เอ้า เดี๋ยว ไปลองดู มั่ง ครับ ขอบคุณ ครับ ลุงเปี๊ยก .....................อิ อิ อิ

พี่ชิมลองด่วนๆๆคร๊าบบบ...

จากที่เคยลองมา ตามคำแนะนำของลุงเปี๊ยก เมื่อ (ค่อนข้าง) นานมาแล้วครับ...
แต่ว่าผมได้ลองใช้แผ่น DVD ที่เบิร์น MP3 ไว้ (ที่ Bit Rate ตั้งแต่ 128 - 320 kbps โดยใช้เครื่องเล่น DVD ยี่ห้อ Philips จำชื่อรุ่นไม่ได้ (แต่ซื้อมาถูกๆ ประมาณ 2 พันกว่าๆ) ส่วน Output ก็เป็นแค่ โทรทัศน์ธรรมดาๆ ยี่ห้อ Sharp 21" ...

ผลที่ได้...
เนื่องด้วยความห่วยของ Source, Output และสายสัญญาณ (ที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์) ผมก็ไม่อาจสรุปได้ว่าสียงที่ผมเคยได้ลองฟังนั้น ดีจริงๆ หรือเปล่าครับ (แต่จากความรู้สึกก็คงขอตอบว่า... ห่วยครับ) ซึ่งถ้าหากว่ามีเวลาและโอกาสจะได้ไปลองเอาหูฟังเสียบกับเครื่องเล่นจริงๆ จังๆ สักครั้งดูครับ...

อันนี้ผมก็โม้ไปเรื่อยเปื่อยตามความรู้สึกของผมนะครับ... ไว้รอพี่ชิมมาทดสอบดีกว่า.... (อย่าเชื่อผมเลย)

เย้...สวัสดีครับเฮียเปี๊ยก 555

วิธีการนี้สงสัยต้องให้พ่อหมอผีเป้นผู้ทดสอบเห็นจะดีล่ะ เพราะแกเป็นคนที่เก็บรายละเอียดเก่งมากๆๆ เลยครับ และน่าจะมีอุปกรณ์ที่ใช้อ้างอิงได้ดีกว่าเราๆๆ ท่านๆๆ แยะล่ะ

เอ้า ตาชิมอยู่ไหน ช่วยทดลองแล้วรายงานให้เพื่อนๆๆ ทราบด้วยล่ะ 555

เหอๆ... ได้ครับผมเดี๋ยวจะลองดู ขอซัก 2-3 วันละกันจะมาบอกความต่างให้ครับผม...

เหตุผลที่ผมคิดว่า แผ่นดีวีดี อาจจะให้เสียงได้ดีกว่า เพราะเทคโนโลยี่ที่ใหม่กว่าซีดีถึง ๒๐ กว่าปี ทั้งเทคโนโลยี่ของการสร้างแผ่น และลำแสงที่ใช้อ่านดีวีดี ซึ่งแผ่นขนาดเท่ากันแต่มีความจุสูงกว่ากันถึงแปดเท่า ความแหลมคมและแม่นยำในการอ่าน น่าจะเหนือชั้นกว่าระบบของซีดีเป็นแน่

แต่ก็นั่นแหละ เป็นการใช้ตรรกะแบบคาดเดาล้วน ๆ ต้องรอให้คุณชิมได้ทดสอบก่อนล่ะครับ

ถ้าจะให้แน่ชัดเรื่องคุณภาพเสียง หากทดสอบด้วยเครื่องที่มีดิจิตอลเอ้าท์เหมือนกัน แล้วเอาสัญญานดิจิตอลทั้งสองนั้นมาเข้า DAC ตัวเดียวกัน ผลที่ได้จะแม่นยำและสามารถใช้อ้างอิงได้ด้วยครับ

ขอบคุณคุณชิมล่วงหน้าครับ

ผมว่าลองอย่างเดียวไม่พอครับเฮียเปี๊ยก....

ควรให้ตาชิมทำเป็นรายการการวิจัย แบบสถาบันคิงส์คอลเลจ ที่เค้าวิเคราะห์และวิจัยซุปไก่สกัดน่ะครับ


555

เด๋ววันเสาร์ อาทิตย์ ไปลองบ้างดีกว่า

เหอๆ...แหม พึ่งไรท์ แผ่นเสร็จครับ ทำมา 2แผ่นตามคำแนะนำ คือ 1 DVD และ 2 CD ไรท์ แบบ 4X ทั้ง2แผ่น แผ่น DVD เป็นของ sony DVD-R 120min accuCORE ver. 2.1 1-16X ส่วน CD เป็นของ Kodak CD-R Ultima 80 Silver+Gold 1-8X 80min
เครื่องที่จะเอามาทดลองคือ Denon DVD A-1 ผลเป็นไง ระรีบรายงานครับ..........

แหม ไม่ขนาดนั้นครับ เอาเป็นว่าแบ่งปันความคิดเห็นกันดีกว่า ตามความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคนดีกว่าเพราะ ไงๆทุกคนก็ฟังไม่เหมือนกัน ผมจะพูดในมุมของผม ส่วนใครมีมุมอื่นที่แตกต่างเราก็ มาคุยกันน่าจะดีกว่า จะได้มีความคิดที่หลากหลาย ครับ.........

พี่ชิมตั้งสถาบันหูฟังแห่งชาติเลยครับ

ไม่ไหวมั้ง...........เหอๆ..

ท่านที่มีเครื่องเล่น DVDที่เล่นแผ่นDVD AUDIOได้แนะนำให้ใช้โปรแกรม AUDIO DVD CREATOR นะครับ สามารถไรท์แผ่นโดยเลือก audio formatเป็น pcm ที่ความละเอียด 24bit 96Khzหรือ 192เลยทีเดียว เวลาเราฟังกับเครื่องเล่นDVD แผ่นที่เราไรท์เสียงจะมีรายละเอียดที่สุงขึ้นครับ เพราะ DVD-AUDIOให้ไดนามิกเรนจ์ที่กว้างมากๆครับ(ปกติไรท์ลงDVDก็upเป็น48Khzได้อย่แล้ว)

มาแล้วคร้าบบบบบ...

ในการทดลองนี้ ผมจะไม่พูดถึง แผ่นมาสเตอร์ แล้วเอาซีดีมาไรท์ เพราะถือว่าห่างกันเยอะ ดังนั้น ก็จะเทียบระหว่าง2แผ่นนี้ที่ได้ทำการไรท์ออกมาเท่านั้น มาจากข้อมูลเดียวกัน ทุกอย่างได้ทำการเทสต์ จากซิสเต็มเดียวกันทั้งหมด ทั้ง 2 แผ่นนี้ใช้เวลาฟังแผ่นละ 1.30 ชม.ในการทดสอบครับ

หลังจากที่ได้ลองฟังจากทั้ง 2 แผ่น

แผ่นดีวีดี
เสียงโดยรวมถือว่าโอเค แต่เสียงมันค่อนข้างลอย หัวโน้ตจะเน้นมาก คม แข็ง ฟังแล้วเตะหูได้ดีทีเดียว แต่ถ้าฟังนานๆ ก็จะเบื่อง่ายเหมือนกัน ส่วนเลเยอร์ของตำแหน่งถือว่าไม่มีเลย เสียงค่อนข้างเป็นระนาบ รวมกันไปหมด เพราะค่อนข้างจะเน้นทุกเสียง น่าจะเกิดจากการเน้นหัวโน้ตมากเกินไป และข้อเสียอย่างมากที่สุดของแผ่นนี้ก็คือ ไม่มีบรรยากาศเลย (หายโม้ดดดดดดดดดด)

แผ่นซีดี
เสียงค่อนข้างอิ่ม หนา บรรยากาศใช้ได้ ตำแหน่งใช้ได้ ข้อเสียคือ หัวโน้ตบาง ควบคุมอิมแพคไม่อยู่ ออกสไตล์ ฟุ้งๆ เบลอๆ เสียงจะล่นถอยไปด้านหลังมากกว่า ซึ่งจะถือว่ามากเกินไป ส่วนเลเยอร์ของเสียงถือว่าดี เสียงไม่เป็นที่เตะหู ด้วยความที่เสียงมันออกจะเบลอ เลยทำให้ฟังแล้วเหมือนเสียงไม่ชัด แต่ถ้าฟังซักพัก ผมว่ามันจะฟังเพลินกว่า ดีวีดี

ถ้าให้เลือกระหว่าง 2 แผ่นนี้ ในลักษณะการฟังของผม ผมชอบที่จะฟังแผ่นที่เขียนจากซีดีมากกว่าครับ

** นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ามีใครได้ลองเมื่อไหร่ ก็เข้ามานำเสนอความเห็นกันได้เลยนะครับ เผื่อมีมุมอื่นที่เห็นกันต่างไป ก็มาคุยกันครับ

อะจึ๋ย... พลิกล็อก

ขอบคุณครับ เป็นว่าไอ้ที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ว่า เสียงมันต่างกันนั้นมันต่างกันจริง ๆ แต่ว่าเสียงจากซีดีในทัศนะของคุณชิมมันดีกว่าชนิดไปอีกฟากหนึ่งเลย เอาละซิ ทีนี้จะคิดยังไงต่อดี

เหอๆ อย่าเชื่อผมครับ.......... ผมไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา รอคนอื่นที่ได้ลองมาบอกด้วยจะดีกว่าครับ....

ฮ้า...ต้องหาทางลองกับเค้ามั่งล่ะ 555

อย่าไปหลงประเด็น กับ ขนาดของไฟล์ bit rate หรือ SRC [sound rate conversion]

เสียงที่เราฟัง ยังไง ก็เป็น analog อันนี้ที่บอกมาเพราะให้สนใจ ไปที่ origin source

การใช้ conversion กลับไปกลับมา อย่าลืม ว่า ความเพี้ยนที่เกิดขึ้นในการแปลงรูปแบบของ software

ในที่นี้ ก็คือเพลงที่ฟัง ดังนั้น ผลจึงเป็นเช่นนี้แล