนำคับ

งบเยอะขนาดนี้ ... ยังไงควรจะเผื่อทางไว้ให้ DSD ด้วยคับ

เพราะมันไม่ได้หายากอย่างที่คิด ... และเสียงที่ได้มันคุณภาพสูงมากจริงๆ คับ

ปล. คหสต นะคับ

คุณveedemort
อันนี้ไม่ได้จำกัดไว้ครับ คือจริงๆค่าdacอาจจะยังไม่พอมากกว่า555
ยังไงๆ ถ้าจัดแล้วmatchเข้ากันได้ดีผมก็โอเคโดยไม่ตัองไปตัวสูงสุดอยู่แล้วครับ

ถ้างบจำกัด เล่น DAC+Amp ในตัวก็ดีครับ

1. oppo HA-1 : 50k ไม่ก็ Fostex HP a8C : 53k
2.สายหูฟัง จำเป้นครับสาย stock ของ HE560 อั้นมาก ใช้สาย nordost HD2 : 25 k
3. สาย AC เล่น Shunyata venom 3 : 5k ก็พอ ถ้าอยากให้ดีขึ้นเล่นเส้นละหมื่นก็ได้
4. สาย USB อันนี้เท่าที่ลองฟังดู เห็นผลไม่มาก เล่นแค่ Furutech GT2 : 4k หรือไป Nordost Bh 12k พอละ

แต่ถ้าเผื่ออนาคต ผมแนะนำ
1 Amp Auralic tauras mk2 : 67k
2 สายหูฟัง จำเป้นครับสาย stock ของ HE560 อั้นมาก ใช้สาย nordost HD2 : 25 k
3. สาย AC เล่น Shunyata venom 3 : 5k
4. สายสัญญาณ เล่น audioquest หรือ cardas เส้นซัก หมื่นอัพ

มือ 1 เกินงบนิดหน่อย อยากอยู่ในงบหามือสองเอานะครับ

อืม... System งบ 100K... ใช้กับ 560...
ถ้าเป็นผมน่าจะประมาณนี้ครับ...
Amp : Auralic Taurus mk1 = ~30K
Headphones cable : Cardas Clear (4-pin XLR) = 15K
DAC : Audiolab M-DAC = 28K
USB cable : Wireworld Starlight 7 = 4.3K
Interconnect cable : Wireworld Equinox XLR = 6.5K
Amp AC power cable : Shunyata Venom 3 = 5K
DAC AC power cable : Shunyata Venom 3S = 2.5K
AC power conditioner : Clef PowerBRIDGE-10se = 7K
Total = 98.3K ^^

ขอนำเสนอบ้างนะครับ ผมใช้ 560 กับชุดนี้อยู่ อิอิ หาเรื่องขายของน่ะคุณอย่าว่ากันนะ
Amp : Auralic Taurus mk1 = 28K
DAC : Yulong DA8 DSD = 30K
USB cable : Nordost Heimdall2 = 11K
Interconnect cable XLR : JPS Sup V 18K
AC power cable : Shunyata Venom 3 แถว2 2เส้น 6K
Headphones cable : Cardas Clear (4-pin XLR) = 15K

เกินงบท่านไป 8000.- นิดหน่อยเอง ได้ครบเบย

รายการที่ 1-4 รวม 87K ผมลดให้อีก 2K เหลือ85K ฟินไปได้อีก2ปี ไม่ต้องอัพเกรดแล้ว

อิอิ สนใจซองเหลืองมาโลด

แอบขายของไปเต็มๆ เฮียคงไม่ว่านะครับ อิอิ

DAC ตอนนี้ใช้อะไรอยู่ครับ?

ที่จริง ผมว่า ค่อยๆเล่นจาก เล็กๆไปเรื่อยๆ ไปใหญ่ก็จะดีมากเลยครับ

แค่ mac book pro (หรือAir) +App ดีๆ +dac Hugo ก็น่าจะขับหูเกือบทุกรุ่นได้ดี

พกไปฟังที่ไหนก็ได้

แต่ถ้าเล่นชุดใหญ่เลย โดยเราก็ยังไม่รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ คือยังไม่มีประสบการณ์

เกิดว่าซื้อมาแล้วเสียงไม่ถูกใจ มันจะลำบาก เพราะจะขายก็ยกไปมาลำบาก จะเก็บไว้ ก็รกบ้าน

เพราะอาจมีเครื่องใหม่มาอีก ชุดแท่น(บ้าน) เวลาเราไม่ได้ฟังนาน หลายๆเดือน อาจพังได้

หรืออาจต้องถึง กับเบิร์นใหม่เลยนะครับ

แต่ถ้าเป็นแค่ชุดโน๊ตบุ๊ค หรือdap เอาเราไปติดตัว เวลาไปไหนนนานก็ได้ครับ

วันหยุดเอามาฟัง นั่งจิบ กาแฟหอมๆ ชาดีๆ ที่ริมทะเล สบายใจเลยก็ได้

จากประสบการณ์จริง ชุดบ้าน เวลาเบื่อแล้ว มันเกะกะมากครับ

แอมป์กำลังขับสูงๆ กับโทนเสียงที่จะเลือกมาให้แมทช์กัน สำคัญมากมายเลยครับสำหรับ HE-560

เพราะหูนี้ออกโปร่ง สว่าง ปลายแหลมเด่น ถ้าไปเสริมสิ่งเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาจจะล้นไปนะครับ ^^

Dacยังเป็นbenchmark 1อยู่เลยครับ อย่างที่บอกไว้ว่าตอนนี้
งบถึงmilestoneแรกที่ตั้งไว้แล้วแต่ยังไม่ได้คัดสินใจอะไร ถ้าไปที่200kก็ไม่มีปัญหาอะไรมากครับ(แต่คงต้องทำเรื่องขอกันอีกนิด55)
Hugoผมไม่ชอบครับ ในราคานี้แอมป์ไม่ควรมีnoiseแล้ว ถือว่าunacceptableสำหรับผมครับ

มีงบขนาดนี้คงต้องหาเวลามองลองฟังตามร้านแล้วหล่ะครับ

แอมป์แต่ละรุ่น ยี่ห้อ มีแนวเสียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อุปกรณ์ประกอบก็เหมือนกัน

สำหรับแอมป์ ผมชอบ bakoon ติดแค่ว่ามันเล่นได้แค่ single end

ถ้าเล่น balance ได้จะดีมาก เพราะทั้งสองแบบมีแนวเสียงแตกต่างกัน

ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้หลายแนว เช่นถ้าเน้นรายละเอียดก็ฟัง balance ถ้าเน้นฟังสนุก เบสเยอะ ก็ฟัง single end

ขอเพิ่มความเห็นจากประสบการณ์ตรงครับ ผมมือใหม่ หูตะกั่วเช่นกัน

ท่านสรุปงบที่ทุ่มให้ระบบได้แบบสุดๆ ทีเดียวเลย เอาแบบชัวร์ถามเมีย ถามแม่ มาให้ครบ

อนุมัติงบเท่าไหร่ ตั้งไว้

จัดเซตดูว่าท่านให้งบกับตัวไหน เท่าไหร่ อยู่ที่ท่านให้ความสำคัญกับตัวไหนมาก ตัวไหนก่อนหลัง

ใช้เวลา เท่าที่มียิ่งมากยิ่งดี ไปลองที่ร้าน ร้านเฮีย ร้านเจทไลท์ ไปลองฟัง จัดชุดตัวที่ท่านสนใจ

ยังไม่ต้องถือเงินไปนะครับ ผมเชื่อว่า2ร้านนี้ ให้เวลาท่านได้เต็มที่ ตัวที่ลองฟังถามที่ร้านด้วยนะครับพ้นเบิร์น

หรือยัง เพื่อข้อมูลที่ชัดเจน

นำข้อมูลมาวิเคราะห์ ความชอบ ทุกชิ้น ท่านอาจใช้เวลาเป็นเดือนก็ไม่แปลกครับ แบบนี้ผมเชื่อว่างบท่านไม่

บานแน่ๆ เพราะจัดไว้เป๊ะแล้ว

ทีนี้มาเล่าประสบการณ์ผมบ้าง ผมทีเล่นทีจริง เอาไงก็ไม่เอา เงินมีมาเรื่อยๆ เลยไม่ได้ฟิกตัวเลข

เริ่มซื้อตั้งแต่ HD598 แถวสอง ขายทิ้ง ขาดทุน
มาHD650 พร้อม คาดาสเคลียร์ไลท์ ใหม่ร้านเฮีย ได้2-3เดือนขายทิ้งขาดทุน
แอมป์ schiit asgard2 เบิกใหม่ร้านเฮีย ได้ไม่นาน ขายทิ้งขาดทุน
ซื้อ Merridian Explorer แถวสอง ได้ 1วันมั้ง ขายทิ้งขาดทุน
จนมาค่อนข้างลงตัวที่
Amp : Auralic Taurus mk1
DAC : Yulong DA8 DSD

ก็เปลี่ยนแนวมาเล่นสายไฟ สายสัญญาณ ฟิวส์ ปลั๊กผนัง กรองไฟ

พอมาปัจจุบันนี้ ก็อยากจะไปอีกขั้น เพราะน้องๆชวนเปลี่ยน DAC

ท่านคิดว่าผมเสียเงินไปเท่าไหร่ กับการเริ่มต้นแบบ เล็กๆ ค่อยไปใหญ่ๆ ขายแต่ละครั้งขาดทุนทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้น คิดให้นาน ตั้งงบ ตั้งใจให้มั่น ลองจนแน่ใจ จัดชุดใหญ่ทีเดียวครับ แล้วจะไม่บาน

เป็นกำลังใจให้ครับ

:))

อ้อ ลืมบอกท่าน Surat ไป ผมอยู่พัทลุงนะครับ

ท่านอาจทำแบบผมไม่ได้ ต้องพิจารณาเองนะครับ

แต่ผมรู้ว่าเส้นทางสายนี้เป็นยังไง ถ้าใจไม่แข็งพอและมีเงินในมือ

เจ็บหนักครับ อิอิ

Amp, DAC ที่คุณหลุยส์แนะนำก็น่าสนใจนะครับ น่าจะ match กับ HE560 ได้ดีครับ แต่ตรงนี้ถ้าจะเปลี่ยนหูไปเป็น LCD-3 นี่ไม่แน่ใจเหมือนกันอาจจะต้องไปลองดูนะครับ :-D

ท่าน ellevoid เปลี่ยนรูปลายเซ็นได้แล้วมั้งครับ น่าจะมีเปลี่ยนแปลงแล้ว

อิอิ

@คุณ ellevoid ถ้าไปทางที่คุณหลุยส์แนะนำนี่ยาวเลยครับ แต่สนุกมาก เพราะสามารถเปลี่ยนหูเปลี่ยนหลอดไปได้ตามแนวเพลงแบบไม่มีขีดจำกัดครับ ^^

ถ้าจะไป LCD3 ลองไปฟัง Violectric V281 or V200 ครับ
ผมใช้ HE-560 อยู่ Bryston BHA-1 & Burson Soloist ก็เข้ากันได้ดี (แต่ใจมันคันเลยไป V281 ครับ)

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ปล่อยของเก่าหลังจาก upgrade
- BHA-1
- Cardas Clear ขั้ว 1/4"
ถ้าสนใจซองเหลืองมาคุยได้ครับ

หูฟังไม่ได้กินวัตต์มาก ขับไม่ยาก เน้น DAC คุณภาพสูงๆ(มีฟังก์ชั่น ขับหูฟังในตัว) + Master Clock ดีๆ ก็จะเข้าเป้าเช่นกันจร้า

งบ 100-200k มีให้เลือกเยอะมาก ......ยิ่งมองมือสองร่วมด้วย อาจได้งบสอย สายต่างๆ เข้าร่วมทัพครบครัน

วันก่อนผมไปลองฟัง HE560 กับแอมป์สองตัวนี้มาครับ
- NuForce HA-200 (ต่อแบบ Dual Mono)
- Violectric V200
ซุ่มเสียงเข้ากับ 560 ได้ดีทีเดียวครับ อยากจะไปถึง V281 อย่างคุณ TMY168 อยู่เหมือนกัน...แต่ติดที่ตังไม่ถึง
ที่พอจะเอื้อมถึง ก็มีสองตัวบนล่ะคับ
แต่ถ้าเป็นคุณ Surat 100k ผมว่าไปถึงแน่ๆ เดินตามคุณ TMY168 ไปเลยครับ ... V281 เสียงดีมากกกก

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ถามต่อหน่อยครับ คุณ TMY168 ครับ HE-560 กับViolectric V281เข้ากันได้ดีไหมครับ(ผมเคยจะเข้าไปลองฟัง แต่ของยังไม่เข้ามาครับ)ถ้าเข้ากันรบกวนแนะนำ DAC ที่เข้ากันกับชุดนี้ด้วยครับ พอดีอยู่ ตจว.ครับ เป้าหมายจะได้แคบลงหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าไว้ด้วยครับ

Violectric V281 + Ayre QB-9 DSD

เสียงจะเป็นยังไงหนอ น่าลองเหมือนกัน

ผมใช้ HE-560 กับ Violectric V281 และสาย Nordost HD2 เข้ากันได้ดีมากครับ (เข้ากะ LCD3 มากด้วย)

ผมใช้ Ayre DX5-DSD เป็น DAC + SACD/CD Player ก็เข้ากันได้ดี บางทีก็เอา Resonessence Labs HERUS & Concero HD มาต่อเล่นก็ชอบนะ แต่ single end only ไม่ balance หมด (ส่วนตัวผมชอบ Resonessence Labs นะครับ เสียงดีมาก ราคาไม่แรง)

Ayre QB9 DSD เป็น DAC ที่ดีมากๆ แต่ก็ราคาสูง
Benchmark DAC2 HGC, Mytek DAC192 ก็น่าสนครับ

เลือก DAC นี่ต้องมาฟังเองครับ ไม่กล้าแนะนำเพราะผมหูถั่วฟังตัวไหนก็ชอบ 555

รูปปลากรอบ

ขอบคุณมากๆครับ คุณ TMY168

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ
ไปๆมาๆท่าทางคงทะลุเกินสองแสนแน่แท้ ขออณุญาตถอยทัพครึ่งก้าวแล้วค่อยรุกใหม่เมื่อขอเบิกได้ก่อนครับ555
แต่บอกตรงๆv281ฟังแล้วชวนให้เสียตังค์มากครับ คาดว่าคงเอาตัวนี้เป็นที่ตั้งก่อนแล้วค่อยๆแว่บไปขอร้านเอาไอ้โน่นไอ้นี่มาประกอบลองฟังอีกขั้นนึง
ผมไม่ได้ห่วงเรื่องซื้อมากปานนั้นหรอกครับ แต่ผมกลัวเอามาแล้วไม่ถูกใจมากกว่า ไอ้ของพวกนี้มันย้ายเวลาขายยากเลยต้องขอความเห็นคร่าวๆไว้ก่อนน่ะครับ

ปล.คุณstarman ผมอยู่ชลบุรีครับ ถ้าจะไปเดโมต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์เหมือนกันไม่งั้นอาจจะหัวแบะได้ครับ555

ผมว่าควรแบ่งเป็นขั้นเป็นตอนนะครับ แบบเฟส 1-2-3 จะจูนได้เข้าที่เข้าทางมากกว่านะครับ เครื่องเสียงนี่ไม่ใช่ว่าจะทุ่มเงินแล้วได้เสียงดีทันทีเลย ของผมเล่นชุดหูฟังเป็น Grado GS1000/Hifiman HE6 ปล้ำกันเป็นหลายปีครับ เปลี่ยนแอมป์แล้วเปลี่ยนแอมป์อีก ผมว่าถ้ารีบซื้อ มีหวังได้ซื้อๆขายๆ หลายๆรอบครับ รวมๆผมเสนอตามนี้นะครับ ลองพิจราณาดู

1. ลองไปฟังชุดเครื่องเสียงบ้าน หรือ หูฟัง ก็ได้ครับ แล้วพยายามดูว่าชุดไหนตรงความต้องการของเรามากที่สุดครับ คนฟังเพลงเบาก็ชอบเสียงแนวนึง คนฟังดังก็ชอบอีกแบบนึง บางคนชอบติดแหลมนิดๆ บางคนชอบนัวร์ๆหน่อย จุดนี้ถ้าไม่ได้ฟังบ่อยๆเราจะจับจุดหาตัวเองไม่เจอครับ ถ้าอยู่ชลบูรี ลองไปปิยะนัสดูครับ ลองให้หมดครับ marantz - moon - bryston อะไรก้แล้วแต่ แล้วจับแนวก่อนครับชอบเสียงญี่ห้อไหนมากที่สุด แล้วมานั่งแกะต่อว่าเสียงที่เราชอบ ย่านไหนเป็นอย่างไร เสียงเปิดปิด มิติ บรรยากาศ สปีดต่างๆ เป็นอย่างไร ที่เน้นฟังเยอะๆไว้เรพาะว่าบางทีเราอาจจะไปเจอญี่ห้อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ฟังแล้วเกิดรักแรกพบขึ้นมาครับ ตอนสมัยผมเล่นชุดบ้านก็ฟังๆๆๆๆแอมปหลอดอเมริกันบ้าง โซลิดอเมริกันบ้าง สุดท้ายไปเจอคู่ที่ใช่คือแอมปคลาสเอญี่ปุ่น Luxman ซึ่งสมัยนั้นไม่มีตัวแทนแม้กระทั่งในบ้านเราครับ

2. เมื่อพอรู้ๆแนวที่ชอบแล้ว ไปเอาหูที่เล็งมาไล่แมทย์กับ แอมป์ และ dac ที่มีโทนเสียงแนวๆที่ชอบครับ พยายามเลือกให้ระดับของเครื่องมันสมน้ำสมเนื้อกันนะครับ เช่น มีหนึ่งแสน พยายามใช้ dac-30,000 amp-30,000 heaphones 30,000 ทริกคือ พยายามมองเป็นภาพใหญ่ครับ ว่าเสียงที่ชอบคือเสียงแบบไหน นึกถึงตอนที่เราฟังตามที่ผมบองขั้นตอนแรกครับ แล้วคิดแบบเลข ให้ x เป็นเสียงที่ชอบ มีของสามอย่างในขั้นนี้ ก็จับ X=A+b+c โดย a b c เป็น dac amp headphones ครับ บางทีเราต้องคิดเผื่อไว้ด้วยครับ บางทีเลือก dac-amp แนวๆเดียวกันเสียงอาจทื่อเกิน อาจจะต้องบวกๆลบๆ กะๆเอาบ้างครับ ตรงนี้เป็นเรื่องของ synergy-matching ครับ

3. เมื่อพอได้ชุดแนวๆที่ใช่แล้ว อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่อยากได้เพิ่ม หรือเพิ่มคุณภาพความสะอาดของเสียง ก็ไปเล่นที่สายไฟครับ อาจจะใช้งบประมานเส้นละ 20% ของราคาชุดก็ได้ครับ เน้นเลือกใส่เป็นของค่ายๆเดียวกัน หรือแนวๆทางเดียวกันครับ อย่าไปเส้นนึงสว่าง เส้นนึงทึบ แล้วคิดว่าจะได้สองอย่าง สุดท้ายแบบนี้จะ สปีด ไทมมิ่งต่างๆเสีย แล้วจะไม่ได้อะไรเลยครับ

จุดที่สำคัญที่สุด คือห้ามไปฝืนธรรมชาติของชุดครับ เช่นอย่างของผม ผมก็ไม่ฝืน grado gs1000 ของผมให้นุ่มนวล เนียน เสียงเหมือน audio technic w5000 ครับ

อาจจะยาวหน่อยนะครับ แต่ผมก็พยายามบอกหมดเปลือกในมุมมองของผม ผมไม่สามารถจัดชุดให้ได้เพราะไม่ทราบว่าคุณ surat ต้องการเสียงออกมาประมานไหน บางทีการบอกเพลงแนวที่ฟัง ก็ช่วยได้ไมหมดครับ เช่นบอกว่าขอบเพลง jazz คนที่ชอบบรรยากาศ อารมณ์สดๆ กับคนชอบ laid-back ก็เลือกชุดฟัง jazz ต่างกันแล้วครับ แต่ ณ จุดนี้ที่ผมบอกได้คือวีธีที่ผมคิดว่าดีที่สุดในการที่จะใช้งบอย่างคุ้มค่า และให้เสียงที่คุณ surat ต้องการจริงๆครับ

ลืมบอกเรื่องการเทียบไปนิดหน่อยครับ เวลาเราเทียบเครื่องเสียง ให้ดูพวก phase ของปลั๊กไฟ impedence output ของแอมป ว่ามันใช้ได้หรือเปล่าด้วยนะครับ ต้องให้มันเป๊ะที่สุดเพื่อจะค้นเสียงจริงๆของมันมา ผมเห็นหลายๆร้านยังต่อปลั๊กไฟกลับเฟส หรือสาย rca กลับทิศทางบ้างถูกทีิศทางบ้างอยู่เลยครับ ไม่ก็ปรับ gain สูงไปบ้างต่ำไปบ้าง พวกไฟผิดเฟส อะไรแนวๆนี้ผมอยากจะบอกว่า เสียงมันต่างกันยิ่งกว่าคุณเทียบสายสัญญานหลัก 100 กับหลัก 10000 ครับ อย่าลืมจุดนี้ด้วยนะครับ สำคัญมากๆ

อีกเรื่องนึงก็พยายามจูน headphone+amp ให้ได้ก่อนแล้วค่อยมายุ่งกับ source ครับ ไอ้เทรนเน้น source first มันมาจากโคสนาของ Linn สมัยแผ่นเสียงนู่นนะครับ แต่ถ้าแอมปเอาหูฟังไม่อยู่ เปลี่ยน dac ให้ตายยังไงก็ห่วยครับ แถมใส่สายอะไรก็จับความต่างได้น้อยมาก ถ้า headphones+amp ลงตัวแล้ว ใส่ต้นทางเป็นอะไรนี่ชุดก็แทบจะเปลี่ยนไปตามนั้นเลยครับ ฟังออกง่ายมาก ยังไม่ต้องสนใจ DSD 32bit 64 bit อะไรมากครับ เลือก DAC เลือกตัวที่มันมีโครงสร้างดีๆ ภาค output alnalog ดีๆไว้ก่อนครับ จะกี่บิตไม่ต้องไปสนใจมันมากครับ ถ้าเสียงดีเอามาได้เลยครับ ผมเห็น dac ตัวกระจิ๋วๆ เล่น 32 bit ได้ แต่ข้างในใช้ของเกรดห่วยแทบจะทั้งหมด แบบนี้ไม่ต่างกับกล่องขยะจอมปลอมกล่องนึงครับ หวังว่าจะสนุกกับการเลือกซื้อนะครับ

ยกนิ้วให้ท่าน hvk ครับ กระจ่าง

โอ้วว เป็นวิทยาทานที่ดีมากๆ เลยครับผม
สอบถามน้า hvk นิดนึงเรื่อง matching สายครับ สมมติถ้าผมใช้ สายสัญญาณเป็นตระกูล jps ตัวสายไฟก็ควรเป็นตระกูล jps ที่ให้แนวเสียงไปทางเดียวกันใช่ไหมครับ
ถ้าเอาสายไฟของเจ้าอื่นที่ให้เสียงตรงข้ามกันมาใส่เพราะกะให้มันเกื้อหนุนกัน จะกลายเป็นว่าเสียงมันจะไม่ match กันอย่างนี้รึเปล่าครับผม

คุณ hvk ให้คำแนะนำที่ดีมากๆ เลยครับ ^^

+++ให้น้า hvk อีกคน ประสบการณ์ของท่านที่ถ่ายทอดมา มีประโยชน์มากครับ

Thank you K. HVK ครับ กระจ่างมากครับ

เข้ามาเสพวิทธาทานที่พี่ hvk กล่าวถึงไว้ได้ดีมากๆครับ

คุณ ellevoid ครับผม เอาแบบกว้างๆนี่ใช่เลยครับผม เท่าที่ผมเคยลองเล่นๆมา ใส่ทั้งชุดเสียงจะกลมกลืนกว่าครับ ก็จะมีบ้าง บางเคส ที่ผสมเอาแล้วอาจจะเข้าแนวที่ชอบมากกว่า แต่สายที่นำมาผสม ก็ยังถือว่าเป็นวรรณะเดียวกันอยู่ครับ

ถ้าชอบ JPS ใช้ JPS ทั้งชุดไปได้เลยครับ จูนเอาภายในค่าย JPS ครับ พยายามให้มันเป็นซีรีย์เดียวกัน ใส่ไปเรื่อยๆจนครบทุกเครื่องเสียงจะไหลลื่นแมทย์กันมากครับผม ลองดูตัวนำต่างๆของสายด้วยนะครับ เพราะสายบางเส้นไปได้ดีกับ CD player บางเส้นไปได้ดีกับแอมป์ อันนี้ควรจะใส่ให้ถูกจุดครับผม จะเสริมตรงไหนก่อน เอาจุดที่คิดว่ามีปัญหาที่สุดก่อนครับ เช่นถ้าจาก CD บางเกินไป ก็ไปเสริมตรงนั้นครับ หรือแอมปมันไม่เปิด ก็ไปเสริมที่แอมป์เลยครับ เวลาจูนค่อยๆใส่มันไปที่ละจุดครับ ทำเรื่อยๆมันจะลงตัวไปเองเลยครับ ไม่ใช่ว่าทั้งชุดออกมาทึบเพราะว่าแอมป์ แต่ไปเอาสายลำโพงหรือสายหูฟังสว่างๆมาแก้ ต้องดูถึงต้นตอครับว่าเป็นที่อะไร

โอ้ววว ขอบคุณครับ ลึกล้ำมากเลย หูตะกั่วอย่างผมจะไหวไหมเนี่ย
ตอนนี้เพิ่งรื้อสาย JPS ออกมาขายไปซะเกือบหมดละ เล่นมั่วซั่วจริงๆ ผม ฮ่าๆๆ

น้า Surat ถ้าได้ผลยังไงแจ้งด้วยนะครับ มีคำแนะนำดีๆ เยอะแยะเลยทีเดียว อิอิ

ผมยอมรับอีกคนครับว่าเล่นตามกระแส แรงเชียร์ มากกว่าลองเอง เชื่อหูตัวเอง

ต่อไปนี้จะหาเวลาไปทดลองฟังอย่างที่คุณ hvk แนะนำให้มากกว่านี้ล่ะครับ -. -"