
เมื่อช่วงเย็น ผมแว่บไปว่ายน้ำเล่นแก้ร้อนกับเจ้าลูกชายคนโต ผมไปด้วยพาหนะรถสามล้อ ซึ่งเจ้ากรรมวันนี้รถดันติดมากซะด้วย อากาศก็ร้อนยิ่งกว่านอนในเตาอบคุ๊กกี้ยี่ห้ออาร์เซน่อล จากที่เคยนั่งตรงๆๆ ก็นั่งจนเอนกับเบาะแทบจะกลายเป็นนอน
ปรากฏว่าพอถึงหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบ ผมลงจากสามล้อ และควักเงิน 30 บาทจ่ายไปตามระเบียบ แล้วก็หันหลังจะเดินเข้าประตู เดินไปได้ 4-5 ก้าว ก็เอามือตบๆกระเป๋ากางเกงเพื่อตรวจตรา....อ้าวเฮ้ย โทรศัพท์ไม่อยู่แล้ว ผมรีบหันหลังกลับ
ตายห่า !!!! สามล้อวิ่งไปไกลเกินกว่า 30 เมตรแล้ว ผมตัดสินใจสวมวิญญาณ นักวิ่งโอลิมปิคชาวอเมริกัน นามว่า คาร์ล ลูอิส ส่วนลูกชายผม ก็ใส่เกียร์หมา สวมวิญญาญนักวิ่งโอลิมปิคชาวแคนาดา เบน จอห์นสัน เราวิ่งกวดรถสามล้อ แต่ดูเหมือนว่าความหวังที่จะเข้าเส้นชัยของผมเลือนลางไปเรื่อยๆๆ เมื่อไฟแดงที่เห็นอยู่ลิบๆๆ มันเริ่มนับถอยหลัง จาก 3 เป็น 2 และ เป็น 1.....
ผมหยุดยืนหอบเหมือนหมาหอบแดด พร้อมกับเดินหันหลังกลับ ทอดอาลัยด้วยความเซ็ง โทรศัพท์หายน่ะช่างหัวมันเหอะ แต่ไอ้เบอร์ทั้งหลายที่อยู่ในเครื่องน่ะซิ มันเมมโมรี่เบอร์ลูกค้าและเพื่อนๆๆ ไว้เต็มปรี่เลยล่ะ...เฮ้อ
โทรศัทพ์เครื่องนี้ผมใช้นานเหมือนกัน ประสบอุบัติเหตุใหญ่ๆๆ หลายครั้ง แต่ผมก็ยังใช้อยู่
- ตกในกาละมัง มีน้ำสะอาด 1 ครั้ง แต่เอาไปซ่อมใช้ได้
- ตกในคอห่าน ไม่มีอุจจาระ มีแต่ปัสสาวะ 1 ครั้ง เอาไปซ่อม ไม่ยอมบอกช่าง
- ตกในคอห่าน มีอุจจาระ (ตัวเอง) และปัสสาวะ 1 ครั้ง ไม่ยอมบอกช่างเช่นกันว่าตกคอห่าน
ยังไม่นับเหตุการที่ทำหลุดมือ ตกพื้น เผลอร่วง เผลอหล่นอีกนับไม่ถ้วน......
พรุ่งนี้ผมจะรีบวิ่งไปเอาเบอร์ใหม่นะครับ ใครที่โทรหาผมไม่ติดในช่วงพรุ่งนี้ อย่าเพิ่งตกใจว่าเฮียหนีหนี้หายไป หรือเชิดเงินค่าหูฟังหลบเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ขอจงทำใจให้สงบ แล้วผมจะรีบกลับมารับสายดังเดิมโดยเร็วที่สุดๆๆๆๆๆ จ้า
ปล. ใครมีประสพการณ์เซ็งๆๆ แบบนี้เล่าสู่กันฟังมั่งเน้อ....5555