เรียกได้ว่าห่วยแตกเป็นส่วนใหญ่ครับ(เคยฟังครั้งสุดท้ายเมื่อ6-7ปีก่อน)
ที่พอใช้ได้ก็มี แต่เทียบCDไม่ติด

อ้อ ผมหมายถึงพวกแผ่นที่รวมไฟล์mp3เยอะๆอะนะ แบบที่re-ripไม่เคยฟัง

ถัาแบบปั้มแบบcd ต่อ cd แทบไม่ต่างกันครับcd มันเป็น digital แต่ถ้าเทปต่อเทปคุณภาพก็จะด้อยไปเรื่อยๆ

แล้วแผ่นที่เป็น import นี่คือ คุณภาพการอัดดีกว่าแผ่นที่อัดในเมืองไทยใช่มั๊ยครับ

ถ้าหมายถึงคุณภาพตอนบันทึกเสียง
อันนี้มีทั้งที่จริงและไม่จริง ต้องดูเป็นสตูดิโอไป
แต่โดยภาพรวมแผ่นจากUS ผมว่าจริง

ถามๆ


แล้วที่ขาย เขียนว่า MP3 Bitrate 320 Kbps จากค่าย ....


ถามว่า คุณภาพเป็นยังไงบ้าง น่าซื้อหรือเปล่า

เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ผมริปเอาเอง ไม่ได้ฟังแผ่นแบบนั้นมานานแล้ว คงตอบไม่ได้

แต่มีจุดให้ลองคิดดูว่า คุณไม่รู้หรอกว่าคุณภาพจริงมันตรงตามที่แปะคำโฆษณารึเปล่า
นอกจากซื้อมาแล้ว เอามาดูกราฟ(ข้อมูลไฟล์เฉยๆมันทำหลอกกันได้) ถึงจะเห็นคร่าวๆ
เพื่อนผมเคยเจอว่า ตอนเริ่มเล่นเป็นเพลงนึง แต่อยู่ๆเปลี่ยนไปเป็นเพลงบ้าอะไรก็ไม่รู้
สรุปคือ ถ้าจะเอาวิธีนั้น เชิญไปเสี่ยงเอาเอง

ส่วนตัวflacกับmp3 320kbpsแท้ของแทร็คเดียวกันผมแยกออกนะ แต่รู้สึกว่าไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

เสียงแผ่น copy จะแย่ลงคับ

เพราะมันผ่านขั้นตอนที่เป็น analog ครั้งนึงตอนที่เครื่องอ่านแผ่นต้นฉบับ

ถ้าเป็นแผ่นไวนิลหรือเทปน่ะใช่ครับ
แต่พวกCDใช้ระบบข้อมูลดิจิทัลแทน
เวลาก๊อปปี้ก็แค่ทำสำเนารหัส0,1 โดยยิงแสงเซาะเนื้อแผ่น
ไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพลดลงจากการทำซ้ำ
จุดสำคัญอยู่ที่คุณภาพตอนบันทึกเสียงกับการบีบอัดไฟล์

คือ ถ้าเอา แผ่นแท้ มา write ขายเลย บอกตามตรงแทบไม่ต่างเลยครับ แนะนำไห้ write ช้าช้า 1X แต่ที่ขายตามห้าง ไรนั้น มันประมาณว่า โหลด bit แล้วเอาไฟลืไปwrite audio ลงแผ่นอะครับ

ไม่มีอะไรสู้ของแท้ได้หรอก เหมือน(.)(.) อิอิ

เสียงจากแผ่นก๊อปด้อยกว่าแน่นอนครับ เพียงแต่ในบางชุดอาจจะทำได้ใกล้เตียง แต่โดยรวมแล้วต้องด้อยลงครับ ซีดีแผ่นแท้เค้าปั๊มมาจากตัวมาสเตอร์ที่มาจากห้องอัด ส่วนแผ่นผีคือเอาแผ่นที่เค้าปั๊มเสร็จแล้วที่มีไว้ขายแล้วไปคัดลอกอีกที ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพเสียงแย่ลงแน่นอนจ้าๆๆๆ

แผ่นแท้ผลิตคนละประเทศเสียงยังดีไม่เท่ากันเลยครับ เช่นบางคนชอบ us japan germany uk
แผ่นก๊อปที่writeจากบ้านหรือจีนนั้นฟังแย่กว่าแน่นอนครับ คุณภาพในการผลิตต่างกันถึงจะเป็นข้อมูลdigitalก็เหอะ

01010101 จะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นหรือแย่ลงได้จากอะไร ใครก็ได้ขออธิบายให้ชัดๆหน่อย

ผมว่าการคัดลอกตัวเลข0กับ1 ที่มันเป็นหลุมบ่อบนแผ่นต้นฉบับ และเอาไปเจาะบนCDอันต่อไป ถ้ามันคัดลอกมาได้เป๊ะ(ซึ่งก็เป๊ะอยู่แล้วเพราะมันคือการคัดลอกไฟล์ดิจิตอล) เสียงไม่ควรจะต่างกันเลยครับ แค่ตอนเขียนแผ่นก็เลือกความเร็วต่ำสุดไว้ เทคโนโลยีสมัยนี้แล้วแค่การเขียนแผ่นไม่ควรมีพลาดสักbitอยู่ล่ะ

นั่นสิครับ ถ้าเครื่องอ่านไม่ห่วยแตกจริงๆตอนริปกับคัดลอกก็ไม่ควรมีปัญหานะ

นั้นซิครับ
จะว่าคุณภาพแผ่น ดูจากแผ่นแท้ ก็ไม่น่าจะแตกต่างอะไร
แต่ที่เห็นชัดๆคือ เก็บได้นาน เพราะแป่นบ้าหอบฟาง ช่วงที่ไม่ได้ฟังก็ทิ้งๆขว้างๆ
พอเอามาฟังก็ยังฟังได้อยู่ แต่แผ่นที่เคย write เก็บไว้ กบับอ่านไม่ได้

010101 ทำไมถึงต่างลองนึกภาพถึง เวลาเราถ่ายเอกสารน่ะครับ มันก็เหมือนต้นฉบับทุกอย่าง แต่รายละเอียดหรือความคมชัดก็ยังสู้ต้นฉบับไม่ได้อยู่ดี

ปล. เปรียบเทียบให้เห็นภาพน่ะครับ ไม่ได้บอกว่ามันทำงานแบเดียวกัน :)

แบบนั้น ในเทอมของไบนารีเรียกว่าแตกต่างนะครับ
คือเป็นข้อมูลคนละชุด คล้ายๆเอาไฟล์wavบีบอัดไฟล์แบบlossy เสียคุณภาพไปเลย
แต่นี่คือเหมือนก็อปข้อความจากวิกิมาเก็บไว้อ่าน ไม่มีการลอกพลาด

ซีดีไรท์กับปั๊มก็คุณภาพต่างกันอีกด้วยเน้อ

ถ้า copy ใน harddisk ลูกเดียวกัน คุณภาพย่อมไม่ต่าง เพราะเป็น digital ทั้งระบบ

คุณภาพของตัว copy จะลดลงตอนที่ผ่านขั้นตอนที่เป็น analog

เช่น ตอนที่ตัวอ่านทำการ detect ว่าข้อมูลบนแผ่นมันเป็น 0 หรือ 1 ... ส่วนนี้เป็น analog คับ

555 เหมือนกับที่เถียงกันมานานเรื่องสาย USB. ถูก กับ แพง ทำไมให้เสียงต่างกัน :)

เหมือนคุณจะเข้าใจพลาดนะครับ
ระบบเสียงทุกขั้นตอนในคอมพิวเตอร์เป็นดิจิทัลหมด ยกเว้นตอนสัญญาณผ่านDACไปยังspeakerหรือheadphoneครับ
เพราะฉะนั้น ไม่มีการเสียคุณภาพ(Generation Loss)เหมือนอนาล็อก
ไม่ว่าจะใช้HarddiskหรือOptical Diskก็ตาม

นอกจาก
1.แผ่นเสื่อมสภาพ(อันนี้โดยทั่วไปจะทำให้อ่านไฟล์ไม่ได้ไปเลยมากกว่า) หรือ
2.ริปเป็นไฟล์lossy1จากแผ่นต้นฉบับ แล้วburnเป็นAudio CD แล้วริปเป็นlossy2
ตัวlossy2 คุณภาพห่วยกว่าlossy1แน่นอน (ถ้าเป็นlosslessจะไม่มีปัญหาตรงนี้)

ส่วนถ้าburnไฟล์เพลงlossyเป็นลักษณะDataลงCD แล้วคัดลอกใส่คอมตัวอื่น อันนี้ไม่มีการเสียคุณภาพครับ

ถ้าเป็นเรื่องคุณภาพแผ่น อันนี้มีผลต่อความสามารถในการรักษาข้อมูลครับ

ผมหมายถึงตอนที่เครื่องอ่านข้อมูลจากแผ่น cd ต้นฉบับจ้า

มันมีเรื่อง Oversampling กับเรื่อง error correction เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วยครับ
สิ่งที่ตามเรื่องแล้ว น่าจะเหมือนกัน เอาเข้าจริง ก็ดันไม่เหมือนกัน
อย่างเช่น สาย Coax ยังมีหลายเกรด
ตามหลักการแล้ว ส่งสัญญานได้ ก็น่าจะเหมือนกันใช่ไหมครับ
แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ดันมีสายที่เสียงดีกว่าจนได้
นี่ยังไม่รวม USB cable เข้าไปอีก
เข้าใจว่า คุณภาพของ dac รวมไปถึง คุณภาพของต้นทางข้อมูล
น่าจะมีผลมากที่สุด

คุณveedemort
การอ่านข้อมูลก็อ่านเป็นดิจิทัลนะครับ แล้วถ้าผิดไปผลก็คืออ่านเล่นไฟล์เพลงไม่ได้(แต่ถ้าเป็นภาพจะมีกรณีที่เปิดได้แต่เสียหายบางส่วน)
ตอนburnก็เช่นเดียวกันคือถ้ามีปัญหาตัวโปรแกรมจะขึ้นerrorและแผ่นมักเสียไปเลย

คุณ dare คับ

ผมคิดว่าตอนที่หัวอ่าน cd รับแสงที่มากระทบ ... ขั้นตอนนี้เป็น analog คับ

จุดนี้แหล่ะที่อาจจะมีการอ่านผิดได้ในบางบิท

:)

สำหรับขั้นตอนที่หัวอ่านของ harddisk แบบจานหมุน ที่ทำการไป detect ว่าตำแหน่งที่อ่านเป็น 0 หรือ 1 ก็เป็น analog เหมือนกัน แต่ถ้าเป็น harddisk สมัยนี้ความแม่นยำสูงมากจนการ detect แทบจะถูกต้อง 100%

ผมคิดว่าส่วนที่เป็น digital คือการประมวลผล input ให้ออกมาเป็น output โดยใช้ logic ของ program คับ

แม้แต่ขั้นตอนการส่งข้อมูลผ่านสายสัญญาน ผมก็คิดว่าเป็น analog

:)

ซื้อแผ่นแท้เถอะครับ สบายใจ ฟังมีมิติ รายละเอียดมาเต็ม ครบครบกว่าแผ่นก็อปครับ แผ่นก็อปรึไฟล์ mp3 320 เสียงมันจะแบนๆแห้งๆ ตามความรุสึกนะครับ

ถ้าพี่ๆที่มีเครื่องเล่น CD พอมีเวลา ลองไรท์แผ่นจากแผ่นแท้ แล้วฟังเทียบกับแผ่นที่ไรท์มา แบบ AB TEST หน่อยครับว่าต่างกันหรือเปล่า อยากรู้จริงๆ สงสัยมานานแล้ว ผมว่าน่าจะเล่นจาก Walkman CD กับหูฟังเทพๆที่เป็นแบบมอนิเตอร์ น่าจะชัดที่สุดแล้ว

CD ไป CD นั้น ขอยืนยันว่าแผ่น Copy เสียงด้อยกว่าครับ
แม้ใช้เพียง Mini compo ธรรมดาก็ฟังออกครับ

ประสบการครั้งแรกคือฟังแผน่ของ Zard ครับ
โดยมีแผ่นแม้ของ Japan อยู่แล้ว และได้ลองซื้อ CDr Audio ของหลายๆ ญี่ห้อมาทำการไรท์
เสียงของแผ่น CD แต่ละญี่ห้อก็ให้ต่างกันไปครับ เช่น Mitsubishi ให้เนื้อเสียงที่หนาเกินต้นฉบับไปนิด รายละเอียดลดลง แต่บางค่ายเบสก็ลดหายไป

ครั้งแรกสมัยนั้นผมยังไม่ได้เล่นเครื่องเสียง มีแค่ Mini compo ของ Sony เครื่อง 9 พันกว่าบาทครับ

ส่วนลองกับเครื่องเสียงที่ใช้กับสมัยนี้ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องหาซื้อแผ่น Master ไม่ได้ ผมไม่มีทางเอาแผ่นไรท์มาฟังเด็ดขาดครับ ถ้าเคยฟังแผ่นแท้มาเพียงครั้งสองครั้ง แล้วได้ลองฟังแผ่นไรท์เมื่อไหร่จะรู้ความต่างชัดเจน แทบอยากปาทิ้ง เหมือนที่คุณเคยลองฟัง LP แผ่นที่เสียงดีๆ มาก่อน แล้วพอมาฟัง CD รู้เลยว่าคนละขุม

โดยรวมไม่มีแผ่นไรท์ไหนที่ได้เสียงดีและเทียบเท่า Master ครับ
และไฟล์ดิจิตอลที่ทำการ Rip มา คุณภาพเสียงก็ไม่เท่า อีกทั้งยังมีเงื่อนไขต่างๆ อีกมากมาย ทั้งคุณภาพของหัวอ่าน รวมถึงการถ่ายโอนไฟล์ในฮาร์ดดิสไปยังแฟลชไดฟ์หรือสื่ออื่น เสียงเปลี่ยนไปครับ

ขออภัยพิมพ์ผิดไปเยอะครับ เช่น ผมมีแผ่นแท้ของ Zard ครับ

ไม่ว่าแต่ละคนจะมีทฤษฏีอะไรมายืนยันก็แล้วแต่ แนะนำว่าให้ลอง AB เทส เป็นการง่ายที่สุดครับ

อีกเรื่องหนึ่ง หลายคนคงยังไม่เคยฟังแผ่น Master แท้ๆ ของป้างชุดดอกเดียว แผ่นที่เกิดจากการมิกซ์ของซาวน์เอ็นจีเนียร์เรื่องชื่อแห่ง Sony

ของบอกว่าแผ่นปั้มที่เราฟังกันอยู่นี้ คุณภาพเสียงด้อยลงจากแผ่น Master ของเอ็นจิเนียร์เยอะครับ น่าจะเพราะคุณภาพของเครื่องผลิต และความเอาใจใส่ของฝ่ายผลิตด้วย