เนื่องจากของนั้นเพิ่งจะมาส่งวันนี้เลย แต่หลังจากที่ได้ลองฟังมาประมาณ 2-3 ชม ก็พบว่า เสียงของมันเรียกได้ว่าน่าประทับใจมากๆเลยตั้งแต่เปิดกล่องเลย จึงขอนำมารีวิวซะตอนนี้เลยครับ
วันนี้กลับบ้านมา ก็เจอเจ้าถุงนี่วางหราอยู่ในบ้านแล้ว
ดูจากตัวหนังสือที่พิมพ์อยู่บนซองน่าจะเดาได้ไม่ยากใช่มั้ยครับว่าต้นกำเนิดมันมาจากไหน 555 เมืองจีนแน่นอน
เปิดถุงออกมาเจอกล่อง Toblerone ???? แต่มีรูปใครไม่รู้สกรีนเอาไว้ ซึ่งผมไม่รู้จัก ทำไมต้องเป็นอาตี๋คนนี้ด้วยฟะ รึว่าเป็นรูปนักร้องหรือดาราที่ไหนก็ไม่อาจทราบได้ ใครทราบรบกวนให้ข้อมูลหน่อยก็ดีครับ ถ้าเสียงไม่ดีจะได้ตามไปเผาบ้านถูก
อีกด้านก็มีรูปของตัวหูฟังโชวไว้ สไตล์การโชวก็มาแนวๆเดียวกับแอปเปิ้ลเลย สมัยนี้ก็แนวนี้กันหมด แต่ก็โอเคครับสวยงามดูดีใช้ได้
อีกด้านหนึ่งก็มีสเปคเขียนไว้ เป็นภาษาจีนผสมภาษาอังกฤษ คร่าวๆคือ
Driver :16 mm
32 ohm
sen: 110 dB
20-20,000 Hz
ดูจากสเปคคร่าวๆก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการฟังจากเครื่องเล่นทั่วไปครับ ไม่น่าจะต้องใช้กำลังช้างสารในการขับแต่อย่างใด
เปิดกล่องออกมา จะเจอถุงพลาสติกหนึ่งอัน บรรจุหูฟังอยู่ พร้อมกับฟองน้ำเจารูหนึ่งคู่ และไม่เจาะรูหนึ่งคู่ ซึ่งถือว่าน้อยมากๆเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสครับ สำหรับผมนะ เพราะฟองน้ำก็ซื้อเป็นแพคๆจากร้านเฮียไว้อยู่แล้วเลยไม่คิดมาก แต่จริงๆที่อยากได้ น่าจะแถมกระเป๋ามาซักใบนะ T^T จะสุดยอดเลย
มาดูที่ตัวหูฟังชัดๆเลย
ตัวหูฟังจะมีลักษณะเหมือนชื่อรุ่นมันครับ คือมีลักษณะเหมือนระฆังหรือกระดิ่ง อะไรก็ว่ากันไป แต่ที่สำคัญคือลักษณะแบบนี้ทำให้การใส่ถือว่าง่ายพอควรเลย ถึงจะไม่พอดีเป๊ะแบบพวก Yuin แต่ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดี งานประกอบใช้ได้เลยครับ
จะมีลายสกรีนอยู่เพื่อบอกข้างซ้ายขวา แต่ไม่มีตัวนูนหรืออะไรที่สามารถสัมผัสได้ในที่มืด ดังนั้นการใช้งานก็อาจลำบากเล็กน้อย แต่ก็มีวิธีแก้ครับ แค่เอาเทปพันไว้ข้างนึง ก็แยกได้แล้ว
สำหรับตัวสาย จะเป็นสาย Y แบบปกติ มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมครับ ซึ่งเขาว่าช่วยป้องกันการพันกันได้ พอลองใช้จริงก็ถือว่าโอเคครับ ม้วนๆเก็บได้เลย สะดวกดี ดัวสายมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดี ให้ความรู้สึกแน่นหนาและแข็งแรงดีครับ ที่สำคัญ สีมันจี๊ดดดดดมาก
ที่Y splitter มีชื่อรุ่นกำกับไว้ชัดเจน ไม่ลอกง่ายๆแน่นอนครับ
ที่ตัวแจ็คก็เป็นพลาสติกแข็งสามเหลี่ยมเช่นเดียวกัน ยิงลายชื่อยี่ห้อไว้ ดูดีใช้ได้เลยครับ
เอาละทีนี้ก็มาถึงส่วนสำคัญกันแล้ว คือเรื่องเสียง
เล่าให้ฟังคร่าวๆก่อนครับว่า ตัวนี้ที่ได้มา เกิดจากความซน + กิเลสของผมเอง เนื่องจากปลดประจำการ เจ้า pk2 ตัวเก่งไปแล้ว เลยอยากจะหาอะไรที่มาแทนมัน เนื่องจากปกติผมใช้ Havi B3 เป็นหลักครับ แต่ช่วงหลังๆมา จะมี กิจกรรมค่อนข้างเยอะ ทำให้บางทีการใช้อินเอียร์อาจอันตรายได้ครับ เช่นพวกข้ามถนน หรือ ออกกำลังกาย เวลาเหงื่อไหลใส่นี่รู้สึกแย่สุดๆครับ เลยต้องหาเอียบัดซักตัวมาประจำการ ก็ไปเจอหลายรุ่นครับ Tingo, m760, รวมถึงพวกเก่าๆอย่าง mx400 pk3 แต่ก็ยังไม่เห็นอะไรที่จะตอบโจทย์ผมได้ครับ เพราะแนวเสียงจะไม่ใช่ทางที่ชอบเลย
จนได้มาเจอกับเจ้า E100 พออ่านรีวิวเจออยู่คำนึงสะดุดหูมาก คือ ฝรั่งเขาใช้คำว่า Organic Vocal ถ้าแปลเป็นไทยก็คงประมาณว่าเสียงฟังดูเหมือนจริงครับ เลยทำให้สนใจมากๆ เพราะผมก็เป็นคนชอบเสียงร้อง ฟังเพลงร้องๆอยู่แล้ว พวก susan wong, olivia, sabrina, yao si ting พอเจอคำนี้เลยต้องลองเลยครับ
เลยจัดการสั่งแบบไม่คิดเลยครับ เนื่องจากราคาของเจ้าตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 600 บาทนิดๆเองครับ รวมค่าขนส่งเรียบร้อยแล้ว
เอ้านอกเรื่องไปไกล มาถึงเรื่องเสียงกันบ้าง ผมคงไม่ขอเปรียบเทียบชนตรงๆกับหูหลายๆตัวนะครับ เนื่องจาก หูฟังแต่ละตัวก็จะมีแนวของมันไป แต่อาจมีเปรียบเทียบพอให้นึกภาพออกบ้าง ไม่งั้นการรีวิวคงจะไม่มีหลักอะไรให้นึกภาพตามเลยครับ
เสียงสูง
ด้านเสียงสูงของเจ้า e100 จะเป็นเสียงสูงที่ออกธรรมชาติและตรงไปตรงมาครับ ไม่มีการบูสย่านสูงให้เกินจริง เสียงสูงจะออกไปทางเนียนๆและวางตำแหน่งได้โอเคเลยครับ สำหรับผมที่เป็นคนไม่ฟังเสียงสูง เพราะไวต่อเสียงสูงมาก ผมถือว่าระดับของเสียงสูงที่ให้มาอยู่ในระดับบปกติครับ ถ้าเปรียบเทียบก็จะคล้ายๆกับเสียงสูงของ re400 ครับ คือไม่บ้าพลังจนเกินเหตุ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหายไปจนจับใจความไม่เจอครับ
เสียงกลาง
นี่คือไคลแมกส์ของเจ้า e100 เลยครับ เสียงกลางของมันเรียกได้ว่า แทบจะสมบูรณ์แบบเลยครับ ทั้งความใส รายละเอียด หวาน อิ่ม อิมเมจชัด เป็นสามมิติ ทุกอย่างล้วนอยู่ในระดับที่เยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของตำแหน่งเสียงร้องครับ ผมว่ามันเป็นตำแหน่งที่ เหมาะที่สุดจริงๆ คือไม่ได้ปะทะหน้าเต็มๆเหมือน ttpod และก็ไม่ได้ถอยแบบ ie8 แต่มันอยู่กลางๆเหมือนถอยออกไปประมาณ 1/2 ก้าวครับ แต่ไม่ได้ลอยๆเหมือน pk2 เสียงร้องของ e100 กลับอยู่ที่ระดับปากของเราครับ ทำให้รู้สึกว่าเสียงร้องมีน้ำหนักมากๆ รวมถึงไดนามิคของมันก็ทำได้อย่างลื่นไหลเอามากๆเลยละครับ เรียกได้ว่าฟังเพลงร้องนี่มีเคลิ้มแน่นอน
เสียงต่ำ
เป็นเสียงต่ำที่ออกจะนุ่มๆครับ บางทีก็อาจจะรู้สึกนุ่มไปสักหน่อยจนอาจจะเบลอ แต่ก็จะเจอกับเพลงเร็วๆครับ ถ้าฟังเพลงช้าจะไม่มีความเบลอ แต่จะได้ความนุ่มนวลมาแทน ซึ่งทำให้รู้สึกว่าเสียงร้องจะเด่นและลื่นไหลมากขึ้นครับ
สเตจ อิมเมจ
ในส่วนนี้ e100 ถือว่าสอบผ่านครับ แต่คงไม่ถึง A+ เหมือนเจ้า Tingo หรือ Living และก็ไม่ได้กว้างเหมือนฟูลไซส์ครับ แต่ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นนั้นก็หลุดออกจากหัวเราไปพอสมควรครับ รวมทั้งให้รายละเอียดการแจกแจงเครื่องดนตรีในระดับที่โอเคครับ กำลังฟังได้สนุกเลย ไม่มีอาการทับซ้อนกันให้เห็นแน่นอน แต่การที่สเตจไม่ได้กว้างเกินเหตุก็เป็นข้อดีครับ เพราะมันทำให้เราสามารถรู้สึกได้ถึงการเล่นระดับของเครื่องดนตรีที่เล่นกับเสียงร้องได้ไพเราะเอามากๆเลยครับ ยิ่งทำให้เคลิ้มไปกันใหญ่
สรุป
e100 คงไม่ใช่ตัว earbud killer หรืออะไรที่สุดยอดทุกอย่างครับ แต่มันมีข้อดีของมัน คือด้านเสียงร้อง ซึ่งผมบอกได้เลยครับว่า เสียงร้องระดับนี้ หาตัวจับยากมากๆ ไม่ใช่แค่ระดับเอียบัดครับ แต่แม้กระทั่งอินเอียฟรือฟูลไซส์ราคาไม่เกิน 10000 หาเสียงร้องอิ่มๆแบบนี้ไม่ง่ายแน่ๆ จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบเสียงร้องเป็นหลักครับ โดยที่รายละเอียดส่วนอื่นยังคงความสมดุลไว้ได้ ไม่ได้หายไปไหนครับ และยิ่งกว่านั้นถ้าพิจารณาจากราคา 600 ก่าบาทนี่ ผมว่าเป็นหูฟังอีกตัวหนึ่งที่ควรค่าในการซื้อเก็บไว้อย่างยิ่งเลยครับ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
สำหรับรีวิวนี้ขอจบไว้แค่นี้นะครับ เด๋วจะมาอัพเดทเรื่องของเสียง หลังการเบิร์นต่อครับ ตอนนี้ ขอไปเคลิ้มต่อละคร้าบบบบ
