Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
Flac VS WAV
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
looktan99
14/01/2014 15:28:20
0
ระหว่าง Flac กับ WAV ไฟล์ไหนเสียงดีกว่า แล้วถ้าผมนำไฟล์ Flac มาแปลงเป็น WAV เสียงจะเป็นยังไง 1411Kbps
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
themiumhhh
14/01/2014 15:42:16
1
-หูผมแยก flac กับ wave ไม่ออกครับ
-จะได้ไฟล์ขนาดใหญ่ขึ้นแต่คุณภาพเท่าเดิมครับ
-หูผมแยก flac กับ wave ไม่ออกครับ
-จะได้ไฟล์ขนาดใหญ่ขึ้นแต่คุณภาพเท่าเดิมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
หมูหวาน
14/01/2014 16:03:42
573
ถ้าฟังกับชุดใหญ่ๆที่แยกรายละเอียดได้ดี จะฟังออกว่า WAV เสียงดีกว่า FLAC ครับ
การแปลงกลับจาก FLAC ไปเป็น WAV ผมว่ามันอาจจะไม่ได้กลับมา 100% นะครับ ถึงตามทฤษฎีจะเป๊ะก็ตาม ผมว่ามันมีพลังงานบางอย่างที่อธิบายไม่ได้หายไปอ่ะ 555
ถ้าฟังกับชุดใหญ่ๆที่แยกรายละเอียดได้ดี จะฟังออกว่า WAV เสียงดีกว่า FLAC ครับ
การแปลงกลับจาก FLAC ไปเป็น WAV ผมว่ามันอาจจะไม่ได้กลับมา 100% นะครับ ถึงตามทฤษฎีจะเป๊ะก็ตาม ผมว่ามันมีพลังงานบางอย่างที่อธิบายไม่ได้หายไปอ่ะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
FeaKun Monster
14/01/2014 16:26:00
6
wavดีกว่าตรงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อยจริงๆ เเต่นำflacมาแปลงเป็นค่าเท่าเดิม
wavดีกว่าตรงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อยจริงๆ เเต่นำflacมาแปลงเป็นค่าเท่าเดิม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
sanpasilp
14/01/2014 16:45:11
5
เห็นด้วยกับคุณหมูหวานครับ ถ้าชุดใหญ่ๆฟังออกครับ ผมเคยลองเอา mp3 320 k
เทียบแผ่น cd กับชุดใหญ่ แยกออกแบบชัดมากๆครับ
ปล.mp3 แปลงจาก cd เดียวกัน
เห็นด้วยกับคุณหมูหวานครับ ถ้าชุดใหญ่ๆฟังออกครับ ผมเคยลองเอา mp3 320 k
เทียบแผ่น cd กับชุดใหญ่ แยกออกแบบชัดมากๆครับ
ปล.mp3 แปลงจาก cd เดียวกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
joonepiece
14/01/2014 16:59:48
0
ฟังออกครับ
mp3 320kb
m4a ของจาก itune
wav
ฟังชุดธรรมดาก็ฟังออกแล้วครับ
แต่ flac นี้ไม่เคยลอง เพราะ ipod มันอ่านไม่ได้นิ
ส่วนเรื่องแปลง ลองคิดง่ายๆว่า
เพลงเป็นของแข็งก้อนสี่เหลี่ยม
.wav เป็นกล่องไว้ใส่ก้อนสี่เหลี่ยม ขนาด 1x1x1
แล้ว .flac ก็เป็นกล่องทรงสี่เหลี่ยม ขนาด 0.5x0.5x0.5
ทุกๆเพลงจะต้องมาในกล่อง .wav ครับ (เป็นธรรมดา)
พอเราแปลงลง .flac ก็เหมือนเราพยายามยัดก้อนเพลงเราลงกล่องเล็กๆ
ไอที่เกินๆเราก็ขัดๆให้มันหายไป(รายละเอียด)
พอเราจะแปลงกลับเป็น .wav มันก็ทำได้ง่ายๆครับ ก็หยิบมาใส่กล่อง .wav เลย
แต่เนื้อหามันก็ขนาดเล็กลงเรียบร้อย
ฟังออกครับ
mp3 320kb
m4a ของจาก itune
wav
ฟังชุดธรรมดาก็ฟังออกแล้วครับ
แต่ flac นี้ไม่เคยลอง เพราะ ipod มันอ่านไม่ได้นิ
ส่วนเรื่องแปลง ลองคิดง่ายๆว่า
เพลงเป็นของแข็งก้อนสี่เหลี่ยม
.wav เป็นกล่องไว้ใส่ก้อนสี่เหลี่ยม ขนาด 1x1x1
แล้ว .flac ก็เป็นกล่องทรงสี่เหลี่ยม ขนาด 0.5x0.5x0.5
ทุกๆเพลงจะต้องมาในกล่อง .wav ครับ (เป็นธรรมดา)
พอเราแปลงลง .flac ก็เหมือนเราพยายามยัดก้อนเพลงเราลงกล่องเล็กๆ
ไอที่เกินๆเราก็ขัดๆให้มันหายไป(รายละเอียด)
พอเราจะแปลงกลับเป็น .wav มันก็ทำได้ง่ายๆครับ ก็หยิบมาใส่กล่อง .wav เลย
แต่เนื้อหามันก็ขนาดเล็กลงเรียบร้อย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
Tanan
14/01/2014 17:00:00
0
WAV ครับ ชัดกว่าพอควร
แต่ผมไม่แน่ใจว่า FLAC ที่ใช้กี่ kbps
ของผมมัน WAV 1411kbps แต่ flac อยู่ราวๆ 553kbps
WAV ครับ ชัดกว่าพอควร
แต่ผมไม่แน่ใจว่า FLAC ที่ใช้กี่ kbps
ของผมมัน WAV 1411kbps แต่ flac อยู่ราวๆ 553kbps
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
PrTv
14/01/2014 17:36:40
13
มันต้องเหมือนเดิมสิครับ format มัน lossless ขยายกลับลองเอา binary มาเทียบกันดูยังเหมือนกันทุก bit ไม่มีทางเลยที่เสียงจะต่างกัน ทดสอบดูเองก็ได้ครับ เอา wave file มา แล้วแปลงเป็น flac แล้วแปลงกลับ ทำซ้ำๆ ซัก 20 ครั้ง แล้วดู binary จะพบว่า file ที่แปลง 20 ที เหมือนทุกบิท เมื่อเทียบกับ master
ถ้ามีความต่างจริงๆ (แบบไม่ได้คิดไปเอง) น่าจะไม่เกี่ยวกับ source แต่อาจจะเกี่ยวกับโปรแกรมตอนเล่นกลับ มันไปทำอะไรกับ flac หรือเปล่า
อันนี้ต่างกับ mp3 อันนั้นมัน lossy เสียคุณภาพไปอยู่แล้ว
มันต้องเหมือนเดิมสิครับ format มัน lossless ขยายกลับลองเอา binary มาเทียบกันดูยังเหมือนกันทุก bit ไม่มีทางเลยที่เสียงจะต่างกัน ทดสอบดูเองก็ได้ครับ เอา wave file มา แล้วแปลงเป็น flac แล้วแปลงกลับ ทำซ้ำๆ ซัก 20 ครั้ง แล้วดู binary จะพบว่า file ที่แปลง 20 ที เหมือนทุกบิท เมื่อเทียบกับ master
ถ้ามีความต่างจริงๆ (แบบไม่ได้คิดไปเอง) น่าจะไม่เกี่ยวกับ source แต่อาจจะเกี่ยวกับโปรแกรมตอนเล่นกลับ มันไปทำอะไรกับ flac หรือเปล่า
อันนี้ต่างกับ mp3 อันนั้นมัน lossy เสียคุณภาพไปอยู่แล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
FeaKun Monster
14/01/2014 18:40:26
6
คห6 flacมีหลายขนาดครับผม flacที่ผมมีripเอง ตอนripผมเลือกmaxหมด มันจะเป็นประมาณ1000-1200 แต่ถ้าเลือกไม่max ก็จะลดลงมาเรื่อยๆ
คห6 flacมีหลายขนาดครับผม flacที่ผมมีripเอง ตอนripผมเลือกmaxหมด มันจะเป็นประมาณ1000-1200 แต่ถ้าเลือกไม่max ก็จะลดลงมาเรื่อยๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9
joonepiece
14/01/2014 18:44:12
0
คห7
พูดได้ถูกต้องครับ
ผมผิดเอง
คห7
พูดได้ถูกต้องครับ
ผมผิดเอง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10
Bom_baysinton
14/01/2014 19:52:10
9
ขอสารภาพว่าแยกไม่ออกครับถ้าระดับมากกว่า 1000Kbps
..แต่เสียง ดีพอกันทั้งคู่แหละ
ขอสารภาพว่าแยกไม่ออกครับถ้าระดับมากกว่า 1000Kbps
..แต่เสียง ดีพอกันทั้งคู่แหละ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
veedemort
14/01/2014 20:25:21
58
ถ้าฟังเทียบกัน wav เสียงดีกว่าคับ
แต่ถ้าไม่ได้ฟังเทียบกันก็แยกออกได้ยาก
ผมว่า wav มันมีความเป็นธรรมชาติ, ให้ความรู้สึกแบบ analog และมีรายละเอียดที่ปลายๆ เสียง มากกว่า flac
ถ้าฟังเทียบกัน wav เสียงดีกว่าคับ
แต่ถ้าไม่ได้ฟังเทียบกันก็แยกออกได้ยาก
ผมว่า wav มันมีความเป็นธรรมชาติ, ให้ความรู้สึกแบบ analog และมีรายละเอียดที่ปลายๆ เสียง มากกว่า flac
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12
หมูหวาน
15/01/2014 02:03:16
573
อันนี้ภาพจาก User ใน Head-fi เค้า Rip CD เป็น FLAC แล้ว Convert กลับเป็น WAV ครับ
ด้านบนเป็น FLAC ส่วนด้านล่างเป็น WAV
อันนี้ภาพจาก User ใน Head-fi เค้า Rip CD เป็น FLAC แล้ว Convert กลับเป็น WAV ครับ
ด้านบนเป็น FLAC ส่วนด้านล่างเป็น WAV
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13
0ydiryoTN
15/01/2014 09:23:34
ขอบคุณมากๆครับ
ผมคิดอยู่เหมือนกันว่าแปลงจาก Flac > WAV มันก็จะได้ความละเอียดเท่าเดิม
เหมือนตอนที่เป็น Flac ก็เพลงที่โหลดมามันมาเป็น Flac แต่ไอ้โทรศัพท์ผมสิ มันดันเล่น Flac
ไม่ได้ แต่ดันเล่นไฟล์ WAV ได้ ก็เลยต้องแปลงสักหน่อย เพลงของเฮียมั่นที่เป็น 24/96 ก็ดันเล่นได้
ขอบคุณมากๆครับ
ผมคิดอยู่เหมือนกันว่าแปลงจาก Flac > WAV มันก็จะได้ความละเอียดเท่าเดิม
เหมือนตอนที่เป็น Flac ก็เพลงที่โหลดมามันมาเป็น Flac แต่ไอ้โทรศัพท์ผมสิ มันดันเล่น Flac
ไม่ได้ แต่ดันเล่นไฟล์ WAV ได้ ก็เลยต้องแปลงสักหน่อย เพลงของเฮียมั่นที่เป็น 24/96 ก็ดันเล่นได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14
crossrd
15/01/2014 11:05:26
0
ผมเล่น WAV เพื่อความสะบายใจเท่านั้นเองครับ ถึงมันจะไม่ต่างก็เถอะ แล้วเดี๋ยวนี้ memory มันก็ไม่ได้แพงอะไรมาก
ผมเล่น WAV เพื่อความสะบายใจเท่านั้นเองครับ ถึงมันจะไม่ต่างก็เถอะ แล้วเดี๋ยวนี้ memory มันก็ไม่ได้แพงอะไรมาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15
นายมั่นคง
15/01/2014 11:17:56
4,294
จริงๆ มันควรเท่ากัน แต่ว่า Flac นั้นเหมือนห้องๆหนึ่งที่ขนาดเล็ก แต่มีเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องครบทุกชิ้นยัดอยู่ในห้องนั้น ส่วน Wav นั้นมีเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องครบๆทุกชิ้นเหมือนกัน แต่ห้องใหญ่กว่า 555
เลยอาจจะทำให้อึดอัดน้อยกว่า เพราะความที่ห้องใหญ่กว่าล่ะครับ 555
จริงๆ มันควรเท่ากัน แต่ว่า Flac นั้นเหมือนห้องๆหนึ่งที่ขนาดเล็ก แต่มีเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องครบทุกชิ้นยัดอยู่ในห้องนั้น ส่วน Wav นั้นมีเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องครบๆทุกชิ้นเหมือนกัน แต่ห้องใหญ่กว่า 555
เลยอาจจะทำให้อึดอัดน้อยกว่า เพราะความที่ห้องใหญ่กว่าล่ะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16
vayo
15/01/2014 12:48:10
0
สังเกต ไอโฟนผมเปิดไฟล์แต่ละประเภทที่ Volumn เดียวกัน ให้ความดังไม่เท่ากัน
เปิด .mp3 จะดังกว่า พอเปิด .Flac, .Wave ต้องเร่ง Volumn เพิ่มขึ้นมากน้อย ฟังแล้วมันม่นๆอับๆ ไม่ใสเท่า mp3 อันนี้เกี่ยวกับกำลังขับของ player ด้วยหรือเปล่าครับ
สังเกต ไอโฟนผมเปิดไฟล์แต่ละประเภทที่ Volumn เดียวกัน ให้ความดังไม่เท่ากัน
เปิด .mp3 จะดังกว่า พอเปิด .Flac, .Wave ต้องเร่ง Volumn เพิ่มขึ้นมากน้อย ฟังแล้วมันม่นๆอับๆ ไม่ใสเท่า mp3 อันนี้เกี่ยวกับกำลังขับของ player ด้วยหรือเปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
Bom_baysinton
15/01/2014 13:11:26
9
@เฮีย..อั๊ยย่ะ! มันกว้างขึ้นด้วยหรอเนี่ย!
@เฮีย..อั๊ยย่ะ! มันกว้างขึ้นด้วยหรอเนี่ย!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18
[email protected]
15/01/2014 13:43:22
2
ความเห็นของเฮีย ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนเลยครับ
ตามความเห็นของผม ผมว่า Wave ให้รายละเอียดของเสียงได้ดีกว่า Flac นิดหน่อยครับ
แต่ผมกับชอบฟัง Flac มากกว่า เพราะมันให้เสียงที่กระชับกว่า เป็นความชอบส่วนตัวครับ
ความเห็นของเฮีย ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนเลยครับ
ตามความเห็นของผม ผมว่า Wave ให้รายละเอียดของเสียงได้ดีกว่า Flac นิดหน่อยครับ
แต่ผมกับชอบฟัง Flac มากกว่า เพราะมันให้เสียงที่กระชับกว่า เป็นความชอบส่วนตัวครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19
Tanan
15/01/2014 14:32:15
0
ผมยังไม่เคยลอง แปลง wav เป็น flac เลยเพราะด้วยเมื่อก่อนมันเล่นบน mobile ไม่ได้
พอ mobile เล่นได้ก็ขี้เกียจแปลงผมเลยมี flac กับ wav ที่ขนาดต่างกันอยู่เลยตอบไม่ได้
ผมยังไม่เคยลอง แปลง wav เป็น flac เลยเพราะด้วยเมื่อก่อนมันเล่นบน mobile ไม่ได้
พอ mobile เล่นได้ก็ขี้เกียจแปลงผมเลยมี flac กับ wav ที่ขนาดต่างกันอยู่เลยตอบไม่ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20
caprice
15/01/2014 17:46:27
5
@Vayo ไฟล์ wav ทำให้ soundstage กว้างขึ้น เครื่องดนตรีมีระยะห่างจากกันมากขึ้น นักร้องเหมือนจะห่างขึ้น เสียงย่านต่ำออกมามากขึ้น เลยทำให้เสียงฟังผ่านๆเหมือนหม่น อับกว่า mp3 แต่ลองฟังดีๆจะพบว่า มิติด้านกว้าง ลึก ดีกว่า รายละเอียดออกมาเยอะกว่า น้ำหนักของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นดังไม่เท่ากัน ทำให้ต้องเร่งเสียงดังๆถึงจะได้ยินทุกชิ้น ไม่เหมือนกับ mp3 ที่เครื่องดนตรีทุกชั้นกับนั้กร้อง เสียงเท่ากันหมด เลยฟังดูเหมือนว่า เปิดกว่า ดังกว่า
สรุป wav ธรรมชาติกว่า ลื่นกว่ากันเยอะครับ
@Vayo ไฟล์ wav ทำให้ soundstage กว้างขึ้น เครื่องดนตรีมีระยะห่างจากกันมากขึ้น นักร้องเหมือนจะห่างขึ้น เสียงย่านต่ำออกมามากขึ้น เลยทำให้เสียงฟังผ่านๆเหมือนหม่น อับกว่า mp3 แต่ลองฟังดีๆจะพบว่า มิติด้านกว้าง ลึก ดีกว่า รายละเอียดออกมาเยอะกว่า น้ำหนักของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นดังไม่เท่ากัน ทำให้ต้องเร่งเสียงดังๆถึงจะได้ยินทุกชิ้น ไม่เหมือนกับ mp3 ที่เครื่องดนตรีทุกชั้นกับนั้กร้อง เสียงเท่ากันหมด เลยฟังดูเหมือนว่า เปิดกว่า ดังกว่า
สรุป wav ธรรมชาติกว่า ลื่นกว่ากันเยอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21
caprice
15/01/2014 17:49:10
5
ส่วน Flac กับ Wav แยกไม่ออกครับ บางอันที่ฟังออกก็ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างwav มั๊ยอยู่ดี
ส่วน Flac กับ Wav แยกไม่ออกครับ บางอันที่ฟังออกก็ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างwav มั๊ยอยู่ดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22
vayo
15/01/2014 18:37:51
0
คุณ caprice สงสัยจะเป็นตามที่บอก พอได้จับกับแอมป์ ต่างกับ mp3 เยอะเลยมีมิติ เบสลงได้ลึกกว่ามากขึ้น
คุณ caprice สงสัยจะเป็นตามที่บอก พอได้จับกับแอมป์ ต่างกับ mp3 เยอะเลยมีมิติ เบสลงได้ลึกกว่ามากขึ้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23
poporing007
16/01/2014 00:21:53
0
ตามปกติ flac กับ wav เหมือนกันครับ
แต่จากการทดลอง ก็รู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจนว่า wav ดีกว่า ได้แบบไม่ยากนัก
ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะมาจากระบบการอ่านไฟล์ดิจิตอลของเครื่องเล่นนั้นๆ
คือ wav เป็น format แบบเบสิกที่ทุกๆอย่างอ่านได้เป็นมาตรฐานจึงได้เสียงที่ดีกว่า
Flac อาจจะต้องมีการถอดรหัสสัญญาณเพิ่มขึ้นอีกขั้น ทำให้รู้สึกว่าเสียงดรอปกว่าเล็กน้อย
ตามปกติ flac กับ wav เหมือนกันครับ
แต่จากการทดลอง ก็รู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจนว่า wav ดีกว่า ได้แบบไม่ยากนัก
ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะมาจากระบบการอ่านไฟล์ดิจิตอลของเครื่องเล่นนั้นๆ
คือ wav เป็น format แบบเบสิกที่ทุกๆอย่างอ่านได้เป็นมาตรฐานจึงได้เสียงที่ดีกว่า
Flac อาจจะต้องมีการถอดรหัสสัญญาณเพิ่มขึ้นอีกขั้น ทำให้รู้สึกว่าเสียงดรอปกว่าเล็กน้อย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24
นายมั่นคง
16/01/2014 00:38:12
4,294
ผมลองเปรียบเปรยให้เข้าใจง่ายๆน่ะครับ 555 เล่าเพิ่มอีกหน่อยละกัน
สมมตุว่า มีโต๊ะตู้ เตียง โซฟา พัดลม ทีวี นาฬิกา วิทยุ กระโถน ฯลฯ จำนวน 10 ชิ้น
ไฟล์ Wav จะเป็นห้องที่ใหญ่สุด กว้างขวาง และวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด 10 ชิ้นเข้าไปลงตัว
ไฟล์ Flac จะเป็นห้องที่ขนาดเล็กลง แต่ก็ยังคงวางเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 10 ชิ้นนั้นได้ แต่เบียดๆหน่อย
ไฟล์ ขนาด 320kbps จะเป็นห้องที่เล็กลงมาจาก Flac และอาจจะมีเตียงนอนหายไป
พอเป็นไฟล์ 128kbps คราวนี้กระโถนหาย เตียงหาย โต๊ะก็หาย 555
555 ลองเปรียบแบบนี้ ถ้าผิดพลาดประการใดทักท้วงด้วยเน้อๆๆๆ
ผมลองเปรียบเปรยให้เข้าใจง่ายๆน่ะครับ 555 เล่าเพิ่มอีกหน่อยละกัน
สมมตุว่า มีโต๊ะตู้ เตียง โซฟา พัดลม ทีวี นาฬิกา วิทยุ กระโถน ฯลฯ จำนวน 10 ชิ้น
ไฟล์ Wav จะเป็นห้องที่ใหญ่สุด กว้างขวาง และวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด 10 ชิ้นเข้าไปลงตัว
ไฟล์ Flac จะเป็นห้องที่ขนาดเล็กลง แต่ก็ยังคงวางเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 10 ชิ้นนั้นได้ แต่เบียดๆหน่อย
ไฟล์ ขนาด 320kbps จะเป็นห้องที่เล็กลงมาจาก Flac และอาจจะมีเตียงนอนหายไป
พอเป็นไฟล์ 128kbps คราวนี้กระโถนหาย เตียงหาย โต๊ะก็หาย 555
555 ลองเปรียบแบบนี้ ถ้าผิดพลาดประการใดทักท้วงด้วยเน้อๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25
crossrd
17/01/2014 03:20:03
0
ที่เฮียอธิบายเข้าใจง่ายดีครับ แต่ตรงไฟล์ 320k น่าจะเปลี่ยนจากเตียงนอนหายไปเป็นโดนหั่นไปเพื่อจะยัดเข้าไปในห้องได้มากกว่า เพราะการที่เตียงหาย เปิดห้องเข้าไปมันใจหายเลยนะครับ ทุกคนคงจับสังเกตุได้แน่ แม้หูตะกั่วแค่ใหน
ที่เฮียอธิบายเข้าใจง่ายดีครับ แต่ตรงไฟล์ 320k น่าจะเปลี่ยนจากเตียงนอนหายไปเป็นโดนหั่นไปเพื่อจะยัดเข้าไปในห้องได้มากกว่า เพราะการที่เตียงหาย เปิดห้องเข้าไปมันใจหายเลยนะครับ ทุกคนคงจับสังเกตุได้แน่ แม้หูตะกั่วแค่ใหน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26
RockDragon
17/01/2014 09:45:08
2,893
flac กับ wav มันจะให้เสียงออกมาต่างกันหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ครับ
แต่ผมเล่น wav ตลอด
เพราะเวลาเล่น flac ทีไรก็ฟังไม่มีความสุขแบบรู้สึกอึดอัดในใจ
เหมือนกับรู้ว่าไฟล์ flac มันโดนบีบอัด (zip) อยู่นี่ครับ 555
ส่วนเตียงในห้องที่เฮียเปรียบเทียบมา
ผมว่าเตียงมันอยู่เท่าเดิม
แต่มันต่างกันที่ฟูกบนเตียงครับ
ฟูกฟองน้ำสปริง >> ฟูกนุ่น >> เสื่อฟาง >> เสื่อน้ำมัน 555
flac กับ wav มันจะให้เสียงออกมาต่างกันหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ครับ
แต่ผมเล่น wav ตลอด
เพราะเวลาเล่น flac ทีไรก็ฟังไม่มีความสุขแบบรู้สึกอึดอัดในใจ
เหมือนกับรู้ว่าไฟล์ flac มันโดนบีบอัด (zip) อยู่นี่ครับ 555
ส่วนเตียงในห้องที่เฮียเปรียบเทียบมา
ผมว่าเตียงมันอยู่เท่าเดิม
แต่มันต่างกันที่ฟูกบนเตียงครับ
ฟูกฟองน้ำสปริง >> ฟูกนุ่น >> เสื่อฟาง >> เสื่อน้ำมัน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27
สุมิตร ทับมี
17/01/2014 10:25:38
10
ผมสาวก ตระกูล I ใช่เป็น Aif ขนาดใหญ่กว่า Flac 2 เท่า หลังแปลงนะครับ แต่ผมก็ว่าฟังแล้วมันคล้ายๆกันนะครับ ที่ไม่ใช้ WAV เพราะทำรูปอัลบั้มไม่ได้ครับ
ผมสาวก ตระกูล I ใช่เป็น Aif ขนาดใหญ่กว่า Flac 2 เท่า หลังแปลงนะครับ แต่ผมก็ว่าฟังแล้วมันคล้ายๆกันนะครับ ที่ไม่ใช้ WAV เพราะทำรูปอัลบั้มไม่ได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28
pockethifi
17/01/2014 10:28:05
161
flac lossless แปลงกลับมาเป็น wav มันต้องเท่ากันครับ
เพราะการคำนวณ มันแค่ย้ายข้างสมการ ไม่ได้ตัด หรือ เพิ่มอะไรให้
แต่การฟัง flac กับ wav มันมีโอกาศได้เสียงไม่เหมือนกัน
เพราะ wav มันอ่านไฟล์แล้วส่งแต่ละ bit เข้าไปยังภาค dac ได้เลย
แต่ flac มันต้องเอามาถอดเป็น wav ก่อน แล้วค่อยส่งไป dac
ขั้นตอนการถอดนี่ใช้เวลา ใช้พลังประมวลผล แม้มันจะเร็ว แต่ delay แต่ละบิทมันก็มี
เครื่องคอมฯ แรงๆ ก็ delay น้อย เครื่องคอมเก่าๆก็ delay เยอะหน่อย
เราก็ต้องลุ้นว่า delay การแปลงมันจะน้อยจนฟังไม่ออก
แต่พวกหูนักเล่นดันฟังรู้ว่ามันต่าง มันไม่เหมือนกัน ก็เลยมีเรื่องให้คุยกัน
เพราะว่าถ้ามันdelay เท่ากันทุกบิท ก็ถือว่าไม่มี delay ได้
แต่ถ้า delay เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
บางบิท delay เยอะ บาง bit delay น้อย แบบนี้คืออาการมี jitter
ที่เขาเรียกว่าความเพี้ยนทางเวลา
ก็ต้องไปดูที่โปรแกรมเล่น flac อีกว่ามันออกแบบให้ฉลาดระดับไหน
ถ้าแปลงไปแล้วส่งข้อมูลไปเรื่อยๆ delay แต่ละบิทก็จะเยอะ
แต่ถ้าแปลงแล้ว buffer ไว้ก่อน สักหลายๆมิลลิวินาที หรือ เป็นวินาที
แล้วค่อยๆเรียงบิทข้อมูลออกมาให้เหมือน wav แบบนี้ก็จะฟังไม่ออกว่าต่าง
โปรแกรมเล่นเพลงแต่ละตัวเลยให้เสียงไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ อัลกอริทึ่มที่เขาออกแบบไว้
flac lossless แปลงกลับมาเป็น wav มันต้องเท่ากันครับ
เพราะการคำนวณ มันแค่ย้ายข้างสมการ ไม่ได้ตัด หรือ เพิ่มอะไรให้
แต่การฟัง flac กับ wav มันมีโอกาศได้เสียงไม่เหมือนกัน
เพราะ wav มันอ่านไฟล์แล้วส่งแต่ละ bit เข้าไปยังภาค dac ได้เลย
แต่ flac มันต้องเอามาถอดเป็น wav ก่อน แล้วค่อยส่งไป dac
ขั้นตอนการถอดนี่ใช้เวลา ใช้พลังประมวลผล แม้มันจะเร็ว แต่ delay แต่ละบิทมันก็มี
เครื่องคอมฯ แรงๆ ก็ delay น้อย เครื่องคอมเก่าๆก็ delay เยอะหน่อย
เราก็ต้องลุ้นว่า delay การแปลงมันจะน้อยจนฟังไม่ออก
แต่พวกหูนักเล่นดันฟังรู้ว่ามันต่าง มันไม่เหมือนกัน ก็เลยมีเรื่องให้คุยกัน
เพราะว่าถ้ามันdelay เท่ากันทุกบิท ก็ถือว่าไม่มี delay ได้
แต่ถ้า delay เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
บางบิท delay เยอะ บาง bit delay น้อย แบบนี้คืออาการมี jitter
ที่เขาเรียกว่าความเพี้ยนทางเวลา
ก็ต้องไปดูที่โปรแกรมเล่น flac อีกว่ามันออกแบบให้ฉลาดระดับไหน
ถ้าแปลงไปแล้วส่งข้อมูลไปเรื่อยๆ delay แต่ละบิทก็จะเยอะ
แต่ถ้าแปลงแล้ว buffer ไว้ก่อน สักหลายๆมิลลิวินาที หรือ เป็นวินาที
แล้วค่อยๆเรียงบิทข้อมูลออกมาให้เหมือน wav แบบนี้ก็จะฟังไม่ออกว่าต่าง
โปรแกรมเล่นเพลงแต่ละตัวเลยให้เสียงไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ อัลกอริทึ่มที่เขาออกแบบไว้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29
ICEPlosion
17/01/2014 13:40:15
0
เวลาโดนถามคำถามเกี่ยวกับ Audio File Format ผมจะอธิบายประมาณนี้ครับ ^^"
**บอกก่อนว่าข้อมูลด้านล่างนี้เกิดจากการแปลภาษาAudio เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ แล้วก็แปลงเป็นภาษาคนอีกรอบนะครับ 555
Lossless (WAV) -> ไฟล์ต้นฉบับ ขนาดใหญ่สุด
Lossless Compressed (FLAC, ALAC, etc..) -> เหมือนไฟล์ที่โดนจับยัด .Zip หรือ .Rar ขนาดไฟล์จะเล็กลงโดยที่ข้อมูลไม่สูญหาย แต่เวลาเปิดไฟล์ก็จะเหมือนเวลาเราเปิด .zip เช่นกันคือต้องมีการแปลงข้อมูลกลับก่อน
Lossy Compressed (MP3, AAC, OGG, etc) -> ตัดข้อมูลที่(เหมือนจะ)ไม่จำเป็นบางส่วนออก ทำให้ไฟล์ขนาดเล็กลงมาก แต่ข้อมูลที่ถูกตัดไปจะไม่สามารถถูกกู้คืนมาได้อีก
ตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพครับ....
สมมติว่าไฟล์ WAV ของเรามีข้อมูลคือ 12345678901234567890 เก็บข้อมูล 20 ตัวอักษร
เมื่อเรานำไฟล์มาแปลงเป็นแบบ Lossless Compressed ไฟล์จะถูกบีบอัดด้วยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางส่วน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถถูกคำนวนกลับมาได้เวลาเล่นเพลงครับ
เช่น.. จากไฟล์ WAV 12345678901234567890 อาจจะถูกตัดเหลือ
12_45_78_01_34_67_90 ข้อมูลเล็กลงไป 6 ตัวอักษร ซึ่งจะสังเกตได้ว่าข้อมูลที่หายไป จะมีสูตรที่ใช้คำนวนกลับได้ (ในที่นี้ก็คือ + 3 ไปเรื่อยๆ) แล้วแต่ Algorithm ที่แต่ละ Formatเลือกใช้
ตามทฤษฎี ไม่ว่าจะแปลงจาก WAV->FLAC FLAC->ALAC ALAC->WAV กี่รอบ ก็จะต้องได้ข้อมูลที่เหมือนกันเสมอครับ ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนหายไปแสดงว่าโปรแกรมที่ใช้แปลงไฟล์มีปัญหาแล้วครับ (เหมือนเวลาZipไฟล์ พอExtractออกมาก็จะได้ไฟล์ตัวเดิม ถ้าไม่เหมือนก็แสดงว่าZipเสีย)
ส่วน Lossy จะตัดข้อมูลทิ้งไปถาวรเลยครับ ทำให้ขนาดไฟล์ลดลงมากเพราะไม่ต้องเก็บข้อมูลพวกAlgorithmเอาไว้ ซึ่งการตัดข้อมูลจะถูกตัดทุกครั้งที่มีการแปลงไฟล์ ดังนั้นการแปลงไฟล์MP3เป็นMP3 จึงทำให้เสียงแย่ลงแม้ว่าจะเป็นBitrateเดียวกับก็ตาม
เท่าที่ผมเคยอ่านมา ไฟล์Lossyจะตัดย่านความถี่ที่มนุษย์ไม่ได้ยินทิ้งไป ดังนั้นในการแปลงจากWAVเป็นMP3ครั้งแรกอาจจะได้ไฟล์ที่ยังมีคุณภาพค่อนข้างดีอยู่ แต่ในการแปลงครั้งต่อๆไป การตัดข้อมูลจะเริ่มลามไปถึงบ่านความถี่อื่นๆด้วย
สมมติจากไฟล์WAVสมมติของเรา การแปลงครั้งแรกอาจจะตัดหัว-ท้ายของข้อมูลออกเป็น
_ _3456789012345678_ _
เมื่อแปลงอีกครั้ง ข้อมูลก็จะถูกตัดอีกเป็น
_ _ _ _567890123456_ _ _ _
อะไรประมาณนี้ครัชชช
ปล. ตัวอย่างที่ผมใช้นี่เพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพเฉยๆนะครับ ถ้าสนใจAlgorithmที่แต่ละFormatใช้จริงๆ Googleช่วยท่านได้ครับ ^^"
เวลาโดนถามคำถามเกี่ยวกับ Audio File Format ผมจะอธิบายประมาณนี้ครับ ^^"
**บอกก่อนว่าข้อมูลด้านล่างนี้เกิดจากการแปลภาษาAudio เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ แล้วก็แปลงเป็นภาษาคนอีกรอบนะครับ 555
Lossless (WAV) -> ไฟล์ต้นฉบับ ขนาดใหญ่สุด
Lossless Compressed (FLAC, ALAC, etc..) -> เหมือนไฟล์ที่โดนจับยัด .Zip หรือ .Rar ขนาดไฟล์จะเล็กลงโดยที่ข้อมูลไม่สูญหาย แต่เวลาเปิดไฟล์ก็จะเหมือนเวลาเราเปิด .zip เช่นกันคือต้องมีการแปลงข้อมูลกลับก่อน
Lossy Compressed (MP3, AAC, OGG, etc) -> ตัดข้อมูลที่(เหมือนจะ)ไม่จำเป็นบางส่วนออก ทำให้ไฟล์ขนาดเล็กลงมาก แต่ข้อมูลที่ถูกตัดไปจะไม่สามารถถูกกู้คืนมาได้อีก
ตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพครับ....
สมมติว่าไฟล์ WAV ของเรามีข้อมูลคือ 12345678901234567890 เก็บข้อมูล 20 ตัวอักษร
เมื่อเรานำไฟล์มาแปลงเป็นแบบ Lossless Compressed ไฟล์จะถูกบีบอัดด้วยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางส่วน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถถูกคำนวนกลับมาได้เวลาเล่นเพลงครับ
เช่น.. จากไฟล์ WAV 12345678901234567890 อาจจะถูกตัดเหลือ
12_45_78_01_34_67_90 ข้อมูลเล็กลงไป 6 ตัวอักษร ซึ่งจะสังเกตได้ว่าข้อมูลที่หายไป จะมีสูตรที่ใช้คำนวนกลับได้ (ในที่นี้ก็คือ + 3 ไปเรื่อยๆ) แล้วแต่ Algorithm ที่แต่ละ Formatเลือกใช้
ตามทฤษฎี ไม่ว่าจะแปลงจาก WAV->FLAC FLAC->ALAC ALAC->WAV กี่รอบ ก็จะต้องได้ข้อมูลที่เหมือนกันเสมอครับ ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนหายไปแสดงว่าโปรแกรมที่ใช้แปลงไฟล์มีปัญหาแล้วครับ (เหมือนเวลาZipไฟล์ พอExtractออกมาก็จะได้ไฟล์ตัวเดิม ถ้าไม่เหมือนก็แสดงว่าZipเสีย)
ส่วน Lossy จะตัดข้อมูลทิ้งไปถาวรเลยครับ ทำให้ขนาดไฟล์ลดลงมากเพราะไม่ต้องเก็บข้อมูลพวกAlgorithmเอาไว้ ซึ่งการตัดข้อมูลจะถูกตัดทุกครั้งที่มีการแปลงไฟล์ ดังนั้นการแปลงไฟล์MP3เป็นMP3 จึงทำให้เสียงแย่ลงแม้ว่าจะเป็นBitrateเดียวกับก็ตาม
เท่าที่ผมเคยอ่านมา ไฟล์Lossyจะตัดย่านความถี่ที่มนุษย์ไม่ได้ยินทิ้งไป ดังนั้นในการแปลงจากWAVเป็นMP3ครั้งแรกอาจจะได้ไฟล์ที่ยังมีคุณภาพค่อนข้างดีอยู่ แต่ในการแปลงครั้งต่อๆไป การตัดข้อมูลจะเริ่มลามไปถึงบ่านความถี่อื่นๆด้วย
สมมติจากไฟล์WAVสมมติของเรา การแปลงครั้งแรกอาจจะตัดหัว-ท้ายของข้อมูลออกเป็น
_ _3456789012345678_ _
เมื่อแปลงอีกครั้ง ข้อมูลก็จะถูกตัดอีกเป็น
_ _ _ _567890123456_ _ _ _
อะไรประมาณนี้ครัชชช
ปล. ตัวอย่างที่ผมใช้นี่เพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพเฉยๆนะครับ ถ้าสนใจAlgorithmที่แต่ละFormatใช้จริงๆ Googleช่วยท่านได้ครับ ^^"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30
Kov3r
20/01/2014 15:41:57
3
ฟังแล้วน่าคิดครับ ไว้ผมจะลองเอา FLAC 24 bit 192 khz ที่ซื้อไว้มาลองแปลงเป็น WAV แล้วฟังดูบ้างว่าจะต่างกันไหม
ฟังแล้วน่าคิดครับ ไว้ผมจะลองเอา FLAC 24 bit 192 khz ที่ซื้อไว้มาลองแปลงเป็น WAV แล้วฟังดูบ้างว่าจะต่างกันไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31
arctictong
24/01/2014 15:40:03
0
อื้มๆ เข้ามาเก็บความรู้ครับ คำพูดเฮียใน ความคิดเห็นที่ 15 พูดได้เคลียร์มากๆ ^^"
อื้มๆ เข้ามาเก็บความรู้ครับ คำพูดเฮียใน ความคิดเห็นที่ 15 พูดได้เคลียร์มากๆ ^^"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32
สมัครเล่น
24/01/2014 19:52:22
412
jitter นี่เอง ตัวการสำคัญ
jitter นี่เอง ตัวการสำคัญ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33
chene
28/01/2014 23:11:48
353
ผมจะขอ อธิบายง่ายง่ายครับ
E=MC2
E คือพลังงาน M คือ มวล C ค่าคงที่ ของความเร็วแสง
หากเราสลาย มวลจำนวนหนึ่ง จะได้พลังงานเท่ากับมวลจำนวนนั้น คูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง ซ่งก็คง หากนำจำนวนมวลเพียงเล็กน้อยมาสลายตัว เราก็จะสามารถสร้างพลังงาน จำนวนมหาสารนั้นเอง
เกี่ยวป่าววะเนี้ย
ผมจะขอ อธิบายง่ายง่ายครับ
E=MC2
E คือพลังงาน M คือ มวล C ค่าคงที่ ของความเร็วแสง
หากเราสลาย มวลจำนวนหนึ่ง จะได้พลังงานเท่ากับมวลจำนวนนั้น คูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง ซ่งก็คง หากนำจำนวนมวลเพียงเล็กน้อยมาสลายตัว เราก็จะสามารถสร้างพลังงาน จำนวนมหาสารนั้นเอง
เกี่ยวป่าววะเนี้ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ตอบกระทู้ :
"Flac VS WAV"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ