รุ่นที่วันนี้ผมได้มาครอบครองก็คือ Fidelio L1
ซึ่งเป็นรุ่นรอง top จาก X1 ซึ่งเป็น open ขนาด 50mm

ในขณะที่ตัวน้อง L1 มีขนาด driver 40mm พร้อมกับเป็น semi open

สัมผัสแรกที่เปิดกล่องมาคือ งานที่เนี๊ยบ เรียบหรู ดูมีราคา(มีราคาจริงๆนั่นเหละ)
ภายในกล่องพบกับ สายเชือกถัก 2 เส้น เส้นนึงเป็น control talk สำหรับ iDevice อีกเส้นไม่มี
ถุงผ้า ซึ่งไม่รู้ว่าผ้าอะไร น่าจะเป็นผ้ายืดเฉยๆ ไม่ชัวร์จริงๆ

ที่โดนใจที่จับครึ่งแรกคือ padหนัง โคตรนุ่ม
ผมเคยจับ Padหนัง ของ Sony MDR-1 ซึ่งผมว่านุ่มที่สุดที่เคยเจอ
เจ้า Philips นี่นุ่มน้อยกว่าหน่อยนึง
ไปดู รีวิว ฝรั่ง เขาบอกว่ามันคือ memory foam ไม่รุ้ว่าอะไรเหมือนกัน แต่การันตรีว่านุ่มโคตรๆ

สัมผัสเมื่อแปะลงบนหัว ต้องบอกว่า ไม่สบายมาก เพราะมีการบีบกดประมาณนึง แต่ถือว่าดีกว่า Ultrasone มากนัก
น้ำหนัก ยังไม่ถือว่าเบา แต่เมื่อมันไม่บีบโหดแบบ Ultrasone ก็พอถูไถไปได้ละนะ

ไม่รอช้า ผมรีบหยิบอุปกรณ์ฟังเพลงตัวโปรดไปลองที่ร้าน Mcกินมั้ง (ดันลืมบอกตอนแรกว่า ซื้อมือสองมาจากพี่ในบอร์ดท่านนึง)
อุปกรณ์ที่นำมาลองด้วยวันนี้คิอ
iPod VDO 5.5 ต่อ dock adapter ของ ibasso
m2m ที่ผมทำเอง ใช้สาย รุ้ง7สี(คาดว่าเป็นสายทองแดงชุบเงิน) ที่ได้รับอนุเคราะห์มาพี่ท่านนึงในบอร์ด หัวงอสีทอง nutrix
จบด้วย amp O2 black edition

เพลงที่ใช้เทสเพลงแรกเป็นเพลง
แม้ไม่มีเธออยู่ตรงนี้ - fair stin -------------> ซื้อจาก itune
มนต์รักยาเสน่ห์ - the richman toy rip -----> จาก CD เป็น wav
ยาพิษ - Bodyslam --------------------> เป็น lossless m4a
สนุกกับฝัน - overme --------------------> rip จาก CD เป็น wav
ฮู้ฮู - Potato -----------------------> ซื้อจาก itune
get the funk out - extreme --------> ซื้อจาก itune

สำหรับเพลงแรก แม้ไม่มีเธออยู่ตรงนี้
เสียงกีตาร์ที่ขึ้นเบาๆที่ข้างซ้าย พร้อมกับ noise ที่จงใจอัดมา
ได้อารมณ์ฟินแบบแปลกๆ
แต่เมื่อนักร้องร้องขึ้นมาคำแรก ผมถึงกับตาโต
เพราะเสียงนักร้อง มันช่าง นิ่มนวล อบอุ่น ไหลลื่น ไดนามิคชัดเจน
เมื่อเทียบกับ PK1 ซึ่งเป็นหูประจำตัวตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า เสียงร้อง L1 กินขาดไป 38ล้านปีแสง
เคยใช้ shure 440 ก็มิอาจเทียบเคียง L1 ตัวนี้ได้
ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับโดนดูดไปอยู่ในโลกของความเหงาที่ถูกถ่ายทอดผ่านเพลงเพลงนี้
เสียงเบสที่ดังแบบนุ่มๆในท่อนต่อมา ทำให้มองเห็นภาพวงๆนี้กำลังเล่นให้ฟังข้างหน้าก็มิปาน
เสียงกลองที่ดังเบาๆ แต่จับได้ชัดเจนว่าดังมาจากทางไหน
background เงียบสงััด
ไม่เคยรู้สึกเหงาขนาดนี้มาก่อน

เสียงเบสที่นุ่ม เสียงสูงที่ชัด เสียงร้องที่อิ่ม ทำให้ผมนึกถึง Senn HD598 ขึ้นมาทันที

ผมเริ่มกระวยกระวายใจเพราะข้อเสียที่ผมพบกับ HD598 ก็คือ มันฟังเพลงเร็วแล้วจะเกิดอาการมั่วทันที (อย่างน่าประหลาด)

เพลงที่สองที่ผมเลือกมา
เป็นเพราะเพลงนี้เองเป็นเพลงที่ฆ่า HD598 มาแล้ว
ผมกับเพื่อนลงความเห็นว่า HD598 เสียงดีจริง แต่ มิอาจฟังเพลงเร็วเพลงนี้ได้

มนต์รักยาเสน่ห์ - the richman toy

เพลงนี้เริ่มต้นด้วยการรัวกีตาร์ราวกับคนเมามาเล่นให้ฟัง
กลองที่จงใจเล่นมิติ
แค่นี้ก็สบายใจแล้ว
L1 มันเด็ดขาด ไม่มีอาการมั่วให้เห็นเลย
ที่ดีไปกว่านั่น มิติ มันชัดเจนจนน่าตกใจ
ทุกชิ้นดนตรีมีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน
หัวโน๊ตเบสไม่ได้อิมเพคดีเลิศ แต่ชัดเจน แบ่งเป็นลูกได้ชัดเจน แต่นุ่ม ไม่รุกเข้าหาคนฟัง คุมจังหวะได้ดี
เสียงฉิ่งฉาบในเพลง ดังซ่าๆ แบบน่าฟังที่พื้นหลัง ถึงจะเบา แต่กลับชัดเจน

เพลงนี้ L1 จึงสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยรายละเอียด หัวโน๊ตเบส และความเด็ดขาดที่สามารถการแยกโน็ตที่รัวๆได้อย่างชัดเจน

ไม่รอช้ากับเพลงที่ 3
เพลงเทสที่ผมใช้เทสทุกหูฟังที่ไปลองมา (2 เพลงแรกเพิ่งมาเทสหลังๆนี้เอง)

ยาพิษ - Bodyslam
เพลงนี้มีจุดเด่นที่ อิมเพคกลอง ตอนเปิดเพลง
เรียกว่าไม่ผิดหวังกับอิมเพคที่ได้
เอามาฟังมันส์ๆก็สามารถทำได้เหมือนกัน

ผมรออย่างใจจดใจจ่อกับการโซโล่สุดอมตะของ เฮียยอด อันถือเป็นโซโล่ครูที่มือกีตาร์ร๊อคจะต้องแกะกันให้จบ
ซึ่งลูกดันสายลูกแรก ไม่เด็ด โดนใจเท่าไหร่ คงเพราะเจ้า L1 มันไม่ได้สายร๊อคเหมือน PK1
เสียงสูงตรงนี้มันไม่จี๊ดทะลุใจอย่างที่เคยฟัง
แต่สิ่งที่ชนะ PK1 ไปได้อย่างสบายสบายคือ การแยกโน๊ตกีตาร์แต่ละตัวออกจากกัน ถือว่าทำได้น่าพอใจ(ก็ควรอยู่ เพราะเป้น FZ)

แม้เสียงสูงจะไม่แหลมซะใจ แต่รายละเอียดไม่ได้ทิ้งไป

ผมยังคงเทสเพลงเร็วอย่างต่อเนื่องกับ
สนุกกับฝัน - overme

เพลงนี้เคยทำให้ผมชอบ Shure 1440 มาแล้วกับเสียง snare
เพราะการฝาด snare ไปของมือกลอง มันะมี Ambient ของ ringshot ให้ฟัง
โดยปกติผมจะต้องเพ่งฟัง แต่ตอนนี้ได้ยินชัดเจน
สิ่งที่เด่นอีกจุดคือเสียง คอรัส ที่มือเบส กับ มือกีตาร์คอรัส ในท่อนต่างๆ
ซึ่งถ้าหูฟังตัวไหน เวที ไม่กว้างพอ จะทำให้เสียงคอรัสกับนักร้องมารวมกันกองอยู่ตรงกลาง
แต่สำหรับ L1 แล้วก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

จนจบเพลงแล้ว สิ่งที่ยังขัดใจผมอยู่คือ เสียงสูง ที่มันไปไม่สุดขั้วหัวใจของผมซะที

เพลงที่ 4
ฮู้ฮู - Potato
เพลงนี้ผมตั้งใจมาเทสเสียง syn เป็นพิเศษ
เพราะเพลงนี้ syn เสียงจะใสๆ ลอยๆ
ตอนที่เทสกับ PK1 โดยใช้ amp FiioE17 ต้องบอกว่า จำไม่เคยลืม

แต่วันนี้ ผมไม่ต้องนึกถึงวันเก่าๆเหล่านั่นอีกแล้ว
L1 + O2 สามารถนำเสียง syn เสียงนั่นกลับมาหาผมได้อีกครั้ง
เสียง syn ที่ใสๆ ลอยๆ เหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ
เสียงสูงที่ไร้อาการเสียดสี

เสียงกีตาร์ในเพลง ที่เล่นเป็นโน๊ตๆเป็น back ground ที่เคยฟัง
มันช่างฟังยาก เสียนี่กระไร
วันนี้ ผมสามารถฟังได้อย่างง่ายดาย
อารมณ์ผมตอนนี้อยากจะกลับบ้านไปแกะเพลงนี่อีกรอบซะจริงๆ

ด้วยความคึกอย่างไม่สิ้นสุด
ผมเปิดเพลง get the funk out - extreme
แม้เสียงสูงจะไม่ได้แหลมสะใจอย่าง pk1
แต่ความที่ L1 มีความชัด ทำให้เพลิดเพลินกับการฟังไปได้อีกแบบ
ถึงตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่า นี่คือหูตัวต่อไปของผม
มันสามารถควมคุมจังหวะได้อย่างแม่นยำ


เสียงเบสที่ไม่ล้นเบลอ หัวโน๊ตชัดเจน แม้อิมเพคจะเป็นรอง Ultrasone ไปเยอะ แต่ก็จัดอยู่ในเกณต์ที่ผมพอใจมาก
เสียงกลางที่หนาอิ่ม ทำให้ฟังได้ไพเราะ ลื่นไหล
เสียงสูงแม้ไม่สุดอย่างใจ แต่ทดแทนด้วยรายละเอียดมหาศาล และ ความชัดเจนแทน รวมถุึงอาการเสียดสีไม่มีให้เห็น
backgroundที่เงียบสงัด และ เวทีที่กว้างใหญ่ ทำให้ง่ายต่อการฟังรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
มิติที่ชัดเจน ทำให้แกะลายคอรัสได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
แม้มันจะไม่ใส่สบายที่สุดเท่าที่เคยใส่มา แต่ สิ่งที่ได้กลับมาข้างต้นผมถือว่ามันเป็นหูฟังที่น่าคบหา และ ควรหามาลองซักครั้งให้ได้

ถ้าให้เปรียบเทียบกับ shure 1440 หรือ Senn hd558 ที่ผมกล่าวถึงในข้างต้น
ผมถือว่ามันเป็นคนละแนวกัน
shure และ senn จะได้เสียงสูงได้ละเอียดยิบ เป็นประกาย รายละเอียดดี แต่ถ้าฟังนานๆอาจจะเกิดอาการล้าได้
L1 จะได้เสียงสูงที่ลบคมแล้ว รายละเอียดที่เยอะอย่างเหลือเชื่อ เสียงร้องที่อิ่มหนา มิติที่ชัดเจน และผมคิดว่าผมคงจะอยู่กับเจ้า L1 ไปอีกนาน
PK1 อาจจะได้นอนนิ่งๆไปนานแสนนานนนนน~~~~

ขอบคุณ ครับ สำหรับreview ต่อมคัน เริ่มทำงานอีกแล้ว ค้าบ..........

รีวิวได้แจ่มมากๆครับ

แต่ถ้ามีรูปจะน่าอ่านขึ้นเยอะครับ ><

ตอนนี้ไม่มีกล้องอ่ะครับ
มือถือเป็น Samsung hero
เอาตังมาลงหูฟังแล้วท่าน ฮ่าๆๆๆๆๆ

เหมือนผมเลยอะ

gadget หูฟังเอย เพลเยอร์เอย แอมป์เอย m2m เอย กินตังค์ไปเยอะ

ยังใช้ nokia อยู่เลยครับ เครื่องละ 3000 ซื้อเมื่อ สี่ปีที่แล้ว 55555

ผมยอมรับว่ามองข้าม L1ครับ เพราะรอจะซื้อเจ้าL2อยู่ 555

Philips Fidelio line นี่มองข้ามไม่ได้เลยครับ ทุกตัวที่ปล่อยมานี่ทีเด็ดทั้งนั้น ผมติดใจเจ้าS2จนอยากได้และเก็บตังค์รอสอยเจ้าL2อยู่เห็นว่าต้นปีหน้าคงออกคงได้เสียตังค์กันล่ะงานนี้

ถ้าเสียงสูง จะแจ้ง กว่านี้อีกนิดนึง นี่สงสัยได้เปลี่ยนตัว
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"Meet the second best headphone driver within the $1K bracket. And I would easily say the best if not for the Sennheiser HD700 being priced at $999.95. Yes, the L2′s driver is so ahead of the competitor that I highly rate it ahead of the Sennheiser Momentum, Sony MDR-1R, B&O H6, ATH’s ESW-11, ES-10, or even the famed Sennheiser HD650/600 line." ท่อนนึงจากรีวิวในheadfonia http://www.headfonia.com/the-phenomenal-philips-fidelio-l2-feat-fidelio-m1bt-review/

อ่านแล้วอยากเสียตังค์เลยครับ

ได้เวลาเก็บตังค์รอแล้วซินะครับ
ฮิฮิฮิ
ว่าจะอยู่กับ L1 นานๆซะหน่อย
L2 มาไม้นี้เลย

แต่หวังว่า series หน้าคงมีเดโม่ให้ลองก่อนซื้อนะครับ
ไม่งั้นคงได้แต่เดาๆอยู่แบบนี้

ที่ผมอยู่หาเดโมอะไรไม่ได้เลยนอกจากbeat กับsol. เสี่ยงดวงล้วนๆเลยครับ

เสี่ยงดวงหมื่นนึงนี่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นะครับ อิอิ

รีวิวแซ่บมากครับ อ่านในรถเมารถก็ยังอยากอ่าน 5555 ผมคงต้องไปลอง L1 X1 ด้วยล่ะครับว่าแต่ L1 กะ X1 นี่ต่างกันมากมั้ยหรือว่ารอ L2 ไปเลย

อันนี้คงต้องรอคนอื่นมาตอบแล้วละครับ
แต่จากที่ผมอ่าน L2 เหมือนจะมาแนวเดียวกับ L1 แต่ไม่ต้องใช้ amp
เขาอ้างว่า เสียงชนะ HD600 650 ด้วยเหละ
แถมยังบอกว่า คุณภาพใกล้เคียง hifiman HE500 ตอนใช้ amp

แต่จากกานอ่านรีวิวเรื่องเสียง เหมือนว่าจะมาแนวเดิมกับ L1
แต่ถ้า X1 นี่ไม่มีความรู้เลยครับ

ผมดูแล้วเห็นL2ปรับให้ดูสปอร์ตขึ้นแต่ถ้าเสียงชนะHd600กับHd650 ที่ได้แอมป์ผมว่าน่าจะยากเพราะจากที่ลองฟังเสียง L1สู้X1ไม่ได้เลยต่างกันเยอะ แล้วถ้าไปเจอhd 600กับ650ได้แอมป์ได้สายไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเสียงไปไกลกว่าx1 แต่ราคาอุปกรณ์รวมๆก็ไปไกลกว่าT T

ผมมองข้ามเพราะราคาเข้าไทยมันแพงเกินไป สนใจ sony mdr-10 ดีกว่า ราคาไทยเท่ากับราคานอกเลย คุ้มกว่า

จริงๆแล้ว Philips เป็นสถาบันพัฒนาเครื่องเสียงโดยเฉพาะครับ มีคนรู้เรื่องนี้น้อยครับ ส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นบริษัทผลิตเครื่องไฟฟ้าทั่วๆไป