ง่ายๆ ก็คือ แอมป์ไม่ว่าจะเป็นแอมป์หูฟัง หรือแอมป์ที่ต่อกับลำโพง

หน้าที่หลักคือมันขยายสัญญาณไฟฟ้าที่อยู่ในรูปสัญญาณเสียงที่หูเราได้ยิน

ด้วยการที่ทำหน้าที่ขยายสัญญาณไฟฟ้า ก็เป็นไปได้ง่ายที่จะมีสัญาณไฟฟ้าอื่นๆ เข้ามารบกวน

รวมถึงการที่มันมีอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ภายในมากมายที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน

ก็เป็นไปได้ที่วงจรที่ออกแบบมา สร้างสัญญาณรบกวนขึ้นมาเอง รวมถึงรับสัญญาณรบกวนภายนอกเข้ามา

ดังนั้นที่บอกว่าฉากหลังเงียบสงัดก็คือ ไม่ได้ยินเสียงอะไรออกมาจากหูฟังหรือลำโพง

ในช่วงเวลาที่มันไม่มีสัญญาณไฟฟ้าในรูปสัญญาณเสียงเข้ามา เช่น ตอนจบเพลง หรือในช่วงเพลงบางเพลงที่เค้ากำหนดให้ไม่มีเสียงออกมา

ปล. การอัดเสียงปัจจุบันเค้าอัดกันในรูปแบบดิจิตอล ดังนั้นจึงสามารถควบคุมลักษณะเสียงต่างๆ ได้ เสียงจี่จึงไม่มี

ส่วนเพลงที่เล่นจาก tape cassette จะมาจากสัญญาณแม่เหล็กในเทปที่อาจคงเหลือบ้าง

หรือจากแผ่น vinle ที่ร่องเสียงไม่ได้เรียบจริง เราจึงได้ยินเสียงสัญญาณรบกวน

ซึ่งแตกต่างจากแผ่น CD DVD หรือ digital file ที่จะไม่มีปัญหาในเรื่องสัญญาณรบกวนเลย

ยกเว้นที่ออกมาจาก DAC เอง

เยี่ยมครับ อ่านแล้วเข้าใจเลยครับ ขอบคุณครับพี่

กระจ่างเลยครับ ^^

ในบางเพลง ที่พอซักพักเพลงหยุดไปหมด แล้วดนตรีหายไป เหลือแต่เสียงร้อง ร้องเบาๆ ในท่องหุค อย่างเดียว ฉากหลังจะเงียบสงัดไปเลย ครับ ฟินสุดๆ ส่วนใหญ่หูฟัง หรือ แอมป์ ที่จะให้ฉากหลังเงียบ จะออกไปทาง ดราก ครับ หูฟังที่ฉากหลังเงียบดี ขอยกให้ hd650 ครับ


ฉากหลังเงียบสงัดคือหนึ่งในความฟิน แล้วก็พวก สเตจ การแยกชิ้นดนตรี รายละเอียดเสียงกลาง เสียงปลาย ฮาโมนิคของเสียง ดิปเบส พวกนี้ คือ สิ่งที่ทำให้มีความสุขครับ แต่ต้องใช้หูฟังหลายตัว เพราะแต่ละตัว ให้ได้แค่บางอย่าง

ถ้าอยากรู้ว่าความเงียบ นิ่งๆ สะอาดๆเป็นอย่างไร AK 120 เลยครับ แค่หูลากหญ่า แบบ TTpod T1 ก็หลับสบายโดยไม่รู้ตัวแล้ว

ฺฉากหลังเงียบสงัด มันมาจากคำว่า Background noise ของฝรั่งครับ คือถ้าเครื่องเล่นหรือพวกแอมป์ขยายต่างๆไม่ดีพอ เวลาเปิดไฟล์เพลง เราจะรู้สึกว่าชิ้นดนตรีมันไม่ลอยออกมาโดดเด่น แต่พอเราได้ยินเสียงดนตรีแต่ละชิ้นลอยเด่นออกมา แสดงว่าตอนนั้นฉากหลังนั้นมืดสนิท ไร้เสียง noise รบกวนนั่นเอง

เปรียบไปก็เหมือนคืนเดือนมืดครับ ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวชัดเจน แต่ถ้าไม่ค่อยมืด หรืออยู่ในเมืองกรุงที่เปิดไฟกันพรึ่บ เรามักจะเห็นดาวไม่ค่อยชัดเจน ฉันใดก็ฉันนั้น 555