Guest
หมวดหมู่ >

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

=== รีวิว M-Audio Microtrack II Recorder/Player ===

sumat_kee

18/11/2013 14:40:55
2





สวัสดีครับ หลังจากห่างหายการรีวิวมานาน วันนี้ผมเลยเลือกเครื่องบันทึกเสียงรุ่นหนึ่งมาแนะนำ ตัวนี้ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งจะได้ฟังนะครับ ผมได้ฟังมาระยะหนึ่งแล้วต้องยอมรับว่าตอนแรกเป็นม้านอกสายตามากๆ ด้วยชื่อชั้นของยี่ห้อ M-Audio ซึ่งปกติทำพวก Sound card รีวิวก็ไม่ค่อยมี ถ้ามีก็บอกไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้อยากฟังคือมีรีวิวเขาบอกว่า analog มาก อึม recorder เสียง analog เนี่ยนะมันจะทำยังไง

และแล้วก็จากคุณแมว สปอนเซอร์ผู้ใจดีของเราก็ได้ส่งเจ้า M-Audio Microtrack II (ต่อไปเราจะเรียกสั้นๆ ว่า Track II นะครับ) มาให้ลอง โดยไม่ได้บอกหรือไกด์เรื่องเสียงเลย ฟังครั้งแรกอึ้งสุดๆ ไม่ได้อึ้งเรื่องมิติ ไม่ได้อึ้งเรื่อง sound stage ไม่ได้อึ้งเรื่องรายละเอียดหรือเบส แต่อึ้งกับความเป็น analog ของมัน จะพูดยังไงดีครับ คือเหมือนกับไปฟังเทปก็ไม่ปาน เหมือนเทปมากๆ บางจุดนี่เทปเลย ถ้าได้ไฟล์เพลงเก่าๆ พวก 128 kbps นะยิ่งเหมือนเทปมาก

ต้องอธิบายนิดหนึ่ง จริงๆ แล้วพวกเครื่องบันทึกเสียงรุ่นแรกๆ ก็คือเทปนี่แหละครับ เขาเรียกว่า Tape Reel มีตั้งแต่ 2 track เป็นต้นไปจนถึง 8 track 16 track บอกราคาแล้วอย่าตกใจนะครับ เจ้าเครื่องพวกหนึ่งราคาหลายแสน จนถึงหลักล้านเลยครับ Studio เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ซื้อมาใช้งาน ตัวเครื่องก็ใหญ่เรื่องพกพาไม่ต้องพูดถึง

พอได้ฟัง track II ผมก็คิดว่าทำไมเขาถึงทำเสียงแบบนี้ ผมก็เดาต่อว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องการให้คนรุ่นเก่าที่เคยใช้ Tape Reel มาก่อนคุ้นกับเสียงอย่างนั้นแล้วขยับมาใช้ track II ซึ่งเป็นของรุ่นใหม่ก็อาจจะเป็นได้ เพราะผมเห็นคนรุ่นเก่าหลายๆ คนชอบบ่นว่าของสมัยใหม่นี่ให้เสียง Digital จ๋า ไม่มีความเป็น Analog เลย track II ก็เลยอาจจะทำมาเอาใจตรงนี้ (แต่มันเฉพาะกลุ่มเกินไปไหม 555)

track II ให้ความเป็น Analog สูงมาก สูงกว่า MD รุ่นใหม่ๆ ด้วยซ้ำ สูงกว่า Hifiman 901 สูงกว่าเครื่องเล่นในบ้านผมทั้งหมด เสียงกลางอิ่มหนา ขุ่น เสียงเบสใหญ่โต แต่ไม่กระแทก เสียงสูงไม่ใสไม่บาด เวทีเสียงแคบ แคบแบบไม่ต้องไปสนใจเลยดีกว่า 555 เป็นครั้งแรกที่ผมไปหาพวกไฟล์เพลง mp3 เก่าๆ มาเล่น track II เล่นไฟล์ได้ถึง 24 bit 96 kHz นะครับ อย่าดูถูก แต่พวกไฟล์ wave ตั้งแต่ 16 bit ยัน 24 bit ดันสะอาดไปผมฟังแล้วแหม่งๆ ผมฟันธงไฟล์ mp3 ดีสุด และต้องบิตเรตต่ำๆ ด้วยนะ

มาแกะกล่องกันดีกว่า

ของในกล่องมีดังนี้






1. ตัวเครื่อง track II
2. ไมค์
3. อแดปเตอร์
4. สาย USB
5. ซองใส่
6. แผ่นไดร์เวอร์
7. คู่มือ
8. หูฟัง
9. Mem CF Card 2 Gb.
10. สมุดคู่มือ
ความคิดเห็นที่ : 1

sumat_kee

18/11/2013 14:41:23
2
1) ลักษณะภายนอก






M-Audio Microtrack II ออกแบบมาดู Vintage สุดๆ คล้ายเครื่องเล่นเทป มีขนาดพอๆ กับ Ipod มีขนาด กว้าง x ยาว x สูง 8.05 x 15.1 x 3.5 ซม. และน้ำหนัก กรัม มีแบตเตอรี่ลิเทียมในตัว (ไม่เหมือน Recorder ตัวอื่นๆ ที่ใช้ถ่าน AA) ตัวบอดี้สีน้ำเงินเข้ม ผิวด้าน มีไฟหน้าจอสีน้ำเงิน ใช้หน่วยความจำ CF Card น่าจะรองรับถึง 32 Gb. แต่ไม่เคยลองสูงสุดที่เคยใส่คือ 8 Gb. ครับ






ด้านบนมีช่องเสียบ mic. mic/line (ใช้แจ็ค 6.3) และช่องเสียบหูฟัง






ด้านซ้าย (ไล่จากซ้ายไปขวา) เริ่มจากปุ่ม Menu ปุ่ม Hold ปุ่มปรับระดับไฟหน้าจอ ปุ่มจ่ายไฟ 48 V ให้ไมค์ (Phantom Power)






ด้านขวามีปุ่มแบบจ็อกกิ้ง คือเลื่อนขึ้นลงได้ กดลงไปตรงกลางก็ได้ สำหรับเลื่อนเพลงหรือเข้าเพลง ต่อมาเป็นสล็อตใส่ CF Card






ด้านล่างมีช่องต่อ Line out (แจ็ค RCA) ช่อง S/P Dif (ไม่รู้ว่าเอาไว้ทำไมเหมือนกัน) ช่องต่อ USB สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูล






ด้านหน้าบนสุดจะมีปุ่มเปิดปิด ถัดมาเป็นหน้าจอ ด้านล่างมีปุ่ม Del (ลบไฟล์) ปุ่มจัดการระดับเสียงไมค์ซ้ายขวา ปุ่ม Volume หูฟัง และปุ่มบันทึก ออกแบบแท่งอย่าง Vintage เลย 555






ด้านหลังมีตรา M-Audio และ Serial Number
ความคิดเห็นที่ : 2

sumat_kee

18/11/2013 14:41:43
2
2) ไฟล์ที่รองรับ

Track II รองรับไฟล์ Wave ตั้งแต่ 16 bit / 44.1 kHz - 24 bit /96 kHz เลยทีเดียว อย่าคิดว่า Vintage แล้ว Chip เสียงจะโบราณนะครับ ตรงนี้ขออธิบายสักนิดหนึ่งก่อนนะครับ สำหรับวงการบันทึกเสียงแล้วพวก Chip 24 bit / 96 kHz หรือ 24 bit / 192 kHz นี่มีมานานแล้วครับ (หลายสิบปีมาแล้ว) เพราะเป็นมาตรฐานของการบันทึกเสียงด้วยระบบ Digital ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจได้ไปเจอ Sound card studio รุ่นปู่แต่ใช้ Chip 24 bit / 192 kHz นะครับ

ไฟล์อีกอย่างที่รองรับคือ mp3 เล่นได้ทุก bitrate

---------------------------------------------------------------

3) หน้าจอ และฟังก์ชันการใช้งาน






หน้าจอมีขนาดเล็ก (มีขนาดประมาณ 1 นิ้ว x 1 นิ้ว) แต่ก็สามารถแสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน แสดงข้อมูลได้ราวๆ 6 บรรทัด มีไฟ back light สีฟ้า สามารถปรับระดับหรือเปิดปิดได้จากปุ่มด้านข้าง ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ แต่สามารถเล่นได้ โดยจะแสดงเป็นตัวสี่เหลี่ยมแทน

เวลาลงเพลงเราสามารถลงผ่าน USB ได้หรือจะนำ CF Card ลงผ่าน Card reader ก็ได้ แต่แนะนำลงผ่าน Card Reder ดีกว่าเพราะเร็วกว่าเยอะ เราสามารถสร้างเพลงเป็น Folder ได้เลย เวลาเล่นก็จะเล่นเป็น Folder ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีฟังก์ชันสุ่มหรือวนซ้ำ (ให้ความรู้สึกเหมือนเทปครับ 555)

แต่ที่น่าแปลกคือ Track II มี EQ ครับ แต่แน่นอนไม่ใช่ EQ แบบยุคปัจจุบันแน่นอน โดยจะมีให้เลือกคือ normal (ปกติ) , bass boost (เพิ่มเบส) , bass reduce (ลดเบส) , treble boost (เพิ่มแหลม) , treble reduce (ลดแหลม) และ bass and treble boost boot trable (เพิ่มเบสและแหลม) ใช่ครับนอกจะมีเพิ่มแล้วยังมีลดให้ด้วยคนที่ใช้ EQ สมัยนี้คงงง 555 อย่าได้แปลกใจเพราะสมัยก่อนเพลงที่อัดเบสบวมๆ มีมากมายก่ายกองนัก การลดเบสจะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้
ความคิดเห็นที่ : 3

sumat_kee

18/11/2013 14:42:07
2
4) เรื่องเสียง

เรียกว่าเป็นสิ่งที่อยากกล่าวถึงอย่างที่สุด อย่างที่ผมบอกกับเพื่อนๆ หลายๆ คนว่า ถ้าจะเอาเจ้า Track II มาวัดด้วยความเป็น Audiophile แบบเครื่องเล่นทั่วๆ ไปคงสอบตกตั้งแต่รอบแรก เสียงของ Track II เวทีเสียงค่อนข้างแคบ เสียงเบสใหญ่ไม่กระแทก เสียงแหลมแทบไม่มีเล็ดลอดออกมาเลย เสียงกลางอิ่มหนาใหญ่ เสียงโดยรวมออกไปทางขุ่น เรียกว่าสอบตกเกือบจะทุกด้าน

แต่อะไรหล่ะที่ทำให้ต้องหยิบมันมารีวิว สำหรับผมเสียงอย่างนี้มันเหมือนเทปครับ และถ้าหาข้อมูลเพิ่มเติมก็จะรู้ว่าคนที่ออกแบบเจ้า Track II ก็ต้องการให้เป็นอย่างนั้น ตัวนี้หัวใจหลักของเสียงเขาคือ analog ครับ ถ้าเอาความ analog เป็นเกณฑ์ต้องถือว่าสอบผ่านฉลุยครับ ฟังเจ้า Track II แล้วเล่นเอาผมนึกถึง MD Sharp MS100 กับ CD Sony D350 ขึ้นมาทีเดียว บางช่วงนี้คิดถึงเทปสมัยเด็กๆ หรือ AM/FM รุ่นมือหมุนกันเลยทีเดียว

ตอนแรกที่ผมนำไฟล์ Wave 24 bit หรือ 16 bit ใส่เข้าไปผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ คือมันจะสะอาดก็ไม่ใช่มันจะขุ่นก็ไม่เชิง (กึ่ง Digital กึ่ง Analog) ก็เลยลองไฟล์ mp3 320 kbps ลงมาเรื่อยๆ จนถึง 128 kbps ผมค่อนข้างพอใจเสียงจาก mp3 128 kbps ครับ ได้ความเป็น analog ที่สุด แล้วก็ไปขนเพลงเก่าๆ ต้อมเรนโบว์ นิคนิรนาม แจ้ หรือเพลงลูกทุ่งเก่าๆ (ซึ่งมันมีแต่ไฟล์ 128 kbps อยู่แล้ว) มาฟังยิ่งชอบครับ

ไฟล์เพลงพวกนี้ฟังกับเครื่องเล่นรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้ครับ เพราะเสียงจะแห้ง บาง แต่พอฟังกับ Track II เสียงอิ่มหนาใหญ่ชัดเจนมาก ยิ่งฟังยิ่งอึ่งครับ จึงอยู่ว่ามีเครื่องเล่นรุ่นเก่าหลายตัวที่ให้เสียง analog ทั้ง MD และ CD แต่ก็ยุ่งยากเรื่องแผ่นทั้งคู่ Track II เป็นเครื่องเล่น analog ที่โดดเด่นกว่า เพราะแค่ลากลง mem ไม่กี่วินาทีก็ Analog เลย 555

แม้ว่าจะใช้แบตแบบลิเทียมในตัวแต่ถ้าเสื่อมก็สามารถเปลี่ยนได้โดยใช้แบต Iphone หรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียงเปลี่ยนได้ (การเปลี่ยนก็ไม่ยากร้านซ่อมมือถือก็ทำได้) Track II ค่อนข้างกินแบต แบตเดิมๆ ชาร์จเต็มที่เล่นได้ประมาณ 3 ชม. แต่ก็แลกมากับกำลังขับที่เยอะมากๆ เรียกว่าเอาไปต่อเครื่องเสียงได้สบายๆ

ส่วน CF card แม้ว่าจะหายาก แต่ก็ยังหาได้อยู่ Track II สามารถ Up firmware ได้นะครับ ส่วนการใช้งานก็มีปัญหาปุ่มต่างๆ รวนอยู่บ้าง (ตามสไตล์ Vintage 555) ช่องใส่ CF card ก็ eject เหมือนพวกเทปเลย นี่ถ้าพวก Volume เปลี่ยนเป็นแบบ analog นะผมคะแนน Vintage ให้เต็ม 10 เลย 555

---------------------------------------------------------------

สรุป

ถ้าจะหาพวกเครื่องเล่นที่ให้เสียง Analog ก็คงจะเหลือน้อยมากๆ ในยุคปัจจุบัน ยิ่งเครื่องบันทึกเสียงด้วยแล้ว Track II ถือเป็นเครื่องบันทึกเสียงแบบ Digital ตัวเดียวในวงการที่ให้เสียงแบบ Analog ถ้าท่านถวิลหาเสียงแบบเทปเก่าๆ ชอบฟังเพลงเก่าเป็นชีวิตจิตใจ สิ่งเหล่านั้นพบได้ใน Track II แน่นนอนครับ

ราคาของ Track II ก็ไม่ได้แพงมามายอะไร มือสองก็ราวๆ 150 - 200 เหรียญ (แล้วแต่สภาพ) เคยมีนำเข้ามาขายอยู่ประมาณ 15,000 บาท แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ (ราคาจึงตกลงไปเยอะ)

แม้ในเมืองไทยและแถวเอเชียไม่ค่อยนิยมเครื่องบันทึกเสียงตัวนี้เท่าไหร่ แต่ในอเมริกาก็นิยมกันเยอะ (เดาว่าคงจะมีคนรุ่นเก่าเยอะ) ผมขอตั้งสโลแกน M-Audio Microtrack II ว่าสุดยอด Analog Recorder แล้วกันครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

---------------------------------------------------------------

ข้อดี (+)
1. ให้เสียง analog ฟังสบาย
2. มีกำลังขับสูง
3. Line out เป็นแบบ RCA
4. เล่นไฟล์ได้ถึง 24 bit 96 kHz


ข้อเสีย (-)
1. ตัวเครื่องทำจากวัสดุพลาสติก ดูไม่ทน
2. ใช้แบตลิเทียมในตัว และค่อนข้างกินไฟ
3. ใช้ mem CF Card ซึ่งหายาก
4. หน้าจอขนาดเล็ก และไม่อ่านภาษาไทย
5. ไม่มีไมค์ในตัวเครื่องต้องต่อไมค์นอกเท่านั้น (ซึ่งจะมีแถมในชุด)
ความคิดเห็นที่ : 4

maewkaew

18/11/2013 18:59:43
2
โอ้ วิว มาแล้วรอนานมากๆ ค่ะ
เห็นตาม วิว คุณสุเมธเลย ตัวนี้ละค่ะ "เค้าคือเทป"
อนาล็อคโดยแท้ (ขอบคุณสุเมธ เช่นกันค่ะ วิว ได้ครบถ้วน ยอดเยี่ยมค่ะ)
ความคิดเห็นที่ : 5

Ambrdude

18/11/2013 21:23:17
0
น่าสน น่าลองครับ รบกวนสอบถามนิดนึงครับว่าโวลุ่มปรับได้ละเอียดมั้ยครับ พอดีผมฟังเพลงค่อนข้างเบา กลัวปรับเเล้วเสียงมันจะกระโดดรึเปล่า แหะๆ
ความคิดเห็นที่ : 6

นายมั่นคง

18/11/2013 22:03:10
4,290
สวัสดีครับพี่สุเมธ ขอบคุณสำหรับรีวิวเน้อๆๆๆ 555
ความคิดเห็นที่ : 7

maewkaew

19/11/2013 00:45:41
2
คุณแบ๊งค์ กดปรับแบบโบราณ สไตส์ลูกทุ่งๆ เสียงไม่กระโดดค่ะใช้มาแมวไม่เคยปรับถึงครึ่งเลย (ถ้าใข้เสียบหู เอียบัด )
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

maewkaew

21/11/2013 15:34:24
2



เพิ่มเติมค่ะ เป็นมิตรกับแทบทุกหู แรงขับเกินตัว ^_^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

blueseasonz

21/11/2013 16:37:44
8
รีวิวเยี่ยมมากเลยคับ
ความคิดเห็นที่ : 10

happysound08

21/11/2013 18:43:47
0
คุณแมว เคยส่งมาให้ฟังพักนึง ผมพอมีเทปอยู่บ้าง พอฟังเจ้าตัวนี้ เหมือนฟังเทป แต่ตัดเสียง แบ็คกราวด์ ตอนเนื้อเทป วิ่งผ่านหัวเทป กับ ไม่ได้ยินเสียง แกนมันหมุน น่าฟังไปอีกแบบครับ รุ่นนี้
ความคิดเห็นที่ : 11

bassaholic

21/11/2013 20:51:33
0
น่าเสียดายรุ่นนี่น่าจะเปลียน in จาก 1/4 เป็น XLR balanced จะดีมากเลยครับ ใช้ทำงานอัดสบายๆ เลยครับ
ความคิดเห็นที่ : 12

ohwownoone

22/11/2013 09:21:28
370
เหมือนฟังจากเทป ท่าทางจะฟินน่าดูเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
"=== รีวิว M-Audio Microtrack II Recorder/Player ==="