Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เรื่องซึ้งในสถานการณ์น้ำท่วม

Kin_Co

11/11/2011 10:04:06
0
ขออนุญาตเฮียมั่นและเว๊ปมั่นคงโพสต์กระทู้ คือพอดีอ่านบทความวันนี้ของคุณเปลว สีเงิน แห่งหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เห็นว่าซึ้งดี ที่ได้เห็นน้ำใจคนไทยในสถานการณ์น้ำท่วม ได้เปิดจิตใจและตัวตนของความเป็นไทย ลองอ่านดูตอนท้าย ๆ นะครับ ขอแปะลิ้งค์ และรบกวนตามไปอ่านดูที่ลิ้งค์นะครับ http://www.thaipost.net/news/111111/47962 (เครดิตคุณเปลว สีเงิน/นสพ.ไทยโพสต์)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

Kin_Co

11/11/2011 10:25:42
0
ผมก๊อปบางส่วนของบทความตามลิ้งค์ เป็นส่วนที่ผมอยากแชร์มาไว้ตามด้านล่างนี้ครับ

ปิดท้ายวันนี้ ด้วยเรื่องดีๆ มีไว้แบ่งปัน "สิ่งดีๆ ที่ผมได้จากน้ำท่วม เมื่อ ตุลาคม 25, 2011, 03:46:47 PM" ของผู้ใช้นามว่า "นายหงส์แก่" ซึ่งมีผู้ฟอร์เวิร์ดมาให้ผมอ่าน ดังนี้
ผมพักอยู่ประตูน้ำพระอินทร์ อยุธยา แต่ที่ทำงานอยู่ลาดพร้าว 80 ผมต้องเดินทางไป-กลับทุกวัน (บริษัทมีรถรับ-ส่งแค่สะพานใหม่) ตอนเช้าผมจะตื่นตีสี่ครึ่ง ทำธุระส่วนตัวแล้วออกมารอรถประมาณตีห้ากว่าๆ โดยผมจะนั่งรถเมล์มาลงที่รังสิต แล้วต่อรถตู้มาลาดพร้าว 80
โดยภาพที่ผมเห็นจนชินตาก็คือ ทุกคนที่รอรถตรงหน้าเมเจอร์รังสิต ต่างรีบวิ่งลงไปบนพื้นถนนโดยไม่นึกกลัวว่ารถจะชนหรือกีดขวางทางจราจร เมื่อเห็นรถตู้แล่นเข้ามาเทียบท่า ต่างแย่งชิงทั้งเบียดเสียด บางครั้งก็มีถ้อยคำด่าทอเสียๆ หายๆ ตามมาไม่ว่าหญิงหรือชาย คนขับบางคนก็พูดจาไม่สุภาพ ขับรถเหมือนแม่ป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลก็ไม่ปาน ปกติรถตู้สามารถนั่งได้ 14-15 คน แต่นี่มีการเสริมเบาะนั่งให้ได้ 20 คน แออัดยัดเยียด เบียดเสียดจนแทบจะเป็นผัวเมียกันทั้งคันรถ พอรถออกตัว หน่วยคอลเซ็นเตอร์ก็เริ่มทำงานทันที คือต่างควักมือถือออกมาแล้วก็คุยๆๆ คุยๆๆ อย่างออกรสออกชาติ ประหนึ่งว่ากรูนั่งมาในรถคนเดียว ไม่ต้องเกรงใจคนรอบข้าง คนขับก็ไม่ยอมน้อยหน้า โทร.ด่ากับเมียด้วยถ้อยคำที่ไม่รู้ไปขุดมาจากไหน บางครั้งยังแถม “แจกกล้วย” ให้รถคันที่วิ่งแซงไปด้วย นี่เป็นชีวิตประจำวันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
แต่...เมื่อวานนี้เอง ผมรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แน่นอนครับ "น้ำท่วม" หลายคนบอกน้ำท่วมมันดีตรงไหน ใช่ครับ น้ำท่วมไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนปรารถนา แต่น้ำท่วมทำให้ผมได้เห็นชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งของผู้คนในเมืองฟ้าผ่องอำไพแห่งนี้
วันนั้นผมเลิกงาน 5 โมงเย็น จึงนั่งรถบริษัทมาลงสะพานใหม่ แล้วนั่งรถเมล์สาย 39 ต่อ เพราะน้ำท่วมรถตู้วิ่งไม่ได้ รถเมล์วิ่งลุยน้ำมาถึง กม.25 ก็ต้องหยุด เนื่องจากน้ำลึกไปต่อไม่ไหว กระเป๋าจึงแจ้งให้ผู้โดยสารลงจากรถเพื่อไปต่อรถทหาร (ซึ่งไม่รู้ว่าจะมาตอนไหน)
ผมเดินลุยน้ำมารอบริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งมีผู้คนยืนรออยู่ประมาณ 30 คน ผู้คนเหล่านั้นต่างมีสีหน้ากังวล บ้างก็หันมาพูดคุยสอบถามกันว่าจะไปไหน จะมีรถหรือเปล่า ไอ้หนุ่มนักศึกษาถามป้าจะไปไหน มา...ผมช่วยถือของให้ พี่ผู้ชายไว้หนวดช่วยอุ้มเด็ก 3 ขวบที่มากับแม่ที่หิ้วของพะรุงพะรัง แฟนสาวของไอ้หนุ่มนักศึกษาช่วยแม่เด็กหิ้วกระเป๋า อีกมือใช้กระดาษพัดไล่ยุงให้เด็กน้อย ลุงแก่ๆ สองคนที่นั่งบนราวเกาะกลางถนนเขยิบที่ พร้อมเอ่ยปากเชิญชวนชายแก่อีกคน ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ มานั่งด้วยกัน
มีรถผ่านมาเรื่อยๆ และสิ่งที่ผมเห็นคือ รถเกือบทุกคันจะลดกระจกลง แล้วโผล่หน้าออกมาถามว่า...จะไปไหน ถ้ารถเขาผ่านรายนั้นๆ ก็จะได้ติดรถไปด้วย คนที่อยู่ไม่ไกลไปกันเกือบหมดแล้ว จะเหลือก็พวกที่อยู่แถวประทานพร บางชัน นวนคร และก็ตัวผม ประตูน้ำพระอินทร์ รวมแล้วน่าจะประมาณ 17 คน
เรารออยู่ประมาณสองชั่วโมง จึงมีรถโฟร์วีลคันหนึ่งผ่านมา คนขับหน้าตายังวัยรุ่น เปิดกระจกออกมาถามพวกเราว่า “มีใครไปนวนครมั้ย?” เท่านั้นแหละทุกคนต่างยิ้มแก้มแทบปริ พวกเรารีบทยอยขึ้นรถ บ้างก็ช่วยดึงกันขึ้น บ้างก็ช่วยถือของโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอ แต่สิ่งที่พวกเราลืมคิดกันตอนนั้นคือ จำนวนคนกับรถมันไม่เหมาะสมกัน เนื่องจากโฟร์วีลกระบะมันเล็ก จุได้แค่ 12 คน ที่เหลืออีก 5 คนคือ ไอ้หนุ่มนักศึกษากับแฟน ลุงแก่ทั้งสอง และผม
พวกเรามองหน้ากัน พี่ผู้ชายมีหนวดเอ่ยปากขึ้นว่า พวกคุณไปกันก่อน เดี๋ยวผมรอคันหลัง ว่าแล้วก็โดดผลุงลงมา เพื่อให้แฟนสาวของไอ้หนุ่มนักศึกษาขึ้นไปแทน แฟนไอ้หนุ่มนักศึกษาบอกไม่เป็นไร ให้ลุงไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวหนูกับแฟนรอไปคันหลัง และอีกหลายคนก็แสดงเจตจำนงที่จะเสียสละ
แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ก็คือ ป้าที่นั่งอยู่ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ถ้าไปก็ต้องไปด้วยกันหมด" ให้พวกเราทุกคนยืนขึ้น ก็จะมีที่พอสำหรับทุกคน จริงอย่างที่แกพูด พวกเราที่เหลือขึ้นมาบนรถได้ จากนั้นพวกเราก็ยืนกอดเอวกันไว้เป็นรูปวงกลมแน่นกระชับ จะได้ไม่ล้มเวลารถวิ่ง จากนั้นรถก็เริ่มวิ่งลุยน้ำไปเรื่อยๆ ช้าๆ ในขณะนั้นสิ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ รอยยิ้มจากมุมปากของทุกคน บางคนก็มีมุกให้พวกเราได้หัวเราะกันสนุกสนาน ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนเลย และเมื่อถึงจุดที่มีคนลงรถ พวกเราก็จะร่ำลา และอวยพรให้กันและกันเหมือนประหนึ่งกับญาติตัวเองไม่มีผิด
จนในที่สุดรถก็วิ่งมาถึงนวนคร ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย พวกเราที่เหลือลงจากรถ แล้วก็เดินไปไหว้ขอบคุณเจ้าของรถ แล้วผมก็โบกมือลาไอ้หนุ่มนักศึกษากับแฟนเพื่อเดินต่อจากนวนครไปประตูน้ำพระอินทร์ ผมเดินไปยิ้มไป ฮัมเพลงบ้าง ผิวปากบ้างอย่างอารมณ์ดี แบบที่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย
เหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้ผมรู้ว่า "แสงสว่างนั้นซ่อนอยู่หลังความมืดมิดเสมอ"
-นายหงส์แก่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

finnaball

11/11/2011 21:31:13
0
ซึ้งง่ะ ขนลุกเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

jomjomjom

11/11/2011 23:22:59
5
เป็นบทความที่อ่านแล้วมีความสุขจริงๆ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

น้ำท่วมแบบโง่ ๆ

14/11/2011 15:07:04
ใครเอ่ย
1.พี่ดูไบ น้องดูโง่
2.ทำตัวเหมือนนางฟ้า แก้ปัญหาเหมือนควาย
3.น้ำท่วมไม่กลัว กลัวผู้นำโง่ จะทำให้ชาติล่มจม
น้ำท่วมบ้านท่วมเมือง แต่รัฐบาลไม่มี Master Plan และ Solution ออกมาให้ประชาชนรู้ ปล่อยให้จมน้ำแบบตามยถากรรม แล้วยังไง ยังไงต่อ น้ำที่มีอยู่จะจัดการอย่างไร
ทำได้เพียงผันน้ำจากตรงนี้ ไปท่วมตรงนู้น จากตรงนู้น ไปท่วมตรงนั้น จากตรงนั้น
ไปท่วมตรงโน่น จากตรงโน่น กลับมาท่วมตรงนี้ วนไปวนมา อีก 3 เดือน ไม่รู้ว่า
น้ำจะลดหรือไม่ หรือลดแล้ว จะมีน้ำจากไหนไม่รู้มาท่วมอีกหรือไม่ น้ำก็เน่าเสีย สกปรก
มีแต่เชื้อโรค ขยะก็ลอยเกลื่อนเมือง
ประชาชนคนไทยช่างน่าสงสารนัก โดนกระทำโดยที่ไม่รู้ว่า ใครเป็นผู้กระทำกับตัวเอง
"น้ำท่วมมันเกิดได้อย่างไร มันมาจากไหน มันเป็นเพราะอะไร ทำไมปีนี้จึงท่วมได้
น่าเกลียดและสาหัสอย่างนี้ มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แล้วผู้บริหารบ้านเมืองมี
วิธีแก้ปัญหาอย่างไร"
คนไทยไม่ค่อยหาคำตอบ และไม่ค่อยสนใจกับข้อมูล
คนไทยสนใจแต่เรื่องเฉพาะหน้า และเรื่องของตัวเอง
ได้แต่หวังว่าน้ำท่วมครั้งนี้ คนไทยจะตาสว่างบ้าง
อย่างไรก็ตาม น้ำใจของคนไทยก็ไม่น้อยหน้ากว่าชาติใดในโลกนี้อยู่แล้ว

สุดท้าย ช่วยกันจินตนาการดู ประเทศชาติหลังน้ำท่วม จะเป็นอย่างไร ข้าวยากหมากแพง คนจนเต็มบ้าน คนตกงานเต็มเมือง โจรขโมยชุกชุม เกิดโรคระบาดเป็นวงกว้าง รัฐจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้คอยหาแต่ช่องทางคอรัปชั่น และกินเปอร์เซ็นต์จากโครงการต่าง ๆ อย่างมหาศาล จนชาติล้มละลายได้หรือไม่ และที่สำคัญผู้บริหารบ้านเมืองจะมีความสามารถและสติปัญญา และมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาของบ้านเมืองนี้และจะคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวได้หรือไม่ ถ้าเราไม่รู้ไม่สนใจคำตอบเหล่านี้ บอกได้คำเดียวว่า "ตัวใครตัวมัน"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

เข้าใจน้ำท่วม แต่ไม่เข้าใจวิธีการแก้ปัญหา

16/11/2011 14:03:39
น้ำท่วมเข้ามาในกรุงเทพเกิดจากธรรมชาติแน่หรือ หรือเกิดจากการวางยาของคน
รู้ว่าน้ำมาก แต่ทำไมไม่มีการจัดการให้ดีกว่านี้เลยหรือ สงสารคนที่หมดเนื้อหมดตัว
บ้านสกปรก ตะไคร่ขึ้น พื้นร่อน เฟอร์นิเจอร์บวม พอน้ำลดแล้วจะมีแต่ค่าใช้จ่าย
(แล้วเมื่อไหร่จะลด ใครรู้บ้าง เห็นน้ำยังขังอยู่มาก หรือจะรอปล่อยให้แดดเผาน้ำให้ระเหยไปเอง กว่าน้ำจะหมด คงอีกหลายเดือน บ้านที่น้ำท่วมก็คงแทบจะเหมือนสร้างบ้านหลังใหม่)
ค่าใช้จ่ายที่ต้องสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก เราจะฟ้องผู้บริหารบ้านเมืองดีมั๊ย ทั้งโง่ทั้งชุ่ย
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเวรกรรมของคนไทยหรืออะไรกันแน่ ไม่เข้าใจ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"เรื่องซึ้งในสถานการณ์น้ำท่วม"