
สวัสดีครับ วันนี้มาเล่าเรื่องเครียดๆๆ ขำๆๆ ให้ฟังกัน ซึ่งปกติเรามักจะรีวิวหูฟังกัน แต่วันนี้มารีวิวการสวนก้น หรือสวนตูดกันดีกว่าครับ 555 ท่านใดที่รู้สึกว่ารีวิวอันนี้จะทำให้เสียวลงไปถึงรูก้นอันแสนหวงแหนของท่าน ขอให้รีบคลิกปิดทันทีครับ ปิดแล้วขอให้มุ่งตรงเข้าไปห้องน้ำแล้วลองสำรวจขี้หรืออุจจาระของท่านกันมั่งก็แล้วกัน อย่างน้อยบทความรีวิวบ้าบอเกี่ยวกับการสวนก้นของผม คงมีประโยชน์และมีแง่มุมดีๆๆ มั่งล่ะ(วะ) 555
ผมเองมีอาการเจ็บจิ๊ดๆๆ ตรงบริเวณรอบๆๆ พุงมาเป็นเวลาแรมปี (คือเกือบปี) มันมักจะเจ็บจิ๊ดๆๆ บางทีมันก็เจ็บตู๊ดๆๆ (บรรยายไม่ถูกล่ะ) เจ็บเป็นเสียงทุ้ม เจ็บเป็นแบบเสียงแหลม 555 บางทีมันเจ็บเป็นจังหวะร็อค บางทีก็เป็นแจ๊ส เอาเป็นว่ามันเจ็บบริเวณท้องข้างๆๆ สะดือ ซึ่งเจ็บแบบตื้นๆๆ และไม่ได้เจ็บมากมาย หรือทรมานอะไร แต่ดันสร้างความกวนใจให้กับผมก็คือ มันทำให้หงุดหงิดเล็กๆๆ ซะมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการทำความชั่วแต่อย่างใด
ผมไปหาหมอที่ศิริราช เล่าให้หมอฟัง หมอกดท้องจนยุบไปถึงข้างหลังอยู่หลายสิบกระบวนท่า แล้วหมอบอกว่า ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกนะ อาจจะเป็นแค่ลมในท้องนิดหน่อย ....ลองอัลตร้าซาวด์แก้เซ็งไม๊ล่ะ แต่มองไม่เห็นลำไส้หรอกนะ เอาล่ะซิ....ของกล้วยๆๆ อัลตร้าซาวด์ไม่เจ็บนี่หว่า แค่เอาอะไรเย็นๆๆ ทาเจลแล้วมากลิ้งแถวๆๆ ท้อง ของกล้วยๆๆ พรรค์นี้ได้เลย 555 ผมก็ไปทำอัลตร้าซาวด์ ปรากฏว่าตามฟอร์มครับ....คือทุกอย่างปกติ และก็ไม่เห็นอะไร ผมบ่นกับหมอ แล้วนี่ต้องทำไงต่อล่ะ......
หมอบอกว่า...อาการของผมน่ะ ไม่เข้าข่ายของหนัก ถ้าเป็นพวกของหนัก (พวกมะโรง มะเส็ง) ต้องมีอาการท้องผูก ปวดท้อง ถ่ายเหลวสลับกับถ่ายไม่ออก และขี้ควรจะเป็นสีดำ หรือมีเลือดเสียปน...อ้อ น้ำหนักควรจะลดด้วย และขี้ควรจะเหม็นเหมือนกลิ่นเหล็ก สลับกับเหม็นมากๆๆ หรือขี้ตัวเองควรจะมีขนาดลีบเล็กกว่าเดิมอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง......นั่นไง ว่าแล้ว แต่ละอย่างที่หมอบอกมา ผมเองอาการไม่ค่อยจะคล้ายนัก แต่ด้วยความอยากจะให้มันรู้แล้วรู้แรดไปเลย ก็ถามคุณหมอว่า....ถ้าอยากจะรู้เรื่องไปเลย ต้องทำไงดีครับ....
สวนตูด !!!! คุณหมอฟันธงให้ทันที......
"คุณมั่นคง คุณต้องสวนตูดเท่านั้น เอาเบาะๆๆ แค่สวนด้วยแป้งแบเรี่ยม"
เจี๊ยกๆๆๆ ผมพยายามต่อรองกับหมอ บอกว่าก้นของผมยังไม่เคยถึงขั้นโดนวัตถุแปลกปลอมเข้าไปภายในก้น..พอจะมีหนทางไหนมั่ง ที่หลีกเลี่ยงการสวนก้น หมอบอกว่า...ไม่ได้หรอก ไม่งั้นคุณมั่นคงก็จะบ่นอยู่ร่ำไป เอาให้มันรู้เรื่องไปเลย ผมกลืนน้ำลายเอื้อก กลัวก็กลัว เสียวก็เสียว ในใจก็คิดว่า เอาวะ...มันอาจจะเพลิดเพลินก็ได้ ผมพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง.....
ผมกลับบ้านพร้อมกับน้ำมันละหุ่งขนาด 50 ซีซี 1 ขวด หมอบอกว่า ตบเปล่าๆๆ ไม่ต้องน้ำแข็ง ไม่ต้องโซดา รสเฝื่อนๆๆ หน่อย พร้อมกับกำชับให้ผมเตรียมตัวก่อนมาสวนก้นล่วงหน้า 2 วัน ด้วยการกินอาหารเหลวๆๆ อาหารอ่อนๆๆ หรือพวกข้าวต้ม แต่ข้าวต้มที่ต้องไปกินตอนเธคเลิก แบบนั้นก็กินไม่ได้อีกเช่นกัน...เฮ้อ 555 พอถึงวันกำหนดกินน้ำมันละหุ่ง ผมตบรวดเดียวเพียวๆๆ ไม่ต้องมีกับแกล้ม ไม่ต้องมีคนคอยชงให้ 555
แหวะ ๆๆๆๆ รสชาติไม่ได้เรื่องเลยครับ ผมยังคิดอยู่ในใจ ใครหนอช่างฉลาดดีแท้ เลือกน้ำมันละหุ่งเพื่อใช้เป็นยาระบายได้อย่างแยบยลเช่นนี้ คืนนั้น ผมกินน้ำมันละหุ่ง พร้อมกับเดินป้วนเปี้ยนแถวๆๆ ห้องน้ำ อาการคล้ายๆๆ เสือโคร่งที่เขาดิน ที่มันเดินวนไปวนมาอยู่ในกรงนั่นแหละ ปรากฏว่า คืนนั้น จัดไป 5 รอบด้วยกัน ขี้ไหลเป็นน้ำ พรวดๆๆๆๆ เหมือนเปิดก๊อกน้ำ ให้น้ำมันไหลออกรูเล็กๆๆๆ การถ่ายเป็นน้ำแบบนี้ มันให้ฟิลลิ่งดีกว่าฟังหูฟัง inear ตัวละเป็นหมื่นๆๆ ซะอีก 555
เช้าตรู่ ผมไปกับภรรยาสุดที่รัก (ก็คนเดียวนั่นแหละ) ...ไปถึงก็ลุยดุ่ยๆๆ ไปยื่นบัตร พร้อมกับนั่งรอเรียกชื่อ ...แล้วก็ถึงคิวผมจนได้ คุณมั่นคงคะ...เชิญมาทางนี้สวนน้ำเปล่าล้างลำไส้ก่อนค่ะ...เอาล่ะวะ เรียกกินออเดิฟก่อนเลยเหรอเนี่ย 555 ผมนึกในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เดินตามพยาบาลต้อยๆๆ เข้าไปในห้องเตรียมการตรวจ ผมแปลกใจมาก พยาบาลที่รับอาสาสวนก้น ทำไมหน้าตาถึงเหมือนกันหมด คืออ้วนๆๆ มีอายุ และที่สำคัญคือหาที่หน้าตาไปงานบุญงานกฐินแทบไม่ได้ 555
แล้วก็นึกหาเหตุผลให้ตัวเอง...ถ้าการสวนลำไส้ หรือสวนก้น สวนตูด หรือสุดแท้จะเรียกว่าอะไรก็ตาม ถ้าดำเนินการโดยคุณพยาบาลที่น่าเอ็นดู หรือจิ้มลิ้มพริ้มเพรากว่านี้ ผมว่าขวัญและกำลังใจของคนไข้น่าจะดีขึ้นโดยถ้วนหน้า เอ้าช่างมัน....ผมมาสวนตูดนี่นา ไม่ได้มาขอเมีย หรือมาหาเมียน้อยนี่หว่า 555 คุณพยาบาลบอกให้ผมนอนตะแคง ลืมบอกไปตอนนั้น ผมใส่ชุดฟ้าๆๆ กางเกงในถอดออกหมดแล้ว พยาบาลบอกผมเบาๆๆ ว่า ให้นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้.......
จ๊ากกกก...555 ผมพูดเอาเองครับ คุณพยาบาลบอกว่า เดี๋ยวจะสวนน้ำเปล่าล้างลำไส้ ถ้าปวดท้องถ่ายเมื่อไหร่ขอให้บอก ผมนอนหันหลังตะแคงก้น โดยไม่เห็นหน้าพยาบาลแต่อย่างใด...
แล้วจู่ๆๆๆ ก็มีวัตถุแปลกปลอมจิ้มพรวดเข้าไปในก้นผม โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว หรือทำใจไว้ล่วงหน้า มันแค่เสี้ยววินาทีเองครับ มันจิ้มและมุดควงสว่านเข้าไปในรูก้นของผม มันเร็วยิ่งกว่าหมัดของนักมวยแชมป์โลกอย่างมูฮำเหม็ด อาลี ซะอีก และผมหมดโอกาสใช้ลีลาการหลบหลีกของสามารถ พยัคฆ์อรุณซะด้วย คือนอนยิ้มแหง๋แก๋ โดนสวนก้นนับ 1 ถึง 8 กันเลยล่ะ.....จบขั้นตอนแรก พยาบาลบอกผมว่า เดี่ยวจะถึงขั้นตอนการสวนแป้งต่อแล้วนะคะ
เฮ้ย....มันสวนกันหลายขั้นตอนหรือนี่ ????? โอยๆๆๆ ปอเต๊กตึ๊งอยู่ไหน มารับผมไปเลยดีกว่า อย่าให้ผมทรมานใจไปกว่านี้อีกเลย 555 เอาน่า เมื่อกี๊ก็โดนไปแล้ว 1 ดอก จะโดนสวนต่ออีกซักดอกสองดอกจะเป็นไรไป....ผมทำใจ และเตรียมตัวเดินเข้าสู่ตะแลงแกง เอ๊ย เดินเข้าสู่ห้องวิเคราะห์ด้วนการสวนแป้งแบเรี่ยม.....
หนักกว่าเมื่อกี๊อีก ตอนแรกเป็นพยาบาลร่างอวบอ้วน แต่ไหง๋คราวนี้เป็นเทคนิคการแพทย์ร่างกำยำขนาดนั้นล่ะ ตายๆๆๆ แน่กู ผมนึกในใจ ในห้องมีพยาบาลอยู่ 2-3 คน แต่ดูเหมือนจะดูอยู่ห่างๆๆ ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญร่างยักษ์ปักหลั่น น้ำหนักเกือบร้อยโล เป็นคนสวนก้นผม และที่สำคัญ ผมโดนรุม !!!! ผมเหลียวมองรอบๆๆ แล้ว มีกลุ่มชายฉกรรจ์จะรุมสวนก้นผมไม่ต่ำกว่า 3 คนขึ้นไป...
ผมหมดทางเลือก เดินขึ้นเตียงที่มีเครื่องอะไรก็ไม่รู้เลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้ เป็นเหล็กทะมึน ใหญ่ท่วมห้อง สายไฟยั้วเยี้ยมันคงไม่ใช่ตุ้เพลง หรือลำโพงที่ฟังแล้วมีความสุขหรอกครับ แต่มันดันเป็นเครื่องเอกเรย์การสวนแป้งนั่นเอง ผมจำได้ว่า เกิดมาก็เพิ่งมาว่านอนสอนง่ายตอนนี้ล่ะ....เทคนิเชี่ยล สั่งให้ผมพลิกท่าโน้นท่านี้ หงายไปทางซ้าย เดี่ยวก็หงายไปทางขวา....บางทีก็ปรับเตียงให้มันเทลงให้ผมหัวปักลงไปเล่นๆๆ ปากก็ชมเปาะว่า สวยๆๆๆๆ ผมคาดว่า เค้าไม่ได้ชมว่าก้นผมสวยหรอกนะ แต่คงเป็นการชมหลังจากที่เห็นภาพของแป้งมันวิ่งไหลขึ้นไปลำไส้ด้านบนๆๆ ซะมากกว่า 555
ผมกลับจากโรงพยาบาล พร้อมกับลมเต็มท้อง เพราะการสวนแป้งนั้น เป็นการเอาวัตถุที่ทึบแสงหยอดอย่างบรรจง (ผมว่าไม่บรรจงเลยนะ) แล้วใช้อากาศปั๊มเข้าไปในรูทวารของเราด้วย เพื่อเป็นการสำรวจแบบรายการ Explorer หรือรายการสำรวจโลกประมาณนั้น มีการถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อนหยอดแป้งขนมครก กับหลังจากการหยอดแป้งขนมครกเข้าในก้น ไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเป็นบันทึกประจำวัน เพื่อจะได้จับผมส่งฟ้องศาลที่ยมโลก....ในกรณีที่ผมทำความผิดไว้ในชาติก่อน..555 เฮ้อ
2 วันผ่านไป มีเพื่อนๆๆ หลายคน โทรมาถามไถ่ ว่ารู้ผลการชกหรือยัง จะมีหวังได้กินข้าวต้มงานฉลองโลงจำปาของผมหรือเปล่า...555 ตั่วปุ๊ยคนนึงล่ะ ที่เป็นห่วงผมมาก เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีคนร่วมก่อกรรมทำบาปด้วยหรือไงทำนองนั้นแหละ 55 แล้วผมก็ไปตามนัดเพื่อรับซองเอกซ์เรย์ และต้องนั่งรอหมอเป็นคนแจ้งผล ผมแอบเปิดซองน้ำตาล ในนั้นมีซองกระดาษยัดคำวินิฉัยของหมอไว้ 1 แผ่น มันแลดูคล้ายซองขาวที่เค้ามักจะเอาไปใส่สตางค์ช่วยงานศพยังไงชอบกล
ผมพยายามอ่าน อ่านออกมั่งไม่ออกมั่ง เพราะบางคำก็เป็นภาษาหมอ และบางคำถึงไม่เป็นภาษาหมอ คนซื่อบื้ออย่างผมก็อ่านไม่ออกอยู่นั่นเอง 555 ผมรอหมออยุ่นานสองนาน...พอถึงคิว ผมก็โผล่หน้าเข้าไปสวัสดีหมอ พร้อมกับลุ้นในใจว่า กูจะถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่เท่าไหร่วะเนี่ย....ในใจนึกว่า ถ้าจะโดน ก็ขอแค่เลขท้าย และถ้าเป็นเลขท้ายก็ขอแค่เลขท้าย 2 ตัวก็แล้วกัน อย่าให้ลูกช้างต้องถูกรางวัลที่ 1 กินป๊อกด้วยเลย...
หมอทำหน้าเครียดๆๆ แล้วบอกกับผมด้วยหน้าตาที่ดุๆๆ แถมออกแววตาด้วยการขู่ด้วยว่า....มั่นคง คุณไม่เป็นอะไร กลับบ้านได้...ผมนึกในใจ เฮ้ย..หมอ แล้วที่ผมยังเจ็บจิ๊ดๆๆ อยู่จะทำไงล่ะ หมอดุผมต่อ พร้อมกับบอกว่า คุณปกติทุกอย่าง แต่ไอ้เรื่องเจ็บจิ๊ดๆๆ ของคุณน่ะ หมอว่าเลิกสนใจมันไปเลยดีกว่านะ
ไปได้แล้ว...หมอออกปากไล่.....ผมยกมือสวัสดีพร้อมกับรีบออกก่อนที่จะโดนเท้าคุณหมอ และโดนเท้าของคนที่นั่งรอคิวตรวจอยู่ ผมเดินออกมาพยักหน้ากับแฟนว่า ไปกลับบ้านกันดีกว่า ต่อแต่นี้ไป ไอ้อาการที่ทำให้เรากังวลมันได้หมดลงไปแล้ว...ต่อแต่นี้ไปลูกช้างจะก้มหน้าก้มตา สร้างแต่ความดี...
555
หลังจากที่รีวิวหูฟังให้เพื่อนๆๆ อ่านจนเบื่อ ก็มารีวิวเล่าเรื่องแบบนี้ให้อ่านกันบ้างล่ะครับ
ท่านใดที่ไม่เคยสังเกตุสังกาตัวเอง ก็ขอให้เริ่มต้นดูแลตัวเอง สังเกตุตัวเรานี่ล่ะครับ มีอะไรที่ผิดปกติไปกว่าเดิมมากไม๊ หรือถ้ามีความคิดว่าจะเป็นอะไร ถึงจะเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย ก็ขอให้ไปตรวจตรา เช็คลมยาง น้ำมันเครื่อง หัวเทียน ให้สม่ำเสมอ แล้วร่างกายเราก็จะอยู่รับใช้เราไปได้อีกนานพอควรล่ะครับ
หลังจากอ่านรีวิวการสวนตูดฉบับติงต๊องแล้ว ขอให้ท่านก้มหน้าลงไปสังเกตุก้นของท่านบ้าง
เพียงนิดนึงก็ยังดี
555
ขอได้รับความขอบคุณ จาก นายมั่นคง (ผู้โดนสวนก้นไปแล้ว)
555