555 อ่านผ่านๆๆ นึกว่าตายแล้ว เกี่ยวกับดาก ใครมีอะไรเกี่ยวพันกับพยาธิอีกแล้วงานนี้

แต่อ่านดีๆๆ กลายเป็นดาร์ก ซึ่งน่าจะมาจากคำว่า dark ที่แปลว่ามืดนั่นเอง....555 เอ้า ผมขยับแบบย่อๆๆ เลยละกัน อันโลกหูฟังนั้น มันก็เหมือนกับโลกของการเมืองการปกครอง ในทางสังคม มีฝ่ายซ้าย ก็ย่อมมีฝ่ายขวา นั่นเอง..ซึ่งหูฟังก็เหมือนกันครับ เรามักจะจำแนกหูฟังออกเป็น 2 ค่าย คือค่ายมืด และค่ายสว่าง

หรือเปรียบไปก็คือ ฝ่าย Dark และ ฝ่าย Bright นั่นเอง........


คนที่จะเป็นคนบอกว่า ชอบหูฟังเสียงแบบไหน ไม่ใช่ตัวนายมั่นคง หรือยามหน้าปากซอย หรือพนักงานร้านเซเว่นครับ 555 แต่คนที่จะบอกว่าเราชอบเสียงโทนไหนนั้นต้องเป็นตัวเรานั่นเอง จะเป็นเมียเรา หรือแม่ยายเราก็ไม่ได้อีกเช่นกัน 555


หูฟังที่โทนเสียงกลางจมอยู่ระดับพอดี เรามักจะเรียกกันว่า Laid Back เมื่อเสียงกลางจมลงต่ำกว่าระดับ 0 ในเส้นกราฟของ EQ ปรากฏการณ์อย่างแรกที่เราจะได้ยินก็คือเสียงที่หม่นนิดๆๆ ซึ่งบางท่านมักจะชอบว่ามันให้เสียงที่สุขุม ดื่มด่ำกำซาบ ซึ่งเมื่อกลางถอยแล้ว ก็มักจะฉุดพวกเสียงย่านแหลมลงเล็กน้อย ซึ่งหูฟังที่ Dark นั้น ตัวอย่างที่ดีก็คือหูฟัง Sennheiser นั่นเอง........


ส่วนหูฟังที่ออกโทน Bright นั้น เสียงกลางมักจะพุ่งหน้า หรือ Forward เสียงกลางมักจะเปิดเผย ทำให้รุ้สึกถึงความคึกคักร่าเริง สว่าง เจิดจ้า อุปมาอุปไมย เหมือนไปชายทะเล ที่แดดแจ๋ๆๆ แล้วมีผู้หญิงนุ่งบิกินนี่ 2 ชิ้นออกมาเดินผ่านหน้าเรานั่นแล.....การที่หูฟังให้โทนสว่าง ทำให้เราฟังเพลงบางประเภทได้สนุกเหลือใจ ซึ่งแนวเพลงที่ต้องการความสด มีชีวิต ก็มักจะเป็นเพลงร็อคนั่นเอง......


พวกเสียงกลางเปิด เราก็มักจะได้เสียงแหลมที่ใสตามมาเป็นของแถม เพราะการออกแบบไดรเวอร์นั้น จะต้องมีความลาดของเสียงตามกันไป ไม่ใช่จะเอาแค่เสียงกลางสว่างๆๆ แต่ขอปลายแหลมมืดๆๆ แบบนั้น ผมคิดว่ายังไม่มีใครยอมทำออกมาแน่ๆๆ ครับ ตอนนี้ไม่มีอะไรยาก ลองหาโอกาสฟังหูฟังเปรียบเทียบกัน

พวก Grado และ ATH ถือว่าเป็นจอมมารที่อยู่ในที่สว่าง ส่วน Sennheiser เป็นจอมมารที่อยู่ในความมืด.....ของพรรค์งี้ไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากมาย ตัวเราเองจะเป็นคนเลือกโทนของมันเองครับ 555

คำถามยาวไม่เป็นไร ผมก็พยายามตอบให้ยาวๆๆ เช่นกัน เอาให้คนถาม อ่านแล้วเข้าใจไปเลยครับ ตรงไหนติดขัด เดี่ยวผมเปิดไฟเลี้นว แล้ววนรถกลับมาตอบใหม่ให้อีกแน่ๆๆๆ นะครับ

555

แล้วจริงไหมครับที่มีคนบอกว่า ของSENNHEISER ของปลอมเยอะมากๆเลย มะได้จะถามเกี่ยวพันธ์ไปถึงทางร้านนะครับแต่ว่าถ้าจะไปซื้อก็อยากให้มั่นใจอะครับ อันตัวผมถ้าจะเล่นของศูนย์ก็คงจะไม่ไหวแน่ๆเลยราคาสูงกว่า ทางพี่มั่นคงหิ้วเข้ามาครับ แล้วของทางร้านถ้ามีปัญหาสามารถเอาเข้าศุนย์ไทยได้ไหมครับ แล้วมีสติ๊กเกอร์แปะด้วยรึป่าว เพราะมีคนบอกว่าต้องดูว่ามีสติ๊กเกอร์ประกันแปะด้วย แค่เเพคเกจอย่างเดียวไม่พอครับ จบหนึ่งคำถามครับ


อันที่สองคือ ถ้าชอบแนวเสียง กลางใส แหลมมะบาดหู เบสมะบวมกระแทรกจนเกินไป จนฟังนานๆแล้วล้าหู แล้วที่ครอบใส่สบายมะปวดใบหู ควรเลือก Full Size ตัวไหนดีครับ ถ้างบประมาณ 12,000-14,000บาท แล้ว ควรจะไปจับคู่กับแอมป์ไหนดีครับ



ขอบคุณพี่มั่นคงมากครับ

จากประสบกาม เอ๊ย!!! ประสบการณ์ที่เคยพานพบมาในแวดวงงานstudio
หูsenn.นั้นถือได้ว่า เป็นหูที่ไม่เอนเอียงไปทางสิบเอ็ดนาฬิกาหรือทางบ่ายโมงนัก
ก็แสดงว่าเที่ยงหละมั๊ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนมาแล้วหล่ะ อืมมม...

วันนั้นมันก็เป็นเรื่องของหูรุ่นที่ใช้กับงานบันทึกเสียงนั่นแหละ แต่บุคลิกของหูsenn.
โดยหลักๆก็ยังคงเป็นแบบตรงไปตรงมา แบนๆ(flat) แต่ไม่แห้งแล้ง ไม่มีเสน่ห์กับการฟังเล่น
ฟังเอาเพลิน เอามัน เอาสนุก แต่ให้รายละเอียดชัดเจนสำหรับบางคน แต่ตอนนี้มีออกมาหลายรุ่น
หลากหลายบุคลิกมากขึ้น แต่คิดว่าหลักๆของsenn.ก็ยังคงเดินตามแนวความคิดเดิมอยู่แหละครับ

อย่าเพิ่งเชื่อผมนะ เพราะตอนนี้ผมก็ยังงงกับหูที่ใช้อยู่เลย ต้องลองเองจ้า...

เย้ยเวงกำเดินตามหารอยสียงที่ตัวเองต้องการ

ผมว่าไปลองฟังที่ร้านดูดีก่าครับ

แล้วจะรุ้ ส่วนเรื่องของปลอมนั้น

ร้านมั่นคงขายแต่ของแท้ครับ

ดูจากจำนวนผู้ชมร้านก็รู้แล้วครับ

เป็นร้านที่ไว้ใจได้ที่สุดแล้ว อิอิ

ไม่ใช่หน้าม้านะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด

เป็นเรื่องจริงครับที่ว่าหูฟัง senn. ให้โทนเสียงในลักษณะ dark มันเป็นลักษณะของโทนเสียงกลางที่จมหน่อย ๆ นั่นก็คือการขาดความใสของเสียงกลางไปสูงนั่นเอง แต่ว่ามันได้อารมณือีกแบบนึง ประเภท สุขุม นุ่มลึก ประมาณนั้น ไม่ต้องดูอื่นไกลเอาแค่หูฟัง earbud ระดับพื้น ๆ รุ่น mx 400 ไปลองดูครับ จะเป็นลักษณะแบบที่กล่าวข้างต้นถามว่ามีรายละเอียดมั๊ย ตอบว่ามีครับ แต่ไม่ถึงกับแจกแจงรายละเอียด ถ้าคนที่ชอบแนว rock คงไม่ถูกใจ เพราะมันไม่เน้นที่เสียงเบส ถ้าเป็นดนตรีประเภทร้อง หรือบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีไม่มากชิ้น จะได้อรรถรสพอสมควร หรือแม้กระทั่งเพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิต ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าเป็นเพลงแนว audiophile ต้องหาตัวเลือกอื่นที่เน้นการแจกแจงรายละเอียดเสียงดนตรี หรือไม่ก็เป็น senn. รุ่นสูง ๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดต้องไปลองเองครับ ว่าเป็นแนวเสียงที่ชอบหรือเปล่า สำหรับผมคิดว่ามัน กลมกล่อม นุ่มนวล เป็นธรรมชาติดี ชอบสไตล์แบบนี้ครับ

555 sennheiser นั้นมีของปลอมเยอะมาก แต่ไม่ต้องแปลกใจ เพราะ sennheiser เป็นแบรนด์หูฟังอาชีพที่ดังมากนั่นเองจ้า........

ส่วนของปลอม สบายใจได้ครับ ทางร้านไม่ขายของปลอมโดยเด็ดขาด ทั้งๆ ที่อยากทำใจจะขาด แว๊กๆๆๆๆๆ พูดเล่น 555 ถ้าทำหูฟังปลอม ผมว่าไม่ค่อยจะได้เรื่อง สู้ทำธนบัตรปลอม ผมว่าเห็นผลเร็วกว่าแยะ 55


จะเลือกหูฟังนั้น ผมให้ใช้หลักง่ายๆๆ เลย คือใช้เวลาในการลองก่อน ลองโดยที่ไม่ต้องไปรับรู้หรอกครับว่ามันเป็นยี่ห้ออะไร ลองมันทั้งหยั่งงั้นล่ะ การที่รับรู้ข้อมูล หรือรู้ว่ามันเปนยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร มากเกินไป บางทีมันอาจจะชี้นำให้เราเขวได้ครับ

เลือกส่งเดช ลองฟังให้มันรู้ก่อนว่าเราชอบเสียงของหูฟังทางไหน พอรู้คร่าวๆๆ ค่อยมาเจาะจงในรายละเอียดว่า ควรจะเป็นรุ่นไหนยังไงต่อไปน่ะครับ 555

ถ้าเป็น Sennheiser ผมแนะให้เล่นตั้งแต่รุ่น 595 ขึ้นไป แต่ถ้าตั้งใจจจ่ายตั้ง 14000 คงไม่พ้นต้องซิวตัว Top อย่าง HD650 ไปล่ะครับ

555 มาลองที่ร้านเลยครับ มีทุกตัว ทุกยี่ห้อ ให้นอนลองกันเลยล่ะ