ผมงงนิดๆน่ะนะครับ ใช้ไอโฟนเล่นเพลง

แต่สนใจ hifiman he 500+ BURSON HD160DS or SCHIIT VALHALLA AMP or WOO WA6 AMP SILVER + ของพวกนี้มันไอเทมตั้งโต๊ะ พกไม่ได้นี่นา ....


้

ขอตอบ คุณ themiumhhh คืองบจำกัดครับ ใช้ iphone เป็น source แล้วต่อสายสัญญาณ Dock ประมาณนี้ แบบว่าค่อยๆเป็น ค่อยๆ ไปครับ งบจะได้ไม่บานไง 555

ขอบคุณครับ

น่าจะหมายถึงใช้ iPhone เป็น Source หลักน่ะคับ แล้วจะต่อจาก iPhone ไปแอมป์เพื่อขับหูฟังอีกที

ทีนี้อยากแนะนำว่าก่อนจะคิดว่าจะซื้ออะไรผสมกับอะไรดี ลองไปฟังหูฟังตัวที่เล็งๆไว้ก่อนครับว่าแนวเสียงชอบหรือไม่ ใส่สบายหรือเปล่า ดูรุ่นที่อยู่ในงบที่วางไว้แล้วสุดท้ายชอบตัวไหนก็ค่อยดูว่ามันเหมาะกับ Amp หรือ Source อะไรอีกที จะมีโอกาสได้ชุดที่เข้ากันและเราชอบมากว่า หูบางตัวขับง่ายต่อตรงก็ได้ หรือใช้แค่ Portable Amp ก็ให้เสียงได้ดี บางตัวขับยากมากต้องการกำลังของแอมป์ตั้งโต๊ะถึงจะแสดงประสิธภาพเต็มที่ หรือบางตัวมันมีจุดด้อยบางอย่างถ้ารู้ว่าขาดอะไรอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้ซื้อเราก็สามารถเลือกให้ชดเชยหรือส่งเสริมกันในจุดนี้ได้

ที่อยากให้เลือกหูก่อนเพราะหูฟังให้ผลต่างด้านเสียงมากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปครับ แต่ยกเว้นว่าชอบเปลี่ยนเล่นบ่อยๆอันนั้นก็แล้วไปครับ

ถ้าเลือกที่จะใช้พวกอุปกรณ์แบบตั้งโต๊ะแล้ว ... ใช้คอมเป็น source ดีกว่าคับ

พวกอุปกรณ์พกพาอย่างพวก iphone หรือ dap พกพา ... ให้ output ที่ค่อนข้างเบา

งบ 50000 นี่ค่อนข้างเยอะคับ ... ไม่อยากให้ซื้อทีเดียว เพราะถ้าพลาดซื้ออุปกรณ์ที่ไม่ได้ถูกใจจริงๆ แล้วต้องมาเสียเงินเพิ่มที่หลัง

ยกตัวอย่างเช่น ผมเองซื้อหูฟังมาหลายตัว ตอนแรกใช้แต่ full size อย่างเดียวเลย ... แต่หลังๆ ใช้ earbuds มากกว่าครึ่ง :)

ปล. ใช้ iphone ฟังเพลงอาจจะมีสัญญาณรบกวนจากคลื่นโทรศัพท์นะคับ ... อันนี้น่ารำคาญเวลาฟังเพลงมากๆ คับ ทำให้เสียอรรถรสมากๆ เลย

คำแนะนำของคุณ DukeMSN คุณveedemort เป็นประโยช์มากเลยครับ สงสัยชุดที่เลือกมาคงไม่ match กันแน่ เพื่อนพ้องน้องพี่ ท่านใดมีคำแนะนำดีๆ บอกด้วยครับ
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ

ถ้ายังไม่เคยลอง HE500 แนะนำให้ไปลองฟังดูก่อนครับเพราะอาจจะไม่ถูกใจ หาเวลาว่างๆ เข้าไปคลุกอยู่ในร้านเฮีย พอเจอหูฟังที่ถูกใจค่อยมา match ชุด Source/DAC/Amp ตามงบครับ
เพราะส่วนใหญ่หากอ่านรีวิวแล้วซื้อมาก่อนสุดท้ายจะได้ขายทิ้งซื้ออันใหม่ครับจากประสบการณ์ตรง อิอิ :-P

งบ50000 หูฟังกับแอมป์ ทำไมจะไม่ควรซื้อทีเดียวครับ ไม่เข้าใจ จะให้ซื้อของถูกๆ มาใช้ก่อน หรือซื้อมาทีละชิ้นหรือยังไงครับ งง นี้ถ้าจะแนะนำน่าจะเป็นให้ลองก่อนซื้อมากกว่าจะมาแนะนำอะไรงงๆ แบบนี้
ส่วนตัวผมใช้ไอโฟนต่อทั้งเครื่องบ้าน ทั้งอินเอียร์มาสามสี่ปีแล้ว สะดวกมากๆ สัญญาณรบกวนที่คุณว่าก็ไม่เคยมีมาให้ได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว ใช้สายสัญญาณดีๆแล้วต่อจากline outเนี่ย มันไม่ได้แย่อะไรเลย
นะครับ

@มโนโอเค >> ปกติบางทีผมก็ต่อหูฟังตรงกับโทรศัพท์ก็ใช้ฟังได้ดีครับ แต่เรื่องสัญญาณรบกวนที่คุณ veedemort บอกมีโอกาสเกิดได้จริงๆครับ บางทีถ้าเจอ Amp หรือสายสัญญาณที่ไวไวกับคลื่นหรือไม่มี shield ที่ดี ช่วงโทรศัพท์มีสายเข้าออกที่สัญญาณมันแรง มันมีเสียงตึ๊ดๆกวนเข้ามาได้ครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดตลอดเวลาหรือเกิดทุกรณีครับ บางคนก็ไม่มีปัญหานี้ครับ

เรื่องหูฟัง เรื่องแอมป์ หรือเครื่องเสียงจริงๆ มันไม่มีกฏอะไรตายตัวหรอกครับ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน และของแพงก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าของถูกๆเสมอไป ตัวหูฟังเองแต่ละรุ่นก็มีแนวเสียงของมัน แอมป์ก็เหมือนกัน ทีนี้มีเงินจะซื้อทีเดียวไม่มีประเด็นหรอกครับมันก็สะดวกดีได้ครบๆไปเลยทีเดียว แล้วสารภาพตรงๆว่าผมก็พวกชอบซื้ออะไรซื้อทีเดียวเหมือนกันนี่แหละ พอเลิกเล่นก็เลิกทั้งชุด พอจะเล่นก็หาใหม่ทั้งชุด ทีนี้ผมเล่นมานานสิ่งที่ผมเจอคือ พอซื้อหลายๆชิ้นมาพร้อมกัน ทั้งที่ลองฟังก่อนแล้วชอบจึงซื้อมา แต่ปรากฏว่าของทีมีบางชิ้น พอไปรวมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นกลับให้เสียงออกมาดีกว่า ทีนี้พาลอยากเปลี่ยนก็ต้องขายแล้วหาซื้อใหม่บางชิ้น แต่ผมพวกชอบเล่นชอบลองไปเรื่อยก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ แต่ที่พยามแนะนำให้ค่อยๆดูทีละชิ้น แล้วค่อยลองค่อยหาชิ้นต่อไปที่ match กัน เพราะไม่อยากให้ต้องเปลี่ยนหลายหนนี่หละครับ ยิ่งได้ลองมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสได้รู้แนวของชุดนั้นๆจะได้เลือกที่ถูกใจที่สุดที่ได้ง่ายขึ้น .. บางทีลองไปลองมา สุดท้ายอาจจะชอบหูซักตัวที่ต่อตรงแล้วโอเคจบก็ได้เหมือนกันครับ ^_^

ขอบคุณทุกคำแนะนำไม่ว่าจะเป็น คุณ DukeMSN คุณveedemort คุณมโนโอเค คุณellevoid คุณthemiumhhh และเพื่อนๆ ที่ติดตามกระทู้ครับ
ตกลงเจ้า HE 500 มีเอกลักษณ์อย่างไรกัน จะได้ตั้งงบตัวขับให้เค้นความเป็นตัวตนของ เจ้าตัวนี้ให้ออกมาได้อย่างสุดๆ

ขอบคุณครับ

ถเาสะดวกใช้งานจาก iphone มีทางออกอยู่ครับ ให้ซื้อ Dock transprt ของ Arcam รุ่น rdock Uni ครับ ซึ่งจะมี build in PCM Dac chip ในตัว และมี output ทั้ง digital และ analog ครับ ซึ่งคุณภาพเสียงที่ได้ก็เสมือนฟังจากคอมผ่าน DAC ในตัวของ rdock Uni เลยครับ ราคา 9900 บาทครับ

ส่วนที่เหลือก็จัด Hifiman HE500 ซึ่งตอนนี้รอรุ่นใหม่ HE560 อยู่ครับ ราคาน่าจะ สองหมื่นกลางๆ

แอมป์ถ้าเป็นหลอดก็เเนะนำ Woo Wa6 ให้เสียงที่เข้ากันอย่างเป็นที่สุดครับ เสียงร้องอิ่มหนา และหวานมากๆครับ ยิ่งฟังเพลงพวกเสียงร้องหญิงนี่เข้ากันสุดๆครับ รวมไปถึงฟิลลิ่งที่ออกแนวหลอด แหลมพริ้วๆ เบสนุ่มนวลชวนเคลิ้ม

ส่วน Solid ถ้าไปถึง Burson Solist ได้จะดีมากครับ โทนเสียงออกไปทาง Warm คล้ายๆ Woo เเต่เป็นในแบบ Solid ครับ ให้เนื้อเสียงที่แน่นแบบแอมป์ Solid เเท้ๆ ให้เสียงร้องที่นุ่มนวลและฮาร์มีโมนิกดีมากๆ ให้ความเป็นสามมิติสูง รวมไปถึงเบสที่ทุ้มเเละลงได้ลึกมากๆครับ

ทั้งสองรุ่นนี้เหมาะกับเพลงเเนว Jazz Vocla Audiophile pop หรือเพลงอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ร็อคหนักๆครับ ตอนนี้มีให้ลองแบบครบๆที่สาขาเรือธงได้เลยครับ

จ๊ากๆๆ ลอดสายตาผมครับกระทู้นี้ ต้องขออภัยคุณ watchaponga ด้วยจ้าๆๆๆ

ตัวเลือกที่กำลังจะออกเร็วๆนี้ก็คือตัวที่เจ้าหลุยส์ว่าครับ นั่นก็คือตัว 560 น่าจะเป็นไฮไลต์สำหรับปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหูฟังระบบ Planar ที่ราคาไม่แรง แถมยังขึ้นไปชกกับ Planar ตัวบนๆได้ไม่ขัดเขิน

ส่วนพวกแอมป์นั้นมาฟังอีกทีว่าอยากจะเล่นฝั่ง Solid หรือหลอด ที่ผมมีให้ลองทั้งคู่ ตัวเลือก็ตามที่หลุยส์บอกเลยครับ 555

ขออนุญาตกูรูคุณหลุยส์และเฮียด้วยครับ ขอข้อมูลเพ่ิมอีกนิดครับ ถ้าจะเอาตัว SCHIIT VALHALLA AMP vs Woo Wa6 และ SCHIIT ASGARD 2 vs Burson Solist กับ HE500 (HE560 รอทดสอบใช่เปล่าครับ)ลึกๆ ชอบ SCHIIT (ด้วยค่าตัวและการันตีจากหลายสำนัก)

ขอบคุณคำแนะนำจากกูรูและเจ้าสำนักมั่นคงมากครับ

แนะนำ Arcam irDAC มาเสียบกะ iPhone ครับ
ไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็เอา Computer มาเสียบแทน iPhone ได้

http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=123362

Arcam irDAC + Burson Soloist SL ก็น่าจะขับหูฟังได้หลายๆตัวแล้วครับ

ARCAM irDAC ค่าตัวอยู่ที่ 15,900 บาท
BURSON SOLOIST SL ค่าตัวอยู่ที่ 22,900 บาท

อย่าลืมสาย Nordost Blue Heaven RCA + Shunyata Venom (AC) ด้วยครับ

ตามทัศนะของ Guruคุณหลุยส์ GuruคุณTMY168 เจ้า HE500 match กับ Burson Soloist แนวเพลงที่เค้นพลังออกมาได้จับใจก็จะเป็นแนว Jazz Vocla Audiophile pop หากจะเปรียบกับ SCHIIT ASGARD 2 (เข้าใจว่าตอบสนองแบบกว้าง แต่ไม่ทราบว่าเด่นแค่ไหน)ซึ่งผม กับอีกหลายๆ คนในบ้านที่ฟังเพลงไม่ซ้ำแนวกันเลย ว่ากันไปแล้วเกือบทุกแนว (ซื้อแล้วไม่มีใครบ่น หรือยึด ATM ไว้น่ะครับ 555) เจ้า SCHITT หรือตัวอื่นที่ราคาค่าตัวไม่ต่างกับ Burson Soloist มากนักหรือน้อยกว่าก็จะมีตังค์ไว้หยอดข้าวต้มบ้างหากเจ็บตัว ว่าไปนั่นเลยครับท่าน
ขอคำแนะนำการเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ทราบเขาทำกันหรือเปล่าคือ เสียงจาก Source ถือเป็น pure sound ผ่าน headphone amp (Burson/schitt) จะได้เนื้อเจือ Color/Source มากน้อยต่างกันอย่างไร


ขอบคุณทุกคำแนะนำจากกูรูและเจ้าสำนักมั่นคงมากครับ

ใช้ iPhone รุ่นไหนอยู่ครับ ผมเดาว่า IP5 ไม่ก็ 5S นะ

การที่จะรีด sound quality ให้ออกมาสูงสุดจาก iPhone iPod iPad คือต้องต่อแบบดึงเอาสัญญาน digital ออกมาจาก iDevices และมา decode โดย External DAC ครับ

ถ้ายังใช้สาย 3.5 มม ต่อจาก ช่องหูฟัง หรือ analog line out ก็ยังใช้ DAC ใน iDevices อยู่ เสียงที่ได้ยังห่างจากใช้ Arcam irDac ต่ออีกเยอะมาก

ที่แนะนำ Arcam irDAC เพราะผมว่ามันเป็น DAC ที่คุ้มค่า เสียงดีมาก ในระดับราคานี้ และรองรับการเติบโตเผื่อจะหันมาฟังเพลงจาก Computer As Source ในวันข้างหน้าครับ

ส่วนหูฟัง จะเป็นตัวไหน ต้องไปลองฟังดูครับ เลือกหูฟังก่อน ชิ้นอื่นๆค่อยตามมาครับ

แต่ท่าทางงบ 5 หมื่นนี่จะไม่พอแล้วครับ 555

ปล. ตอนนี้ผมใช้ Burson Soloist กับ AKG K702 65th Anniversary ผมเลือกหูฟังก่อนที่จะหา amp ครับ

ขอบคุณคำแนะนำจาก คุณTMY168
อีกนิดครับ Woo Wa6 vs Burson Solist ตัวไหน color มากกว่ากันครับ

ขอขอบคุณทุกคำแนะนำครับ

เคยใช้แต่ WA22 หลอดที่มากะเครื่อง ผมว่ามันไม่ค่อยมี color เท่าไหร่ รอคุณท่านอื่นมาตอบ

Soloist ก็มี color พอสมควร ผมว่ามากกว่า WA22 นิด

ขอบคุณคำแนะนำจาก คุณTMY168 ครับ
ไหนๆ คุณTMY168 ใจดีให้คำแนะนำแล้ว ก็ขออีกหน่อยนะครับ เพื่อเป็นแนวทางให้นักฟังรุ่นน้องถ้าอยากร็อคบ้าง ระหว่าง Woo กับ Burson ตัวไหนสะใจกว่ากันครับ

ขอขอบคุณทุกคำแนะนำครับ

ผมว่าในกรณีแอมป์ แนวเสียง สำคัญกว่า แนวเพลง คับ

เสียงของแอมป์หลอดจะมีความเฉพาะทางมากกว่าคับ

อีกนิดครับ SOLOIST SL vs SOLOIST พลังและเสียง ต่างกันมากไหมครับ

ขอขอบคุณทุกคำแนะนำครับ