...

มันทำได้ด้วยหรอครับ???

ที่นึกออกก็ คือ ใช้ iPad เป็น remote คุม Library ใน Mac โดย Mac ต่อกับ hdd และ pair ลำโพง bluetooth กับ Mac นะครับ

แต่จากประสบการณ์ลำโพง bluetooth เสียง drop ลงกว่าต่อตรงพอสมควรเลยนะครับ

รู้สึกว่าจะทำไม่ได้นะคุณนะ มีวิธีเดียว คือเอาเพลงในเครื่อง ผ่านiTunes แล้วก็ซิงกัน ไฟล์ที่จะลงได้ก็มี Acc. Aiff.
Apple Lossless .wav .mp3. ประมาณนี้ แต่ถ้าจะเล่นไฟล์ flac. หรือ 24 bit lossless ก็ต้องซื้อแอปมาใส่ มีสองแอปที่ผมว่าดีที่สุด (เพราะผมไม่รู้จักแอปอื่น) Accudio. Pro. กับGoden ear. สองแอปนี้สุดยอดครับ.

Accudio. Pro. นี้เสียงคล้ายๆpk2โปร่งๆ ฟังสบาย เสียงดีมาก

Goden ear. ผมชอบแอปนี้มาก เพราะเอาเพลงในแอปเลย จัดเป็นโฟเดอร์ได้ แอปนี้เล่นได้ทุกไฟล์ยกเว้น. Dsd แล้วที่พิเศษคือแอปนี้เปลี่ยนรูปปกเพลงได้ในแอปเลย ถ้าคุณมีรูปในเครื่องมาลงได้ ไม่พอใจก็เปลี่ยน ฮ่าาา เสียงด้วย เด๋วลงรูปให้ดูครับ

นี่ครับที่ผมชอบคือจัดเป็นโฟเดอร์ได้

ระบบ iOS เป็นระบบที่ต้องการหน่วยความจำที่เป็นชิ้นเดียวครับ
จึงไม่สามารถต่อ exHDD ได้ครับ
และหลักการนี้เอง เป็นหนึ่งในหลักการที่ทำให้อุปกรณ์เค้าทำงานได้เสถียร

หลักการที่เค้าใช้เรียกว่า Sandbox(กระบะทราย) ครับ

เมื่อมีแอพมาลงเครื่องปั๊ป ระบบจะจัดสรรกระบะทรายให้แอปนั้นๆมีอิสระในการทำงานแค่ในกรอบกระบะทรายที่ระบบจัดให้เท่านั้น ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพยากรอื่นๆนอกกระบะทรายนั้นได้ จะมีเพียงข้อมูลบางอย่างเท่านั้นที่แอปสามารถนำไปใช้ได้ เช่น รูป สมุดรายชื่อ เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้โดยพลการ เมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลนอกกระบะทรายที่ระบบจัดให้ จะมีหน้าต่างป๊อปอัพเด้งถามUserเสมอว่าจะอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่เรียกขอมั้ย

และกระบะทรายที่ว่านี้ เมื่อแอพต้องการเนื้อที่เพิ่มเนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของข้อมูลภายในแอพ เช่น แอพจำพวกที่สามารถแคชไฟล์มาเก็บไว้ในแอพเพื่อเรียกใช้ภายหลัง(พวกที่ใช้โหลดYoutubeทั้งหลายแหล่ นั่นแหละ) ระบบก็จะขยายขนาดกระบะทรายให้

สมมติ คุณซื้อรุ่น16GB มาใช้ แล้วเพิ่มexSD Card 16 GB แต่ถ้าโหลดยูทูปมามากๆเข้าจนขนาดมากกว่า 16GB SandBoxมันก็จะไม่สามารถเอาเนื้อที่exSD Card16GB ขยายเนื้อที่เก็บให้เมมเครื่องได้เพราะเป็นเมมคนล่ะชิ้นกัน

ถ้าเป็นในแอนดรอยบางรุ่นระบบจะฟ้องให้ย้ายข้อมูลทั้งหมดไปที่exSD Card ซึ่งการย้ายข้อมูลที่ว่านี้ เป็นสิ่งที่End Userทำไม่เป็นแน่นอน มันจึงกลายเป็นประสบการณ์การใช้งานที่Apple ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกค้าด้วย เพราะConceptของการออกแบบตัวสินค้า(เครื่อง+ระบบ) เค้าจะออกแบบมาเพื่อ End Userเป็นหลัก ประมาณว่า เวลาเค้าออกแบบอะไรแต่ล่ะอย่าง เค้าจะคำนึงไว้เสมอว่าลูกค้าโง่ ทำอะไรที่ซับซ้อนไม่เป็น

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมAppleเค้าทำให้สินค้าเค้านำไฟล์จำพวกเพลง หนัง เข้า-ออก อุปกรณ์ยากจัง ส่งให้กันผ่าน Bluetoothก็ไม่ได้

ที่ทำแบบนั้นเพราะเป็นการคุ้มครองลิขสิทธิ์ของเจ้าของสื่อ(เพลง+หนัง)นั้นๆครับ
ประมาณว่าอยากได้เพลงเหรอ โหลดในiTune Store สิโหลดง่ายเหมือนโหลดแอพเลย
ประมาณว่าอยากได้หนังเหรอ โหลดในiTune Store สิโหลดง่ายเหมือนโหลดแอพเลย
ซึ่งเป็นการทำให้สินค้าถูกลิขสิทธิ์หามาใช้ได้ง่ายกว่าการนำเอาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มาใช้

อาจจะไม่ถูกจริตกับคนไทยที่ขอบของฟรีเท่าไหร่ครับ แต่มันถูกจริตพวกคนรวยที่ไม่มีเวลามเสาะแสวงหาของเถื่อนมาใช้เพราะวันๆทำแต่งานหาเงินครับ เงินแค่หลักร้อย เค้าขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับ เอาเวลาหาของเถื่อนมาใช้เอาไปหาเงินดีกว่า
เพราะเวลาที่เสียไปกับการหาของเถื่อนมูลค่าไม่กี่ร้อยเค้าเอาไปหาเงินได้เยอะกว่านั้นเยอะครับ

และที่สำคัญเจ้าของสื่อนั้นๆก็อุ่นใจด้วยครับว่าสินค้าเค้าจะไม่ถูกนำไปแจกจ่ายต่อแบบผิดกฏหมายได้ง่ายๆด้วยครับ
เป็นอีกหนึ่งเหตุที่Apple มีคลัง หนัง แอพ เพลง และหนังสือ ที่ใหญ่(เยอะ)ที่สุดในโลกครับ

ปล.พิมพ์ไปพิมพ์มายาวเฟื้อยเลย55+

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ 6 ย่อหน้าแรก

ขอบคุณทุกคำแนะนำนะครับ สบายใจล่ะครับ ไม่ได้ก้ไม่ได้ ทำใจล่ะครับ 555

ทำได้ครับ ใช้ CloudFTP
http://www.iphonemod.net/introduce-cloudftp.html

หรือซื้อ Ex HDD ที่ต่อกับ iPad ได้โดยตรงเลยก็มีครับ หลักการก็เหมือนผนวกตัว CloudFTP ไว้กับ HDD เลย

Woww

ขอบคุณความรู้ใหม่ ราคาน่าเกินหมื่นนะครับ

รุ่นน้องก็ซื้อไอแพด16กิ๊กมาแล้วอยากได้ hdd ใส่หนังและเพลงมาต่อดูและฟังกับไอแพด เห็นเค้าไปซื้อ ext hdd แบบไวเลส ความจุไม่แน่ใจว่ากี่ร้อยกิ๊ก แต่ราคาประมาณ6พันมาต่อใช้งานอยู่ครับ

แค่ฟังเพลงจะลำบากไปไหมครับ ดูหนังก็ด้วย ฟังเพื่อผ่อนคลาย ดูหนังเพื่อความสนุกตื่นเต้น ไม่จำเป็นต้องเป็นอุปกรณ์ราคาสูง ก็สัมผัสได้ ผมว่าพวกนี้เกิดมาเพื่อการพกพาที่สดวก พร้อมกับสามารถใช้เน็ตได้ทุกที่ที่มีสัญญาน ใช้งานเล่นเว็บอ่านเมล เล่นแอป เอามาเชื่อมต่อรุงรังมันจะเป็นอุปรณ์พกพาได้ไง เอาอุปกรณ์ตั้งโต๊ะไม่ดีกว่าหรือ เพราะว่าอุปรณ์พกพาต้องใช้แบตนะครับ มันมีขีดจำกัดของมันคือการใช้งานแบบเต็มเหนี่ยวนี่แหละ

ใช้ router ของ apple ที่มันมีช่องให้เสียบ hdd ก็น่าจะได้นะครับ เข้าใจว่าทำเป็น network drive เหมือนกัน