หิหิ หัวข้อกระทู้ขึ้นมาดูแก่ๆพิกล ก็คนมันอายุไม่น้อยแล้วอ่ะนะ...
ตั้งแต่จำความได้ ที่บ้านก็มีเสียงเพลงตลอด จนเรียนถึง ป.6
ก็จับพลัดจับผลูไปมั่วเป็นนักดนตรีของโรงเรียน เล่นออร์แกน
วงโรงเรียนเล่นเพลงลูกทุ่ง เพลงฉันทนาที่รัก กำลังดังสุดๆตอนนั้น
ช่วงนั้นได้รับเสียงเพลงกรอกหูทั้งลูกทุ่งและเพลงสากล ซึมซับมาเรื่อยๆ
เรียนมัธยมเริ่มกระแดะฟังเพลงร็อค สมัยนั้นเป็นฮาร์ดร็อคจะได้ใจมาก
Highway Star ของ Deep Purpleเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดๆ
วัดได้จากจำนวนผ้าเช็ดหน้าที่บรรดาเหล่าวัยรุ่น(สมัยนั้น)เอาขึ้นมาหมุนๆเหวี่ยงๆอยู่เหนือศรีษะ
เวลาที่มีวงดนตรีมาแสดงสด ไม่ว่าจะเป็นปิดวิกเก็บเงินหรือเล่นให้ดูฟรีๆตามงานมหรสพต่างๆ 555
มาเริ่มติดฟังเพลงเอายุควอล์คแมนนี่แหละครับ เริ่มรู้จัก The Alan Parsons Project
เป็น symphonic progressive rock มีวง orchestra เล่น backup รสหวาน ทานง่าย 555
จากรุ่นพี่คนนึงทำงานเกี่ยวกับสำรวจ,ขุดเจาะน้ำมัน เวลาลงแท่นเจาะแกก็มีเทป,วอล์คแมนเป็นเพื่อน
ขึ้นฝั่งทีก็พักผ่อนยาวร่วมๆสองสัปดาห์ก็เลยมีเรื่องเพลงมาคุยมาแนะนำให้ฟังกัน โดนเลยครับ
ได้ฟังครั้งแรกเป็นชุด eye in the sky แล้วก็ the turn of a freindly card
จากนั้นมาก็เริ่มซื้อเทปคาสเส็ทสะสมมาเรื่อยๆ เริ่มจากม้วนของ peacockก่อนในตอนแรกๆ
แล้วค่อยขยับมาเป็นม้วนลิขสิทธิ์ ตามเก็บจนครบทุกชุดที่ออกมาในตอนนั้น ถึงชุด try anything once
ช่วงนั้น pinkfloyd ก็ดังมากแต่รับได้แค่ whish you were here กะ the wall(ตามกระแสในตอนนั้น)
ถ้าฟังทั้งชุดจะมีอาการล้าๆหนักหัวไปหมด แล้วเส้นทางการฟังเพลงเริ่มมาหักเหเมื่อทำงานได้ซักระยะนึง
เจ้านายที่ออฟฟิศจะเปิดเพลงjazzคลอๆเป็นแบบ background music สร้างบรรยากาศทำงานให้สุนทรีย์
หัวสมองจะได้คิดงานได้ลื่นๆมั๊ง หิหิ..เลยติดjazzซะอีก และก็เริ่มฟังเพลงหลากหลายขึ้นฟังทุกอย่างที่เป็นเพลง
จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่วาย มั่วๆมาเป็นดีเจเปิดเพลงปาร์ตี้กะเค้า ก็ต้องมาฟังเพลงพวกแดนซ์กระจายไว้ใช้งานด้วย
กลับมาคิดถึงป๋า Alan Parsons ซะอีกแล้ว ไม่รู้ CD ยังจะมีเหลือขายอยู่ซักกี่ชุด...อยากสะสมใหม่ครับ