วันจันทร์ที่ ๓ พ.ย.

วันนี้จับเจ้า Doppio เบิร์นด้วยแผ่น Atlas ประมาณสิบชั่วโมง แล้วก็ลองเปิดแผ่นคอนเสิร์ตของไช่ฉินฟัง อัลบั้มนี้ครับ







ฟังแล้วต้องบอกว่าตกใจนิดนึง เพราะ feel ที่ได้ยินคือเสียงร้องมันยังชัดเจนมาก ชัดเจนแต่แข็ง แข็งแบบว่าอารมณ์กำลังฟังสันติ ลุนเผ่ ร้องเพลงปลุกใจ มันแบบนั้นเลย มันชัดแต่ไม่มีความพริ้วหวาน

เริ่มจิตตกนิดๆ เลยเปิดอัลบั้ม sails ของ Chet Atkins บ้าง






วันที่สองนี่ต้องบอกว่าเจ้า doppio ให้เสียงกลางและสูงได้ตามที่เฮียมั่นเคยรีวิวเอาไว้ว่า รายละเอียดระยิบระยับดีจริงๆ ลองเปิดเพลงแจ็ซดูหลายๆอัลบั้ม ต้องใช้คำว่าฟังแล้วสนุกครับ

รายละเอียดชิ้นดนตรีดี ปลายแหลมไปได้ไกลกว่า ATH-W5000 ของผมซะอีก

แต่................

เบสไม่มาครับ เบสหายยยยยยยยย

มันคงมีมั๊ง แต่มันน้อยมาก

จบวันที่ ๒ นอนด้วยอาการเป็นไข้ เนื่องจากฝืนออกไปถ่ายรูปเมื่อวันอาทิตย์



เมื่อเดือนที่แล้วนั่งรถไปสวนหลวง ร.๘ แบบไม่เจียมสังขาร ผลก็คือได้ภาพสวยๆมาหลายรูป แต่เป็นลมหกล้มหัวเข่าพัง นี่ผ่านมาครบเดือน อาการยังไม่ดี

วันอังคารที่ ๔ พ.ย.

วันนี้เปิดอัลบั้ม Great Film Fantasies แช่เอาไว้ครับ





ตอนค่ำๆมาเปิดฟัง อัลบั้มเพลงร้องเสียงสูงๆอย่าง Celtic Women, All Angles, ก่อนจะปิดท้ายด้วยอัลบั้ม Camomile Blend ของน้อง Emi Fujita


มีความรู้สึกว่าเสียงกลาง เริ่มจะไม่ล้ำหน้า แต่........ มันยังไม่หวาน ขนาดเลือกแผ่นที่เสียงร้องหวานหยดแล้ว มันยังไม่หวานนนนน

สุดท้ายแก้อาการจิตตก ด้วยการเปิดอัลบั้มนี้ครับ






พอฟังแล้วอยากบอกว่า ผ่านมาสามวัน เจ้า Doppio เหมาะกับฟังเพลงอคูสติค, แจ็ซ, คลาสสิค มากๆ เปิดฟังหลายๆอัลบั้ม มันฟังสนุกจริงๆ


การแยกแยะรายละเอียดของชิ้นดนตรีทำได้ดีมาก เสียงไวโอลิน เสียงเครื่องเคาะ รายละเอียดมันมาทุกเม็ด

แต่..........

ผมยังไม่กล้าเปิดไช่ฉินฟังซ้ำครับ ยังไม่อยากได้ยินสันติ ลุนเผ่ร้องแบบแข็งแรง ชัดถ้อยชัดคำ กลัวจิตตก

รวมทั้ง ............ เบสยังหาย


จบวันที่ ๓

รีวิวดีมากครับน้า รออ่านต่อ
ปล.ใช้ fisheye ตัวไหนครับ

รออ่านประสพการณ์ท่านอื่นครับ ผมเบิร์นเสร็จแล้วเหมือนกัน และก็รู้สึกคล้ายๆเจ้าของกระทู้

เดี๋ยวดูตอนต่อไป และบทสรุปก่อน แต่ของผม ตอนนี้ ส่งมันไปแอ่วเมืองเหนืออยู่ครับ ^ ^

ไม่แน่ เผื่อยังไงจะได้แลกเปลี่ยนประสพการณ์การเบิร์นกันครับ 555

เบิร์นด้วยไฟครับ จบแน่ไม่ต้องรอ แฮ่ล้อเล่น

รอฟังด้วยคนครับ

น่าติดตาม

ผมเคยไปลองฟังตัวนี้มาแล้ว ย่านเสียงสูงทำได้ดี แต่เบสกุด คิดว่าเป็นแนวของมันนะครับ รู้สึกว่าที่ญี่ปุ่นจะใช้ศัพท์คำว่า 「メリハリ」เป็นการเพิ่มย่านเสียงความถี่สูง แล้วไปลดย่านเสียงความถี่ต่ำ เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย.... ผมอาจแปลผิดก็ได้ครับ 55+

http://gogen-allguide.com/me/merihari.html

ถ้าอยากได้แบบมีเบสอีกหน่อย ลองไปฟัง DUNU-2000 ดีกว่าครับ

รักษาสุขภาพนะครับน้าเต่า
รูปที่น้าถ่ายนี่สวยโคตรๆๆๆๆ

ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ ผมแปลผิดนะครับ อย่าจำไปใช้กันล่ะ จะ edit แก้ก็ไม่ได้ซะด้วย ขออภัยครับ

รออ่านไดอารี่ต่อนะครับ 555

เมื่อกี๊ผมอ่านลงมา เห็นก๊วกกี้เรียกน้าเต่า เลยนึกออกเลยว่ามาจากเว็บ TAC แน่นอนเลย ยินดีที่ได้รู้จักครับ(ผมไม่เคยเห็นหน้าหรอกครับ) ผมเข้าอ่านในเว็บ TAC อยู่บ้างและได้ยินชื่อน้าเต่าอยู่ครับ

เลนส์ไวด์ดีจัง ภาพก็สวยดีจริงๆๆครับ 555 ผมชอบตั้งแต่ถ่ายภาพม่าม๊านอนบนเตียงภาพนั้นแล้วล่ะครับ

ขอตอบก่อนครับ

น้า tangkoo ครับ ในกระทู้นี้ผมใช้เลนส์สองตัวถ่าย เลนส์ตัวนึงเป็น fish eye ที่เขานิยมกันยี่ห้อ Samyang 7.5mm./f3.5

ส่วนอีกตัวเป็น toy lens 9mm/f8 ปรับโฟกัส ปรับอะไรไม่ได้เลย เวลาถ่ายก็วัดดวงเอาหน่อย ราคาเลนส์สามพันต้นๆ


เมื่อวานตอนเช้า ผมเปิดอัลบั้ม jazz ของ Gene Harris ฟัง แล้วผมรู้สึก .....สนุก....

สนุกแบบว่าหูฟังมันให้อารมณ์แจ็ซได้แบบเต็มๆ ซึ่ง W1000, ESW11LTD, W5000 ที่ผมชอบแนวเสียง ก็ยังให้อารมณ์แบบนี้ไม่ได้ ผมเลยมีความรู้สึกว่าอยากเขียนรีวิว

แต่เขียนแบบตรงไปตรงมา คิดยังไงก็เขียนอย่างนั้น สุดท้ายแล้วหลังเบิร์นจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่รู้นะครับ



แต่จะบอกว่าตอนฟังเพลงแจ็ซด้วย doppio ผมรู้สึกเหมือนตอนถ่ายรูปด้วยเลนส์ราคาสามพันแล้วภาพมันออกมาดี

.....เพราะมันคุ้มค่าเกินราคา.....


แต่ตอนนี้.......ฟังเพลงร้อง มันปวดตับ




ขอบคุณน้าเหน่งบา, janonakab, pt1, FELT, Chaiyut A, น้าก๊วก ที่แวะมาคุยกันครับ

เฮียมั่นครับเดี๋ยวนี้ขายทิ้งชุดฟังเพลงหมดแล้วครับ มาทางหูฟังเต็มตัวแล้วครับ

วันพุธที่ ๕ พ.ย. (วันที่สี่ของการฟัง)

วันนี้ตื่นเช้ามาเปิดแผ่นเปียโนแจ็ซของ Gene Harris ฟัง

พอฟังแล้วชอบมาก ชอบจนมาตั้งกระทู้นี้แหละครับ

ฟังอยู่สองชั่วโมง ก็เอา burn in track ของ Isotek กับ Atlas โยนเข้า playing now เปิด repeat ไปยาวๆ


เปิดตั้งแต่สิบโมงเช้ายันสี่ทุ่ม สิบสองชั่วโมงเต็ม


จากนั้นลองเปิดอัลบั้ม Folk Song ของไช่ฉินฟัง




วันนี้ไช่ฉินแกทิ้งผมขึ้นไปยืนร้องบนเวทีแล้วครับ เสียงร้องกับดนตรีกลมกลืนเป็นธรรมชาติมากขึ้น เสียงร้องยังเด่นอยู่ แต่นุ่มนวลขึ้น


ฟังไปเรื่อยๆ พอถึง track ที่ 8 (มั๊ง) ดนตรีมีกลองจีน พอฟังแล้วผมก็สะดุดหูว่า อ้าวเบสมันเริ่มมาแล้วนิ


ผมเลยลองของกับแผ่นโปรดของผม World's Greatest Audiophile Vocal Recordings






อัลบั้มนี้ทาง Chesky Records คัดเอาเพลงจากหลายๆอัลบั้มมารวมกัน โดยทุกเพลงจะบันทึกแบบใช้ไมค์ตัวเดียว มีการ post process น้อยมาก เสียงออกมาเป็นธรรมชาติสุดๆ


ที่ว่า"ลองของ"เพราะ track แรกของอัลบั้มนี้ คือ Spanish Harlem ของ Rebecca Pidgeon เพลงนี้ double bass ลงต่ำไปแตะแถวๆ 20 Hz. ผมเอาไว้ฟังเวลาไปลองชุดเครื่องเสียงชาวบ้านครับ


พอฟังแล้วก็ต้องบอกว่า วัดเอาจากหูผมนะ เบสของ doppio ตอนนี้น่าจะอยู่แถวๆ 30+Hz ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าหลัง 200 ชั่วโมงแล้วจะดีขึ้นไหม

แต่ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนคือ หลังจากเบิร์นไปอีก 12 ชั่วโมง วันนี้ฟังเพลงร้องไม่ค่อยเจ็บตับแล้วครับ ฟังอัลบั้ม World's Greatest Audiophile Vocal Recordings จนจบอัลบั้มด้วยความพอใจ



แผ่นต่อมาที่ลองก็คือ BROTHERS IN ARMS




เสียงกลอง เสียงกระเดื่อง ผมว่ามันพอแล้วสำหรับผมนะ เพราะที่ผมอยากได้ไม่ใช่ปริมาณเบส ผมอยากได้ยินเสียงรายละเอียดของดับเบิ้ลเบสเวลาฟังเพลงแจ็ซต่างหาก

จากนั้นก็ไล่ฟังอัลบั้มโน่น นี่ นั่น ไปเรื่อยๆ

จนตอนนี้ตีสองครึ่ง ผมยังสนุกกับการฟังเพลงอยู่ ขณะที่พิมพ์ผมกำลังฟังอัลบั้มของน้องแฟรี่






ฟังเพลงดอกไม้ด้วยหูฟังที่ราคาไม่แพง แต่ได้ยินเสียงหวานๆเต็มไปด้วยอารมณ์ของน้องแฟรี่แล้วรู้สึกคุ้มค่าเหมือนใช้เลนส์สามพันถ่ายรูปแล้วได้ภาพสวยๆครับ






จบวันที่ ๔

รีวิวดีครับ ตรงๆชัดๆ ถ่ายรูปก็สวย รอติดตามนะครับ

@น้าเต่า(ขออนุญาตเรียก ตามน้าก๊วกกี้นะครับ จริงๆขี้เกียจพิมพ์555) ผมก็เดาๆว่าน่าจะประมาณ samyang หรือไม่ก็เลนส์ fisheye มหาชนอีกตัวของ sony nex โดยเฉพาะการถ่าย ซำปอกง ถ้าไวด์ทั่วไปน่าจะถ่ายได้แค่เต็มองค์กับติดแบ็คกราวด์อีกนิดหน่อย ถ้าน้าไม่ใช้พวก peakink mode ช่วยก็แสดงว่าฝีมือหมุนไม่ธรรมดา เข้าทุกรูป สวยทุกรูปเลยครับ รอรีวิวต่อครับ

ดันครับ รอติดตามความคืบหน้าอยู่

ฟังเพลงใกล้เคียงกับผมเลยล่ะครับ 555

วันนี้ครบเจ็ดวัน ตั้งใจจะเผา เอ้ยเขียนรีวิวต่อ

มาเจอเรื่องช็อก + เศร้า เคล้าน้ำตาครับ

wd passport 2tb ที่ผมเก็บเพลงอยู่ๆก็พัง กู้ข้อมูลมาได้ประมาณ 90% แต่10% ที่หายไปมันก็หลายสิบอัลบั้มอยู่

ขอไว้อาลัยซักวันนะครับ พรุ่งนี้จะไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือล้างซวย แล้วจะมาเล่าต่อครับ

ตอบน้า tangkoo ครับ fish eye ที่ถ่ายเอามาลงในกระทู้นี้ ผมใช้ทั้ง samyang'7.5mm/Zf3.5 กับ olympus 9mm./f8 ครับ

น้าเหน่งบาครับ เสียงหลังจากทั้งฟังทั้งเบิร์นไปประมาณ 80 ชั่วโมง กลางแหลมดีขึ้นมากครับ แต่เบสยังนิ่งๆ เสียงทิมปะนียังดังตุ๊งๆเป็นกลองสิงโตอยู่ครับ

เฮียมั่นครับ ปูนนี้แล้วก็ฟังกันแนวนี้ล่ะครับ ฟังหนักๆไม่ไหวเหมือนตอนหนุ่มแล้ว ฮ่าๆ

เอาใจช่วยครับ ถ้าเป็นพวกไฟล์สำคัญๆ อย่างพวกรูปภาพ ผมมักเก็บไว้สองก๊อปปี้ขึ้นไปเสมอ ปีนึงก็เช็คสักสองสามครั้ง พวกนี้มันไว้ใจไม่ได้จริงๆครับ

เสียใจด้วยกับไฟล์ใน HDD นะครับ
และรอรีวิวต่ออย่างใจจดจ่อ
ปล.อยาก share ไฟล์กับคุณ [email protected] บ้างจัง น่าจะคอเดียวกัน

555 ฮาตรงปูนนี้ต้องฟังแนวที่ว่านี้ล่ะครับ

ได้เจ้า Doppio มาเก้าวันแล้ว ตีซะว่าร้อยชั่วโมงละกันครับ เพราะผมทำงานที่บ้าน เปิดตั้งแต่สายๆถึงเที่ยงคืน


ความเดิมเมื่อสามวันแรก
1. แหลมใส
2. กลางจัด
3. นักร้องมานั่งตัก เสียงร้องชัดเจนเหมือนทะลุออกมาจากกระเพาะ ผ่านไรฟัน ริมฝีปาก เข้าหูเต็มๆ เสียงร้องแข็งทื่อ ฟังแล้วตับอ่อนอักเสบ
4. เสียงต่ำตั้งแต่ประมาณ 150 เฮิร์ตลงไป หายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

มาถึงตอนนี้
1. แหลมยังใสเหมือนเดิม แต่ประกายฮาร์โมนิค, รายละเอียดของโน้ต ดีขึ้นมาก ฟังเครื่องดนตรีอย่างเปียโน, vibraphone, ไวโอลินฯลฯ รายละเอียดหยุมหยิมเยอะมาก ผมว่าเป็นจุดแข็งของเจ้า Doppio เลยล่ะครับ เสียงใสรายละเอียดดี แต่ไม่สดหรือจัด ฟังได้ทั้งวันสบายๆ

2. กลางเริ่มดีขึ้น เรียกว่าดีขึ้นเยอะ เมื่อผ่านร้อยชั่วโมง เสียงเครื่องดนตรีในย่านนี้ทำได้ดีทีเดียว

3. เสียงร้อง ตอนนี้นักร้อง ไปอยู่หน้าวงแล้ว ไม่ล้ำหน้า แต่เสียงร้องยังชัดเจน สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากที่สุดคือ นักร้องไม่ได้ยืนร้องตัวแข็งเป็นเพลงปลุกใจอีกแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ผมเปิดอรวีฟังต่อเนื่องสิบกว่าอัลบั้มแบบเพลิดเพลิน

หลายคนอาจจะหัวเราะเยอะว่าเอาอรวีมาเป็น benchmark เนี่ยนะ ผมต้องบอกว่าผมเป็นติ่งอรวีตั้งแต่เยื่อไม้ชุดแรกครับ เล่นเครื่องเสียงบ้านเนี่ย ไม่ว่าจะลำโพง, ซีดีเพลเยอร์, แอมป์, สายสัญญาณ, สายลำโพงฯลฯ แผ่นที่ผมเหน็บติดไปลองฟังด้วยตลอดต้องมีแผ่นอรวีอยู่หนึ่งในนั้น ถ้าผมฟังแล้วอรวีเสียงไม่ใสผมไม่เอา ถ้าไม่ได้ยินเสียงเอื้อน+การทอดเสียงแบบออดอ้อน แสดงว่าเครื่องเสียงนั้นถ่ายทอดออกมาได้ไม่ครบ และถ้าเครื่องเสียงไหนเปิดอรวีแล้วเสียงแหลมขึ้นจมูก อันนี้ก็จบกันไปเลย

4. เสียงต่ำเริ่มดีขึ้น ฟังเพลงคลาสสิคได้สนุกมากขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าโอกาสที่เจ้า Doppio จะลงไปได้ต่ำกว่า 25 Hz. คงจะน้อยละครับ ตอนนี้ฟังด้วยหูผมนะ ยังลงไปได้ประมาณ 3x Hz. เท่านั้นเอง

ต่อไปนี้คือความเห็นที่ผมเริ่มฟังแบบจริงจังหลังผ่านร้อยชั่วโมงแรกนะครับ

อัลบั้มแรก ผมจัดของหนักใส่เจ้า Doppio ด้วยอัลบั้ม The Spirit Of Turtle (SACD ISO)
http://upic.me/i/m4/00031.jpg" alt=" " />





เมื่อค่ายใหญ่อย่าง dCS ลงมาเป็นสปอนเซอร์แผ่นเดโมทั้งที ไม่ทำให้เสียชื่อแน่แน่ อัลบั้มนี้เพราะทุกเพลงแนะนำเลยครับ


อัลบั้มนี้ ฟังได้ถึงแค่เพลงที่สอง Marc van Roon Trio – Marc van Roon: Noodle Effect เพลงนี้เพลงเดียวก็ทำผมเสียเวลาไปครึ่งชั่วโมงเพราะเปิดฟังซ้ำสามรอบ ฟังแล้วเพราะจริงๆครับ เป็นเพลงแจ็ซที่มีเปียโน, กลอง, เบส, เพอร์คัสชั่นเล่นล้อกันตลอด 9 นาทีกว่าๆ ฟังแล้วมัน ฟังแล้วสนุก เจ้า Doppio มันเกิดมาเพื่อเพลงแนวแจ็ซ, chamber music, คลาสสิค รวมทั้งดนตรีไทยดนตรีจีนจริงๆ


แทร็คห้า Johannes Brahms: Allegretto grazioso/Opus 120 มีไวโอลินเป็นตัวเอกแบบนี้ก็เสร็จเจ้า Doppio ซิครับ ฟังแบบเพลินๆ


แทร็คหก Michael Gees – Erik Satie: 5éme Gnossienne แทร็คนี้ เป็นเพลงที่เปิดจุดอ่อนของ Doppio แบบเต็มๆ เรื่องเสียงย่านต่ำ เพราะเป็นเพลง solo piano ตัวโน๊ตต่ำๆยังไม่ชัดเจนและคลุมเครือ ฟังแล้วผมยังไม่ให้ผ่านครับ


พอสำหรับอัลบั้มนี้นะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวอัลบั้มไป เอาพอเป็นไอเดียว่าหลังจากร้อยชั่วโมงแรกแล้ว Doppio ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน

เอาใหม่ครับรูปไม่ขึ้น

อัลบั้มแรก ผมจัดของหนักใส่เจ้า Doppio ด้วยอัลบั้ม The Spirit Of Turtle (SACD ISO)






เมื่อค่ายใหญ่อย่าง dCS ลงมาเป็นสปอนเซอร์แผ่นเดโมทั้งที ไม่ทำให้เสียชื่อแน่แน่ อัลบั้มนี้เพราะทุกเพลงแนะนำเลยครับ


อัลบั้มนี้ ฟังได้ถึงแค่เพลงที่สอง Marc van Roon Trio – Marc van Roon: Noodle Effect เพลงนี้เพลงเดียวก็ทำผมเสียเวลาไปครึ่งชั่วโมงเพราะเปิดฟังซ้ำสามรอบ ฟังแล้วเพราะจริงๆครับ เป็นเพลงแจ็ซที่มีเปียโน, กลอง, เบส, เพอร์คัสชั่นเล่นล้อกันตลอด 9 นาทีกว่าๆ ฟังแล้วมัน ฟังแล้วสนุก เจ้า Doppio มันเกิดมาเพื่อเพลงแนวแจ็ซ, chamber music, คลาสสิค รวมทั้งดนตรีไทยดนตรีจีนจริงๆ


แทร็คห้า Johannes Brahms: Allegretto grazioso/Opus 120 มีไวโอลินเป็นตัวเอกแบบนี้ก็เสร็จเจ้า Doppio ซิครับ ฟังแบบเพลินๆ


แทร็คหก Michael Gees – Erik Satie: 5éme Gnossienne แทร็คนี้ เป็นเพลงที่เปิดจุดอ่อนของ Doppio แบบเต็มๆ เรื่องเสียงย่านต่ำ เพราะเป็นเพลง solo piano ตัวโน๊ตต่ำๆยังไม่ชัดเจนและคลุมเครือ ฟังแล้วผมยังไม่ให้ผ่านครับ
พอสำหรับอัลบั้มนี้นะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวอัลบั้มไป เอาพอเป็นไอเดียว่าหลังจากร้อยชั่วโมงแรกแล้ว Doppio ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน

อัลบั้มถัดไป ขอเป็น jazz สามชิ้นแบบเบาๆ Tingvall Trio อัลบั้ม Beat (24/96)






อัลบั้มนี้ได้หลายรางวัลมากในยุโรป เป็นเพลง classical jazz สามชิ้น กลอง, เปียโน, เบส บันทึกมาแบบ 24/96 ใครชอบฟังเพลงคลาสสิคแจ็ซ แบบเปียโนใสๆสไตล์ Gene Harris ในยุคสี่ห้าสิบปีที่แล้ว ไม่ควรพลาดอัลบั้มนี้ครับ


พอมาเป็นเพลงเบาๆ เน้นเปียโนพริ้วๆ แบบนี้ก็เข้าทาง Doppio ต้องบอกว่าสามผ่านครับ จบแบบสั้นๆแหละ ก็มันเพราะนิ

อัลบั้มถัดมาที่ขอลองของกับเจ้า Doppio ก็คือ Ingar Bergby, Royal Norwegian Navy Band – Symphonies of Wind Instruments 24/192






เป็นอัลบั้มจากค่าย 2L ครับ เลือก movement ที่มีเครื่องเป่าเป็นตัวหลักมาล้วนๆ ทั้งอัลบั้ม


เป็นคลาสสิควงใหญ่ แต่เพลงไม่หนักมาก Doppio ทำได้ดีพอสมควรกับการแยกแยะชิ้นดนตรี ช่วงเครื่องเป่า woodwind ล้อกับ brass wind แล้วมี Piccolo กับ Flutes คอยป่วน ฟังสนุกครับ เพลินดี รอว่าผ่านหลักสองร้อยชั่วโมงแล้วเสียงชิ้นดนตรีจะเด็ดขาดกว่านี้หรือเปล่า

ตอนนี้ยังไม่ให้ผ่านครับ

ทีนี้มาลองฟังเพลงร้องกันบ้าง ผมเลือกป้า Shelby Lynne คนสวยเจ้าของรางวัลแกรมมี่กับอัลบั้ม Just A Little Lovin’ (SACD ISO) มาฟังเพื่อรีวิวครับ







อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดของป้าแกในชาร์ต บิลบอร์ดละครับ ตอนนี้ Doppio เริ่มเข้าที่แล้วกับเสียงกลางสูง เสียงป้า Shelby มีหนักเบา มีลูกคอ นุ่มๆเจือหวานนิดๆ ฟังแล้วก็สามผ่าน ไม่ปวดเซ่งจี๊เหมือนสามวันแรกแล้ว

ปิดท้ายไดอารี่ด้วยแผ่น TVB – Chinese Movies Disk 1 (EAC owned ripped)






อย่างที่ผมเคยบอกครับ ว่า Doppio เหมาะกับเครื่องดนตรีไทยหรือดนตรีจีน อัลบั้มนี้เอาเพลงเก่าๆคุ้นหูมาเรียบเรียงใหม่ ใส่เครื่องดนตรีจีนเข้าไป มีนักร้องเสียงดีดีทั้งชายหญิงมาร้อง Doppio ทำได้ไม่มีที่ติครับ เสียงร้องหวานๆ ออดอ้อน ลูกคอลูกเอื้อนชัดเจน ใครชอบเพลงแนวเสียงดนตรีกรุ๊งกริ๊ง ลองหาโอกาสเหน็บ player ไปลองเจ้า Doppio ดู


ผมขอจบไดอารี่ในช่วงร้อยชั่วโมงแรกแค่นี้นะครับ อีกห้าวันครบ 150 ชั่วโมง แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันต่อ

ลืมๆๆๆๆ

สุดท้าย ผมใช้ iem มาแค่สามตัว TTPod, IM03, Doppio

เจ้าตัวนี้แหละใส่สบายสุด เพราะขนาดเล็กแต่เวลาถอด ต้องระวัง เพราะด้วยขนาดมันเล็ก เวลาดึงออก จะจับไปโดนสายด้วย ซึ่งผมเห็นใน head-fi ก็มีบ่นเรื่องสายขาดเหมือนกัน คงเป็นเพราะดึงไม่ระวังล่ะครับ

ฝากภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ท่าน้ำวัดบุคคโล วันที่ตื่นแต่เช้าไปไหว้พระครับ ถ่ายด้วยเลนส์พลาสติคราคาสามพันหน่อยๆเหมือนเดิม

น้า tangkoo ครับ เดี๋ยวจะไปซื้อ hdd เพิ่มมา backup แล้วครับ

น้า ptt ครับ ยินดีครับ

เฮียครับ เรามันวัยเบญจเพศ ต้องฟังเพลงแนวนี้ล่ะครับ

มารายงานครับ

จริงๆกะจะรวบยอดตอนครบ 150 ชั่วโมง พอดีวันนี้พาเมียไปข้างนอก เลยเปิดแผ่น atlas burn-in CD ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เที่ยง กลับมาฟังตอนสามทุ่ม ด้วยแผ่น Jerry Goldsmith & London Symphony Orchestra – The Film Music of Jerry Goldsmith เป็น SACD ISO

ปรากฏว่า เบสเริ่มมาแล้วครับ กลองทิมปะนีฟังได้ชัดๆ ขาดแรงปะทะนิดหน่อย คาดว่าคงจะดีขึ้นตามลำดับ ช่วงดนตรีโหมขึ้นมา เริ่มไม่มั่วแล้ว

ไม่คิดจะซื้อ doppio ครับ
แต่ลงชื่อติดตาม ชอบรีวิวส์นี้มากครับ

ผมเข้ามาดูกระทู้นี้บ่อยครับ นอกจากจะรอรีวิวแล้ว ก็รอชมรูปสวยๆ นี่แหละครับ

ขอบคุณครับน้า Ace of Hearts กับน้า pt1 ที่ยังติดตามกันอยู่ครับ

ตอนนี้เกิน 150 ชั่วโมงแล้วครับ มีบางส่วนที่เสียงแตกต่างไปจากเดิมแบบให้ลืมของเก่าที่เขียนไว้ได้เลย

ก่อนอื่นขอบอกว่า ผมมือใหม่หูฟังครับ เดือนนี้ครบรอบหนึ่งปีพอดีที่เล่นหูฟัง ดังนั้นประสบการณ์ผมน้อยมากๆๆๆๆๆ หูฟังที่ใช้ในช่วงนึ่งปีนี่ก็มี
Matin Logan Mikros 90 -> ขายทิ้ง เพราะเสียงดีแต่ flat เกินไป ฟังไม่สนุก
ATH-ESW11LTD -> ขายทิ้งเพราะได้ ATH-W5000 มา
IM03 -> ขายทิ้ง เสียงออกโทน warm เกินชอบ รายละเอียดน้อยไปนิด
TTpod 1 -> เก็บไว้ เสียงคุ้มค่าตัว

เนี่ยครับ ผมฟังแค่นี้เองที่เป็นเรื่องเป็นราวนะ ดังนั้นผมถึงเรียกกระทู้นี้ว่าไดอารี่ไม่เรียกว่ารีวิว เพราะความสามารถไม่ถึงขั้นจะรีวิวอะไร คิดยังไงก็เขียนอย่างนั้น

กลับมาเข้าเรื่อง Doppio พอครบ 150 ชั่วโมงแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

++++++++++++++++++++++++++++++

ในส่วนของ Mid High ไปจนถึง High เป็นจุดเด่นสุดๆของหูฟังตัวนี้ คือปลายแหลมไปไกล รายละเอียดปลายเสียง ฮ่าร์โมนิคนี่ผมให้เกรด A+ ผมชอบมากกว่า ESW11LTD หรือ W5000 ซะอีก
ที่ต้องชมคนจูนเสียงก็คือ รายละเอียดเสียงสูงดีมาก เป็นประกาย แต่ไม่บาดหูเลยแม้แต่นิดเดียว
ฟังเพลงไม่ว่า จะเทพ vibraphone อย่าง Cal Tjader





หรืออัลบั้ม The Very Tall Band ของ Oscar Peterson ที่เปียโนกับ vibraphone ผลัดกันนำผลัดกันล้อ คะแนนเต็มสิบผมให้ยี่สิบ ฟังเพราะและสนุกจริงๆ






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ในส่วนของเพลงร้อง ตอนนี้ถือว่าดีจริงๆครับผมให้คะแนนความเพราะ ความพลิ้ว ความหวาน ของเสียงร้อง เท่ากับ ESW11 LTD และ W5000 เลย ฟังเพลงร้อง เนี่ย เพลินจนบางที ต้องหยุดทำงาน มานั่งฟังแบบตั้งใจกันทีเดียว
อัลบั้ม female vocal นี่จะเป็นสาวเสียงหวาน สาวเสียงใส สาวเสียงทุ้ม โยนใส่ Doppio ไปเลยครับ เจ้า Doppio ไม่มีเกี่ยง

ขออนุญาตใช้คำไม่สุภาพว่า เพราะโคตรๆ





โดยเฉพาะเพลงร้องแนวดนตรีอคูสติคนี่ฟังชื่นใจดีแท้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เสียงย่านต่ำ
เสียงย่านต่ำตั้งแต่ประมาณ300 Hz ลงมาดีขึ้น

ฟังเพลงเชลโลคอนแชร์โต้ อยู่ในระดับ B+ คือจากเดิมที่แทบไม่ได้ยินรายละเอียดเส้นสายเชลโล่ พอถึง 150 ชั่วโมง ตอนนี้รายละเอียดมาแบบผมพอใจแล้วละครับ

ฟังเดี่ยวเชลโล่อัลบั้มนี้แล้วเพลินจริงๆ





อีกจุดหนึ่งที่ผมเคยออกความเห็นว่า พอเป็นคลาสสิควงใหญ่แล้ว ชิ้นดนตรียังแยกจากกันไม่เด็ดขาด ตอนนี้หายขาดแล้วครับ
ผมลองฟังอัลบั้มเดิมที่เคยให้ความเห็นเรื่องนี้เอาไว้มาฟังซ้ำ เสียงเครื่องเป่า แยกแยะรายละเอียดได้ดีแล้ว หมดข้อสงสัยไปเรื่องนึง





ลองฟังอัลบั้มเครื่องสายบ้าง ก็อยู่ในขั้นดีมากเหมือนกัน




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่ในส่วนของเบส จะบอกว่ายังไงดีล่ะ ผมว่า Doppio ตอนนี้เสียงย่านต่ำ พอพอกับ IM03 ละกัน รายละเอียดมี แต่ไม่ตึ๊บ และแรงปะทะยังน้อยอยู่

อย่างไรก็ตามฟังเพลงพวกแนว fusion jazz, contemporary jazz เนี่ย ฟังมันนะครับ เสียงเบสไฟฟ้าซึ่งลงไปอยู่แถว 30-40 Hz. นี่ได้ยินชัดเจน รวมทั้งเสียงกระเดื่อง, snare, toms ก็ไม่มีปัญหา เอาเป็นว่า Doppio ฟังเพลงแนวแจ็ซ, แนวป๊อบได้ดีเลย ขอกระแดะใช้ภาษาฝรั่งหน่อยว่า fun factor เวลาฟังเพลงแนวนี้ ผมให้ชนะ ATH-W5000 ด้วยซ้ำ

ผมลองฟัง Jeff Beck อัลบั้มนี้ดู สำหรับคนแก่อย่างผม ผมก็ฟังสนุกแล้วล่ะ ถ้าให้เสียงมันหนักแน่นกว่านี้ หูผมคงรับไม่ไหว





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วเสียงโดยรวมล่ะ เป็นยังไงมั่ง

พอดีผมมีโอกาสฟัง Marshall รุ่นไหนไม่รู้เป็นครอบหู ไปฟังของพรรคพวกมา เอาตามหูผมนะครับ Marshall จะออกโทนเสียง dark ทำให้ฟังเพลงร็อคได้สนุกกว่า ถ้าเปรียบเป็นภาพ ก็ประมาณภาพด้านล่างครับ






ส่วนเจ้า Doppio นี่จะสว่างสดใส รายละเอียดครบๆ แบบภาพข้างล่างครับ





Doppio ให้รายละเอียดที่ดี แล้วก็เสียงจะติดไปทางหวานครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบแล้วล่ะครับสำหรับหลัง 150 ชั่วโมง เจอกันครั้งหน้า 200 ชั่วโมงเลยละกัน

ฝากภาพนี้ไว้ครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีฝนดาวตกช่วงตีสองครึ่งถึงตีสี่อยู่สองคืน หนุ่มๆเขาก็ออกไปต่างจังหวัดหาที่มืดๆถ่ายดาวตกกัน ไอ้เราแรงน้อย ตั้งกล้องถ่ายมันที่หน้าบ้านล่ะครับ ในกรุงเทพนี่แหละ ใครบอกว่าอยู่กรุงเทพถ่ายดาวไม่ได้ มันก็พอได้อยู่นะ ติดดาวตกมาด้วยหนึ่งดวงมองเห็นกันไหมครับ

เป็นหนึ่งในกระทู้ที่ผม ติดตามอ่านอย่างมีความสุขครับ รอติดตามตอนต่อไปครับ
ปล.เดาว่าตัวนี้ น่าจะเป็นRs1e ในร่าง inear(สงสัยจะได้เสียตังค์)

น้า tangkoo ครับ ดีใจที่ชอบครับ

RS1E นี่ Grado ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมว่า Grado จะใสกิ๊ง แต่ Doppio จะใสนุ่มๆครับ

เดี๋ยวถ้าเฮียหรือคุณหลุยส์แวะมาอ่าน ช่วยแนะนำดีกว่าครับ

รอติดตามตอนต่อไปครับ

up up

ผมลองฟังแล้วเจ้าตัวนี้ชอบมากกกกกกก

ที่สำคัญผมฟังเมทัลครับ

ผมชอบสไตล์เสียงมันนี่แหละ

ขออนุญาต... ขุด

เพลงร้องนี่กินขาดจริง ๆ 

แต่... มีรุ่นไหนให้เบสมากกว่าตัวนี้ ที่เหลือเหมือนเดิม นอกจาก... primacy, it 03, orion 

ตัวนี้พ้นเบินร์ เบสจะมาไหม ชั่วโมงบินที่เท่าไหร่ครับ 

ผมชอบฟังไปเรื่อย ๆ ไม่ชอบเปิดทิ้งไว้ ให้ผลเหมือนกันกับการตั้งใจเบินร์ไหม หรือต่างกันมาก

ข้อสังเกต
ตัวหนังสือ กับสีตัวบอดี้ ถลอกง่ายมาก
เลยดูเหมือนเก่า แต่ความจริงมันไม่ได้เก่าอย่างที่เห็นนะ เวลาวางระวังขูดกับพื้น หาผ้ารองกันหน่อยนะ เดี๋ยวราคาตก 555

คิดถึงน้าเต่าครับ  ไม่รู้จะหวนคืนวงการหรือเปล่า555