"ประสบการณ์" ครับ เป็นประสบการณ์ในการฟังอาศัยฟังไปเรื่อยๆ หลายๆแบบ จับอันนี้เทียบอันโน้น แล้วเราจะเริ่มรู้ถึงความแตกต่าง ส่วนสเกลที่พูดเทียบทั้งหลาย ผมว่ามาจากการคาดคะเนของแต่ละบุคคลอ่ะครับ

แต่ก่อนผมก็เคยเป็นแบบ แยกอะไรไม่ออกเลย มาอ่านศัพย์หูฟังกับเพื่อนแล้วขำ เสียงแหลมทอดไกลงี้ เบสเป็นลูกงี้ เดี๋ยวนี้ก็เข้าใจอะไรบ้างขึ้นแล้วครับว่ามันใช้ความรู้สึกที่รับรู้ส่วนตัวจิงๆ

ของแบบนี้ต้องลองด้วยตัวเองคับ ส่วนเรื่องที่เข้าใจความหมายของ ศัพท์ในวงการหูฟัง นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้กันเอง

ในกระทู้เก่าๆ ก็มีที่เฮียกับเพื่อนๆ ในบอร์ดเค้าสรุปกันไว้คับ ลองหาอ่านดู

การที่มีคำศัพท์พวกนี้ ... สำหรับผมทำให้เวลาเข้ามาอ่านในบอร์ด สนุกมากขึ้นเยอะคับ

ยิ่งฟังเยอะยิ่งเข้าใจอะไรเยอะด้วยครับ แบบว่าตอนแรกๆก็แค่ความรู้สึก แต่ฟังไปเยอะๆบางครั้งก็จะสามารถบรรยายได้เองครับ

เสียงกลางถอยหลังก้าวนึง เดินหน้าสามก้าว 555+
ถ้าเป็นคนเมา จะเดินหน้าสองก้าว ถอยหลังสามก้าว ไม่ถึงบ้านซักที 555+

นั่นสิ ผมก็งงๆ สงสัยบางท่านเก่งจริงๆยอมรับเลย หูผมแยกได้แค่ ดัง/เบา กว้าง/แคบ

สูง กลาง ต่ำ แหลม ทุ้ม แค่นั้นเองครับ ไม่ถึงขั้น พริ้วเป็นประกาย หวานละมุน อะไรทำนอง

นั้น

ตะก่อนนะผม อ่านคอมเม้นท่านนึง เขาบอกหูฟังนี้โทนเสียงอบอุ่น ผมเลยลองไปหาซื้อดู แล้ว

ตอนนั่งฟังก็ถอดเสื้อ เปิดแอร์ 20 องศา นั่งฟังดูอยู่ 1 ชม กว่า .....แม่x หนาวชิบ

ฟังเสร็จเป็นหวัดต่อ เหอๆ

ส่วนตัวจะมีไฟล์เพลงประจำประมาณ 10เพลง คุณภาพไฟล์ดีที่สุดเท่าที่หาได้ เน้นไปแนว classic , jazz มี Electronic บ้างเพราะชอบส่วนตัว

ก็คงหัดลองฟังเสียงแต่ละย่าน สังเกตุชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นไปเรื้อยๆจนชิน

ทีนี้ก็ลองฟังหูฟังหลายๆตัวตามงาน ตามห้าง ตามร้าน(เนียนไปเรื้อย) ลองหูฟังตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างใน review ตามบอร์ดต่างๆ เก็บข้อมูลไปเรื้อยๆ ก็น่าจะช่วยได้เยอะนะครับ เพราะหูฟังแต่ละตัวมันโดดเด่นต่างกันไป เช่นคำว่า แหลมด้วนหรือกุด ค่อนข้างเห็นผลเลยกับหูฟังบางตัว หรือเบสที่เน้นแต่ปริมาณกับเบสที่เน้นรายละเอียดอันนี้เห็นชัดเจนเหมือนกัน แต่มันเกิดจากประสบการณ์การฟังหูฟังมาหลายๆตัว เพราะที่เท่าที่อ่าน Review จะมีการอ้างอิงหูฟังตัวอื่นเพืื่อให้เข้าใจเห็นภาพมากยิ่งขึ้น

มันก็มั่วตามๆกันไปเรื่อยหละครับ ผมก็เหมือนท่านเจ้าของกระทู้แหละครับ แค่ฟังแล้วชอบ ไม่ชอบแค่นั้นพอแล้วท่าน

ใจหู ใจเรา ฟังใครเขาพูด ก็ไม่ได้แปลว่าเราชอบ

ถ้ามีคนถามว่าไม้ยาว 2 เมตรยาวไหม
เราคงตอบไม่ได้ถ้าไม่เคยเห็นไม้ยาว 1 เมตร
ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ เพราะทั้งหมดคงต้องอาศัยประสบการณ์ล้วนๆล่ะครับ

เข้ามาฮาคห.5 ครับ ฮาแตกเลยครับ นั่งฮาคนเดียว 555!


ฟังไปเรื่อยๆเท่านั้นเองครับ เเล้วจะสัมผัสได้ว่ารูปร่างลักษณะเสียงนั้นเป็นยังไง เบสเป็นเสียงที่ผมจับได้ เข้าใจเป็นอันดับเเรกเลยครบั^.^

ผมก็แยกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่วนใหญ่ก็ได้ กว้าง แคบ แยกชิ้นดนตรี

เบสตอนนี้เริ่มแยกออกระหว่าง deep กับ impact

ส่วน ย่านเสียงอันนี้ ฟังไม่ออกจริงๆ ครับ

ถ้าอยากแยกแยะเป็นไวๆ ผมแนะนำให้เอาหูฟังถูกๆ มาฟังด้วย หลายๆตัวหน่อย เพื่อเทียบกับหูฟังแพงๆ จะได้รู้ว่า แหลมด้วน แหลมไกล แหลมแทงหู มันเป็นอย่างไร หูฟังถูกๆ บางตัวทำเสียงย่านกลางต่ำไปถึงเสียงต่ำได้ใกล้เคียงกับหูฟังแพงกว่ามันสิบเท่าตัว แต่ส่วนมาก เสียงกลางสูงไปถึงเสียงสูง มักจะไม่ดี ไม่ด้วนก็บาดแทงหู หรือไม่ก็ปลายสาก

ผมว่าการแยกเสียงส่วนนึงมันมาจากว่าเรารู้เสียงของเครื่องดนตรีนั้นๆ ด้วยแหละครับ อย่างผมเคยลองฟังหูฟังที่อิมแพคแรงๆ แทบแยกเสียงกระเดื่องกับเบสไม่ออก จนฟังรวมๆ เป็นเบสอย่างเดียว

สำหรับผมก็ยังแยกไม่ค่อยออกครับ

แต่อาศัยการฟังเปรียบเทียบ ไปฟังพวกที่สุดของแต่ละด้านให้คะเเนนส่วนนั้นไว้ที่10

แล้วมาเปรียบเทียบกับตัวที่เราอยากรู้ว่าได้สักเท่าไรของตัวที่้อ้างอิงละครับ^^

ประสบการณ์ลองเยอะๆครับ เดี๋ยวก็ฟังออก จับมือสองมาลอง แล้วก็ปล่อยต่อ สำหรับผมไปลองที่ร้านไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรหรอกครับ ต้องสอยมาฟังกันหลายๆวัน

บางรีวิว บอกละเอียดเช่น

"ความลื่นไหลของตัวโน้ตตัวนึงไปอีกตัวนึงทำได้ดีมาก"

ผมนี่อยากสัมผัสแบบนี้จริงๆ แบบอยากมีตัวทดสอบเลยว่า ชุดนี้ ทำได้ดีกว่าชุดนี้แบบจะแจ้ง ได้แต้มเหมือนมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิค

แล้วมีเพลงไหนแนะนำเป็นพิเศษไหมสำหรับการเทส

ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ