อยากจะบอกว่า ไม่มีอุปกรณ์ใดในโลกที่กันฟ้าผ่าได้ครับ เพราะด้วยแรงดันขนาดหลายล้านโวลท์ กระแสเป็นหมื่นๆ แอมป์ พลังงานขนาดนี้ไม่มีอุปกรณ์อะไรทนได้หรอก

วิธีการโดยทั่วไปที่เค้าทำกัน ทำได้แค่บรรเทาหรือบังคับให้ฟ้าผ่าอยู่ห่างอุปกรณ์เราเท่านั้นเอง วิธีการจะมีอยู่ 2 วิธี

ถ้าบ้านเรามีโอกาสที่ฟ้าจะผ่าลง เช่น อยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือ สูงกว่าสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ รวมถึงสายไฟฟ้า

ก็ต้องติดตั้ง lightning spikes ง่ายๆ ก็คือ ตัวล่อฟ้าแท่งแหลมๆ ทั้งแบบง่ามเดียวหรือสามง่ามก็ได้แล้วเดินสายทองแดงขนาดใหญ่ลงดิน

ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น ไม่ว่าอุปกรณ์อะไรมันก็เอาไม่อยู่หรอกครับ จากนั้นค่อยมาคุยเรื่องอุปกรณ์ตัวที่สอง

อุปกรณ์ตัวนี้เรามักจะเรียกว่า surge arrester ครับ มันจะทำหน้าที่รับพลังงานที่เกิดจากการที่ฟ้าผ่าลงใกล้สายไฟฟ้า ที่เกิดจากการเหนี่ยวนำพลังงานไฟฟ้าจากฟ้าผ่าเข้ามายังสายไฟฟ้า

เรามาดูกันดีกว่าว่าอุปกรณ์ที่คุณบอกใช้ได้มั้ย

Clef Audio - CS-1se สเปคระบุ Maximum spike energy: 380 Joules @ L to E, 380 Joules @ N to E และ 760 Joules @ L to N จากสเปคจะเห็นว่าตัวมันติดตั้ง surge arrester จำนวน 3 ตัว absorb พลังงาน ที่มาระหว่าง L กับ E ที่ 380 จูลล์ เป็นต้น

MAGNET ISO CLEAN STATION 1000 เท่าที่ดูในสเปค ไม่ได้ระบุ แต่เท่าที่ระบุหม้อแปลงไว้ลูกนึง ถึงแม้จะไม่ป้องกัน แต่เวลา surge ฟ้าผ่าเข้ามา ตัว magnet น่ะจะพัง โดยที่อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงอยู่ไม่พัง

ปล. ทั้ง 2 ตัวทำงานกันคนลรูปแบบนะครับ

Clef Audio - CS-1se ทำงานแบบ passive ใช้วิธีการกรองสัญญาณรบกวนต่างๆ ก่อนจ่ายไฟให้อุปกรณ์ ข้อดีคือราคาจะถูกกว่า แต่มีข้อจำกัดที่แรงดันขาเข้าต้องสูงพอ และสัญญาณรบกวนภายนอกต้องไม่มาก

MAGNET ISO CLEAN STATION 1000 ทำงานแบบ active หลักการทำงานเหมือน ups คือมันจะแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรง แล้วเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ข้อเสียคือราคาแพง และจ่ายโหลดจำกัด ข้อดีคือแรงดันไฟที่เข้ามาสูงๆต่ำๆ มันสามารถจ่ายไฟได้อย่างคงที่

ปล. ถ้าจะเอาป้องกันฟ้าผ่าที่มาจากไฟภายนอก ไม่ซื้อปลั๊กไฟพวกที่เค้าโฆษณาว่า absorb พลังงานได้เยอะๆ เช่น 10000 จูลล์จะดีกว่า หรือไม่ก็ติดตั้ง surge arrester ที่ตู้ load center น่าจะเหมาะกว่าครับ

@Hsung
ขอบคุณท่าน Hsung มากๆครับ

ดูเหมือนว่าผมจะตั้งคำถามผิดไปครับ ผมคงกังวลกับเรื่องฟ้าผ่ามากเกินไปหน่อย
เอาใหม่ครับ เพราะมีคนบอกเอาไว้ว่า "คำถามที่ถูกต้อง จะนำมาซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง"
ใจจริงแล้วผมอยากจะถามว่า "ระหว่าง Clef CS-1se กับ MAGNET CLEAN STATION 1000 ตัวไหน? เหมาะกับชุดหูฟังที่ผมมีอยู่" ครับ
(DAC:AudioGD Ref.7, Amps:AudioGD Phoenix ,Woo WA-22, Schiit Valhalla)

ต้องถามคุณ @solo560 ว่ามีปัญหาเรื่องแรงดันไฟฟ้าตกหรือมีการรบกวนจากสัญญาณภายนอกแรงๆ มั้ย

เพราะถ้าไม่ใช่ ก็ไม่จำเป็นต้องเล่น UPS แบบเจ้า MAGNET CLEAN STATION 1000 ครับ เล่นแค่ filter อย่างเจ้า Clef CS-1se ก็พอละ

ปล. ใช้พวก UPS ระวังการอั้นของระบบจ่ายไฟนะครับ เสียงสมันอาจจะหน่วงได้

@Hsung
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้าเลยครับ
ขอเล่าเรื่องอดีตที่พึ่งผ่านมาไม่นานให้ฟังสักเล็กน้อยนะครับ
อดีตที่เพื่อนผมเจอ แล้วมันเอามาเล่าให้ผมฟัง ว่า วันที่เกิดเหตุ ฝนตกฟ้าคะนอง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า มากันครบ
ฟ้าผ่าเสาไฟฟ้าห่างจากบ้านมันไปประมาณ 50 เมตร หลังจากนั้นไฟฟ้าก็ดับ ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ดับประมาณ 2 ชม.
เมื่อฟ้าฝนสงบ ลมพัดเย็นสบาย ไฟฟ้าก็มา เมื่อไฟมา เปิดไฟ หลอดไฟก็สว่าง
แต่ที่เปิดแล้ว ไม่มีอะไรสว่างขึ้นมาเลย ก็คือ ชุดเครื่องเสียงบ้าน มันดับสนิทติดทนนาน
ดูนู้นดูนี่แล้ว เพื่อนผมมันก็สรุปว่า พังคับ เพื่อนเลยยกไปให้ช่างซ่อม
ช่างบอกเหตุผลที่มันพังว่า คงเกิดจากฟ้าผ่า ไฟเกิน ไฟกระชากฯลฯ อะไรประมาณนี้ครับ เจอค่าซ่อมไปพอสมควรแก่เหตุ
ซึ่งบ้านของผมกับบ้านเพื่อน บ้านเราต่างก็มีสายล่อฟ้า ระบบไฟฟ้าในบ้านมีกราวด์ และ safety cut (ใช่ surge arrester ที่ตู้ load center ที่คุณ Hsung หมายถึงหรือป่าวนะครับ) เหมือนๆกัน
พอเพื่อนมันมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ผมก็มีคำถามเกิดขึ้นพร้อมกับความกังวลในใจ (วิตกจริต) ว่า "เอ๊ะ...แล้วระบบไฟฟ้าบ้านเรามันโอเคมั้ย??? ล่ะ...ฮึ"
"แล้วถ้ามันมาผ่าใกล้ๆบ้านเราล่ะ...จะทำงัยดีว่ะ DAC เอย Amps เอย.. พังหมดนี่...น้ำตาเล็ด เข็ดฟัน ...เสียใจยิ่งกว่าน้องเมียตายเลยนะนี่"
ผมก็เลยต้องเอาคำถามที่ค้างคาใจ มาถามท่านผู้รู้ทั้งหลายในบอร์ดมั่นคง ว่าจะมีคำแนะนำดีๆอะไรบ้างที่ผมจะได้เอามาแก้ไขปัญหาที่ผมเจอได้ครับ

มาถึงคำถามของคุณ @Hsung "ว่ามีปัญหาเรื่องแรงดันไฟฟ้าตกหรือมีการรบกวนจากสัญญาณภายนอกแรงๆ มั้ย"
ตอบ : ยังไม่มีครับ ที่ผ่านมาผมก็โอเคกับ CLEF POWERBRIDGE 8 (Mod Furutech) อยู่ครับ

แต่ที่ผมวิตกจริต จิตรไม่สบายอยู่นี่ ก็เพราะคิดว่าที่เรามี มันดีพอมั้ยกับความผิดปกติของไฟฟ้าแถวๆบ้านผม
ผมก็คิดเออออเองว่า เราน่าจะหาเครื่องกรองไฟดีๆ สักตัว ที่เซฟเรื่องไฟฟ้าได้ และยังให้คุณภาพเสียงที่โอเค มาเปลี่ยนตัว POWERBRIDGE 8 ครับ

ฮ่าๆๆๆ ยาวววววเลยครับ
ขอบคุณ คุณ Hsung อีกครั้งนะครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ

safety cut ไม่ใช่ surge arrester ครับ
เท่าที่ดู Clef ที่ใช้อยู่ก็น่าจะโอเคแล้วป่าวครับ เพราะกระโดดไปสองตัวที่ว่ามันไม่น่าจะเห็นผลซักเท่าไหร่นะครับ

ถ้ากลัวก็อย่างที่คุณ Hsung ว่า ไปติด surge arrester ที่ตู้ ไม่ก็เอา Clef ต่อกับ Belkin ที่มันโฆษณาว่ากันฟ้าผ่าจริงๆ อ่ะครับ

อยากอธิบายเชิงลึกแต่ก็กลัวจะไม่เข้าใจ แต่ลองจะดูนะครับ

การป้องกันฟ้าผ่า ต้องดูว่ามันผ่าตรงไหน ถ้าผ่าเข้าระบบไฟบ้านเราตรงๆ ยังงัยก็เอาไม่อยู่

ดังนั้นเค้าจึงมีเจ้า lightning spikes ที่ทำหน้าที่ล่อให้ฟ้ามาผ่าและพากระแสฟ้าผ่าลงดินให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสที่มีปริมาณมหาศาล จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงผลของกระแสไฟฟ้าตามกฏมือขวาได้

คือให้ลองกำมือและยกนิ้วโป้งขึ้น ทิศที่นิ้วโป้งชี้คือกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน 4 นิ้วที่กำคือเส้นแรงแม่เหล็กที่แผ่วนออกมา แรงฯ จะลดลงตามระยะทาง

ในกรณีนี้สายดินเส้นที่ต่อกับล่อฟ้า จึงต้องอยู่ให้ห่างอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่เช่นนั้นคลื่นแม่เหล็กที่แผ่วนออกมา จะเหนี่ยวนำและทำให้อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่อยู่ในเครื่องเสียหาย

และให้ห่างสายไฟฟ้าต่างๆเพราะจะเหนี่ยวนำทำให้แรงดันในสายสูงขึ้นได้ และทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่ออยู่

อย่างไรก็ตามกรณีที่เหนี่ยวนำไปที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์โดยตรงมีโอกาสเกิดได้ยากเนื่องจากเคสของอุปกรณ์ฯ ส่วนใหญ่ทำจากโลหะ

มันจึงมีคุณสมบัติในการป้องกันสนามแม่เหล็กโดยธรรมชาติ แต่ในกรณีที่เหนี่ยวนำไปยังสายไฟฟ้า อันนี้ติดตั้งปลั๊กไฟที่มี surge arrester จะช่วยได้

อีกอย่างจากผลของฟ้าผ่าลงล่อฟ้า จะเกิดแรงดันที่จุดต่อลงดินของชุดล่อฟ้า ถ้าจุดต่อลงดินล่อฟ่้ากับจุดต่อลงดินของไฟบ้านอยู่ใกล้กัน

ก็มีโอกาสทำให้เกิดการกระโดดข้ามของกระแสไฟฟ้าเข้าระบบไฟบ้านเราโดยมาทางสายดินได้ ดังนั้นถ้าที่บ้านติดตั้งล่อฟ้า ก็ต้องวางตำแหน่งระบบสายดินทั้งสองห่างกันด้วยนะครับ

อะเมื่อป้องกันผลของฟ้าผ่าโดยตรงได้แล้ว มาดูเรื่องผ่าโดยอ้อมบ้าง ผ่าโดยอ้อมในที่นี้เกิดได้สองลักษณะนะครับ

กรณีที่ฟ้าผ่าไปยังหม้อแปลงของการไฟฟ้า โดยทั่วไปทางด้านแรงสูงของหม้อแปลงจะเสียหายมักไม่ข้ามมากระทบกับผู้ใช้ไฟฟ้่า โอกาสเกิดยากมากแต่ก็อาจเป็นได้

แต้ในกรณีที่ผ่าใกล้ๆ ระบบไฟฟ้า ก็ยังคงใช้กฏมือขวาได้เหมือนเดิม คือกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงดิน จะส่งคลื่นแม่้เหล็กมาเหนี่ยวนำสายไฟฟ้า

หรือถ้าผ่าใกล้ระบบดินของหม้อแปลง ทั้งสองเหตุการณ์จะทำให้ความต่างศักย์ระหว่าง L(การไฟฟ้า) กับ N(ผู้ใช้ไฟฟ้า) มีค่าสูง

การป้องกันก็ทำได้โดยการติด surge arrester จำนวน 3 ตัวดังนี้ ตัวที่ 1 ระหว่าง L-N ตัวที่ 2 ระหว่างL-G และตัวที่ 3 ระหว่างN-G ที่ตู้ Load center

เพื่อดูดซับพลังงานแม่เหล็กที่เหนี่ยวนำมา (surge arrester ยิ่งมีค่าจูลล์มากยิ่งดูดซับได้ดี แต่หากน้อยเกินไปก็จะทำให้ Surger arrester ระเบิดได้)

ปล.

1. เท่าที่ผมทราบมา safety cut โดยทั่วไป จะมี MCB ที่ทำหน้าที่ตัดไฟกรณีกระแสเกินหรือลัดวงจร และ RCCB ที่ทำหน้าที่กรณีไฟรั่ว(ออกนอกระบบ)

หรือ RCBO ที่ทำได้ทั้งสองฟังก์ชั่น อย่างไรก็ตาม safety cut มันไม่ได้ให้ surge arrester หรือ Surge protection device SPD มาด้วย ถ้าอยากได้ต้องจ่ายเพิ่มเพราะมันเป็นอุปกรณ์เสริมครับ

2. ผมก็ใช้ CLEF POWERBRIDGE 8 เหมือนกัน แต่ไม่ได้ Modify อะไรเพิ่ม ปัจจุบันผมไม่ได้เอามาต่อผ่านให้กับ DAC (Audio gd NFB1P) และ Amp (ฺBryton BHA-1)

เพราะผมเดินระบบไฟตามเฮียมั่น (แยก CB และ เดินสาย 6 sq.mm จาก Load center มาจ่ายให้อุปกรณ์ทั้งสอง)

ถ้าถ้ากลัวมาก ผมแนะนำให้ติด SPD ที่ตู้ Load center 3 ตัว(L-N L-G N-G) + ใช้ MAGNET CLEAN STATION 1000 จ่ายโหลดสำคัญครับ

เพราะถ้า SPD เอาไม่อยู่จริงๆ MAGNET CLEAN STATION 1000 ช่วยได้แน่นอน คือมันพังแต่อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงไม่ 555

@ellevoid
@Hsung

"ปัญหา ทำให้เกิด ปัญญา" อย่างที่เขาว่าไว้จริงๆครับ
ของคุณ คุณellevoid และ คุณHsung มากๆครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ ที่ไห้มาครับ
กระผมจะจัดฯ ตามที่ท่านพี่ทั้งสองแนะนำในอีกไม่ช้านี้ครับ

ขอบพระคุณมากๆครับ

Audyn Valor 3 ก็น่าสนใจนะครับ ลองค้นหารายละเอียดดูครับ

มีหลายอย่างที่ให้มากกว่าด้วยครับ

ติด surge arrester กันฟ้าที่ตู้เมนบ้านก่อนตัวนึงครับ จะเป็นการละทอนผลกระทบจากฟ้าผ่าได้

จะลดจากหนักเป็นเบาครับ หรือเบาๆ ก็ชิวๆ ไปเลย
แต่ต้องมีระบบกราวด์ที่ดีด้วยนะครับ

ถ้าบ้านไหนมีตู้ไฟหลายตู้ ก็ติดมันทุกตู้นั่นแหละครับ
จริงๆ มีหลายยี่ห้อ ABB ก็มี

ไม่ต้องกลัวไฟดรอป เพราะมันต่อแบบขนานครับ

ขอบคุณ คุณ wat12 และคุณ Uthen มากๆครับ

@wat12
ผมไปหาอ่านตามบอร์ดต่างๆแล้ว Audyn Valor 3 น่าสนใจมากครับ

@Uthen
วันนี้ผมขอให้คุณตี๋ช่างไฟข้างบ้านมาดูระบบไฟที่บ้าน เพื่อที่จะปรับปรุงให้มันดีขึ้น ตามที่พี่ๆแนะนำมา
คุณ(ไอ้)ตี๋เดินดูประมาณ 10 นาที ก็มาสรุปให้ผมฟังว่า
"ระบบไฟบ้านพี่!!! มันแจ่มมากอยู่แล้ว มีครบทุกอย่างตามที่พี่อยากมีอยากได้"
ปล. ตัว safety cut ที่ผมเข้าใจ จริงๆ แล้วมันคือ surge arrester(ไอ้ตี๋มันบอก)
ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ บิดตัวไปมา...แก้เขิน ...อ่ายไอ้ตี๋มัน !!! ถูกเด็กสอนมวย

ผมพึ่งรู้ว่า "เรื่องไฟฟ้า" มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคนเล่นเครื่องเสียงจริงๆ ก็วันนี้แหละครับ
ผมคงต้องศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ ถึงจะพอเข้าใจศาสตร์แห่งไฟนี้ได้
ขอบคุณท่านพี่ทุกท่านที่แนะนำ ... ข้าน้อยขอคารวะครับ

คราวหน้าถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะครับ......555