ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ผมเชื่อว่าเฮียมั่นจะคิดว่า ไอ้เอมันต้องทำกระทู้ Text ล้วนๆอีกแน่ เพราะมันไม่เคยยัดรูปลง บทความที่มันเขียนเลย
ใจจริงก็อยากทำแบบนั้นครับ เพราะว่าผมไม่ชอบเว็บที่บังคับขนาดไฟล์รูปภาพที่จะนำลงกระทู้ ให้มีขนาดเล็กมากๆ ( 100 K สำหรับผมมันเล็กครับ )
เพราะบางรูปมันต้องใช้รายละเอียดบนรูปเยอะ เช่นรูปถ่ายแผงวงจร ..ฯ รูปจึงต้องมีความคมชัดค่อนข้างสูง เพื่อที่จะได้ดูรายละเอียดบนชิพต่างๆได้ง่าย
การโดนบังคับขนาด จึงเปรียบเหมือนการ สร้างถนนแล้วโดนบังคับลดงบประมาณก่อสร้างครับ ตอนแรกวางแผนจะทำเกาะกลางให้สวยหรูมีต้นไม้สวยๆ แต่เอาเข้าจริง งบหายเลยเปลี่ยนเป็นปลูกหญ้าแทน 555
และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผมขี้เกียจมานั่งย่อรูปให้ได้ขนาดนะครับ อย่างเมื่อคืน กว่าจะย่อให้ได้ตาม spec สักรูป โดยที่รูปไม่เสียความคมชัดไปมาก ก็เล่นไปหลายนาที
ฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ความเห็นของผม ในหลายๆกระทู้ ไม่มีรูปครับ 5555
มาๆๆ เข้าเรื่องดีกว่า อ้างอิงจากกระทู้ของคุณ xxiii นะครับ
วันนี้ พอดีไปพบกระทู้ ดีๆ ที่ Pantip ของคุณ DogGold เกี่ยวกับการเปลือย Chipset ของ
เครื่องเล่น Mp3 เห็นว่า iPod Mini กับ Photo
ใช้Chipset รหัสนำหน้าชุดเดียวกันแต่คนละตัว
เลยอยากทราบว่า ตัวไหนเสียงดีกว่ากันอย่างไร?
ขอถามความเห็นท่านที่เคยลองฟังหน่อยครับ
ข้อความบางส่วนจากกระทู้ดังกล่าว
"มาดูทางด้าน Chipset ที่นิยมใน ipod กันบ้าง
ตามนี้เลยครับ
เป็น CPU นะครับ (ของเค้าแยก CPU กับ Codec ออกจากกัน)
PortalPlayer PP5000 iPod(1Gen)
PortalPlayer PP5001 iPod(2Gen)
PortalPlayer PP5002 iPod(3Gen)
PortalPlayer PP5020 iPod(4Gen)
iPod Photo
PortalPlayer PP5020D iPod mini (1Gen)
iRiver H10 งงเหมือนกันมาใช้ชิบตัวนี้ด้วยรึ
PortalPlayer PP5020E Samsung YH-925
iPod (4Gen 後期)
iPod mini (1Gen 後期)
PortalPlayer PP5020W Olympus MR-100
PortalPlayer PP5021C iPod nano
PortalPlayer PP5022B (有USB Host 功能) iPod mini (2Gen)
PortalPlayer 5022 iPod with video (5Gen)
ตัว CPU จะเป็นตัวประมวลผลตาม software ที่เขียนลงไป เพื่อดึงประสิทธิภาพชองชิพต่างๆออกมา ตัวที่บอกคุณภาพเสียง หรือน้ำเสียง คือตัว Codec ที่ใช้นะครับ
ตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กระทู้คุณ DogGold ใน Pantip ได้เลยครับ
http://www.pantip.com/tech/gadget/topic/TM2299156/TM2299156.html"
มาว่ากันต่อ คุณภาพของเสียงที่ออกมานั้น แท้จริงแล้วจะอยู่ที่ชิพ DAC (Digital to Analog Converter) เป็นหลักครับ
เพราะ DAC มีหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้า เป็นสัญญาณเสียง ประมาณว่า DAC ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ฉะนั้นฝรั่งมันเลยชอบ แกะเครื่องเล่นต่างๆ เผื่อดูวงจรภายในกันไงครับ
ดีไม่ดี มาว่ากันที่เครื่องเครา ไม่เอาความรู้สึกมาอ้าง เหมือนการดูเพื่อนต่างเพศแหละครับ อย่าดูที่ภายนอก ให้ดูที่ข้างใน จะได้รู้ว่า สวยทั้งรูป จูบก็หอมหรือเปล่า ไอ้เราก็สบายไป ไม่ต้องแกะให้เสียของ แถมได้รู้เหมือนกันด้วย 555
แต่สำหรับผมขอดูข้างในแบบไม่ลึกมากก่อนละกัน แล้วค่อยไปดูลึกๆอีกที
พาออกทุ่งอีกแล้ว 5555 มาๆๆ กลับมาๆๆ