เมียผมกลุ้มมาก เพราะมันไปขึ้นบนกระเป๋าถือของเค้าด้วยน่ะคับ :(

รองเท้าหนังคู่เก่าผมก็ไปเช่นกันเซ็ง ครับ 55........อิ อิ อิ

ลองใช้ "ไฮเตอร์" ดูนะครับ ผมเคยใช้ตอนน้ำท่วมกรุงเทพฯ
ราขึ้นของใช้ที่ถูกน้ำท่วม ใช้อัตราส่วน 1:1 ชุบฟองน้ำแล้วเช็ด
ทิ้งไว้สักครู่ แล้วเช็ดออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งครับ ^^

ใช้ เดตตอล เช็ดทำความสะอาด พอมีแดดก็เอาไปอาบแดดครับ ของผมก็เป็นรองเท้าหนัง กระเป๋า กางเกงยีนส์ หลายอย่างเลย บอกคำเดียวว่าเซ็งมากๆครับ รองเท้าหนังยังเช็ดได้ แต่ต้องซักกางเกงยีนส์นี้เซ็งสุดๆครับ

เช็ดด้วยน้ำเปล่า หรือผสมน้ำยาทำความสะอาดเล็กน้อย(แล้วแต่ประเภทน้ำยา)
แล้วเอาของที่ตากแดดได้ไปตาก
บางอย่างที่โอนแอลกอฮอล์ได้ ก็เอาแอลกอฮอล์เช็ดครับ

อย่าหวังว่ามันจะไม่ขึ้นอีก เพราะตราบเท่าที่เหตุปัจจัยมาบรรจบกัน(ความชื้นสัมพัทธ์ บวกกับสปอร์ของรา)มันก็ขึ้นให้เราเจ็บใจอีก แต่ตอนมีน้อย ให้รีบเช็ด ดีกว่าปล่อยให้มันเยอะ เพราะราที่ขึ้นจนเราเห็นและได้กลิ่น นั่นแปลว่า มันอยู่ในสภาวะแพร่พันธุ์แล้วครับ

ต้องทำซ้ำหลายรอบจนกว่ามันจะน้อยลงครับ

มีจุดนึงที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันคิดคือ ผ้าที่ใช้เช็ดครับ การใช้ผ้าที่สัมผัสรามาแล้ว จะมีสปอร์ของราตกค้างอยู่ ถ้าเราใช้ผ้านั้่น ซักน้ำ แล้วเอาไปเช็ดอย่างอื่นต่อ ก็แปลว่า เราเผยแพร่ราโดยเอาสปอร์ของมันไปละเลงของชิ้นอื่น = =*

ถ้าทิ้งผ้าทุกครั้งที่เช็ดรา ก็หมดเปลืองตาย _่า.... แต่ก็เป็นอย่างอธิบายครับ ความเป็นจริงมักเจ็บปวดเสมอ

มีวิธีหนึ่งคือ ใช้กระดาษซับมันแบบที่ใช้รองของทอดมาเช็ดทำความสะอาดรา และ ถ้าจะให้ดี กระดาษพวกนั้น ต้องเอาไปตากแห้ง และ เผาทำลายครับ เพราะอย่างที่บอกแล้ว มันมีสปอร์ราอยู่ ถ้าเราทิ้งไปเฉยๆ มันก็จะไปแพร่ที่อื่นต่อ ต้องเผาทำลายสถานเดียว ถึงจะลดต้นตอของปัญหาได้บ้าง

มียาหรือเคมีอะไรกันราได้บ้าง....ยากครับ ที่จะมีสารที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่จะกันราได้ เพราะบริษัทเฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ทั้งหลายก็เจอปัญหา ร้านเฟอร์นิเจอร์ก็เจอปัญหา ซึ่งแก้ไม่ตกมาหลายปีครับ อย่างมากมีเคมีที่เอาไว้ทาเฟอร์นิเจอร์ที่จะกันราได้สักพัก แต่ไม่ตลอดไป และไม่มีการยืนยันว่ามันจะไม่มีผลโดยตรง(ไม่ใช่แค่ข้างเคียง)กับมนุษย์

เพราะ...ราจะตายที่ความร้อนกี่องศาทราบไหมครับ 200 องศาเซลเซียสครับ!!!(สองร้อยองศาครับ พิมพ์ไม่ผิดหรอก น้ำเดือดน่ะ ฆ่าราไม่ได้ตายนะครับ อยู่ได้สบายมาก แค่ร้อยองศา จิ๊บๆเลย) แล้วคุณคิดดูว่า ถ้ามีสารเคมีที่ฆ่าราได้ หรือกันราได้ มันจะมีความรุนแรงสักเพียงใด และจะมีผลกระทบกับมนุษย์หรือไม่

คงต้องหาข้อมูลเพิ่มนะครับ อาจมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษภัยมาใช้ได้บ้าง เช่นพวกมะกรูด แต่ คงฆ่าไม่ได้ครับ น่าจะทำได้แค่กัน

หลังจากทำความสะอาดแล้วปล่อยให้แห้งครับ น้ำส้มสายชูเช็ดทีนึง หายไปนานครับ กว่าจะขึ้นอีกที

ลองหาเม็ดดูดความชื้นมาใช้ดูไหม๊ครับ
หลังจากทำความสะอาดรองเท้ากระเป๋า เสร็จแล้ว ใส่กล่องหรือถุงใส่ถุงไว้ แล้วเอาเม็ดดูดความชื้นแพ็ค ใส่ลงไปด้วย เห็นพวกที่เล่นกล้องหรือไฟฉาย เค้าใช้กันครับ

ข้อมูลคุณเหน่งบา น่าสนใจมากๆครับ คงต้องไปสำรวจในบ้านบ้างแล้ว แล้วจุดดำๆที่กางเกงใน นี่ใช่เชื้อราหรือเปล่า (ขอโทษด้วย แต่สงสัยจริงๆ) มีผลอะไรกับน้องชายเรามั๊ย
ขอบคุณครับ
Pasu

นอกจากจะทำความสะอาด หารอยรั่วของน้ำที่เข้าบ้านดูด้วย

และหาซื้อ มิเตอร์วัดความชื้นมาติดไว้เพื่อดูว่าความชื้นสูงแค่ไหนละ