Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ทั้งที่มันเป็นความคิด”ของเรา”แต่เรากลับคุมมันไม่ได้

eeman2

25/12/2011 23:03:34
0
โทรศัพท์มือถือกำลังกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนยุคนี้ไปแล้ว แต่คงไม่มีใครใช้อวัยวะส่วนนี้อย่างสมบุกสมบันเท่ากับหนุ่มเดนมาร์กผู้หนึ่ง ข่าวว่าชายผู้นี้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือวันละ ๒๑๗ ชิ้นโดยเฉลี่ย นั่นหมายความว่าเขาใช้โทรศัพท์มือถือทุก ๔-๕ นาทีตลอดเวลาที่ยังตื่นอยู่ รายงานข่าวไม่ได้กล่าวว่าชายผู้นี้ใช้โทรศัพท์เฉลี่ยกี่ครั้งขณะที่กำลังกินข้าวหรือระหว่างปลดทุกข์อยู่ในห้องน้ำ

แต่ที่แน่ ๆ ก็คือชายผู้นี้สร้างสถิติดังกล่าวขณะกำลังรักษาตัวที่คลินิกแห่งหนึ่งเพื่อรักษาโรคติดการพนันและเสพติดอินเตอร์เน็ต

ฟังข่าวนี้แล้วก็”ฟันธง”ได้เลยว่าชายผู้นี้ไม่ปกติแน่นอน เราอาจเดาต่อไปได้ด้วยว่าสาเหตุที่เขาใช้โทรศัพท์อย่างบ้าระห่ำก็เพื่อเป็นการทดเทิดที่ไม่ได้เล่นการพนันหรือใช้อินเตอร์เน็ตอย่างแต่ก่อน

อย่างไรก็ตามถ้ามองให้ดีก็จะพบว่าพฤติกรรมของชายผู้นี้สะท้อนอะไรบางอย่างของคนสมัยนี้ด้วยไม่ใช่น้อย ใช่หรือไม่ว่าคนจำนวนไม่น้อยเวลานี้กำลังมีอาการเสพติดโทรศัพท์ (ไม่ว่าแบบมือถือหรือปกติ) ถ้าวันไหนไม่มีโทรศัพท์อยู่ใกล้ตัว จะรู้สึกกระสับกระส่าย หรือถึงกับ”ลงแดง”หากไม่ได้พูดโทรศัพท์กับใครเลยตลอดวัน ไม่ต้องดูอื่นไกล ผู้ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตอาการลูกชายลูกสาวของตนดู หรือบางทีเราอาจมีอาการดังกล่าวอยู่บ้างแล้วก็ได้

แต่ถึงแม้จะไม่เสพติดโทรศัพท์ ก็อย่าเพ่อตายใจ นั่นอาจเป็นเพราะเราติดอย่างอื่นแทนอยู่แล้วก็ได้ (เช่น โทรทัศน์ วีดีโอเกม ) หนุ่มเดนมาร์กที่ว่าหากยังมีโอกาสเล่นการพนันหรือท่องอินเตอร์เน็ตตามกิจวัตรเดิม ก็คงไม่หันไปใช้โทรศัพท์มือถืออย่างน่ากลัวถึงขนาดนั้น

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ผู้คนสมัยนี้เสพติดอะไรต่ออะไรไปคนละแบบ ถ้าจะจาระไน คงต้องอาศัยผู้รู้หลายสาขา แต่สาเหตุหนึ่งที่สำคัญก็คือ ผู้คนสมัยนี้ทนอยู่กับตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าให้อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ คนเดียว ไม่นานจะรู้สึกระสับกระส่ายขึ้นมา ต้องเหลียวซ้ายแลขวาคว้าอะไรมาใส่ปาก หาไม่ก็เปิดโทรทัศน์ ฟังเพลง พูดโทรศัพท์ หรือง่วนกับอะไรก็ได้ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่กับตัวเอง

ถ้าถามว่าส่วนไหนของเราที่เราทนได้ยากที่สุด คำตอบคงไม่ใช่รูปร่างหน้าตา ยิ่งถ้าเป็นสาวสวยหนุ่มหล่อด้วยแล้ว กลับอยากจะพิศดูสารรูปของตนนาน ๆ ด้วยซ้ำ (แต่เดี๋ยวนี้ก็มีจำนวนไม่น้อยแล้วที่เป็นทุกข์เพราะรู้สึกว่ายังมีเสน่ห์ไม่พอ ถึงกับอดอาหารจนผอมแห้ง หาไม่ก็พาตนไปเป็นเหยื่อของคลินิกศัลยกรรม) ว่าไปแล้ว สิ่งที่เราทนได้ยากจริง ๆ ก็คือความคิดของเรานั่นเอง เราทนอยู่เฉย ๆ คนเดียวไม่ได้นานก็เพราะเรากลัวความฟุ้งซ่านของตัวเอง เมื่อใดที่อยู่นิ่ง ๆ คนเดียว ความคิดของเรานี่แหละที่จะคว้าอะไรต่ออะไรมาประดังประเดใส่หัวเราจนวุ่นวายไปหมด หาไม่ก็พาเราไปจมปลักอยู่กับเรื่องที่ชวนให้วิตกกังวล ทุกข์โศก คับแค้นใจ ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปแล้ว หรือบ่อยครั้งก็ยังไม่ทันเกิดขึ้น แต่ปรุงแต่งไปล่วงหน้าเสียก่อน

ความคิดของเราเองนี้แหละที่คอยหาเรื่องมารังควานตัวเราเอง สรรหาความทุกข์มาทิ่มแทงตัวเอง เอาความโกรธ เกลียด มาเผาลนจิตใจเราเองไม่หยุดหย่อน จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ น่าแปลกก็คือ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นความคิด ”ของเรา” แต่เรากลับคุมมันแทบไม่ได้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า อีก ๑ นาทีต่อจากนี้ มันจะคิดอะไร นอกจากมันจะไม่อยู่ในโอวาทของเราแล้ว บ่อยครั้งมันกลับทะเลาะเบาะแว้งกับเรา สร้างความสับสนขัดแย้งภายในใจเรา เราทนอยู่กับตัวเองไม่ได้ก็เพราะเรากลัวว่ามันจะอาละวาดใส่เรา เพราะเหตุนี้เราจึงต้องหาอะไรมาเสพมาบริโภค ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ใจเรา”วุ่น” จะได้ไม่มีช่องให้มันมารบกวนเราได้ หาไม่ก็ต้องหาอะไรมาปรนเปรอมัน สุดแท้แต่มันจะชอบอะไร มันจะได้มาวุ่นวายกับเรา

ทั้งหมดที่พูดมาดูราวกับว่าความคิดของเราช่างแย่เหลือเกิน ที่จริงความคิดของเราไม่ได้มีนิสัยเป็นอันธพาลเลย เขาน่าจะเป็นมิตรที่ประเสริฐของเราด้วยซ้ำ แต่อะไรทำให้เขาทำตัวเกเรอย่างนั้น ทารกทุกคนน่ารักทั้งนั้น แต่เหตุใดบางคนพอโตขึ้นกลับมีนิสัยก้าวร้าว หยาบกระด้าง เอาแต่ใจตัว ใช่หรือไม่ว่าเป็นเพราะพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ถูกต้อง เอาแต่ทำมาหากินจนไม่มีเวลาใส่ใจลูก ฉันใดก็ฉันนั้น ความคิดหรือจิตของเราทำตัวเกเรจนเราไม่อยากอยู่ด้วย ก็เพราะเราละเลยทอดทิ้งเขานั่นเอง เราทำอะไรต่ออะไรมากมาย แต่แทบไม่มีเวลาให้กับจิตใจของเราเลย แม้เราจะเลี้ยงดูบ่มเพาะความคิดให้เติบใหญ่ มีกำลังและความรู้มากมาย แต่กลับไม่อบรมให้ถูกต้อง ผลจึงไม่ต่างจากพ่อแม่ที่ได้แต่สรรหาของดีของแพงมาให้ลูกกิน แต่ไม่ใส่ใจที่จะสั่งสอนลูก ลูกจึงโตแต่กาย หากจิตใจกลับอ่อนแอปวกเปียก

ความคิดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา ทุกวันนี้คนจำนวนไม่น้อยได้ทำให้ความคิดจิตใจกลายเป็นปฏิปักษ์กับตนเอง ดังนั้นจึงเท่ากับทำให้ตัวเองเป็นปฏิปักษ์กับตนเอง ผลก็คือเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายจนหาความสงบไม่ได้ อยู่ว่าง ๆ คนเดียวเมื่อไร สงครามเป็นต้องเกิดขึ้นภายในใจ ด้วยเหตุนี้ใครต่อใครจึงชอบหนีตัวเอง คอยทำตัวไม่ให้ว่าง ถ้าไม่ทำงานซก ๆ ก็ดูโทรทัศน์เป็นชั่วโมง เที่ยวเตร่จนดึกดื่น คุยโทรศัพท์หรือสนทนาอินเตอร์เน็ตจนสายแทบจะไหม้ หนักกว่านั้นก็เข้าหายาเสพติดไปเลย วิธีเหล่านี้ยังให้ผลพลอยได้ประการหนึ่งคือ เป็นโอกาสที่จะหนีคนรอบข้างด้วย ทั้งนี้เพราะนับวันเราไม่เพียงแต่หมางเมินกับตัวเองเท่านั้น หากยังแปลกแยกกับคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่พี่น้องหรือคู่ครอง สงครามจึงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภายในใจเท่านั้น หากยังมักเกิดขึ้นในความสัมพันธ์กับผู้อื่นรอบตัวด้วย ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนต้องหาทางออกด้วยการไปหมกมุ่นกับสิ่งอื่นแทน

แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เราก็ไม่มีวันที่จะหนีตัวเองได้ และไม่ว่าจะแสวงหาเท่าไร ก็ไม่มีวันพบใครที่จะเป็นมิตรอันประเสริฐไปกว่าตัวเองได้ จะไม่ดีกว่าหรือหากเราจะหันกลับมาเผชิญหน้าและผูกมิตรกับตัวเองสียที นี้เป็นวิธีเดียวที่จะสงบศึกภายในใจได้

เรามาสงบศึกและสร้างสันติภายในใจเราด้วยการหันมาให้เวลากับชีวิตด้านในของตนเองดีไหม ความคิดจิตใจของเราถูกอัดแน่นด้วยข้อมูลข่าวสารมามากจนเต็มอิ่มแล้ว แต่กลับหิวโหยความสงบสุขและการผ่อนพัก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการแสวงหาความสงบสุขมาหล่อเลี้ยงจิตใจของเรา ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ความคิดของเราได้พักผ่อนบ้าง การจัดสรรโอกาสเพื่อให้ความคิดจิตใจได้สงบนิ่งอย่างน้อย๑๐ นาทีต่อวันเป็นเงื่อนไขที่ขาดไม่ได้ของการทำสัญญาสงบศึกกับตัวเอง และถ้าต้องการสันติภาพที่ยั่งยืน เราต้องเต็มใจที่จะอุทิศเวลาและความเพียรให้มากขึ้นกว่านี้

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับสันติภาพที่แท้จริงก็คือเมตตาหรือความรัก นอกจากเวลาและความสงบแล้ว เราควรให้ความรักแก่ตนเองมาก ๆ ด้วย อย่ารังเกียจตนเองถึงแม้หน้าตาจะไม่สะสวย หุ่นไม่ผอมบาง หรือฉลาดสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือรู้จักแผ่เมตตาให้ตนเองเมื่อประสบกับเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจ แทนที่เราจะทำร้ายตัวเองด้วยการเอาความโกรธเกลียดมาเผาลนจิตใจ หรือเติมฟืนไฟให้มันพลุ่งพล่านรุนแรงขึ้น ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะสงสารตัวเอง และนำเมตตาธรรมมาชโลมใจแทน

แม้จะแผ่เมตตาให้แก่คนที่เบียดเบียนเราไม่ได้ อย่างน้อยก็น่าที่จะแผ่เมตตาให้แก่ตัวเองว่า ขอให้สงบเย็นเป็นสุขเถิด เพียงถูกเขากระทำแค่นี้เราก็ทุกข์พอแล้ว นี่เราจะมาซ้ำเติมตัวเองอีกหรือ ยิ่งเราโกรธเกลียดเขามากเท่าไร เราเองก็จะเป็นฝ่ายทุกข์มากเท่านั้น ใช่ว่าเขาจะทุกข์ร้อนไปด้วยก็หาไม่ ยิ่งเรารักตัวเอง เมตตาตัวเองมากเพียงใด ยิ่งจำต้องดับไฟแห่งความโกรธเกลียดให้เร็วเพียงนั้น ทั้งนี้ด้วยการถอนจิตออกไปจากเรื่องนั้น หรือเอาความคิดไปจดจ่อกับเรื่องอื่นที่สบายใจกว่าแทน และหากเรามีเมตตามากพอ ก็ควรแผ่ไปให้แก่ผู้ที่กระทบใจเราด้วย อย่างน้อยผลดีก็จะเกิดขึ้นแก่เราเองคือทำให้ใจเราสงบเย็นขึ้น ถ้าจะเมตตาตัวเองให้เป็น เราต้องรู้จักเมตตาผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เป็น”ศัตรู”ของเราด้วย

สิ่งประเสริฐสุดอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำได้ในชีวิตนี้ก็คือ การมอบความเป็นมิตรให้แก่ตนเอง นานมาแล้วที่เราเหินห่างหมางเมินกับตนเอง จนบางครั้งถึงกับเป็นปฏิปักษ์กัน ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือที่เราจะหันมาเป็นมิตรกับตนเอง เพื่อจะได้อยู่ร่วมกับตนเองอย่างสงบสันติเสียที

ปีใหม่นี้เป็นโอกาสดีที่เราจะเริ่มต้นคืนดีกับตัวเอง ปีแล้วปีเล่าที่เราให้ของขวัญใครต่อใครมากมาย ไยปีนี้ไม่ลองมอบมิตรภาพให้แก่ตัวเองบ้าง แล้วอย่าลืมหันไปคืนดีกับคนรอบข้างด้วยล่ะ

ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะทำให้เราและคนรอบข้างมีความสุขเท่ากับของขวัญวิเศษอย่างนี้



สุขใจในนาคร พฤศจิกายน ๒๕๔๓
คืนดีรับปีใหม่
พระไพศาล วิสาโล
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

นายมั่นคง

25/12/2011 23:28:02
4,294
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆที่เอามาฝากครับ



เมื่อวานโทรศัพทืผมเสีย เล่นเอาวุ่นวายไปหมด เฉพาะทุกข์ว่ารายชื่อในโทรศัพท์จะหายไปหมด นี่ก็ทำให้จิตไม่สงบแล้วครับ จนวันนี้วิ่งวุ่นไปหาซื้อเครื่องใหม่ วิ่งเอาเครื่องที่เสียไปซ่อม ช่างบอกว่าต้องลง Firmware ใหม่ จะทำให้รายชื่อหายหมด

จนผมต้องลุ้นว่าผมได้บันทึกไว้บนซิมหรือเปล่า จนเมื่อบ่ายแก่ๆ ทุกอย่างถึงเรียบร้อย......

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

oname2

26/12/2011 00:56:44
3
บทความดีๆ มาอีกแล้ว ขอบคุณครับพี่อีแมนนยยยยย์ ....ฮุฮุ....แต่อย่าลืม ด้านมืดด้วยนะพี่.....ฮุฮุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

jomjomjom

26/12/2011 06:20:26
5
WOW.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

แมว

26/12/2011 06:45:36
ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่


คนเราเกิดมาใช้กรรมมิใช่ฤๅ?
โดยส่วนตัวหนูคิดของหนูว่าขึ้นกับกรรมที่เคยทำมาในอดีตชาติด้วยค่ะ ที่คลินิกมีคนไข้ร้อยละแปดสิบที่เดินเข้ามาด้วยอาการปวดหัว เวียน มึนงง นอนไม่ค่อยหลับ เจ็บแน่นหน้าอกหายใจไม่เต็มอิ่ม สารพัดจะเจ็บตามเนืื้อตามตัว หงุดหงิดอารมณ์ไม่ดี เครียด รักษาปีนึงแล้วยังต้องมาหาหมอ อาการดีขึ้น ทรุดลงสลับกันไป เมื่อได้คุยกับคนไข้และเค้าเปิดใจ จะพบว่าสาเหตุเกิดจากทุกข์นั่นเอง จึงแนะนำไปตามความรู้ทางทฤษฎีซึ่งมีมากอยู่ ว่า ให้หัดตามดูจิต ว่าคิดอะไรตามจิตให้ทันรู้ตัว มีสติ ปล่อยความคิดที่เรากำลังทำร้ายตัวเองออกไป ค่อยๆฝึกฝนไปเรื่อยๆ มันทำยาก แต่ทำได้!!! เป็นกำลังใจให้นะคะ ยาช่วยได้ในระยะแรกๆและอย่าหวังพึ่งยาจนตลอดชีวิต โรคนี้มันอยู่ที่ใจว่าเมื่อไหร่จะเรียกสติมา...คนไข้น้ำตาไหลพราก ไหว้แล้วไหว้อีก....มีส่วนน้อยมากที่อายุเยอะแล้วแต่หน้าตายังสาวเกินเราก็รีบไปถามเคล็ดลับว่า คุณพี่ใช้ครีมอะไรคะ ไปทำศัลยกรรมที่ไหนหนูจะได้ไปบ้าง คนไข้หัวเราะตอบเราว่า เปล่าหรอกค่ะ ป้าไม่ค่อยทุกข์น่ะ ชีวิตก็เหมือนคนทั่วไปที่มีทุกข์มีสุข แต่อะไรที่ทุกข์ป้าไม่เก็บมาจำ ให้มันผ่านไปเหมือนสายน้ำน่ะค่ะ แม่จ้าว...อยากเป็นแบบนี้จัง

ของแบบนี้มันอยู่ที่เวลาของแต่ละคนด้วยค่ะ ต่อให้บอกให้มีสติจนปากเปียกปากแฉะเจ้าตัวก็มิได้สนใจฝึกสติ. แต่เค้าจะมีเวลาของเค้าที่จู่ๆก็คิดอยากฝึกสติเอง หนูเลยคิดว่าแล้วแต่กรรมที่เคยทำมาน่ะค่ะ....เป็นชาวพุทธนี่ดีจัง โทษกรรม โทษเจ้ากรรมนายเวรได้ตลอดเลย

เป็นความเห็นส่วนตัวนะเจ้าคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

ศิษย์ตถาคต

26/12/2011 09:16:04
กัมมุนา วัตตะติ โลโก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

montree2511

26/12/2011 09:42:27
0
ขอบคุณน้าแม๊นย์เช่นเคยครับ...นำสิ่งดี ๆ มาฝากพี่ ๆ น้อง ๆ ผองเพื่อนในเว็ปกันเสมอ ๆ



...ง่า...น้าทศย์...แต่ "เช้า" เลยเหรอครับ...ฮี่ ๆ ...



เคสเฮียมั่น...ผมว่าใช้แบบโบราณดีกว่าไหมครับ...คือ...การทำ "สำเนา" ไว้ด้วย...

ทุกครั้งที่เราเม็มชื่อใครลงเครื่อง หรือ ซิม...ก็จดลงสมุดโทรศัพท์ส่วนตัวเฮียด้วย...

เป็นการกันเหนียวไปในตัว...เพราะเฮียทำธุรกิจน่ะครับ...หากรายชื่อหาย...หรือแค่ล่าช้า...ย่อมไม่ดี...

กับทุก ๆ คนด้วยนะครับ...

ส่วนตัวผมเดี๋ยวนี้...มีอะไรผมจดลงโน็ตเพดไว้ก่อน...แล้วทำสำเนาแจกให้กับฮาร์ดดิสก์ทุก ๆ ลูกที่มี...ทำสำเนาไปในตัวเลยครับ...และไม่กินความจุด้วย...ไม่กี่เคเอง...

ด้วยความเคารพครับผม...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

jomjomjom

26/12/2011 10:10:01
5
ผมเคยควบคุมมันได้ครับ พี่อีแม้นนนยย์ ….
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

dutchmew

26/12/2011 11:22:30
4
ผม Control ได้ครับ

ผมใช้เพราะผมรู้ว่าผมเอามันอยู่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

jomjomjom

26/12/2011 11:23:44
5
ใช่ครับ … ผมควบคุมมันได้ เฉพาะตอน เอาอยู่ ครับ …

555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

Guzzo

26/12/2011 13:07:53
0
ผู้คิดนั้น "ไม่มี" : พระพุทธเจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

eeman2

26/12/2011 16:16:38
0
up เข้าไว้ อย่าให้ธรรมะ แพ้อธรรม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

montree2511

26/12/2011 16:17:56
0
ไม่แพ้หรอกครับ น้าแม๊นย์...ธรรมน่ะ มีอยู่ในใจพวกเราทุกคนแหละครับ...

ผมรู้นะ...น้าแม๊นว์อัพคลิปขาวเด้ง ๆ แบบขำ ๆ น่ะครับ...แม่นบ่อ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

eeman2

26/12/2011 16:19:26
0
55 แม่นแล่วอามนตรีย์ แม่นเข้ากลางเป้าเลยด้วยครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

montree2511

26/12/2011 16:22:00
0
ฮี่ ๆ เห็นมะ...พวกเราน่ะ...(แนวคิด)ไปกันด๊ายยย...อิอิ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

jomjomjom

26/12/2011 16:24:41
5
^
^
เห็นควรด้วยคร๊าาาาาย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

montree2511

26/12/2011 16:27:58
0
ฮ่า ๆ ....ขอบคุณคร๊าบบบ...น้าทศย์...

เดี๋ยวนี้เห็นควรด้วย ตลอดเลยนะน้า...ฮ่า ๆ ...

เอาอยู่ด้วยใช่มะ....สารภาพมาซะดี ๆ ...ฮี่ ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

jomjomjom

26/12/2011 16:29:14
5
เอาอยู่มือ เลยครับพ้มมมย์ 555555555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

eeman2

26/12/2011 16:30:41
0
^
^
ระวังเหนอะมือเน๊อท่านนายกย์!!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

montree2511

26/12/2011 16:32:41
0
น่านนนประไร...ฮ่า ๆ ...

หมดกัน ๆ ...





ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ทั้งที่มันเป็นความคิด”ของเรา”แต่เรากลับคุมมันไม่ได้ "