Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

eee ขยายใจให้ใหญ่ขึ้น eee

eeman2

19/11/2011 22:27:47
0
น้องโยเป็นเด็กชายวัย ๗ ขวบ วันหนึ่งป้าชวนน้องโยซ้อนมอเตอร์ไซค์เข้าไปในเมือง ระหว่างทางมีรถพุ่งมาชนอย่างจัง ป้าแขนหัก ส่วนน้องโยขาแหลกเละไปข้างหนึ่ง ทั้งสองถูกนำส่งโรงพยาบาลนครปฐมทันที

หมอเล่าว่าขณะที่ป้าร้องโอดโอยอยู่นั้น น้องโยกลับนิ่งเงียบ ไม่ส่งเสียงร้องหรือแสดงอาการทุรนทุรายแต่อย่างใด ยอมให้หมอทำการรักษาอย่างสงบจนใคร ๆ ก็แปลกใจ
เมื่อผ่าตัดเสร็จ หมอถามว่าทำไมน้องโยไม่ร้องเลย น้องโยตอบสั้น ๆ ว่า “ผมกลัวป้าเสียใจครับ”

น้องโยรู้ว่าป้ากำลังเจ็บปวดเพราะแขนหัก จึงไม่อยากให้ป้าเป็นทุกข์มากไปกว่านี้หากได้ยินเสียงร้องของตน ป้าคงรู้สึกแย่อยู่แล้วที่เป็นเหตุให้หลานต้องมาประสบอุบัติเหตุร้ายแรง น้องโยจึงไม่อยากซ้ำเติมความทุกข์ของป้าด้วยการแสดงความเจ็บปวดให้ป้าเห็น

ในยามที่ตัวเองกำลังประสบเคราะห์กรรมแสนสาหัส น้องโยกลับมีใจนึกถึงคนอื่น ใช่หรือไม่ว่าการนึกถึงคนอื่นกลับทำให้น้องโยสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้อย่างยากที่เด็ก(หรือแม้แต่ผู้ใหญ่)จะทำได้ ในทางตรงข้ามหากน้องโยนึกถึงแต่ตัวเองว่า “ทำไมถึงต้องเป็นฉัน” หรือ “จะยังไงดีถ้าขาฉันถูกตัด” น้องโยคงดิ้นทุรนทุรายด้วยความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าป้าเสียอีก

ความเห็นใจและการนึกถึงผู้อื่นสามารถทำให้เรามีพลังต่อสู้กับความทุกข์และอดทนต่อความยากลำบากได้อย่างที่ตัวเองอาจนึกไม่ถึง จะเรียกว่านี้เป็นพลังแห่งความรักหรืออานุภาพแห่งเมตตากรุณาก็ได้ มนุษย์เรานั้นมีศักยภาพเหลือประมาณ ความรักหรือเมตตากรุณามีอานุภาพตรงที่สามารถดึงศักยภาพนั้นออกมาได้อย่างเต็มที่ ผู้เป็นแม่สามารถอดทนต่อความยากลำบากได้แทบทุกอย่าง ใช่หรือไม่ว่าเป็นเพราะความรักที่มีต่อลูกนั่นเอง แต่ความรักหรือเมตตากรุณานั้นไม่ได้มีเฉพาะกับผู้เป็นแม่เท่านั้น หากยังมีได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่อเกิดสายสัมพันธ์แห่งความเห็นอกเห็นใจ

หมออมรา มลิลา เล่าถึงชายผู้หนึ่งซึ่งประสบอุบัติเหตุ สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มิหนำซ้ำไตยังวายฉับพลัน จึงมีภาวะโคม่า แม้จะถูกนำส่งโรงพยาบาลทันทีแต่หมอบอกว่ามีโอกาสรอดน้อยมาก แต่เขาก็รอดมาได้ สิ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้นั้นเป็นมากกว่ายาและความสามารถของหมอ

เขาเล่าว่า ระหว่างที่นอนหมดสติอยู่ในห้องไอซียูนานเป็นอาทิตย์ บ่อยครั้งที่เขารู้สึกว่ากำลังลอยเคว้งคว้าง แต่มีบางช่วงที่ดูเหมือนจะมีมือมาแตะตัวเขา และมีพลังแผ่เข้ามา ทำให้ใจที่เหมือนจะขาดลอยหลุดไปนั้น กลับมารวมตัวกัน เกิดความรู้ตัวขึ้นมา สักพักความรู้ตัวนั้นก็เลือนหายไปอีก เป็นอย่างนี้ทุกวัน

เขามารู้ภายหลังว่ามีพยาบาลคนหนึ่งมาจับมือแล้วแผ่เมตตาให้กำลังใจแก่เขาทุกวันที่ขึ้นเวร พอจะลงเวรเธอก็มาลาเขา และพูดว่าขอให้สบายทั้งคืน พรุ่งนี้พบกันใหม่ กับคนไข้คนอื่น เธอก็ทำอย่างเดียวกัน

คนไข้ผู้นี้มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนรู้สึกตัวดีขึ้น แต่บางคืนจะรู้สึกทรมานมาก เพราะทั้งเจ็บปวดทั้งหายใจลำบาก จนเขาอยากหยุดหายใจไปเลยจะได้หมดทุกข์ ในยามนั้นเขารู้สึกว่าการตายง่ายกว่าการมีชีวิตอยู่ แต่ขณะนั้นเองเขาก็จะนึกถึงพยาบาลผู้นั้นว่าหากเธอมาพบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว เธอคงจะรู้สึกเสียใจ และโทษความบกพร่องของตนเอง เขาจึงพยายามอดทนหายใจต่อไป เพื่ออยู่ให้ถึงเช้า จะได้ล่ำลาพยาบาลคนนั้น และบอกเธอว่าหากเขาตายไป ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอทำดีที่สุดแล้ว

ครั้นถึงตอนเช้า อาการเขาดีขึ้น พอพยาบาลคนนั้นมา เขาก็ลืมล่ำลาเธอ ตกกลางคืนเขาก็กลับมีอาการทรุดลงอีก แต่ก็พยายามอดทนจนถึงเช้าเพื่อลาพยาบาล แล้วก็ลืมอีก เป็นเช่นนี้หลายครั้ง จนอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติ

คนไข้ผู้นี้ฝืนสู้กับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจนสำเร็จ ไม่ใช่เพราะนึกถึงตนเอง แต่เพราะนึกถึงผู้อื่นซึ่งมีน้ำใจกับตน ใจที่เป็นห่วงผู้อื่นทำให้คนเราพร้อมจะมองข้ามความทุกข์ของตนเอง ดังนั้นจึงสามารถอดทนอย่างถึงที่สุด หรืออาจข้ามพ้นขีดจำกัดของตนเองไปได้ด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกับคนที่นึกถึงตนเอง มักจะอดทนต่อความลำบากได้น้อยกว่า ยิ่งคิดถึงความสุขสบายของตนเองมากเท่าไร ก็ยิ่งไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องอดทน และหากคิดถึงแต่ความสำเร็จของตน ก็ยิ่งจำกัดกรอบตัวเองให้เอาศักยภาพมาใช้แต่เพียงบางเรื่องที่ตนเองได้ประโยชน์ จึงไม่สามารถที่จะใช้ศักยภาพได้อย่างถึงที่สุด

คนเราจะเข้มแข็งมากขึ้นเมื่อนึกถึงตัวเองน้อยลงและคิดถึงผู้อื่นมากขึ้น แต่การคิดถึงผู้อื่นนั้นไม่ควรมีความหมายเพียงแค่การนึกถึงความทุกข์ของเขาเท่านั้น หากควรรวมไปถึงการมองจากมุมของเขาด้วย การเป็นห่วงว่าผู้อื่นอาจจะเป็นทุกข์ ถือว่าเป็นความปรารถนาดีอย่างหนึ่ง แต่ความปรารถนาดีที่มองจากมุมของตัวเราเองอย่างเดียว ทำให้เราเข้มแข็งก็จริงแต่อาจขาดความอ่อนโยน เพราะคิดแต่จะกะเกณฑ์ผู้อื่นให้โอนอ่อนตามความคิดของเรา และหากเขาไม่ทำตาม ก็จะเป็นทุกข์หรือเกิดความไม่พอใจขึ้นมา

ครูช่อผกาเป็นครูที่ขยันและเสียสละเพื่อนักเรียน ได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์เวรดูแลเด็กเข้าเรียน วันหนึ่งเห็นนักเรียนคนหนึ่งยืนลับ ๆ ล่อ ๆ ในขณะที่คนอื่นเข้าห้องเรียนกันหมดแล้ว ครูตั้งใจจะตักเตือนนักเรียนจึงเรียกให้เขาตามเข้าไปคุยในห้อง ครูเดินนำหน้าไปหลายช่วงตัวแล้ว แต่นักเรียนกลับไม่ขยับเขยื้อน ยืนเกาะราวบันไดอยู่ที่เดิม ครูโกรธขึ้นมาทันทีที่นักเรียนไม่ทำตามคำสั่ง จึงพูดขึ้นด้วยเสียงดุ ๆ ว่า “ทำไมไม่ตามครูมา”

แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา ครูจึงถามนักเรียนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง นักเรียนตอบว่า “ผมเดินขึ้นบันไดไม่ได้ครับ ต้องเดินไปอีกด้านหนึ่ง” ปรากฏว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อหมดแรง ครูรู้สึกเสียใจที่พูดเสียงแข็งกับนักเรียนเพราะเผลอเข้าใจไปว่าเขากำลังขัดขืนคำสั่งของเธอ แต่ก็ยังดีที่ครูถามเหตุผลของนักเรียนก่อนที่จะด่าหรือพูดจารุนแรงออกไป ความคิดที่แวบเข้ามาว่าเด็กอาจมีเหตุผลของตนทำให้ครูช่อผกาเสียงอ่อนลง และนั่นทำให้เธอพบความจริงที่น่าเศร้าของนักเรียนผู้นี้ ครูรู้ในเวลาต่อมาว่าเขาเคยเรียนเก่ง แต่หลังจากที่เป็นโรคนี้ ก็สอบตกเกือบทุกวิชา ไม่ใช่แต่เขาคนเดียวเท่านั้น พี่ชายคนโตตอนนี้อาการหนักจนต้องนั่งอยู่ในรถเข็น ส่วนคนรองก็เริ่มเดินไม่ได้แล้ว ฐานะการเงินที่บ้านก็ย่ำแย่มาก ครูช่อผกาจึงหาทางช่วยเหลือเด็กคนนี้ โดยร่วมมือกับครูคนอื่น ๆ ในโรงเรียน รวบรวมเงินจนสามารถส่งเสียให้เรียนจบ

หากครูช่อผกาไม่พยายามฟังเหตุผลของนักเรียนก่อน ก็คงจะจมอยู่กับความไม่พอใจที่เห็นเขาไม่ทำตามคำสั่งของเธอ ความรู้สึกว่า “ตัวกู”ถูกท้าทาย ทำให้เธอเกือบจะทำอะไรรุนแรงกับเด็ก ซึ่งเท่ากับเป็นการซ้ำเติมเขาให้เป็นทุกข์ยิ่งขึ้น

ใช่หรือไม่ว่าบ่อยครั้งผู้คนทำร้ายกันเพียงเพราะเอาความรู้สึกของตัวเป็นใหญ่ หาไม่ก็ยืนกรานที่จะมองจากมุมของตัวเอง จึงเห็นอีกฝ่ายเป็นผู้ผิด กว่าจะรู้ภายหลังว่าตนเองด่วนสรุปบางครั้งก็สายเกินไปแล้ว ภรรยาทะเลาะกับสามีเพราะหาว่านอกใจ เพื่อนผิดใจกันเพราะหาว่าไม่มาตามนัด คนไข้โกรธพยาบาลเพราะหาว่าปล่อยปละละเลย ทั้งหมดนี้อาจไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้นหากถามหาเหตุผลของอีกฝ่ายก่อน หรือพยายามมองจากมุมของเขาดูบ้าง

การนึกถึงผู้อื่น ไม่เอาตัวเองเป็นใหญ่ นอกจากจะทำให้เราด่วนทำร้ายกันน้อยลงแล้ว ยังช่วยให้เราเป็นทุกข์น้อยลงด้วย เวลาเห็นเพื่อนนิ่งเฉยกับคำทักทายของเรา แทนที่จะปล่อยให้ความไม่พอใจผุดขึ้นมาเป็นใหญ่ในใจ หรือจมอยู่กับความคิดว่า “ถือดีอย่างไรถึงมาปั้นปึ่งกับฉัน” ลองตั้งคำถามใหม่ว่า “เขามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าถึงไม่พูดไม่จาอย่างนั้น” คำถามหลังนั้นช่วยลดทอนความโกรธออกไปจากใจเรา เกิดความห่วงใยขึ้นมาแทนที่ อีกทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมความรู้สึกให้มาใกล้ชิดกันมากขึ้น ใครจะไปรู้เขาอาจกำลังมีปัญหาบางอย่างเร้ารุมจิตใจ จึงทำให้ไม่ทันรับรู้การทักทายของเรา หาใช่เป็นเพราะกินแหนงแคลงใจเราไม่

ความเป็นมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับ “ขนาด”ของหัวใจ ใจจะใหญ่หรือเล็กไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัยหรือเพศ อีกทั้งไม่ได้ถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด เด็กที่อายุเพียง ๗ ขวบอย่างน้องโย มีใจใหญ่กว่าผู้ใหญ่จำนวน ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น หากเพราะนึกถึงคนอื่นนั้นเอง ไม่มีอะไรที่จะรัดรึงใจเราได้แน่นหนาเท่ากับความเห็นแก่ตัว เมื่อใดก็ตามที่เรานึกถึงตัวเองน้อยลง ใจไม่เพียงขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้นหากยังเป็นอิสระอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนอีกด้วย

พระไพศาล วิสาโล

นิตยสารสารคดี : ฉบับที่ 267 :: พฤษภาคม ๕๐ ปีที่ ๒๓
คอลัมน์ริมธาร : ขยายใจให้ใหญ่ขึ้น
รินใจ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

oname2

19/11/2011 23:04:31
3
ขอเจิมครับพี่อีแม้นนนน......รอบนี้ตาลายเลย....ฮุฮุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

aor

21/11/2011 08:35:19
8
ขอบคุณมากครับพี่อีแม้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

KranKy

21/11/2011 10:31:24
0
ขอบคุณครับ... สำหรับบทความดีๆและมีมาตลอด

ปล. ขออนุญาติแชร์นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

jomjomjom

21/11/2011 23:09:40
5
ขอบคุณค่ะอาย์ … ที่ไปขยาย .. ใจย์ .. ให้ใหญ่ขึ้น … เพื่อหนูย์ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

eeman2

21/11/2011 23:14:00
0
จริงๆอาย์หมายถึงวงนี้น่ะจ๊ะ อยากให้ใหญ่ขึ้นจริงๆๆๆๆๆ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

jomjomjom

21/11/2011 23:17:23
5
เห็นท่อนขาแล้ว … อยากยกจังเลยค่ะอาย์ …
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

eeman2

21/11/2011 23:18:52
0
น่าจะจับไปลุยน้ำท่วมแถวบ้านพี่ทศย์นะ หุหุหุ

กลับบ้านได้รึยังครับย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

jomjomjom

21/11/2011 23:24:52
5



กลับไปดูบ้านมาเมื่อวันอาทิตย์ครับ …. น้ำตาตกใน …

น้ำลดมา 1 คืบ …
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

jomjomjom

21/11/2011 23:26:51
5



พรุ่งนี้จะเข้าไปลากขยะออกมาครับ …

แล้วก็จะกลับไปพิดโลกอีกทีครับ … เศร้า 5555555

แบบนี้ต้อง … ขยายยยยใจย์ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

eeman2

21/11/2011 23:27:44
0
สู้ๆพี่ทศย์ ถึงจะเลอะ จะเละไปบ้าง อย่างน้อย "บ้านของเรา"ก็ยังอยู่ และยังเป็นของเราครับ ไม่ได้หนีหายไปไหน แค่ห่างกันบ้างตามวาระกรรมของประเทศ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

jomjomjom

21/11/2011 23:29:14
5



ขออภัยที่รบกวนกระทู้คุณอาย์ด้วยภาพน้ำท่วมนะคะ 555555

ไม่รู้อีก 2 อาทิตย์จะแห้งไม๊ …

ขอบคุณค่ะอาย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

oname2

22/11/2011 00:45:17
3
สู้ๆนะครับ พี่ทศย์.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

แมว

22/11/2011 01:16:23
0
อย่าเพิ่งล้างบ้านนะคะย์...ปล่อยให้เละเทะไปเลยค่า น้องน้ำเค้าขี้เล่นเดี๋ยวก็วกมาเยี่ยมหรอก

ขยาย ใจย์ แล้วอย่าลืมขยายหยั่งอื่นด้วยนะคะย์.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

jomjomjom

22/11/2011 01:21:34
5
ขอบคุณค่าาาาาย์ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

แมว

22/11/2011 01:34:16
0
มาให้กำลังใจคุณทศย์ค่าา

สองสัปดาห์น้องน้ำยังอยู่ค่ะ...อาจระเหยไปบ้าง. แต่เธอยังอยู่แน่ค่ะย์ บ้านเละหน่อยเดียวเองแพ้บ้านเจ๊ดาย์นะคะย์...รายนั้นน้องน้ำเธอตัวดำๆ...บ้านอื่นน้องน้ำเธอไม่ใช้เรโซน่า แถมลืมอาบน้ำ เราเลยได้น้ำหอมกลิ่น กทม.Limited Edition...คุณทศย์แพ้เค้าเห็นๆ กิ๊วๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

jomjomjom

22/11/2011 01:39:15
5
คุณพี่แมวย์ สบายดีนะครับ ไม่หลับนอนเร๋อครับ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ

เป็นห่วงนะครับ พี่แมวย์ดาย์ … เอ๊ะ ..​ยังไง 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

แมว

22/11/2011 01:48:28
0
คุณพี่เฝ้าระดับน้ำคลองอู่ตะเภาค่ะย์...ฝนตกหนักสามวันแล้ว น้ำเกินครึ่งคลองแล้วค่าา

จะไปนอนล่ะ ชักมึนๆกับน้องน้ำ...เธอมีหลายสาขานะคะย์ สาขาหาดใหญ่กำลังทำพิธีตัดริบบิ้นค่ะย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

jomjomjom

22/11/2011 01:50:14
5
โอววว …. ขอให้เจรจากันดีๆนะครับ … อย่าทะเลาะกะเค้านะครับ … เค้า .. แร๊งงงงส์ 55

ราตรีสวัสดิ์ครับ จุ๊บย์ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

KranKy

22/11/2011 13:47:10
0
ขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆอย่าท้อนะครับ..

สิ่งของนอกกายเสียหาย ยังหาใหม่ได้ .. กำลังใจที่เสียไป ยังเพิ่มเติมได้... แต่ อวัยวะเสียไป หาทดแทนไม่ได้ ... รักษาชีวิตไว้ให้ได้ ไม่นานสิ่งของนอกกายก็จะกลับคืนมา...

(คำพูดประโยคนี้ พ่อผมสอนไว้เเมื่อตอนปี2526 ครั้งที่นำ้ท่วมใหญ่ จ.อุบลฯ พ่อ/แม่เปิดร้านอาหารอยู่ วันที่น้ำท่วม มาเร็วมาก 8โมงเช้า ระดับน้ำแค่ตาตุ่ม, 12โมง ระดับน้ำอยู่ที่อก, 6โมง ระดับน้ำมิดหัว, 3ทุ่ม ชั้นล่างจมมิด... สิ่งของในร้านอาหาร จมอยู่ใต้น้ำโดยที่ขนกันออกมาไม่ทัน จมอยู่ร่วม2เดือน แล้ววันที่น้ำลดจนแห้ง พ่อผมจึงได้เอ่ยคำนี้ขึ้นมา เพื่อสอนลูกๆทุกคน... แต่มีใครจะเชื่อหรือไม่ว่า ตลอด2เดือนที่เรานั่งดูร้านอาหารที่จมอยู่ใต้น้ำ ผมไม่เคยเห็น"น้ำตา"ของพ่อ/แม่เลย แม้แต่หยดเดียว...)

ปล... ถึงผมจะอยู่เมืองนอก .. แต่ก็ยังห่วงคนไทย ประเทศไทย ขอให้พ้นภัยกันเร็วๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"eee ขยายใจให้ใหญ่ขึ้น eee"