Guest
หมวดหมู่ > ขายของมือสอง

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

tunl

08/04/2013 21:36:48
0
IP : 115.67.165.136
Evo lll สามารถใช้โช้คสเป็ก V40" VOLVO V40 เดิมๆ
เก็บตกบทความเก่าๆจาก www.kapook.com ครับ
ขออนุญาติและขอบคุณไว้ ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ
จากเนื้อหา
VOLVO Evolution IV 4G63 Turbo 4WD จะมีใครรู้ ? ว่าเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่เกิด

VOLVO Evolution IV 4G63 Turbo 4WD จะมีใครรู้ ? ว่าเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่เกิดและแล้วก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นในวงการรถยนต์จนได้ เมื่อ VOLVO V40 อยากแรงทางลัด โดยการใช้วิธีผสมข้ามพันธ์ กับเครื่อง 4G63 ของ EVO IV ทำให้สิ่งที่น้อยคนจะรู้เปิดเผยขึ้น นั่นคือ VOLVO V40 กับ MISUBISHI LANCER EVOLUTION IV ใช้ "FLOORPLAN" เดียวกัน...
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สำหรับคอลัมน์ SOUPED UP ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ คงทำให้ท่านผู้อ่านหลายท่านสงสัยว่า "VOLVO Evolution IV" ที่จั๋วหัวไว้นั้นเป็นรถรุ่นไหนกันแน่? แถมมาพร้อมกับเครื่องยนต์ตัวแรงจากค่าย "MITSUBISHI" ที่อยู่ในตระกูลตัวแข่งอย่าง
"Evolution" พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออีกต่างหาก แล้วตกลงมันจะเป็นรถอะไรกันล่ะเนี่ย! เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน แล้วอ่านต่อไปเรี่อยๆ แล้วท่านจะถึงบางอ้อ..!

VOLVO V40 ลงตัวด้วย 4G63?
รถที่เรานำมาเสนอในฉบับนี้เป็นรถจากสวีเดนที่เรารู้จักมักคุ้นดี ในเรื่องของรถที่เขาเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นจุดขายมาโดยตลอด เจ้า "V40" ที่ถูกจับมาปรับเปลี่ยนขุมพลังและระบบขับเคลื่อนใหม่คันนี้ ยกเอาเครื่องยนต์, ช่วงล่าง พร้อมระบบขับเคลื่อนจาก " MISUBISHI EVOLUTION IV " ตัวเอกของค่ายนี้ ที่ถูกจับมาลงในรายการแข่งขันต่างๆโดยเฉพาะการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก ที่แฟนๆทางฝุ่นได้ประจักษ์ถึงความสามารถของรถยนต์ในตระกูลนี้มาบ้างแล้ว

ไปๆมาๆ เจ้า VOLVO V40 ถึงได้เข้าร่วมลงโรงกับเครื่อง
"4G63" พร้อมระบบขับเคลื่อนได้อย่าลงตัว...?? นั่นเป็นเพราะว่าทางค่าย "MITSUBISHI" ได้ร่วมกิจการกับ "VOLVO" ในช่วงที่มีการผลิตรถตระกูล "S/V 40" ในโรงงาน "NEDCAR" อยู่ในเมืองบอร์น ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างค่ายรถยนต์สองค่ายนี้กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ในสัดส่วนเท่าๆกัน มีกำลังผลิตสูงถึง 200000 คันต่อปี โดยแบ่งยี่ห้อละครึ่ง

สำหรับค่าย "MITSUBISHI" จะผลิตโดยใช้ชื่อรุ่นว่า "CARISMA" มีการนำเทคโนโลยีของรถทั้งสองค่ายมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อเป็นการลดต้นทุน ในการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลักๆ ที่นำมาใช้ร่วมกันคือ "FLOORPLAN" และ "SUSPENSION" ฐานล้อจะมีความยาวเท่ากันพอดีคือ 2550 มม. แต่ความกว้างฐานล้อและจุดยืดช่วงล่างทั้งหมดเท่ากัน ความเป็นมาของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ "คุณประสงค์" ผู้ลงมือดัดแปลงเล่าให้ฟังว่า มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งเคยไปอยู่ที่สวีเดน บ้านเกิดของ VOLVO

คุณผู้หญิงท่านนี้บอกว่า มีตัวแรงของค่ายนี้อยู่รุ่นหนึ่งใช้เครื่องยนต์ของ "MITSUBISHI" แถมมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วย ตอนแรกที่ได้ฟังนึกไม่ออกว่ารุ่นไหน ประกอบกับต้องการหาโช้คมาเปลี่ยนตามความต้องการของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะกี่ยี่ห้อ โช้คที่ได้มาหน้าตาจะเหมือนของ "Evolution III" ทั้งๆที่กล่องก็บอกว่าเป็นสเป็กสำหรับ "V40" (VOLVO V40 เดิมๆ สามารถใช้โช้คสเป็ก Evo lll ได้เลย

เมื่อลองใส่เข้าไปจึงรู้ว่าใส่เข้ากันได้อย่างพอดี จึงพอจะเดาออกได้ว่าตัวแรงของค่าย "VOLVO" ที่ว่าน่าจะเป็นรถในรุ่นนี้เป็นแน่ จึงเกิดความคิดที่จะนำเครื่องจากตระกูล "Evolution" มาสับเปลี่ยนแทนที่เมื่อได้ลองวัดขนาด มิติและระยะจุดยึดต่างๆแล้ว จึงเดาออกว่าที่เคยได้ยินมาน่าจะเป็นรุ่นนี้จริงๆ

ตัวรถคันที่ถูกจับมาเปลี่ยนเครื่องยนต์ในฉบับนี้ เป็นรถปี 98 อันที่จริงผ่านงานมาไม่มากนัก แต่ด้วยความที่เจ้าของเป็นคนที่เล่นรถ เมื่อทราบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะนำเครื่อง "4G63" พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาสับเปลี่ยนเข้าไป จึงตัดสินใจที่จะลงมือ เพราะต้องการสมรรถนะของเครื่องยนต์และการทรงตัวที่ดีขึ้น แม้ว่าเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างเดิมค่อนข้างดีอยู่แล้วก็ตาม


จะเห็นได้ว่าตัวเลขของแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่าเดิมเท่าตัว เป็นตัวเลขที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะในการขับเคลื่อนเร้าใจกว่าเดิม ขั้นตอนในการดัดแปลงเครื่องยนต์นั้นเริ่มจากยกเครื่องเก่าออกไปแล้ว และหย่อยเครื่องใหม่ลงไป ปรากฏว่า "แท่นเครื่อง" และ "แท่นเกียร์" ที่ติดกับซุ้มโช้ค ผิดกันนิดหน่อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะต่างคนใช้เครื่องของตนเอง

การแก้ไขนั้นทำได้โดยการเลาะแท่นเครื่องเดิมออกแล้วนำแทนเครื่องและเกียร์ของ "Evo IV " มาวางแทนแล้วเชื่อมทับจุด Spot ตัวถังเดิม ไม่ต้องห่วงเรื่องของเซ็นเตอร์ เพราะจุดยึดทั้งหมดตรงกันพอดี งานที่ออกมาจึงดูเรียบร้อยไม่ต่างจากเดิม

ภายในห้องเครื่อง อุปกรณ์หลักๆไม่ว่าจะเป็น "ถังพักนำมันเพาเวอร์" แบตเตอรี่ "กรองอากาศ" ฯลฯ ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม เป็นหลัก ภาพในห้องเครื่องจึงคล้ายของเดิมมากทีเดียว "หม้อนำ" ทำใหม่แบบสองช่อง เนื่อจากท่อด้านบนผิดกันเล็กน้อย ใช้พัดลมไฟฟ้าเพียงตัวเดียว สำหรับระบายความร้อน ของเครื่องบนต์ไม่มีปัญหา เรื่องความร้อน เพราะมีพัดลมช่วยด้านหน้าอีกตัวหนึ่ง

สิ่งที่ทำให้เห็นว่าตัวรถมีพื้นฐานเดียวกันคือ สามารถนำท่อทางเดินของอินเตอร์คูลเลอร์มาใส่ได้โดยไม่ต้องดัดแปลง มีจุดยึดและเบ้าตรงตัวถังที่ต้องเจาะสำหรับให้ท่อ้ดินผ่านนั้นมีรอไว้อยู่แล้ว
สำหรับ "อินเตอร์คูลเลอร์" ได้เปลี่ยนเอาของ "ARC" สเป็กสำหรับ "Evo V" มาใส่ และได้เปลี่ยนเวสต์เกตไปใช้แบบแยก "SARD"

เนื่องจากของเดิมไม่สามารถคุมบูสต์ได้แม่นยำอย่างที่ต้องการ นอกนั้นเครื่องยนต์ยังคงเดิมๆ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะต้องการเพียงสมรรถนะที่เหนือจากเดิม โดยสามารถใช้งานได้อย่างปกติธรรมดา

ช่วงล่างมีรายละเอียดในการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ
การวางเครื่องไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการดัดแปลง เพราะการดัดแปลงหลักๆ ก็มีเพียงแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ ซึ่งเป็นจุดยึดอยู่กับที่จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ในส่วนของช่วงล่างนั้นมีความสำคัญมากในเรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทรงตัว ยิ่งมีการดัดแปลงมากเท่าไร ยิ่งมีผลต่อความปลอดภัยมากเท่านั้น

เจ้าของรถเน้นในเรื่องนี้มาก ว่าช่วงล่างที่นำมาใส่เข้าไปนั้น ต้องมีการดัดแปลงน้อยที่สุดถึงจะลงมือทำ สำหรับด้านหน้ายังคงใช้ "ปีกนก" เดิมเนื่องจากต้องการคงสภาพ "VOLVO" เอาไว้ให้มากที่สุด แต่ก็สามารถนำของ "Evo IV" มาใส่ได้ เพราะมาขนาดและรูปร่างที่เหมือนกัน สิ่งที่ต้องดัดแปลงคือ "กันโคลงหน้า" ต้องทำจุดยึดที่ปีกนกหน้าใหม่ เพราะของ "Volvo" นั้นยึดปลายเหล็กกันโคลงกับเสื้อโช้ค ที่ต้องทำอีกจุดหนึ่งคือ ต่อ "คานรับเครื่อง" ให้ยาวกว่าเดิมอีกราว 20 มม.

ส่วนด้านหลังสามารถนำชุดเฟรมหลังของ "Evo IV" มาใส่เข้าไปได้พอดี ที่ตัวถังมีจุดยึดรอไว้อยู่แล้วทุกจุด ที่ต้องดัดแปลงมีเพียงหลุมยางอะไหล่ต้องปาดออดเพียงบหลบชุดเฟื่องท้ายหลัง ตรงส่วนที่เอาไว้เก็บเครื่องมือประจำรถและแม่แรง

อุปกรณ์ทุกชิ้นนำมาใส่ได้พอดี เว้นแต่ "เทรลลิ่งอาร์ม" ที่ยกเอาของ "Evo III" มาใช้ เนื่องจากต้องการคงรูปแบบของช่วงล่างที่เหมือนเดิม เนื่องจาก "Evo III" และ "Evo IV" นั้น ช่วงล่างหลังจะไม่เหมือนกัน แต่ "ปีกนก" และ"โช้คอัพ" เป็นของ "Evo IV" ซึ่งจุดยึดจะตรงกันทั้งหมด

จุดที่ต้องดัดแปลงมีเพียง "จุดยึดเหล็กกันโคลง" ที่ต้องทำที่ยึดด้านปลายใหม่ เนี่องจากจุดยึด "Evo III" และ "Evo IV" อยู่คนละตำแหน่ง "เพลากลาง" เป็นแบบ 3 ท่อน มีจุดยึด "ตุ๊กตาเพลากลาง" 2 ตัว ที่อุโมงค์เพลากลางมีจุดยึดรอไว้อยู่แล้ว 1 รู ต่อเพียงทำแท่นรับนอตยึดอีกตัวเท่านั้นเป็นอันจบ "เพลาท่อนกลาง" ต้องทำใหม่ให้ยาวเพิ่มอีก 50 มม. เนื่องจาก "Volvo V40" มีฐานล้อยาวกว่าอย่างที่บอกไป

ระบบเบรคเปลี่ยนเอาของ MITSUBISHI มาแทนที่
อันที่จริงสามารถนำชุดเบรคของ "Evo IV" มาใส่แทนได้ แต่เจ้าของรถต้องการคงรูปแบบเดิมของดุมล้อที่เป็นแบบ "4 รู" เอาไว้ จึงได้นำ "ดุมล้อหน้า" "จานเบรค" และ "คาลิเปอร์" ของตัว "Galant VR-4" มาใส่แทน ส่วนด้านหลังนั้น "ดุมล้อ" กับชุดเบรคที่นำมาใช้เป็นของ "Evo III" เปลี่ยน "หม้อลมเบรค" ไปใช่ของ "VR-4" เท่านี้ก็สามารถหยุดพลัง "280 แรงม้า" ได้อย่างปลอดภัย" เนื่องจาก "หม้อลมเบรค" "VR-4" มีขนาดใหญ่กว่า "Evo IV" พอสมควร เปลี่ยนปั้ม ABS มาใช้ของ "Evo IV"

เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่มีปัญหาเกิดขึ้นคือ ไฟ "ABS" จะโชว์ที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม ขึ้นไป นั้นเป็นเพราะว่าเซ็นเตอร์ "ABS" ที่ล้อหน้าเป็นของ "Evo IV" แม้ว่าจะมีจำนวนพันของเซ็นเตอร์เท่ากัน แต่ด้านหลังมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า

เนื่องจากร่องฟันจะอยู่ในจานเบรค ขนาดฟันจึงใหญ่กว่ากันด้วย สัญญาณที่ถูกส่งมาจากล้อหน้าและหลังจึงไม่สัมพันธ์กัน การแก้ไขจึงต้องนำหัวเพลาของ "Evo IV" มาใส่แทน เพราะร่องฟันสัญญาณ "ABS" จะอยู่ที่หัวเพลาเหมือนด้านหน้า ปัญหาเรื่องไฟโชว์ของระบบ "ABS" จึงหมดไป

ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบไฟฟ้า
เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงรื้อระบบไฟของ "VOLVO" ออก แล้วนำของ " MISUBISHI " มาใส่แทน แต่มีปัญหาเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกความสะบายในห้องโดยสาร เช่น กระจกไฟฟ้า, เซ็งลี้อก, ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะของ VOLVO ต้องผ่านกล่องทั้งหมด สุดท้ายจึงต้องคงระบบอำนวยความสะดวกของภายในห้องโดยสารไว้


ส่วนของเครื่องยนต์และระบบ ABS ใช้ของ MITSUBISHI แทน กว่าจะแก้ปัญหาเรื่องของระบบไฟฟ้าจบ ต้องสั่ง Service Manual ของ V40 และ Evo IV มาทั้งสองรุ่น เพื่อเปรียบเทียบกันก่อนทำการดัดแปลง แม้ว่าจะใช่เวลามากแต่มีความแม่นยำและถูกต้องสมบูรณ์กว่า

การที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าของรถญี่ปุ่นและรถยุโรปเข้าด้วยกันได้นั้น ต้องศึกษาจากคู่มือไม่ใช่การลองผิดลองถูก ส่วนแผง "มาตรวัด" เพื่อความสมบูรณ์ของการทำงานทั้งระบบ นำตัวเรือนไมล์ของ "Evolution IV " ใส่แทนเข้าไปมีขนาดใกล้เคียงของเดิมมาก แต่ต้องมีการตกแต่งเล็กน้อยเพื่อให้แนบสนิทสวยงามด้วย การใช้หนังหุ้มด้านในใหม่ เพราะต้องการให้ค่าต่างๆ ขึ้นครบถ้วนสมบูรณ์และแม่นยำนั่นเอง

ใช้ AYC ได้...!
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ของการดัดแปลงเอาเครื่องยนตน์และระบบขับเคลื่อนของ "Evo IV" มาใช้ แต่ระบบ "AYC" หรือ "ACTIVE YAW CONTROL SYSTEM" ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากช่างไม่มีความรู้ความชำนาญพอ รวมถึงไม่มี "Service Manual" จึงไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเพราะระบบ "AYC" จะทำงานร่วมกับ "Yaw Sensor" จะมีหน้าที่ตรวจจับทิศทางของตัวรถ

ถ้าบอกว่าเป็นเซ็นเตอร์ที่ใช้จับแรง "G" ที่เกิดขึ้นกับตัวรถ หลายคนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า อีกตัวหนึ่งที่สำคัญคือ "องศาพวงมาลัย" สัญญาณเหล่านี้จะถูกส่งไปยังกล่องควบคุมเพื่อประมวลผลก่อนที่จะส่งให้ชุดเฟืองท้ายแบบ "AYC" ทำงาน เพื่อให้การควบคุมรถและการส่งถ่ายกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มันจะประมวลผลร่วมกับรอบเครื่องยนต์, ความเร็ว, องศาลิ้นเร่ง ฯลฯ ด้วยตัว "Yaw Sensor" นั้นเบิกเซ็นเตอร์ใหม่จากห้างเพื่อความชัวร์

ส่วนเซ็นเตอร์ขององศาพวงมาลัย นั้นต้องยกชุด "แผงคอ" ของ "Evo IV" มาสับเปลี่ยนแทนของเดิม สามารถนำมาใส่ได้พอดี แต่ผลที่ตามมาคือ ไฟเลี้ยวจะย้ายมาอยู่ทางด้านขวา เหมือนรถญี่ปุ่น ส่วนสวิทย์ควบคุมไฟหน้ายังคงใช้ของเดิมที่แผงคอนโซลหน้า

ภายในเปลี่ยนนิดหน่อย
สิ่งแปลกปลอมที่ถูกเปลี่ยนเข้าไปนั้นเริ่มจาก ชุดแป้นคลัตซ์ที่ยกเอาของ "Evo IV" มาใส่ทั้งชุด "คันเกียร์" เป็นของ "FTO" มาใส่โดยไม่ต้องแปลง เนื่องจากคันเกียร์ขึ้นมาในตำแหน่งกึ่งกลางพอดี ถ้าเอาของ "Evo IV" มาใส่ คันเกียร์จะขึ้นไม่ตรงกลางและรูยึดเยื้องกันเล็กน้อย ที่เสา "A" เพิ่ม "เกจ์วัดบูสต์" และ "แรงดันน้ำมันเครื่อง" ของ "SARD" เปลี่ยน "พวงมาลัย" ไปใช้ของ "MOMO" แบบ 3 ก้าน

โดยถอดชุดพวงมาลัยของเดิมที่มี "Air Bag" ออกไปนอกนั้นยังคงเดิม สำหรับงบประมาณในการดัดแปลงครั้งนี้สามารถชื้อรถมือสองได้อีกคัน ในราคาประมาณสองแสนกลางๆ เพราะเครื่องยนต์พร้อมช่วงล่างก็ว่ากันที่แสนปลายแล้ว แต่การลงทุนในครั้งนี้เป็นไปด้วยความพอใจของเจ้าของรถจึงไม่ใช่ปัญหา

สำหรับผู้ที่ใช้รถรุ่นนี้แล้วเกิดปัญหากับเครื่องยนต์ ยังพอใช้เป็นแนวทางในการนำเครื่อง "4G63" ตัวธรรมดามาทดแทนได้ ในงบประมาณที่ตำกว่าหลายเท่าตัว

การดัดแปลงเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากพื้นฐานรถเหมือนกันอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญในการดันแปลงก็คือความรู้ความเข้าใจของช่างที่นำมาเปรียบเทียบก่อนลงมือ สามารถต่อระบบไฟและวายริ่งสายได้ครบถ้วนใช้งานได้เต็มระบบ ซึ่งเหมือนการนำรถสองคันเข้ามารวมกันได้อย่างสมบูรณ์
"VOLVO "