แอมพ์บ้านทำมาสำหรับขับลำโพง 4-8 ohm ครับ
แอมพ์หูฟังทำมาสำหรับขับหูฟัง ซึ่งก็มา ohm หลากหลายมากแล้วแต่หู 16-600 ohm

ผมเคยใช้ HE-6 ซึ่งหลายๆท่านแนะนำให้เอาแอมพ์บ้านมาขับโดยต่อตรงจาก speaker terminals เลย ซึ่งก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นมากระแสไหลเข้าหูมากไป หูเดี้ยงครับ ผมไม่กล้าพอ 555

อ้อ เท่าที่เห็นแอมพ์บ้านที่มีรูหูฟังมาหลายๆเจ้า เสียงไม่ถึงขั้นครับ ขนาด Cary SLI-80 ที่มีช่องหูฟังมาให้ยังสู้แอมพ์หูฟังตั้งโต๊ะดีๆไม่ได้ครับ

ถ้าสนแอมห์หลอด ผมเสนอให้ลองไปฟังแอมพ์ Minute ของคนไทยครับ ดีมากๆเลย

WA22 ผมเคยใช้ครับ แต่ก็ปล่อยไป เอา Minute มาแทน

PS500 เป็นหูที่ดีมากๆตัวหนึ่ง ลองหา headphone amp กับ source ที่ดีๆและ match กัน รับรองไปได้อีกไกลครับ

ขออนุญาตอธิบายอย่างนี้ครับ
เครื่องเสียงบ้านพวกซีดีหรือแอมป์ ช่องรูหูฟังก็คือของแถมครับ
แต่กับพวกแอมป์หูฟังเขาออกแบบมาเพื่อใช้กับหูฟังโดยเฉพาะ ไม่ได้เอามาขับลำโพงครับ
ส่วนที่ว่าจัคุ้มค่าไหมก็แล้วแต่คนครับ ถ้าหูฟังไม่แพงมากคงไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน ถ้ามีเครื่องเสียงบ้านที่มีช่องหูฟังอยู่แล้ว

อุปมาเหมือนทำไมเราไม่ใช้รถกระบะ ทั้งที่มันทำให้เราเดินทางถึงจุดหมายได้เหมือนกัน
แต่ทำไมเราต้องไปซื้อรถเก๋ง รถ SUV รถสปอร์ต ที่มีราคาสูงกว่ามาก
คำตอบคือ วัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน บางคนคิดไปถึงว่าภาพลักษณ์ที่แตกต่างกัน

ว้าว..... ผมลืมนึก ถึงเรื่อง Ohm ของลำโพงบ้านกับหูฟังไปได้อย่างไรเนี่ย นี่งัยครับที่เรียกว่าประสพการณ์น้อย ต้องมีเพื่อนๆ พี่ๆ คอยชี้แนะ รับทราบเลยครับ ขอบคุณพี่ TMY168 มากๆเลยครับ ที่แนะนำเรื่องของ Amp ตัวที่พี่แนะนำไปทดลองฟังได้ที่ไหนบ้างครับ จะได้ลองเอามาเปรียบเทียบกับ ตัวที่ผมมองอยู่ (W22) ครับ แล้วราคา ค่าตัวพอกระซิบได้ไหมครับ
^_^

ช่องหูฟังในเครื่องเสียงบ้าน อย่างที่หลาย ๆ ท่านอธิบายครับ ทำมาพอใช้ครับ เพราะจะมีรีเลย์คอยตัดเสียงจากลำโพงอีกที พวกโอมห์อะไรแบบนี้ด้วยครับ ทำให้เสียงไม่ออกเติมอิ่มครับ

แต่หลัง ๆ มานี้มักจะมีแอมป์ตั้งโต๊ะที่มีแอมป์สำหรับหูฟังในตัวด้วย (เพิ่มภาคขยายหูฟังโดยเฉพาะครับ ) ก็โอเคดีครับ

แต่ถ้าจะให้สุด ก็แอมป์ตั้งโต๊ะขับหูฟังโดยเฉพาะอยู่ดีครับ

ก็คงจะเหมือน เวลาเราไม่สบายมั้งครับต้องรักษาทานยาให้ตรงโรค ไม่ใช่อะไรก็ พารา แก้อักเสบ อิอิอิ น่าจะประมาณนั้นครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาให้คำชี้แนะนะครับ

เหมือนจะเคยอ่านเจอว่าภาคเฮดโฟนที่ออกมาจากเครื่องเล่นซีดีหรืออินแอม มันเอาไว้แค่มอนิเตอเสียงที่ออกมาว่าเพี้ยนรึเปล่า ไม่แน่ใจว่าคาแรกเตอเสียงที่ได้จะเหมาะสำหรับฟังจริงจังได้นะครับ

ps500 กับ he500 ต่างกันพอสมควรคับ

ps500 เป็น grado ที่เบสหนานุ่ม แต่พื้นฐานของเสียงก็ยังเป็น grado อยู่ดี

้he500 ค่อนข้างจะ overall กว่า แต่พวกออโถฯ จะมีน้ำหนักมาก ถ้าไม่รักจริงอาจจะอยู่กันได้ไม่นาน

สำหรับ he500 ตอนแรกนี่ผมเฉยๆ มาก คือหูมันไม่หวือหวา ไปเรื่อยๆ แบบมีคุณภาพ ... แต่พอได้สาย cardas clear มาพ่วง ผมถึงกับเปลี่ยนความคิดไปเลย เพราะคุณภาพเสียงมันดีขึ้นมาทุกย่าน ดีจนกลายเป็น สุดยอด ในทุกๆ ย่านเสียงคับ

*** ขอให้หาเวลาไปที่ร้านเรือธงคับ ใช้เวลาอยู่ที่นั่นเยอะๆ ไปฟังซัก 2-3 ครั้งก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อตัวไหน

ปล. ถ้าไหว ให้ไปสุดทาง เพราะถ้าอยู่ครึ่งๆ กลางๆ จะเสียตังค์ 2 รอบคับ :)

Minute ติดต่อพี่คณิตได้เลยครับ 083-609-993หก
ราคาไม่แน่ใจ ตัว 300B เก่าเคยอยู่ที่ 4 หมื่นกว่า

ได้เข้าไป ดูกระทู้เก่าๆแล้วครับ Amp หลอดคุณภาพของคนไทยจริงๆครับ
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=47299
ส่วนเรื่องหูฟังคงต้องลองเข้าไปนั้งฟังที่ร้านบ้างแล้วละครับ น่าจะเป็น พรุ่งนี้เพราะไปราชดำริพอดีครับ ขอบคุณท่าน veedemort มากครับ ^_^ สำหรับคำแนะนำดีๆแบบนี้....

ปล.บอกตรงๆ เว็ปนี้อบอุ่นมากๆ

เท่าที่ถามช่างมา ช่างบอกว่า Amp บ้านมันจะมีวงจรสองชุด ชุดหลักคือใช้ขับลำโพง อีกชุดไว้เหมือนของแถมให้ต่อกับหูฟังเพื่อความสะดวก
PS500 ขับง่ายอยากได้ความเห็นเพิ่มเติมลอง mail ไปหาพี่เหน่งบาดูครับเป็นตัวที่แกค่อนข้างประทับใจและมีใช้เองเรียบร้อย
HE500 เหมือนที่คุณวีว่ามัน Overall ดีแต่มีเพิ่มเรื่องน้ำหนัก กับต้องการ Amp ในการใช้งาน Amp พกพาหายากที่จะขับหมด

สำหรับ he500 ผมยอมแพ้ที่จะหา portable amp มาขับมันแล้วคับ ผมลองแล้วหลายตัว (ยกเว้น lisa L3 กับตระกูล rsa ... ยังไม่มีโอกาสลองสายโหดทั้ง 2 สายนี้เลยคับ) เสียงออกไม่ครบทุกย่าน

สำหรับที่ผมเคยทดสอบมา ที่พอขับออกทุกย่าน แต่ก็อยู่ในขั้น ฝืนให้ออกสุดๆ และมีพื้นที่ลอยสูงมากแถมมาด้วย ก็คือ ... portaphile 627x คับ (ใช้ช่อง line out ของ dx50)

RSA ถ้าไม่ใช่ Balance ก็เอาไม่อยู่ครับยุ่งยากน่าดู

แอมป์เครื่องเสียงบ้านระดับหลายแสน ก็ไม่ได้ทำช่องหูฟังให้ดีพอจะขับหูฟังจริงๆให้ไพเราะครับ อันนี้คอนเฟิม เพราะว่าผมเคยลองเสียบมาหมดแล้วครับ มันแค่ระดับพอฟังได้ หรือระดับใช้ได้เท่านั้นครับ แต่ถ้าว่ากันเรื่องเสียง ต้องหา headphnone amp โดยเฉพาะมาขับมัน และเราก็ต้องมานั่งเลือกอีกว่าตัวเองชอบแอมป์หูฟังแบบไหนอีกครับ

ยุ่งยากนิดนึง แต่ไม่มากครับ 555

วันนี้ได้มีโอกาส ไปเที่ยวที่เรือธง เป็นครั้งแรก พอดีขับรถพาแฟนไปประชุมงานแถวนั้นผมก็เลยถือโอกาส เดินเที่ยวมาเรื่อยๆไม่ไกลกันมาก รู้พิกัด ว่าประมาณชั่น 3 ของห้าง Amarin เดินหาอยู่จนรอบ มีแต่ร้านเครื่องเสียงเยอะมาก วน 1 รอบจนเจอะ ครับ เลยรีบเดินเข้าไป เวลามีน้อย อิอิอิ เข้าไปก็เจอะพี่หลุย พอดีครับ เลยขอทดลองฟัง Amp หลอด Woo WA6 กับหูฟัง
Grado PS500 และ Hifiman HE-500 ก็สรุปได้ว่า ผมชอบเสียง PS500 มากกว่าลองสลับไปสลับมาก็รู้สึก ชอบเสียง PS500 มากกว่าอยู่ดี ก็เลยกลับมามองหา Amp ซักตัวมาขับ
PS500 ซักตัว พี่หลุยก็แนะนำ Amp Bakoon HPA 21 ให้ลองฟังดูรู้สึกชอบขึ้นมาทันที ผมว่าซื้อทีเดียวหน้าจะจบง่ายกว่า Amp หลอดเพราะ อุปกรณ์ของ Amp หลอดเยอะกว่ามากๆใจก็เริ่มเอียงๆไปทางเจ้าตัว Bakoon ครับ แต่สุดท้าย ผมก็เลยขอลองฟังเจ้า AstellKern AK240 กับ PS500 ผมก็เริ่มเปลี่ยนใจนิดๆ ระหว่าง Bakoon กับ เจ้า Ak240 นี่ซะแล้ว เพราะราคา Ak240 พอๆกับ Bakoon เลยครับ ที่สำคัญผมไปไหนมาไหน ออกทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ ผมว่ามันจะคุ้มกับการลงทุนมาก กว่า Bakoon ที่ต้องเฝ้าอยู่บ้านตัวเดียวเวลาผมไปทำงานต่างจังหวัด ที่เหลือก็ต้องเข้าพบ ผบ.ทบ. ที่บ้านแหละครับ เพราะตอนแรกเธอบอกจะมาด้วย แต่ผมไม่อยากรอเธอประชุมเสร็จมันช้าไม่ทันใจวัยรุ่นครับ เลยมาคนเดียวแล้วค่อยกับไปรายงาน ความคืบหน้า อิอิอิ

สรุปวันนี้ได้ กล่องใส่หูฟัง Grado นำมาใส่ PS500 มาหนึ่งใบครับ

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆทุกๆท่านนะครับ ผมคิดว่าผมคงจะลงทุนกับเจ้า Ak240 ดีกว่าจะได้ใช้ได้อย่างคุ้มค่ากว่า เพราะเสียงดีมาก จริงๆ ไม่อยากฟัง Ak100 ที่อยู่ในมือตอนนี้เลยครับ ฮ้าๆๆๆๆ ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ ^_^

เชียร์ 240 ตัวเดียวจบครับ

แอมป์บ้านเป็นแอมป์ที่เราจะฟังผ่านลำโพง ระยะห่างเป็นเมตร
สัญญาณรบกวนที่มีเล็กๆน้อยๆเรานั่งฟังห่างๆจะไม่ได้ยินเลย
ถ้าเราเอาหูไปแนบลำโพงเราจะได้ยินเสียงซ่าเบาๆ
ถ้าเราเอาแอมป์บ้านตัวเดียวกันนี้ไปใช้กับหูฟัง
ยิ่งหูฟังมีความไวสูงเราจะได้ยินเสียงซ่า หรือเสียงรบกวนชัดมากๆ
มันหมายถึงแอมป์บ้านมีสัญญาณรบกวนเยอะ ไม่เหมาะกับการใช้หูฟังแบบซีเรียส

แอมป์หูฟังที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันจะมีระดับการรบกวนที่ต่ำมาก
เพราะเกิดจากการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีความเพี้ยนต่ำ สัญญาณรบกวนต่ำ
ยิ่งออกแบบให้สัญญาณรบกวนน้อย ยิ่งแพงครับ
ไม่แปลกที่แอมป์หูฟังจะมีราคาแพงกว่าแอมป์บ้าน
แม้ในด้านกำลังขับจะต่ำกว่ากันเป็นสิบเท่าร้อยเท่า

เครื่องที่เอาแอมป์บ้านมาดัดแปลงใช้กับหูฟัง
ถ้าใช้กับหูความไวต่ำ หูขับยากอาจจะไม่รู้สึกอะไร
แต่ถ้าลองเสียบกับหูความไวสูง ขับง่าย แอมป์บ้านตัวนั้นอาจจะกลายเป็นของกระจอกไปเลย

ผมทำแอมป์ diy อยู่ตัวนึง ใช้กับหูโอห์มสูง ขับยาก ก็ใช้งานได้ดี ไม่ได้รู้สึกว่าจะมีปัญหาอะไร
เสียบรบกวนบางๆที่ได้ยินก็ยอมรับได้
แต่พอผมถอดเปลี่ยนเป็นหูที่มีความไวสูง ผมก็แทบจะปิดแอมป์ตัวนี้ทันที
เพราะแอมป์ที่ผมทำ มันสัญญาณรบกวนเยอะมากนั่นเอง
แอมป์ตัวเดิม แค่เปลี่ยนหูก็รู้แล้วว่าแอมป์ออกแบบมาดีหรือไม่ดี
ก่อนที่แอมป์ diy ตัวนี้จะเอามาใช้กับหูฟัง ผมก็ใช้มันขับลำโพงบ้านแบบฟังเบาๆมาตลอด
เพราะฟังห่างๆก็ไม่รู้ว่ามีสัญญาณรบกวน

ขอบคุณครับพี่ pockethifi ที่ได้ให้ข้อคิดและยกตัวอย่างที่หลับตาก็นึกภาพออก ว่าทำไมเขาไม่เอา แอมป์เครื่องเสียงบ้านมาใช้กับหูฟังครับ กระจ่างเลยครับ.....

ขอบคุณคุณ pockethifi อีกคนครับ กระจ่างทันทีเลย ^^

ในฐานะผู้ใช้ ak240 เชียร์เช่นกัน ผมอยากลองไปทางชุดตั้งโต๊ะหลายที แต่สุดท้ายยังไงไลฟ์สไตล์ก็ไม่เข้าทางครับ อยู่นอกบ้านเดินทางไปมาตลอด จะซื้อชุดเรือนแสนมาฟังครึ่ง ชม.ก่อนนอนรู้สึกไม่คุ้ม เหล่ลองชุดพกพาอยู่นานลองหลายตัวก็ยังไม่ถูกใจ เจอเจ้า ak240 ตัวเดียวจบเกมครับ ชอบมากเข้ากับไลฟ์สไตล์สุดๆ

ผมก็คนนึงที่คิดมาตลอดว่าน่าจะใช้ampบ้านตั้งโต๊ะของเราขับได้สบายๆ พอมาอ่านและได้ความกระจ่างเยอะเลยครับ

ขอบคุณคุณ pockethifi ครับ ตอบได้เข้าใจดีมากเลยครับ