มีผลแค่ 10-20% ครับ มันอยู่ที่การแมชชิ่งด้วยครับ ว่าเพลเยอร์กับแอมป์ให้เสียงไปทางไหนแล้วเราอยากได้อะไรเพิ่มอีก(นิดนึง)ซึ่งตัวนำของสายเป็นตัวกำหนดโทนเสียงที่จะเพิ่มขึ้นมา ราคาสายไม่จำเป็นต้องแพงมากก็ได้ครับ สายถูกกับสายแพงให้รายละเอียดของเสียงห่างกันไม่มากเท่าไหร่ (หรือไม่ก็ผมฟังไม่ออกเอง) อยู่ที่ว่าเราพอใจที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อส่วนที่อยากได้อีกนิดนั่นรึเปล่า

อีกเรื่องคับจริงหรือป่่าวไม่รู้นะ เห็นบออกว่าถ้าใช้หัวไหนต่อเข้าเเอมป์เเล้วอย่าไปเปลี่ยนเอาอีกด้านมาใส่เพราะมันจะ เหมือนย้อนสร ของลายเอ้า เข้าเเอมป์ จะทำให้เสียงดรอปลงอีก
ฉะนั้นใช่ด้านใดด้านหนึ่งไปเลย จริงเท็จประการใด ครับ?

สายนำสัญญาณมีผลต่อระบบอยู่แล้วครับ แต่ทั้งนี้ให้จัดการกับอุปกรณ์หลักให้อยู่หมัดในระดับหนึ่งก่อน คือเพลย์เยอร์ แอมป์ขยาย หูฟัง ควรลงตัวก่อน แล้วเราก็มาคัดท้ายซิสเต็มด้วยสายไฟ สายสัญญาณ ซึ่งสายสัญญาณคุณภาพดีๆนั้น ให้คุณภาพเสียงต่างจากสายแถมทั่วไปมากพอสมควรครับ แต่ต้องขึ้นกับความคุ้นเคยในซิสเต็มนั้นๆด้วยครับ

ถ้าฟังทุกวันมานานๆ แล้วเปลี่ยนสายที่คุณภาพสูงกว่าเข้าไป อันนี้ชัดเจนมากครับ ^^

ถ้าหูฟังดีๆหน่อยละก็ชัดเจนครับ เหมือนเฮียว่าครับฟังอยู่ทุกวันแล้วเปลี่ยนยังไงก็ฟังออกครับ

ตอบความเห็น 2

สายได้มาใหม่ ถ้าไม่มีการบอกทิศทาง ให้ฟังเช็คก่อนเลยครับ ว่าด้านไหนเป็นต้นทางแล้วดีกว่า แล้วก็ใช้อย่างนั้นไปเลย ไม่่ควรย้อนทิศ เพราะเมื่อใช้ไปนานๆ กระแสไหลผ่าน หากกลับทิศ น่าจะฟังออกว่าเสียงดรอปลงอย่างที่คุณถาม

ที่ว่าฟังแล้วดีกว่า คือฟังในภาพรวมนะครับ ด้านที่ให้เสียงได้สมดุลย์กว่า แยกแยะชิ้นดนตรีได้ดีกว่า ความเป็นวงที่ดีกว่า ประสพการณ์ส่วนตัว มักจะเป็นด้านที่ให้ความเป็นตัวตนได้ชัดเจนกว่า

ไม่ได้บอกว่าด้านแหลมกว่าคือด้านที่ถูกนะครับ อ่านดีๆ เพียงแต่บางครั้ง มันจะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่เสมอไป คือไม่ใช่จับแค่น้ำเสียงว่าทุ้มมากกว่า แหลมมากกว่าเพียงประเด็นเดียว

ส่วนถ้าฟังไม่ออกก็ยิ่งไม่ต้องซีเรียสครับ ดีเสียอีก ไม่ต้องมาพะวง