ฝรั่ง มักจะเล่าให้ลูกฟังถึงที่มาของน้องคนใหม่ แทนที่จะบอกตรง ๆ ว่าน้องมาจากไหน สงสัยว่าทำไมต้องเป็นนกกระสา???? เพื่ออธิบายการปรากฏตัวขึ้นของทารกคนใหม่ในบ้านบรรดาคุณแม่ชาวสแกนดิเนเวียจะบอกกับลูก ๆ ว่า นกกระสาส่งน้องเล็กมาให้ และเพื่อให้แม่ได้มีโอกาสนอนพักในเตียงมาก ๆ ลูกก็จะได้รับคำบอกเล่าด้วยว่า ก่อนที่นกกระสาจะกลับไป มันกัดขาของคุณแม่ด้วย ความจำเป็นที่ต้องแต่งเรื่องขึ้นเพื่ออธิบายให้เด็กเล็กในบ้านหายข้องใจว่า น้องคนใหม่มาจากไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่แม่คลอดลูกเองที่บ้าน เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่ก็มีข้อสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นนกกระสาด้วยเล่า จากการศึกษาธรรมชาติของนกกระสาและนิสัยชอบทำรังเหนือปล่องไฟบนหลังคาบ้าน นักธรรมชาติวิทยาชาวสแกนดิเนเวียพบว่า ตลอดช่วงชีวิตของนกกระสาซึ่งยืนยาวถึง ๗๐ ปีมันจะกลับมาทำรังที่ปล่องไฟเดิมเป็นประจำทุกปี นกกระสาเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว ลูกนกกระสาที่โตเต็มที่แล้วจะเอาใจใส่ดูแลระวังภัย รวมทั้งหาอาหารให้แก่พ่อแม่ ชาวโรมันโบราณ รู้สึกประทับใจในความกตัญญูของนกกระสามาก ถึงกับออกกฎหมายฉบับหนึ่งบังคับใช้ เรียกว่า “ กฎหมายนกกระสา stork|s law กำหนดให้บุตรหลานต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูบิดา มารดาเมื่อเข้าสู่วัยชรา ด้วยลักษณะนิสัยอันอ่อนโยนดีงาม ผนวกกับธรรมชาติของมันที่ชอบทำรังบนปล่องไฟตามบ้านคน ทำให้นกกระสาเป็นสัตว์ที่เหมาะสมที่สุด ที่จะนำทารกใหม่ลงทางปล่องไฟมาส่งให้แก่คุณแม่ ตำนานโบร่ำโบราณนี้แพร่หลายอยู่ทั่วไปในสแกนดิเนเวียมานานหลายศตวรรษ แต่เพิ่งมาเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในศตวรรษที่ ๙ โดยผ่านเทพนิยายของ ฮันส์ คริสเตียนแอนเดอร์เซน นักเขียนชาวเดนนิช “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”