มาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ ซึ่งแกะมาปุ๊ปก็ต้องบอกว่าทั้งรูปร่างหน้าตาและแพ็คเกจนั้นดูหรูหราไฮโซโฮเรก้ากว่าเก่าก่อนพอสมควรเลยละครับ คือรูปแบบหรือขนาดอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากแต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เปลี่ยนไปทำให้เจ้า XBA-2 ตัวนี้ดูสวยงามเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรากว่าเดิมเลยทีเดียวเชียว!

หลังจากแกะกล่องก็ต้องมาดูของที่ให้มาในกล่องกันบ้างนะครับอันดับแรกที่อยากนำเสนอก็คือ กระเป๋าเก็บหูฟังที่แถมมาให้นั้นคอนข้างดูดีทีเดียวครับ ข้างในนั้นเป็นผ้านุ่ม ๆ ถนอมหูฟังเราได้อย่างดีแถมมีช่องเก็บจุกและสายสำรองอีกด้วย

และแน่นอนครับหูฟัง in-ear ก็ต้องแถมจุกสำหรับใส่ฟังมาให้ซึ่ง Sony นั้นจะให้มาสองแบบครับเป็นแบบจุกยางธรรมดา และเป็นจุกแบบ Hybrid ก็คือเป็นจุกยางที่มีโฟมอยู่ข้างในด้วยนั้นเอง ซึ่งอย่างหลังจะแพ็คแยกใส่กล่องมาอย่างดีแบบในภาพเลยละครับ

และนี้คือหน้าตาจุกที่ว่าครับ ซึ่งใครหลายคนคงเจอปัญหาจุดยางนั้นให้เสียงกลางแหลมที่ใส คมชัด หรือบางคนก็ชอบเบสนุ่ม ๆ ก็เลยใช้จุกโฟม แต่เอ๋พอใช้จุกโฟมเสียงเบสมันนุ่มแต่ปลายแหลมมันดูอับ ๆ เขาก็เลยออกแบบเจ้านี้มาซะเลยครับเรียกว่าใส่แล้วได้ทั้งปลายแหลมที่คมชัด กับเสียงเบสที่นุ่มนวลขึ้นอีกด้วย

และนี่คือภาพรวมญาติจุกที่แถมมาให้ในกล่องครับซึ่งก็ให้มาแบบจุใจวัยโจ๋มากๆ เรียกว่าให้กันมาแบบหูฟังพังแล้วจุกยังได้ใช้ไม่ครบเลยว่างั้นละครับ

มาดูที่ตัวหูฟังกันบ้างดีกว่าครับ ซึ่งจากรูปก็จะเห็นว่าหน้าตาเปลี่ยนจากเดิมไปพอสมควรครับ แต่ขนาดก็คงยังใหญ่เหมือนเดิม เพราะเจ้าตัวนี้นั้นใช้ Driver ถึง 3 ตัว และเป็นแบบ Hybird ที่มี Driver Dynamic ขนาด 12mm อยู่ด้วยก็เลยต้องออกแบบบอดี้ให้ใหญ่แบบนี้ละครับ ส่วนอีกสองตัวนั้นเป็นแบบ Balaced Armature 2 ตัวครับ ซึ่งเป็น Fuull-rage 1 ตัว และ HD super tweeter อีก 1 ตัวครับผม

ถึงตัวบอดี้จะใหญ่แต่ท่อนำเสียงนั้นก็ค่อนข้างยาวออกมานะครับซึ่งก็ทำให้บอดี้นั้นไม่ได้มากดหูเราเท่าไหร่ คือบอดี้ใหญ่ก็จริงแต่ใส่แล้วก็ไม่เจ็บครับผม จะติดหน่อยก็ตรงที่เวลาใส่มันจะดูยื่น ๆ ออกไปนอกหูกว่าหูฟังรุ่นอื่น ๆ สักหน่อยละครับ

และตัวนี้ก็สามารถถอดสายได้ด้วยละครับ ซึ่งก็เป็นขั้วต่อแบบ MMCX หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่าขั้วแบบ Shure นั้นเองซึ่งหลัง ๆ Westone ก็เปลี่ยนมาใช้แบบนี้แล้วเหมือนกันครับ แต่ของ Sony นั้นจะแปลกกว่าเพื่อนรวมวงการซะหน่อยตรงที่มันมีตัวล็อคด้วย คือ มันจะมีช่องสำหรับล็อคสายเอาไว้ทำให้ไม่สามารถหมุนไปมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ที่ใช่ขั้วแบบเดียวกันนั้นเองครับ

มาดูที่สายกันบ้าง แน่นอนครับขั้วของสายก็เป็นแบบ MMCX แล้วก็มีขั้วล็อคสายอย่างที่บอกไปตอนต้นครับผม

สำหรับสายนั้นทาง Sony ได้ให้มาถึงสองเส้นครับคือสายแบบธรรมดา และ สายแบบมีไมค์ซึ่งจากในรูปจะเห็นว่ามีแต่ปุ่มรับสายนะครับ ไม่มีปุ่มเพิ่มลดเสียงซึ่งก็เพื่อที่จะใช้ได้กับ สมาร์ทโฟนทุกรุ่นนั้นเองครับ

ขั้วแจ็คนั้นก็เป็นแบบสมัยนิยมครับนั้นก็คือแบบรูปตัว L นั้นเองซึ่งก็ทำให้กันการกระชากหลุดออกจากตัวเครื่องได้ดีนั้นเองครับผม

หลังจากที่เราดูส่วนอื่น ๆ มาจนครบก็มาถึงขึ้นตอนการฟังเสียงกันบ้างดีกว่าครับว่าหูฟังแบบ Hybird Driver นี้จะให้เสียงออกมาเป็นยังไงกันบ้าง สำหรับวันนี้ผมนำมาทดสอบกับเครื่องเล่น IBASSO DX90 ครับผม

ซึ่งเพลงแรกที่จะใช้ทดสอบก็คือ Big noise, new york ของ Jennifer Warnes ครับ ซึ่งความประทับใจแรกกับเจ้าหูฟังตัวนี้ก็คือ ย่านต่ำครับเสียงเบสนั้นอิมแพคดีมากหัวโน๊ตชัดเจน กระชับและเก็บตัวได้เร็วซึ่งต้องบอกว่าหูฟังที่ให้เบสลูกใหญ่แล้วยังเก็บตัวได้เร็วไม่มีอาการบวมเบลอหรือพร่ามัวนั้นค่อนข้างหายากทีเดียวครับ เสียงกลางนั้นก็ถือว่ามีน้ำมีนวลชวนฟัง ไม่พุ่งรุกเร้ามาข้างหน้าจนรู้สึกล้าหูและไม่ถอยไปจนรู้สึกว่าเสียงร้องอับแต่อย่างใดครับ ส่วนปลายแหลมนั้นก็ไปได้สุดทีเดียว เวทีเสียงนั้นก็ค่อนข้างกว้าง แต่ที่โดนเด่นจริง ๆ จะเป็นการแยกแยะชิ้นดนตรีนั้นค่อนช้างเฉียบขาดมาก ๆ ครับคือเราสามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของชิ้นดนตรีนั้น ๆ เลยทีเดียว

หลังจากรับรู้ถึงพลังเบสของหูฟังตัวนี้ผมเลยอยากจะมาทดสอบกับเพลงร็อค ๆ ดูบ้างครับซึ่งก็เลือกที่จะทดสอบกับเพลง Smells Like Tenn Spirit ของ Nirvana ซึ่งก็ต้องบอกว่า กลองนี่เป็นกลองจริง ๆ ครับคือรู้สึกถึงการลงน้ำหนักมือ การเหยีบกระเดือง ซึ่งฟังแล้วถึงกับต้องโยกหัวตาม ส่วนเสียงกีตาร์ เบส หรือเสียงร้องแบบกระโชกโฮกฮากของเคิร์ท ก็สอบผ่านฉลุยละครับงานนี้

คราวนี้ผมเลยจับมาลองฟังกับแนวอคูสติคดูบ้างเพลงที่เลือกก็คือ Tears In Heaven ในอัลบั้ม unplugged ครับซึ่งจากที่ลองฟังแล้วผมว่าอาจขัดใจคออคูสติคที่ชอบเสียงคม ๆ ใส ๆ อยู่บ้างครับเพราะเนื้อเสียงนั้นออกจะหนาไปนิดนึงสำหรับเพลงแนว ๆ นี้แต่ถือว่าเสียงโดยรวมนั้นคุมโทนได้ดีไม่ล้นจนเกินไปครับ แต่ต้องบอกว่าต่อคู่กับ IBASSO DX90 นั้นให้เสียงที่ค่อนข้างลงตัวครับด้วยสไตล์ของเนื้อเสียงเครื่องเล่นที่โปร่ง จับคู่กับหูฟังที่เนื้อเสียงหนาทำให้เพลงแนวนี้ก็ยังผ่านไปได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียวเชียว

สรุปโดยรวมแล้วหูฟังตัวนี้ฟังเพลงได้หลากหลายมาก ๆ ครับเพราะมีเนื้อเสียงเบสที่ค่อนข้างมีพลังสามารถฟังเพลงที่มีจังหวะได้ตั้งแต่นุ่ม ๆ ช้า ๆ ไปจนถึงร็อคหรือฮิปฮอปกันเลย แต่ก็อย่างที่บอกไปครับถ้าใครที่ชื่อนชอบแนวเสียงใส ๆ คม ๆ อาจจะขัดใจอยู่บ้างเวลาฟังเพลงอคูสคิตเพราะค่อนข้างแพ้ทางอยู่นิดหน่อย แต่ถ้านำไปจับคู่กับต้นทางที่ให้เสียงบาง หรือ ออกโทนโปร่ง ๆ ก็เรียกได้ว่าเข้ากันเหมือนไข่เจียวกับซอสพริกเลยละครับ :)

ส่วนด้านล่างนี้เป็นสเปคจ้า

Type : Closed
Driver Unit : Hybrid 3-way System: 12mm Dynamic + 2 X Balanced Armature
Diaphragm : Liquid Crystal Polymer
Frequency Response : 4 - 40,000Hz
Sensitivity : 108 dB/mW
Impedance (at 1 kHz) : 32 Ω
Cable : 1.2m detachable Silver-coated OFC Litz Wire Y-Type cable; 1.2m detachable Silver-coated OFC Litz cable with in-line remote and mic
Plug : Gold-plated L-shaped Stereo Mini; Four-Conductor Gold-plated L-shaped Stereo Mini
Approx. Weight(excl. cable : 9g

หูฟัง Sony ดีไซน์เท่ดีแฮะ

รีวิว กระชับดีครับ เข้าใจง่าย อีกหน่อยเฮียคงไม่ต้องมาเขียนรีวิวแล้วมั้ง

ขอบคุณพี่ ๆ ที่เข้ามาอ่านกันนะครับ ;)

เทียบกับ um pro 30 เป็นอย่างไรบ้างครับ เล็งๆ pro 30 อยู่แต่อ่านรีวิวเริ่มลังเล55555

เจ้าแฮมนี่เป็นนักเขียนในกลุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงแซงขึ้นเมรุ เอ๊ยๆๆๆไม่ใช่ๆๆๆ 555

เจ้าแฮมเป็นคนชอบอ่านและเขียนครับ ผมเห็นเจ้าแฮมสนใจก็เลยให้ขึ้นมาช่วยกันเขียนรีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกัน อย่างน้อยพอทราบเป็นแนวทางคร่าวๆก็ยังดี ส่วนผมเองก็ยังเขียนอยู่นะครับ จะคลอดงานให้ทุกท่านได้อ่านเหมือนกับทีมงานมั่นคงคนอื่นๆเช่นกันจ้าๆๆ 555

คุณ Max um pro 30 จะออกโทนมอนิเตอร์ครับคือไม่ปรุงแต่งเสียงมาก จะให้เบสที่น้อยกว่า แต่ให้รายละเอียดและมิติของเสียงที่ค่อนข้างสมจริงกว่าครับ

ถ้าชอบแนวเสียงที่ไม่ปรุงแต่งมาก ก็น่าจะชอบ umpro 30 ครับผม แต่ถ้าเป็นคนที่ฟังเพลงค่อนข้างหลากหลายแนว ชอบแนวเสียงที่มีจังหวะหน่อย ก็น่าจะชอบ XBA-A2 ได้ไม่ยากครับผม :)

รีวิว มีเหตุมีผลเข้าใจง่ายดีครับ

ขอบคุณมากๆครับ

ผมเน้นฟัง Smooth Jazz พวกแซ็กโซโฟน กีร์ต้า เปียโน ใช้ MX985 แหละดีแล้ว 55555

Review XBA-A3 กับ Z5 มาเมื่อไรห่ครับเฮีย ผมรอเปรียบเทียบอยู่ อิอิ

XBA-A3 จะยกระดับขึ้นไปจาก A2 ครับ คือสไตล์เสียงนั้นเรียกว่าคล้ายกันครับ แต่จะเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีกว่า เบสนั้นจะน้อยลงมานิดหน่อยครับผม

ส่วน Z5 น่าจะมีรีวิวจากพีหลุยส์ จ้า :)

ขอบคุณครับ คุณมนุษย์แฮม จะรอ Review นะครับ

รีวิว Z5 เดี๋ยวให้เดอะหลุยส์จัดให้นะครับ 55

ไม่ทราบว่าเสียงของ A2 ต่างกับ H3 มากไหมครับ แล้วสายคล้องหู ของH3 นำมาใช้กับ A2 ได้รึเปล่าครับ ขอบคุณครับ

ช่วงปลายๆปีนี่มี "ของ" มาให้ตาร้อนผ่าวเยอะจริงๆ 5555+
เชื่อว่าหลายคนปวดกบาลกับการต้องเลือกซื้อ gadget แน่นอน ^^

คุณ Boy A2 จะเนื้อเสียงหนากว่าตัว H3 นิดหน่อยครับผม ซึ่งโดยรวมก็ค่อนข้างใกล้เคียงนะครับแต่โดยภาพรวมแล้วผมว่า A2 นั้นปรับปรุงได้ดีขึ้นกว่าตัว H3 นะครับ

ส่วนสายใช้ด้วยกันได้นะครับ :)

คุณแฮมขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม

ยินดีครับผม :)

โซนี่ตัวนี้ขับยากไหมครับ ถ้าใช้พวกไอโฟน หรือไอพอดคลาสสิกน่ะครับ

ตัวนี้ขับง่ายจ้า ไอพอดนี่สบายเลยละครับ :)

ได้ลองฟังตัว A1 มาแล้วคับ
แค่ๅA1 โดนจิตโดนใจคับ เบสมาเต็ม ลูกโต เก็บตัวไว ฟังมันส์
เสียงทางเดียวกับA2 แต่A2แยกเสียงได้นิ่งกว่ากันคับ

ลองเทียบ A1 กับ A2 ที่พารากอน ผมว่าก็ต่างนะ เสียงแนวเดียวกัน impact A2 ดีกว่า
แต่ราคาห่างกัน 2 เท่า A1 เลยดูน่าจะคุ้มกว่า

A3 น่าเล่นไหมครับ

A3 นี่จะยกระดับขึ้นไปอีก step ครับคือโดยรวมโทนเสียงจะคล้าย ๆ กันแต่มิติของเสียง รายละเอียดชิ้นดนตรีต่าง ๆ ทำได้ดีกว่าจ้า ;)

ขอบคุณครับ

จัดมาแล้วจ้า ใช้กะ Ipod classic แจ่มๆ

มีสมาชิก a2 เพิ่มแล้วฮาๆ :)

ตอนแรกจะไป ถอย MDR-1a เพราะเจ็บหูเพราะฟังอินเอีย โอ๋แต่พอฟังมันนุ่มใช้ได้เลย เอานี่แหละ

XBA A2 กับ XBA 40 แนวเสียงต่างกันอย่างไรครับ ผมฟังแนวร็อค เมทัล เน้นเสียงกลองครับ สองตัวนี้ตัวไหนเหมาะกว่ากันครับ

XBA A2 ให้เสียงเบสที่อิมแพคดีกว่าครับ ลูกใหญ่กว่า กลางแหลมนั้นก็ให้รายละเอียดที่ค่อนข้างดีกว่าด้วยละครับ ;)

ตัวนี้การเบรินมีผลไหมครับ

Do they leak a lot of sound from the vent near the dynamic driver?

Sony XBA A2 เค้าจะมีสายอัพเกรด กับจุกโฟมเหลือง ๆ ขายไหมครับผม >_< ขอบคุณครับ

XBA A2 สายอัพเกรดก็ใช้สายขั้วmmcxได้ครับ มีหลากหลายราคา แนวเสียงต่างกันด้วย
แต่ถ้า Import ของSonyเลยก็มีครับ ผมก็กำลังรอนำเข้ามาอยู่ ราคาแว่วๆว่า3000

อ่า ขอบคุณพี่ paopy2iiam ครับผม

เจ้าตัวนี้สามารถใช้สายขั้ว mmcx ได้จ้า :)

ตอนนี้ใช้ A3 ฮะ
ข้อเสียเดียวคือตัวคล้องหูนี่ล่ะ มีสายแบบที่ไม่คล้องแยกขายมั้ยฮะ??

ตัว A3 จะออกแบบมาสำหรับใส่แบบคล้องเลยละครับ เปลี่ยนสายก็ยังต้องคล้องจ้า แต่ถ้าสายเล็กลงก็อาจจะใส่สบายขึ้นครับ

ตัวนี้การเบิร์นมีผลมั้ย แล้วต้องเบิร์นนานมั้ยครับ

อยากรู้เหมือนกันครับ เบิร์นนานไหม

นานครับ Sony XBA-A2 ตัวนี้กว่าเสียงจะดี ประมาณ 200 ชั่วโมงครับ

ว่าแต่ตอนนี้ยังน่าเล่นไหม เปรียบเทียบกับ Shure se 425 พอไหวไหม

ตอนนี้ลดเหลือ 7,990 ยังน่าสนใจไหม

ลดที่ไหนอ่ะครับ

ก็ลดที่ร้านเฮียนี่ละจ้าาาา ตอนนี้มีโปรเด็ดๆของโซนี่อยู่ สินค้าแทบทุกตัว ลดสูงสุดถึง 30% กันไปเลยจ้าาา

ถึงแค่ 31 มีนานี้เท่านั้นจ้าา

ยังเบิรฺ์นตัวนี้ไม่เสร็จเลยครับ สมมุติเบิร์นไปสักพักแล้วแต่ใช้สายที่มีไมค์ คราวนี้เปลี่ยนมาใช้สายไร้ไมค์ต้องเบิร์นใหม่ใช่ไหมครับ ผมเบิร์นโดยเปิดเพลงที่ฟังปกติไปเรื่อยๆ(lossless) ใช้อีคอวไลเซอร์แบบที่ใช้ฟังปกติ ตอนนี้ 100 ชม รุสึกว่าเสียงยังไม่ดีเท่าไรเลย เริ่มจิตตก 55555

ไม่ต้องกังวลครับ BA พวกนี้ต้องเบิร์นอย่างต่ำๆ 300 ชม.ขึ้นถึงจะเห็นผลชัด ส่วนสายก็ต้องเบิร์นเหมือนกัน แต่ไม่นานเท่าหูฟังครับ

ปกติแล้วสายเบิร์นประมาณกี่ ชม ถึงจะอยู่ตัวหรอครับ

ดู สเปคของรุ่นนี้ การจัดวางตำแหน่งของdriver เหมือนกับการจัดเรียงลำโพงบ้านเลย คือ dynamic driver ขนาด 12 มิล ทำหน้าที่เป็น sub woofer ไดรเวอร์ตัวที่สอง เป็น BA driver แบบ full range ทำหน้าที่เหมือนลำโพงหลัก อีกตัวคือ ba driver ทำหน้าที่เป็นทวีตเตอร์ให้เสียงสูงแบบ HD

ตอนนี้ผมใช้ A2 อยู่ครับ แต่ทำไมรู้สึกเบสมันน้อยๆครับ อิมแพ็กก็ไม่สะใจ ต้องเปิดดังๆ แต่ไม่ไหวครับมันปวดหู ต้องลดเสียงมาฟังปกติ แต่ได้ยินเบสไม่ค่อยชัดเลยครับเพราะมันน้อยไป ฟังแทบไม่ออกเลยว่าเขาดีดเบสโน๊ตไหนบ้างในบางเพลง ส่วนแหลมโอเคอยู่ครับสำหรับจุกยาง ถ้าจุกยางโฟมที่แถมมาแหลมจะลดแต่เนื้อเบสมานิดหน่อยเหมือนไม่เด่นด้านไหนเลยครับเบสก็ไม่สุด แหลมก็ไม่สุด ทั้งสาย ทั้งจุกตอนนี้ของเดิมๆครับใส่จุกยางโฟม (เบริ์น 160 ชั่วโมงแล้วครับหรือต้อง 300 เบสถึงจะเพิ่มครับ) มีตัวไหนที่ตรงกับการใช้งานผมกว่านี้กว่านี้ไหมครับหรือต้องอัพเกรดครับผม ใช้กับ walkman A15 ไฟล lossless ครับ