MS-1 นั้นเหมือนหูฟังที่พยายามทำราคา โดยลด-เพิ่มบางส่วนเข้าไปครับ

คือไดรเวอร์นั้นใช้ลวดทองแดงเกรดเดียวกับ SR125 ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นหน่อยนึง แต่ก็ไปปรับให้ใช้กับ Comfy Pad ซึ่งเหมือนกับในรุ่น SR60 ครับ

แต่สุดท้ายก็คือกลมกลืนลงตัวจ้า

125 นั้น จะพลุ่งพล่านกว่า MS-1 ในขณะที่ MS-1 สุขุมกว่า จัดจ้านน้อยกว่าด้วยครับ

ซึ่งขาร็อคที่ชอบแหลมแบบฟุ้งกระจาย ยากที่จะหลบ 125 ไปพ้น 555

แต่ MS-1 นั้น ทั่วโลกวิจารณ์ว่ามันคือ Grado ตัวที่ sweet ที่สุดครับ 5555

แค่เปลี่ยน comfy pad ที่เป็นฟองน้ำนี่มันจะช่วยลดต้นทุน
ขนานราคาต่างกันเป็นพันเลยเหรอคับเฮีย

เปลี่ยนฟองน้ำใครอย่าหาว่าไร้ผล
มันช่วยให้เจ้า MS1 เปลี่ยนไปได้เลยครับ

จากที่ดูอบอวลกลมกล่อมจะช่วยให้เสียงใสดีขึ้น
แต่ถ้าต่อ amp The Pig จะทำให้บาดหูขึ้นมากทันที 555

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ 5555

จริงๆ แล้ว MS-1 นี่คือตัวพระเอกของ Alessandro เลยล่ะ ลองเข้าไปในอ่านใน Head-Fi ซิครับ

ฝรั่งมันชำแหละออกมาทุกแง่มุมเลยล่ะ มันเป็นการทำต้นทุนเพื่อให้แจ้งเกิดได้ในวงการล่ะครับ 555


ลองคิดเล่นๆ SR80 ราคา 3800 กับ SR225 ราคา 7800 ทุกอย่างเหมือนกันเด๊ะๆๆๆ

เสียเวลาประกอบเท่ากัน รูปทรง วัสดุที่ดูจากภายนอกราคาเหมือนกัน แต่ราคาผิดกันเป็นเท่าตัว 5555


มันเป็นความลับดำมืดจนทุกวันนี้ มีคนเดียวที่รู้ก้คือ John Grado ครับ 555

ถ้าเมียมันมาลองฟังระหว่างสองสามตัวนี่
มันคงด่าผมโง่แหงๆ เหมือนกันเดี๊ยะราคาต่างกันบานเลย เอาหูเงินไปให้ดู(ms2)ยังบอกว่าแพงเลยสงสัยต้องเอาหูทอง(325) ไปให้ดูล่ะมั้ง

เฮียๆๆ ฟองน้ำแบบชามนี่ ไปซื้อที่สำราญราษฎร์ได้มะคับ อิอิ เท่าไหร่ด้วยง่ะ