คราวนี้มาดูด้านหลังกันบ้างครับผมคราวนี้จะมีหลายรูหน่อย เริ่มกันจากซ้ายสุดเลยละกันครับมันคือรู usb ที่มาแบบ micro ครับซึ่งจะทำทั้งหน้าที่รับสัญญาณดิจิตอล และก็รับไฟมาหล่อเลี้ยงชีวิตตัวเองไปด้วยเลย อเนกประสงค์กว่ายาดมตรา โป๊ยเซียน ที่ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกันซะอีกครับ
ย้ายไปขวาสุดบ้างนั้นก็คือช่อง Line Out นั้นเองเป็นช่องที่ปล่อยสัญญาณเสียงออกมาโดยไม่ผ่านภาค Headphone amp ของเจ้า E10K นั้นเองครับ คือเหมาะกับใครที่มีลำโพงคอม ซึ่งลำโพงพวกนี้จะมีภาคขยายในตัวเองอยู่แล้ว ก็ใช้ภาค DAC ของ E10K เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น แล้วการที่ต่อ Line Out ก็จะได้ไม่เป็นการขยายสัญญาณซ้ำซ้อนอีกด้วยละครับ
ย้อนกลับมาตรงกลางเป็นช่อง coaxial out ครับผมก็คือเอาสัญญาณดิจิตอลออกไปนั้นเอง ขยับไปอีกนิดจะเจอ GAIN ครับซึ่งก็คือระดับความแรงของสัญญาณนั้นเองครับ ถ้าเอาไปเล่นกับหูฟังเล็ก ๆ อินเอียร์ก็ Low ส่วนหูใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ High เรียกได้ว่า "ดีขั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ปรับ GAIN นั้นเอง!"
คราวนี้มาดูด้านหลังกันบ้างครับผมคราวนี้จะมีหลายรูหน่อย เริ่มกันจากซ้ายสุดเลยละกันครับมันคือรู usb ที่มาแบบ micro ครับซึ่งจะทำทั้งหน้าที่รับสัญญาณดิจิตอล และก็รับไฟมาหล่อเลี้ยงชีวิตตัวเองไปด้วยเลย อเนกประสงค์กว่ายาดมตรา โป๊ยเซียน ที่ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกันซะอีกครับ
ย้ายไปขวาสุดบ้างนั้นก็คือช่อง Line Out นั้นเองเป็นช่องที่ปล่อยสัญญาณเสียงออกมาโดยไม่ผ่านภาค Headphone amp ของเจ้า E10K นั้นเองครับ คือเหมาะกับใครที่มีลำโพงคอม ซึ่งลำโพงพวกนี้จะมีภาคขยายในตัวเองอยู่แล้ว ก็ใช้ภาค DAC ของ E10K เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น แล้วการที่ต่อ Line Out ก็จะได้ไม่เป็นการขยายสัญญาณซ้ำซ้อนอีกด้วยละครับ
ย้อนกลับมาตรงกลางเป็นช่อง coaxial out ครับผมก็คือเอาสัญญาณดิจิตอลออกไปนั้นเอง ขยับไปอีกนิดจะเจอ GAIN ครับซึ่งก็คือระดับความแรงของสัญญาณนั้นเองครับ ถ้าเอาไปเล่นกับหูฟังเล็ก ๆ อินเอียร์ก็ Low ส่วนหูใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ High เรียกได้ว่า "ดีขั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ปรับ GAIN นั้นเอง!"